เราไม่ได้เป็นคนกู้ แต่เป็นคุณพ่อได้นำฉโนดไปกู้ที่นี้2ใบ ซึ่งเราอยู่คนละบ้านกันเนื่องจากคุณพ่อมีภรรยาใหม่เราเลยแยกมาอยู่คนเดียวคุณพ่อไม่ได้ปรึกษาเราก่อน
จนก่อนท่านเสีย3เดือนถึงยอมบอกว่าได้เอาไปจำนองไว้พอท่านเสีย พนักงานได้โทรมาหาเราเพื่อจะให้รับหนี้และจ่ายแทน โดยที่เรามีเงินแค่1แสนบาท เราเป็นพนักงานเงินเดือนรายได้15000 และยังมีรถที่ต้องผ่อนเลยปฎิเสธไปว่าเราไม่มีเงินถ้าจะยึดก็ยึดไป พนักงานโทรมาหลายครั้งค่ะ จนครั้งสุดท้ายพนักงานแจ้งเราว่าเอาออกแค่ที่เดียวก่อนก็ได้แค่แสนเดียว เราเลยถามให้แน่ใจว่าได้ใช่ไหม (เราอยากเอาที่ที่พ่ออยู่ออกเพราะเป็นที่แรกที่พ่อเราซื้อและอยู่จนเสีย) เลยตกลงกับพนักงานและไปเซ็นสัญญาไถ่ เราก็กลับมารอโฉนด ปรากฏว่าพนักงานโทรมาแจ้งเราว่าไม่สามารถไถ่ได้เนื่องจากเป็นชื่อคนเดียวกัน2ที่ ต้องจ่ายทั้ง2ที่ เราเลยถามไปว่าไหนคุณ บอกว่าได้ พนักงานโยนความผิดไปให้นายทะเบียนว่าเขาแจ้งมาแบบนี้ เราเลยถามว่าแล้วเราจะทำยังไงในเมื่อไม่มีเงินจะขอเงินคืนก็ไม่ได้พนักงานงานพูดแค่ว่าต้องเอาเงินอีกแสนมาปิด พูดง่ายๆเลย จนเรามาหารีวิวจนได้ทำราบว่าหลายคนโดนแบบเราเช่น..
1)เราโทรไปสำนักงานใหญ่ว่าพนักงานของคุณแจ้งเราไม่ ละเอียด ทำให้เราต้องเป็น หนี้ แบบไม่ รู้ ตัว ควรแจ้งเราให้ละเอียดกว่านี้ในการทำงาน ปลายสายตอบมาแต่ว่า " อ๋อค่ะ "
2)เราได้ทักไปปรึกษาคุณป้าที่เป็นเพื่อนพ่อ แกก็บ่นเราใหญ่ว่าจะทำอะไรไม่ปรึกษา เนื่องจากคุณพ่อเคยมาปรึกษาจะยืมเงินไปปิดที่ แต่พนักงานแจ้งว่าต้องปิดทั้ง2ที่ (แต่แจ้งเราว่าปิดที่เดียวได้แล้วโยนความผิดให้นายทะเบียนแบบนี้ถือว่าเข้าค่ายหลอกลวงไหม) ซึ่งเป็นพนักงานคนเดียวกันแน่นอนเพราะสาขาเดียวกันแถมพนักงานเคยแจ้งเราว่าเคยแนะนำคุณพ่อเรื่องประกันแต่คุณพ่อไม่ทำและที่สงสัยคทอยังไงในการทำงานต้องรู้กฎบริษัทหรือข้อตกลงอยู่แล้วจะมาแกล้งว่าไม่รู้คงไม่ใช่เพราะก่อนปิดต้องส่งให้ผจก.สาขาอนุมัติ
3)เราเลยต้องไปเซ็นยอมรับหนี้โฉนดอีกที่ ซึ่งเราเจอเหมือนหลายท่าน คือแผ่นกระดาษเปล่าที่ยังไม่ลงรายละเอียดเราก็ไม่ได้ถามเพราะตอนนั้นเราเครียดมาก (เรื่องเกิดในปีที่พ่อเสีย)
