JJNY : 5in1 อ.สุรชาติเปิดกม.สหรัฐ│วิโรจน์ข้องใจวินธัย│เท้งควงธนาธร-ชัยธวัช│กมธ.สภาฯบรรจุวาระสอบ│คลังรับ GDP ปีนี้ 3% ยาก

อ.สุรชาติ เปิดกม.สหรัฐ ตอบชัด ไทยแจ้งม.112 อ.พอล เป็นเรื่องใหญ่ กระทบเจรจาภาษีทรัมป์
https://www.matichon.co.th/politics/news_5160616

.

.

เมื่อวันที่ 29 เมษายน จากกรณีที่ แม่ทัพภาค 3 ดำรงตำแหน่ง ผอ.กอ.รมน.ภาค 3 ได้เข้าแจ้งความ ม.112 นายพอล แชมเบอร์ส อาจารย์ชาวอเมริกัน ประจำศูนย์อาเซียนศึกษา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยระบุว่า เป็นการอ้างอิงจากข้อความในเฟซบุ๊ก ที่แปลข้อความหน้าเว็บประชาสัมพันธ์ของการสัมมนาออนไลน์ (Webinar) ซึ่งจัดโดยสถาบัน ISEAS – Yusof Ishak Institute โดยเชิญนายพอล แชมเบอร์ส เป็นวิทยากรรับเชิญ

กรณีดังกล่าว ทำให้หลายฝ่ายมองว่า อาจส่งผลกระทบต่อการเจรจาภาษีระหว่างไทยและสหรัฐ ที่ไม่คืบหน้าเท่าที่ควร

ทั้งนี้ ศ.กิตติคุณ ดร.สุรชาติ บำรุงสุข คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ได้ให้สัมภาษณ์กรณีดังกล่าว ในรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ถึงเหตุผลที่คดีดังกล่าวมีความสำคัญในแง่ของความมั่นคง และ ผลกระทบต่อไทย ไว้อย่างน่าสนใจ

.

อ.สุรชาติ กล่าวเริ่มต้นประเด็นดังกล่าวว่า ข่าวร้าย คือคิดว่าประตูการเจรจากำลังจะปิดลง และ ใกล้จะปิดมากแล้ว ถ้าไม่ได้ดำเนินการอะไรเลยประตูอาจจะปิด ข่าวดีคือ เฉพาะหน้า เรายังมีเวลาพอที่จะจัดการอีกสักนิด แต่ต้องมีการดำเนินการที่ชัดเจน คือ นายกฯ และ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ต้องคิดและตัดสินใจ เงื่อนตาย ไม่ใช่ปัญหาเศรษฐกิจ ในการถกภาษีของทรัมป์ เราไปติดกับดักว่า 90 วันอย่างเดียว แต่เราลืมไปว่า ปัญหาใหญ่ที่ทำให้เราไปไหนไม่ได้เป็นปัญหาความมั่นคง ตนย้ำเสมอว่า ปัญหาความมั่นคงเฉพาะหน้ามี 2 กรณี คือ อุยกูร์ กับ การจับพลเมืองชาวอเมริกันในไทย ซึ่งเป็นปัญหาความมั่นคง คุณทักษิณทราบชัดว่าไม่ใช่ปัญหาเศรษฐกิจ

