ตาม พรก.ไซเบอร์ พ.ศ.2568 มาตรา 11/2 กรณีธนาคารให้เจ้าของซิมเดิมผูกบัญชีพร้อมเพย์ทั้งที่ชื่อไม่ตรง มีความผิดไหม?

พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568

มาตรา 11/2 ผู้ใดใช้ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลหรือผู้ถึงแก่กรรม ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลหรือผู้ถึงแก่กรรมนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผู้ใดเก็บรวบรวม ครอบครอง หรือเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล หรือผู้ถึงแก่กรรมซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลหรือผู้ถึงแก่กรรมนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เพื่อนำไปใช้หรือให้บุคคลอื่นใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด ต้องระวังโทษตามที่บัญญัติในวรรคหนึ่ง

ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง หรือวรรคสอง ได้กระทำโดยซื้อ เสนอซื้อ ขาย เสนอขาย แลกเปลี่ยน เสนอแลกเปลี่ยน หรือแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ"


ดังนั้น หากธนาคารไม่มีระบบอัตเดตและตรวจสอบชื่อซิมและชื่อบัญชีพร้อมเพย์ที่ไม่ตรงกันและยกเลิกการผูกบัญชีพร้อมเพย์อัตโนมัติ ธนาคารต้องรับผิดชอบตามมาตรา 11/2 ข้างต้นนี้ไหม?

เพราะเจ้าของซิมใหม่ไม่ได้เป็นผู้กระทำการผูกบัญชีพร้อมเพย์ จึงไม่ทราบได้ว่ามีผู้ใดหรือธนาคารใดนำเบอร์ซิมใหม่ไปผูกพร้อมเพย์ไว้แล้วหรือไม่

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่