4)พอครบปีเราส่งเดือนละ3000x12 =36,000 ต้น120,000เราก็งงว่าต้นลดลงน้อยมากลดไปหมื่นนิดๆพอไปดูว่าหักอะไรยังไง ทุกคนค่ะ ต้นครึ่งดอกครึ่ง ช็อคเลยเหมือนไม่ได้ส่ง
5) มีพนักงานงานโทรมาแจ้งให้เราไปต่อสัญญาเรางงมากเพราะตอนเซ็นไม่ได้แจ้ง (แจ้งแค่ว่าพอมีเงินลูกค้าก็โป๊ะได้เลย) มีค่าใช้จ่ายในการต่อสัญญาหลายพัน และถ้าเราไปไม่ทันวันต่อคิดค่าปรับวันละ500 ซึ่งตอนโทรมาคือแค่อีก2วัน
แนะนำทุกท่านอย่าหลงไปใช้บริการเด็ดขาดถ้าสุดตัวจริงๆให้ลองไปธนาคารหรือสถาบันอื่นดูก่อน แต่ที่นี้ห้ามมาค่ะ จงใจพูดไม่เคลียร์เชื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
กลายเป็นว่าเราต้องมาเป็นหนี้ที่เหมือนจะใช้ไม่จบ ต้นกับดอกคำนวนถ้าจ่ายจบแบบไม่มีเงินโป๊ะคือยอดเท่าตัวจากแสนเป็น2แสน ไหนจะค่าต่อสัญญาทุกปีอีก
ช่วงแรกบอกตรงๆว่าเราเครียดมากอยากตายทุกวันเพราะขาดหัวหน้าคนรอบครัวและเราไม่มีที่พึ่งตอนพ่อเสียเราอายุ22เองแล้วต้องมาเจออะไรแบบนี้ เครียดทุกวัน ตอนนี้ทำใจผ่อนไป และพยายามหาเงินก้อนมาโป๊ะ อยากเตือนทุกคนไม่ให้หลงเป็นเหยื่อบริษัทแย่ๆ
ประสบการณ์แย่ๆของการใช้บริการบริษัทศรีสวัสดิ์
จนก่อนท่านเสีย3เดือนถึงยอมบอกว่าได้เอาไปจำนองไว้พอท่านเสีย พนักงานได้โทรมาหาเราเพื่อจะให้รับหนี้และจ่ายแทน โดยที่เรามีเงินแค่1แสนบาท เราเป็นพนักงานเงินเดือนรายได้15000 และยังมีรถที่ต้องผ่อนเลยปฎิเสธไปว่าเราไม่มีเงินถ้าจะยึดก็ยึดไป พนักงานโทรมาหลายครั้งค่ะ จนครั้งสุดท้ายพนักงานแจ้งเราว่าเอาออกแค่ที่เดียวก่อนก็ได้แค่แสนเดียว เราเลยถามให้แน่ใจว่าได้ใช่ไหม (เราอยากเอาที่ที่พ่ออยู่ออกเพราะเป็นที่แรกที่พ่อเราซื้อและอยู่จนเสีย) เลยตกลงกับพนักงานและไปเซ็นสัญญาไถ่ เราก็กลับมารอโฉนด ปรากฏว่าพนักงานโทรมาแจ้งเราว่าไม่สามารถไถ่ได้เนื่องจากเป็นชื่อคนเดียวกัน2ที่ ต้องจ่ายทั้ง2ที่ เราเลยถามไปว่าไหนคุณ บอกว่าได้ พนักงานโยนความผิดไปให้นายทะเบียนว่าเขาแจ้งมาแบบนี้ เราเลยถามว่าแล้วเราจะทำยังไงในเมื่อไม่มีเงินจะขอเงินคืนก็ไม่ได้พนักงานงานพูดแค่ว่าต้องเอาเงินอีกแสนมาปิด พูดง่ายๆเลย จนเรามาหารีวิวจนได้ทำราบว่าหลายคนโดนแบบเราเช่น..