สุรชาติ กล่าวต่อว่า สถานะปัจจุบันของผู้ถูกจับกุมคือ ถูกยึดพาสปอร์ต ใส่กำไลอีเอ็ม รายงานตัวผู้ใหญ่บ้านทุก 12 วัน รายงานตัวกับตำรวจทุก 30 วัน และ วางเงินประกัน 3 แสน คำถามคือ อเมริกันคิดอย่างไร อเมริกามองว่าการจับกุมไม่มีความถูกต้อง การจับกุมการฟ้องคดี เขามองว่าไม่ปกติ ในเช้าวันที่ 8 พอไปรายงานตัว พอเย็นวันที่ 8 ก็เข้าคุกเลย สหรัฐมองว่ากระบวนการทางกฎหมายมีปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตำรวจพิษณุโลกไปขอเข้าค้น ม.นเรศวร ห้องทำงานอ.พอล โดยไม่มีหมายค้น ม.นเรศวร เป็นข่าวติดอันดับโลก สื่อใหญ่ก็ลงหมด ซึ่งตำรวจหรือทหาร ในภาวะปกติจะไม่เข้าไปค้นมหาวิทยาลัย ฝากผบ.ภูธร ภาค 6 ด้วย นี่เรื่องใหญ่ นี่มีปัญหากับนัยยะระหว่างประเทศ

.

ทั้งยังระบุด้วยว่า เมื่อสหรัฐมีมุมมองอย่างนี้ ไม่ว่าเราจะคิดอย่างไร ปัญหาคือ แถลงการณ์ของกต.อเมริกัน คีย์เวิร์ดคำหนึ่ง คือคำว่า “พลเมืองอเมริกัน” ไม่จำเป็นต้องเป็น พอล แชมเบอร์ส เพราะอเมริกามีกฎหมายบางฉบับที่คนไทยอาจไม่คุ้นและไม่ทราบ เป็น Executive Order อย่างที่ทรัมป์ชอบออก คือ คำสั่งของฝ่ายบริหาร หรือ รัฐบาล คือ Executive Order 14078 ชื่อเรื่อง การหนุนเสริมในการพยายามการนำตัวประกัน หรือ คนที่ถูกคุมขังอย่างไม่ถูกต้อง ที่เป็นคนสัญชาติอเมริกันกลับบ้าน คีย์เวิร์ดของ กต.อเมริกา คือคำว่า พลเมืองอเมริกัน กฎหมาย ออกในสมัย ประธานาธิบดี โจ ไบเดน เมื่อ 21 กรกฎาคม 2022 ต่ออายุ 1 ครั้ง หลักการคือการจับคนอเมริกันเป็นตัวประกัน หรือคุมขังโดยไม่ถูกต้อง อเมริกาถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ที่ทำลายความเป็นนิติธรรม และเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐ

.

.

“เมื่อเข้าสู่เงื่อนไขว่าอเมริกามองว่า พลเมืองอเมริกันถูกจับโดยไม่ถูกต้อง กฎหมายตัวนี้ คำสั่งตัวนี้ เหมือนเป็นตัวบังคับให้รัฐบาลอเมริกาต้องทำ เพื่อหาทางนำบุคคลดังกล่าว กลับบ้านอย่างปลอดภัย ในคำสั่งมีการให้ตั้งคณะทำงาน ซึ่งจะแจ้งเรื่องให้คณะสภาความมั่นคงอเมริกา ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น แปลว่า อเมริกาจัดประเภทคนที่ถูกจับเป็นตัวประกันกรณีการก่อการร้าย กับผู้ถูกจับอย่างไม่ถูกต้อง ไว้ประเภทเดียวกัน”

.

“เมื่อแจ้ง สมช.ให้ดำเนินการปล่อยคนอเมริกันกลับบ้านโดยปลอดภัย จะดำเนินการให้กต.รับทราบและดำเนินการต่อ แสวงหานโยบายให้มาตรการนี้สำเร็จ รัฐบาลอเมริกาจะแจ้ง และติดตามข้อมูลต่างๆ เพื่อบอกกับครอบครัวผู้ถูกคุมขังโดยไม่ถูกต้อง คำสั่งนี้ ผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการจับพลเมืองอเมริกันโดยไม่ถูกต้อง จะต้องได้รับผลจากการกระทำดังกล่าว ถ้าบุคคลนั้นมีทรัพย์สินในสหรัฐ ผลประโยชน์ ดอกเบี้ย จะต้องถูกควบคุมโดยรัฐบาลอเมริกา ต้องถูกดำเนินการทางวีซ่า และ ให้ดำเนินการแซงชั่นทางเศรษฐกิจในระดับของตัวบุคคล เป็นเรื่องใหญ่มาก”

.

