JJNY : 5in1 กมธ.บี้กอ.รมน.│ช่อเผยกมธ.ซักเจ๊จุกเป็นใคร│ไอซ์เศร้า กม.ปกป้องไม่ได้│คลังหั่นจีดีพี68│นิวซีแลนด์อ่วมภัยพิบัติ

กมธ.บี้กอ.รมน. เอาผิดคนจัดหมวด หลังยอมรับเอง ทำข้อมูลพลาด ระบุเพจปชน. อยู่ในลิสต์ต้านสถาบัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5163668
.
.
“กมธ.มั่นคงฯ” จี้ กอ.รมน. เอาผิด คนทำเอกสารจัดหมวดหมู่ เพจ “พรรคประชาชน” ถูกจัดในกลุ่มต่อต้านสถาบัน หลังหน่วยงานยอมรับเอกสารจริง แต่แจงเป็นการทำข้อมูลผิดพลาด ขณะที่ “โรม” ชี้ผิดที่ซ้ำซากคล้ายจงใจป้ายสีฝ่ายการเมือง เผย “วินธัย” รับมีคณะทำงานพิเศษIO แค่พีอาร์กองทัพเท่านั้น ไม่มีการใส่ร้ายป้ายสี ปัดอยู่เบื้อ’หลังบัญชี “เจ๊จุกคลองสาม” 
.
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมกมธ.พิจารณาศึกษาปฏิบัติการข่าวสาร ( IO) ทางสื่อสังคมออนไลน์ของหน่วยงานด้านความมั่นคง ที่ส่งผลกระต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน ว่า เอกสารของ กอ.รมน.ที่ได้มีการสรุปข่าว และประเมินสถานการณ์เป็นประจำ พบปัญหาที่เห็นคือ ทางกอ.รมน. ได้มีการสรุปข้อมูลข่าวสาร และกระจายต่อในลักษณะที่เป็นการกล่าวหา และใส่ความเท็จต่อบุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหมวดหมู่ของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม อยู่ในรายชื่อ ทั้งยังมีการรวมรายชื่อกลุ่มต่อต้านสถาบันฯ โดยมีเพจพรรคประชาชนก็อยู่ในกลุ่มที่ต่อต้านสถาบันด้วย
.
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า สำหรับเอกสารดังกล่าวทางกอ.รมน. ยอมรับกับทางกมธ.ว่าเป็นเอกสารจริง โดยไม่มีข้อโต้แย้งว่าเป็นเอกสารปลอม แต่กอ.รมน.ปฏิเสธว่า เนื้อหาการจัดหมวดหมู่ว่า เป็นการกระทำที่ผิดพลาด เนื่องจากนำเนื้อหาข้อมูลทั่วไปมาจากอินเตอร์เน็ต โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่า หากมีความผิดพลาดจริงต้องมีการลงโทษลงโทษผู้กระทำผิด เนื่องจากเป็นการกระทำผิดที่ซ้ำซากคล้ายจงใจ ป้ายสีฝ่ายการเมือง
.
“ที่บอกว่า การผิดพลาดหลายๆครั้ง มันดูจะไม่น่าเป็นความผิดพลาดแล้ว แต่เป็นความจงใจที่จะทำให้เกิดการใส่ร้ายป้ายสีฝ่ายการเมือง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการเมืองที่เป็นซีกรัฐบาล หรือซีกฝ่ายค้าน ซึ่งเอกสารพวกนี้มีการเปิดเผย และส่งต่อให้หน่วยงานต่างๆ ซึ่งต้องมีการลงนาม ดังนั้น หากเอาผิดสามารถเอาผิดได้เลย หาก กอ.รมน. บริสุทธ์ใจ ว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการใส่ร้ายป้ายสีเพื่อความแตกแยกทางการเมือง ในเรื่องนี้ต้องมีบุคคลรับผิด ” นายรังสิมันต์กล่าว
.
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีการใช้ IO มีโครงสร้างที่คณะทำงานพิเศษกองทัพบก ที่ปรากฏชื่อ พล.อ.ธรรมนูญ วิถี เป็นหัวหน้าคณะทำงานพิเศษ ในส่วนนี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ยอมรับกับ กมธ.ว่า คณะทำงานพิเศษกองทัพบก มีอยู่จริง แต่ปฏิเสธว่า ไม่มีการดำเนินการใดๆในลักษณะการใส่ร้ายป้ายสี เป็นการทำงานในลักษณะการประชาสัมพันธ์งานของกองทัพบกเท่านั้น ซึ่งมีการส่งต่อไปยังอินฟลูเอนเซอร์ และนักข่าว ที่ติดตามกองทัพอยู่เป็นประจำเท่านั้น
.