1)เราโทรไปสำนักงานใหญ่ว่าพนักงานของคุณแจ้งเราไม่ ละเอียด ทำให้เราต้องเป็น หนี้ แบบไม่ รู้ ตัว ควรแจ้งเราให้ละเอียดกว่านี้ในการทำงาน ปลายสายตอบมาแต่ว่า " อ๋อค่ะ "
2)เราได้ทักไปปรึกษาคุณป้าที่เป็นเพื่อนพ่อ แกก็บ่นเราใหญ่ว่าจะทำอะไรไม่ปรึกษา เนื่องจากคุณพ่อเคยมาปรึกษาจะยืมเงินไปปิดที่ แต่พนักงานแจ้งว่าต้องปิดทั้ง2ที่ (แต่แจ้งเราว่าปิดที่เดียวได้แล้วโยนความผิดให้นายทะเบียนแบบนี้ถือว่าเข้าค่ายหลอกลวงไหม) ซึ่งเป็นพนักงานคนเดียวกันแน่นอนเพราะสาขาเดียวกันแถมพนักงานเคยแจ้งเราว่าเคยแนะนำคุณพ่อเรื่องประกันแต่คุณพ่อไม่ทำและที่สงสัยคทอยังไงในการทำงานต้องรู้กฎบริษัทหรือข้อตกลงอยู่แล้วจะมาแกล้งว่าไม่รู้คงไม่ใช่เพราะก่อนปิดต้องส่งให้ผจก.สาขาอนุมัติ
3)เราเลยต้องไปเซ็นยอมรับหนี้โฉนดอีกที่ ซึ่งเราเจอเหมือนหลายท่าน คือแผ่นกระดาษเปล่าที่ยังไม่ลงรายละเอียดเราก็ไม่ได้ถามเพราะตอนนั้นเราเครียดมาก (เรื่องเกิดในปีที่พ่อเสีย)
4)พอครบปีเราส่งเดือนละ3000x12 =36,000 ต้น120,000เราก็งงว่าต้นลดลงน้อยมากลดไปหมื่นนิดๆพอไปดูว่าหักอะไรยังไง ทุกคนค่ะ ต้นครึ่งดอกครึ่ง ช็อคเลยเหมือนไม่ได้ส่ง
5) มีพนักงานงานโทรมาแจ้งให้เราไปต่อสัญญาเรางงมากเพราะตอนเซ็นไม่ได้แจ้ง (แจ้งแค่ว่าพอมีเงินลูกค้าก็โป๊ะได้เลย) มีค่าใช้จ่ายในการต่อสัญญาหลายพัน และถ้าเราไปไม่ทันวันต่อคิดค่าปรับวันละ500 ซึ่งตอนโทรมาคือแค่อีก2วัน
แนะนำทุกท่านอย่าหลงไปใช้บริการเด็ดขาดถ้าสุดตัวจริงๆให้ลองไปธนาคารหรือสถาบันอื่นดูก่อน แต่ที่นี้ห้ามมาค่ะ จงใจพูดไม่เคลียร์เชื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
กลายเป็นว่าเราต้องมาเป็นหนี้ที่เหมือนจะใช้ไม่จบ ต้นกับดอกคำนวนถ้าจ่ายจบแบบไม่มีเงินโป๊ะคือยอดเท่าตัวจากแสนเป็น2แสน ไหนจะค่าต่อสัญญาทุกปีอีก
ช่วงแรกบอกตรงๆว่าเราเครียดมากอยากตายทุกวันเพราะขาดหัวหน้าคนรอบครัวและเราไม่มีที่พึ่งตอนพ่อเสียเราอายุ22เองแล้วต้องมาเจออะไรแบบนี้ เครียดทุกวัน ตอนนี้ทำใจผ่อนไป และพยายามหาเงินก้อนมาโป๊ะ อยากเตือนทุกคนไม่ให้หลงเป็นเหยื่อบริษัทแย่ๆ