อ.สุรชาติ กล่าวอีกว่า ถามว่า 14078 ใช้แล้วหรือยัง ใช้แล้วใน 2 กรณี 1. แซงชั่นบุคคลในเครือข่ายข่าวกรองของรัสเซีย (FFB) 2. หน่วยข่าวกรองของกองกำลังปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน IRGC ทั้ง 2 ส่วนนี้ใช้แล้ว แปลว่าเรากำลังเห็นความท้าทาย นี่เป็นกระบวนการทางกฎหมายของบ้านเขา

.

สำหรับผลกระทบที่จะเกิดกับไทยนั้น อ.สุรชาติ กล่าวว่า ผลที่จะเกิดขึ้นกับไทย ถ้าเรื่องเข้าสู่ สมช.สหรัฐ ตรงนี้ยุ่ง วันนี้ทุกฝ่ายเช็กกัน เพราะถ้าเข้าแล้วจะออกมาด้วยมาตรการต่างๆ มาตรการเหล่านั้นจะหยุดไม่ได้ 2. บุคลากรในฝั่งการเมืองไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายกฯ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ต้องตระหนักถึงความล่อแหลม โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง และเกี่ยวข้องกับประเทศไทย

.

“น่าจะต้องกังวล คดีนี้จะเกี่ยวข้องกับนายกฯโดยตรง เพราะผู้ฟ้องคดีเป็นแม่ทัพภาค 3 ทำในนาม กอ.รมน. นายกฯโดยตำแหน่ง เป็นผอ.รมน.โดยตำแหน่ง และ เขาจะจัดการคนที่กระทำการในเรื่องนี้ รองนายกฯ ฝ่ายมั่นคง ก็ด้วย เพราะเป็นผู้กำกับดูแลกอ.รมน.โดยสายงาน ถ้าลงมาในสายการเมือง จะลงมาถึงที่ปรึกษา รองนายกฯฝ่ายมั่นคง คือ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่เข้าไปรับผิดชอบในการดูแล กอ.รมน.ให้ฝ่ายการเมือง ข้าราชการประจำไม่ต้องพูดเลย ผบ.ทบ.คือรองผอ.รมน. แปลว่าปมปัญหาตรงนี้ การเจรจาจะไม่เกิดเลย ตราบเท่าที่บุคคลสัญชาติอเมริกัน ในความรู้สึกของเขาถูกจับอย่างไม่ถูกต้อง”

.

ทั้งยังทิ้งท้ายว่า ฝากรัฐบาลสักนิด การสื่อสารทางการเมืองของรัฐบาลเป็นเรื่องใหญ่ ในภาวะอย่างนี้ กฎหมายภาษีทรัมป์ ในไตรมาส 2 เรายังพอประครอง ไตรมาส 3-4 จะออกฤทธิ์มากขึ้น การสื่อสารทางการเมืองของท่านนายกฯ ผมอยากเห็น 2 ข้าง เป็น รองนายกฯ พิชัย กับ พิชัย รมว.พาณิชย์ การสื่อสารทางการเมืองในภาวะอย่างนี้

.

เมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ออกมาชี้แจงเรื่องที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 (กอ.รมน.ภาค 3) แจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี นายพอล แชมเบอร์ส อาจารย์มหาวิทยาลัยนเรศวร ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า ตอนนี้มีติดใจเยอะเลย พอได้อ่านการชี้แจง คำถามที่ผุดขึ้นทันทีคือ พล.ต.วินธัยมีตำแหน่งอะไรใน กอ.รมน. เพราะในข่าวเองระบุตำแหน่งว่าโฆษกกองทัพบก เขาสับสนต้นสังกัดและสายการบังคับบัญชาของตัวเองแล้วหรือไม่

.