ประธานกมธ.ความมั่นคงฯ ยังได้ยกตัวอย่างบัญชี IO ที่อาจเชื่อมโยงกับทางกองทัพ เช่น บัญชี “เจ๊จุกคลองสาม” ที่ครั้งหนึ่งเคยแสดงอยู่หน้าจอ LCD ของกองทัพบก ที่พล.ต.วินธัย ชี้แจงว่าเป็นความผิดพลาด กองทัพไม่ได้อยู่เบื้องหลังบัญชีดังกล่าว
.
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า นอกจากนั้น ยังพบภาพที่เผยแพร่ข้อมูลตำรวจควบคุมฝูงชน ที่มองว่า ภาพดังกล่าวมุมที่เกิดขึ้นต้องมาจากตำรวจเป็นคนถ่ายเท่านั้น หรือภาพที่มีการอ้างถึงม็อบ vivo แต่เมื่อดจากมุมถ่ายภาพ ก็คือมุมจากทางตำรวจ ในส่วนนี้ทางโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ปฏิเสธว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ เบื้องต้นกมธ.ฯจึงตั้งข้อสังเกตว่าว่าอย่างน้อยต้องตรวจสอบในเรื่องนี้ ว่าผู้ที่นำข้อมูลลับของราชการมาเผยแพร่เป็นบุคคลในราชการตำรวจ และกองทัพ หรือไม่
.
เมื่อฝ่ายความมั่นคง ปฏิเสธการเข้าไปเกี่ยวข้องกับ IO จึงหวังว่า หน่วยงานความมั่นคง จะทำหน้าที่ตามกฏหมาย โดยไม่ปล่อยให้ปฏิบัติการ IO เกิดขึ้นต่อไป” นายรังสิมันต์ กล่าว
.
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า การประชุมวันนี้สืบเนื่องมาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของ นายชยพล สท้อนดี ส.ส.กทม. พรรคประชาชน และเป็นการเชิญครั้งที่ 2 ต่อจากการเชิญครั้งแรก ที่หลายหน่วยงานไม่ได้มา โดยครั้งนี้ หลายหน่วยงานตอบรับร่วมเข้าชี้แจงเป็นอย่างดี ทั้งกอ.รมน. กระทรวงกลาโหม ,กองทัพบก ,กองทัพเรือ ,กองทัพอากาศ ,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.), คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่ง (ป.ป.ช.) และ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน (สตง.) สำหรับรายบุคคลที่ไม่ได้มาชี้แจงในครั้งนี้ เช่น พล.อ. ชิษณุพงศ์ รอดศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหาร, พล.ท.วณัฐ ลักษณ์สิริ ผู้อำนวยการสำนักการข่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ,พล.ต. นิพัฒน์ เล็กฉลาด ผู้อำนวยการศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก
.
ขณะที่ นายชยพล กล่าวเสริมว่า การที่ กอ.รมน.ไม่ยอมรับ เรื่องการทำ IO ที่สร้างความเสียหายต่อประชาชนโดยรวม แม้ข้อมูลนั้น จะอยู่ในเอกสารเดียวกัน แต่ก็มีการรับเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น จึงอยากให้สังคมเป็นผู้ตัดสิน ส่วนบัญชี “เจ๊จุกคลอง3“ ซึ่งมีการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลทางการเมืองหลายคน หน่วยงานที่เข้ามาชี้แจงระบุว่า ไม่ใช่หน่วยงานส่งข้อมูลให้โดยตรง แต่อาจเป็นการรั่วไหลของข้อมูลต่างๆ ซึ่งน่ากังวลว่า ข้อมูลที่รั่วไหลไป สู่เพจที่มีแนวคิดสนับสนุนวิธีการของกองทัพ นำไปใช้โจมตีบุคคลทางการเมืองต่างๆนั้น จึงสอบถามว่า หน่วยงานความมั่นคงจะสามารถติดตามบุคคลเหล่านี้มาดำเนินคดีได้หรือไม่ แต่ไม่ได้รับคำตอบ หรือการยืนยันใดๆ ว่าจะสามารถติดตามบัญชีในลักษณะแอคหลุมได้จริงหรือไม่
.