นายวิโรจน์กล่าวว่า ได้อ่านข่าววันนี้ว่า พล.ต.ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ โฆษก กอ.รมน. ตัวจริงได้ออกมาให้สัมภาษณ์แล้ว แต่เป็นลักษณะทำนองเดียวกันเหมือนคัดลอกกันมา ในเมื่อ พล.ต.วินธัยกล้าออกมาชี้แจงทั้งที่ตัวเองไม่ได้มีตำแหน่งใน กอ.รมน. ทาง กมธ.การทหารคิดว่าท่านคงมีความรู้ทางด้านกฎหมายมหาชนจึงได้เชิญเข้าชี้แจงในวันที่ 8 พฤษภาคมด้วย

.

นายวิโรจน์กล่าวว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 ประชาชนทั่วไปหากเห็นการกระทำความผิดสามารถแจ้งตำรวจได้ แต่ กอ.รมน.เป็นหน่วยงานรัฐ ต้องยึดหลักกฎหมายมหาชน คือหากกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจไว้ก่อนถึงถือว่ากระทำไม่ได้ แต่วันนี้ กอ.รมน.แยกตัวเองไม่ออกว่าเป็นบุคคลทั่วไป หรือเป็นหน่วนงานรัฐ จึงต้องตั้งคำถามว่าพระราชบัญญัติของ กอ.รมน.ได้ให้อำนาจไว้ในมาตราใด ตอนนี้มีแต่การชี้แจงว่าใช้มาตรา 7 ที่เกี่ยวกับการวางแผน แล้วใช้มาตราใดหากยึดหลักกฎหมายมหาชน ในวันที่ 8 พฤษภาคม ขอให้เชิญนายทหารพระธรรมนูญมาด้วยก็ได้ ตนจะได้เชิญผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายมารับฟัง ได้เข้าใจว่ากองทัพไม่สนใจหลักกฎหมายมหาชนแล้วใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นคณะนิติศาสตร์ในมหาวิทยาลัยต่างๆ คงปั่นป่วนไปหมด

.

ส่วนที่มีการระบุว่ามีการไล่บี้กันในที่ประชุม กมธ.การทหารนั้น นายวิโรจน์ระบุว่า ถ้าไม่ผิดจะกลัวอะไร คำพูดนี้ กอ.รมน.ก็ชอบพูด หากใช้อำนาจโดยชอบ ไม่เข้าข่ายการประพฤติมิชอบ เคารพหลักกฎหมายมหาชนจะกลัวอะไร ที่ต้องตรวจสอบเพราะขนาดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ออกมายอมรับว่าการดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหาในครั้งนี้มีส่วนไม่มากก็น้อยเกี่ยวกับการเจรจาภาษีกับประเทศสหรัฐอเมริกา หากการดำเนินการของ กอ.รมน.ไม่รอบคอบเพียงพออาจจะเป็นต้นเหตุของหายนะทางเศรษฐกิจที่กระทบต่อปากท้องของประชาชนทั้งประเทศใครจะรับผิดชอบ การแจ้งความในมาตรา 112 อยากจะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากเวทีโลกได้ว่า คุณกำลังนำเอาสถาบันพระมหากษัตริย์เข้าไปอยู่ท่ามกลางข้อพิพาท ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทบถึงพระเกียรติยศของสถาบัน อาจจะเข้าข่ายการแอบอ้างความจงรักภักดีไปกลั่นแกล้งในบุคคลให้ต้องโทษคดีอาญา

.

“ผมถามไปที่ พล.ต.วินธัย และ พล.ต.ธรรมนูญ เลยว่า หากเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจของประชาชน เมื่อทราบภายหลังว่ามีการยกฟ้อง สั่งไม่ฟ้อง หรือมีคำพิพากษาว่านายพอล แชมเบอร์ส ไม่ผิด ใครรับผิดชอบ” นายวิโรจน์กล่าว