นายชยพล กล่าวต่อว่า มีรายงานภัยคุกคามภายในราชอาณาจักร ของจังหวัดสกลนคร ที่ระบุถึงการที่กองทัพไปดำเนินคดีกับบัญชีผู้ใช้หลายคน ที่ไม่ได้ใช้ชื่อจริงของตัวเอง ซึ่งโพสต์ในลักษณะที่ไม่พึงประสงค์ต่อกองทัพ และกองทัพก็สามารถติดตามตัวจนเจอ รู้ชื่อนามสกุล เพื่อจับตัวนำมาดำเนินคดี จึงต้องตั้งคำถามว่า นี่คือการเลือกปฏิบัติหรือไม่ คือจะดำเนินคดี และติดตามอย่างจริงจัง เฉพาะบุคคลที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อกองทัพหรือไม่ และจงใจปล่อยข้อมูล ปล่อยให้บุคคลที่มีแนวคิดเดียวกันกับกองทัพลอยนวล กองทัพควรมีแนวคิดเช่นนี้หรือไม่ เพราะไม่ใช่หน้าที่โดยตรงของกองทัพแน่นอน
.
นายชยพล กล่าวด้วยว่า การดำเนินการหลังจากนี้ จะต้องมีการดำเนินการร้องเรียน และส่งหลักฐานไปที่หน่วยงานใดบ้าง โดยเฉพาะหน่วยงานที่เป็นแขนขาสำคัญของโครงสร้างคณะทำงานพิเศษกองทัพบก และจะมีการตรวจสอบรายชื่อหน่วยงานย้อนหลัง ว่ามีหน่วยงานใดเป็นผู้รวบรวมข้อมูลส่งเข้ามา และใครเป็นผู้เซ็นต์รับรอง รวมถึงการขอรายชื่ออินฟลูเอ็นเซอร์ด้วย เพราะแม้เนื้อหาบางส่วนจะมาจากสื่อมวลชนกระแสหลัก แต่กองทัพก็ยอมรับว่า สื่อนั้น ผิดพลาด บิดเบือนข้อมูล ไม่มีข้อมูลที่เป็นที่ยอมรับของกองทัพ จึงใช้ขอความร่วมมือให้อินฟลูเอ็นเซอร์สื่อสารแทนกองทัพ เพื่อเผยแพร่ข้อจริงที่กองทัพเห็นว่า คือข้อเท็จจริง และกองทัพยืนยันว่า ไม่มีการจัดซื้อจัดจ้าง
.

.
ช่อ เผยที่ประชุมกมธ.ซัก เจ๊จุก คลองสาม เป็นใคร วินธัย ยันไม่ใช่คนกองทัพ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5163832
.
ช่อ เผยที่ประชุมกมธ.ซัก เจ๊จุก คลองสาม เป็นใคร วินธัย ยันไม่ใช่คนกองทัพ
.
วันที่ 1 พฤษภาคม น.ส.พรรณิการ์ วานิช ที่ปรึกษากมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ โพสต์เฟซบุ๊ก Pannika Chor Wanich หลังการประชุมกมธ. ที่เชิญกองทัพชี้แจงเรื่องปฏิบัติการไอโอ ว่า
.
สรุปสาระสำคัญจากที่ประชุมกมธ. ความมั่นคง กรณีกองทัพทำปฏิบัติการข่าวสารและอาชญากรรมออนไลน์โจมตีประชาชน นักวิชาการ นักการเมือง
ผู้มาชี้แจงวันนี้ประกอบด้วยตัวแทนจากหลายหน่วยงาน ทั้งกองทัพบก กอ.รมน. กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผู้รับบทหนักในวันนี้ ได้แก่ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก และ พลตรีธรรมนูญ ไม้สนธิ์ โฆษก กอ.รมน.
.
1. พลตรีวินธัย ยืนยันว่าการที่พลเอกธรรมนูญ วิถี นั่งตำแหน่งรองผอ.ศูนย์ปฏิบัติการร่วม (ศปก.ร่วม) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีเอกสารระบุว่าควบคุมสั่งการงานโจมตีทางไซเบอร์ ทั้งที่เกษียณอายุไปตั้งแต่ปี 2564 เป็นเรื่องปกติ เพราะศปก.ร่วม เป็นหน่วยงานที่มีหลายองค์กรทำงานร่วมกัน
.
2. ทั้งกองทัพบก เรือ อากาศ ยืนยันว่ากองทัพไม่มีปฏิบัติการไอโอโจมตีผู้อื่น มีเพียงการประชาสัมพันธ์กองทัพ พลตรีวินธัย อธิบายว่า ส่วนหนึ่งของงานสารนิเทศด้านความมั่นคงของกองทัพ คือการแก้ไขความเข้าใจผิดเมื่อมีการเผยแพร่ข้อมูลทางลบเกี่ยวกับกองทัพหรือสถาบันหลักของชาติ โดยในสไลด์นำเสนอ ได้ยกตัวอย่างเพจ “Lue History – ฤา” เมื่อกล่าวถึงงานด้านการประชาสัมพันธ์ตอบโต้ข้อมูลเชิงลบเกี่ยวกับสถาบัน
.
กมธ. จึงถามว่า พลตรีวินธัย รับว่าเพจลือ เป็นเพจที่กองทัพจัดทำหรือจ้างวาน ใช่หรือไม่ พลตรีวินธัยปฏิเสธว่า ไม่ได้มีการจ้าง แต่เพจลือ และอีกหลายเพจ นำเสนอเนื้อหาและแนวคิดตรงกับกองทัพ เป็นการสนับสนุนกันโดยธรรมชาติ และเมื่อขอความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์ เพจเหล่านี้ก็มักให้ความร่วมมือลงเนื้อหาให้
.
3. สส.ปิยรัฐ จงเทพ ตั้งคำถามถึงแอคเคาท์ “เจ๊จุก คลองสาม” ว่าเหตุใดแอคเคาท์นี้จึงเคยปรากฏบนจอ LED ของบก.ทบ. และดิฉันได้ให้ข้อมูลเพิ่มว่า The Citizen Lab ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยปฏิบัติการข่าวสาร/การโจมตีทางไซเบอร์ของมหาวิทยาลัยโตรอนโต แคนาดา ระบุชัดว่าตรวจสอบพบว่า “เจ๊จุก คลองสาม” เป็นปฏิบัติการโจมตีทางไซเบอร์ของหน่วยงานรัฐไทยที่ทำงานมาตั้งแต่สิงหาคม 2020 และหลายครั้ง แอคเคาท์นี้ได้โพสต์ข้อมูลที่เจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้นที่สามารถมีได้ เช่น ทะเบียนรถพร้อมชื่อเจ้าของรถ ข้อมูลวัคซีนในหมอพร้อม ภาพถ่ายบัตรประชาชน ภาพถ่ายจากกล้องตม. ตอนตรวจพาสปอร์ตเข้า/ออกเมือง รวมถึงรายละเอียดไฟลท์บินพร้อมเลขพาสปอร์ตของผู้โดยสาร
.
ดิฉันได้นำข้อมูลจาก สส.ชยพล สท้อนดี ที่เป็นเอกสารจากภายในกองทัพเอง เนื้อหาระบุหัวข้อว่า “ขบวนการสร้างกระแสบนโซเชียลมีเดียฝ่ายสนับสนุน” ซึ่งปรากฏชื่อเพจบุคคลและแฟนเพจชื่อดังจำนวนมากซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีแนวทางทางการเมืองอนุรักษ์นิยม และโจมตีกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามว่าเป็นพวกล้มเจ้า จาบจ้วงสถาบัน ชังชาติ โดยเอกสารดังกล่าวยังระบุว่า กองทัพสามารถติด/ประสานให้แอคเคาท์เหล่านี้โพสต์ตามที่กองทัพต้องการได้
ดิฉันจึงตั้งคำถามว่า การที่เพจลือ เพจเจ๊จุก คลองสาม และเพจบุคคลอีกจำนวนหนึ่ง โพสต์ภาพและข้อมูลส่วนบุคคลของดิฉัน เพื่อนร่วมงาน และนักวิชาการ ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมายชัดเจน ทั้ง พรบ.คอมฯ และ PDPA เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่กองทัพเรียกว่า “ให้ความร่วมมือลงเนื้อหาให้” หรือไม่
พลตรีวินธัยปฏิเสธว่าไม่เคยส่งข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ให้เพจเหล่านี้ และไม่รู้จักกับเจ้าของแอคเคาท์ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เจ๊จุก คลองสาม มีลีลาการเขียนที่ไม่ใช่คนของหน่วยงานกองทัพ น่าจะเป็นสื่อมวลชนมากกว่า
.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่