สวัสดีค่ะ หนูตอนนี้เป็นเด็ก68ที่กำลังประสบปัญหากับการเรียนต่อค่ะ
ขอเกริ่นก่อนเลยนะคะ หนูเป็นเด็กต่างจังหวัดค่ะ หนูเป็นเด็กสายวิทย์คณิตที่ชอบวาดรูปค่ะ เลยอยากไปต่อคณะสาขาที่ตัวเองชอบ
เริ่มที่มหาลัยแรกค่ะ ขอแทนเป็น มหาลัย A เป็นมหาลัยที่อยู่ใกล้บ้านค่ะ ขับรถไปครึ่งวันหรือเต็มวันก็ถึงแล้ว คณะที่ยื่นไปเกี่ยวกับแอนิเมชันและเกม ตอนนี้สอบสัมภาษณ์เสร็จไป มีความมั่นใจว่าติดแน่นอนค่ะ เพราะอาจารย์ที่สัมภาษณ์ท่านชิลมาก ไม่ให้เราพรีเซ็นต์ PORTFOLIO ให้เราแนะนำตัวเองเพราะท่านต้องการรู้จักตัวเรามากขึ้น ทั้งยังขายคณะให้เราสุด ๆ เลยค่ะ
คณะนี้หนูไม่ได้บอกรายละเอียดให้กับที่บ้านฟังค่ะว่าเป็นยังไง บอกเขาแค่ว่าเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ค่าเทอม 25,000 บาท 4 ปี 200,000
มหาลัยที่สอง แทนเป็น มหาลัย B นะคะ เป็นมหาลัยที่ไกลจากบ้านค่ะ ต้องนั่งเครื่องบิน 2 ชม.ถึง อีกหรือนั่งรถไฟไปประมาณ 1-2 วัน ( จากที่ฟังเพื่อนพูดมา ) คณะที่หนูยื่นเกี่ยวกับอาร์ตและแพทย์รวมกันค่ะ เรียกง่าย ๆ ว่า มีเดียแพทย์ หรือ เวชนิทัศน์ หนูผ่านไปรอบสัมภาษณ์แต่ไม่มีสิทธิ์เข้าเรียนค่ะ
โดยความที่หนูเรียนสายวิทย์มาและสนใจคณะสาขานี้อยู่แล้ว พอเว็บแจ้งว่าไม่มีสิทธิ์
ใจแป๋ว เลยค่ะ
คณะนี้หนูบอกหมดเปลือกเลยค่ะว่าจบมามีงานอะไรทำ เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง เรื่องค่าเทอมบ้าง ค่าเทอม 30,000 บาท 4 ปี เกือบ 300,000 *โดยประมาณ
ซึ่งตอนนี้หนูกำลังรอผลจากสัมภาษณ์มหาลัย A ค่ะว่าติดไหม จากใจหนูจริง ๆ ไม่อยากติดเลยค่ะ แต่ก็เกิดความลังเลอีกค่ะ เพราะคุณปู่นั้นเป็นคนในจังหวัดที่มหาลัย A ตั้ง ตอนที่หนูบอกท่านว่าได้สัมภาษณ์มหาลัย A นะ สีหน้าท่านตอนนั้นดูดีใจมากค่ะ บอกว่าต้องไปสัมภาษณ์ที่มหาลัยไหม ท่านจะไปส่งเเอง หนูเป็นลูกสาวคนโตที่ท่านเลี้ยงเอ็นดูมาตลอดค่ะ พอเห็นแบบนั้นแล้วทำให้หนูลังเลTT
ส่วนมหาลัย B ตอนแรกทางบ้านไม่อยากให้เรียนที่ไกลเลยค่ะ แต่พวกท่านเปิดใจให้เพราะพูดคุยเรื่องมหาลัย B ตลอดว่าเขาเรียนอย่างงี้นะ จบมาอะไรบ้าง แต่ดันไม่ติดนี่สิคะ
พอทางบ้านทราบ คุณย่าเราท่านรู้ทีหลัง หนูพูดคุยว่า
" หนูสัมภาษณ์มหาลัย A นะย่า "
' แล้วมหาลัย B ล่ะ '
" ไม่ติดอ่ะย่า ใกล้บ้านก็ได้ไหม "
' แล้วมหาลัย (เป็นคณะวิทยาศาสตร์ มหาลัยที่ใกล้บ้านเดินทาง 1-2 ชั่วโมงถึงค่ะ แต่ไม่อยากเข้าเลย) '
" ต้องรอรอบ 3 นะย่า "
**ที่จำบทสนทนาได้ เพราะผ่านไปไม่กี่วันค่ะ ฝังใจด้วย**
พูดอย่างงั้นจบ คุณย่าท่านทำสีหน้าผิดหวังใส่ค่ะ ยอมรับค่ะว่าเป็นคนที่อ่อนไหวมาก เฉพาะครอบครัวนะคะ หนูไม่อยากทำให้คนที่บ้านผิดหวังกับหนู เลยยอมเรียนสายวิทย์ เรียนพิเศษกวดวิชาให้ตลอด แต่พอเรื่องมหาลัยแล้วหนูอยากทำสิ่งที่ชอบ แต่จบออกมาต้องมีงานที่ช่วยค่าใช้จ่ายคุณแม่และน้อง ๆ ค่ะ
เครียดได้สักพักนึงก็นึกถึงคำพูดของคุณป้ากับน้องชาย ( ญาติที่เรียนก่อนเกณฑ์ ) ว่าถ้าเกิดไม่ติดที่ไหนเลย เรียนนิติศาสตร์ ม.ราม แล้วปีหน้าเอาใหม่กับมหาลัย B
หนูจึงมีความคิดอยู่ 2 ความคิด
***ความคิดแรก***
หนูไม่สละสิทธิ์มหาลัย A และเรียนต่อ
***ความคิดสอง***
หนูสละสิทธิ์มหาลัย A สมัครเรียนนิติราม เก็บเกี่ยวผลงานแล้วยื่นมหาลัย B ใหม่เป็นเด็ก69
ประมาณว่าเรียน 2 มหาลัยพร้อมกันค่ะ ทั้งนิติรามและมหาลัย B
สามารถแสดงความคิดเห็น ให้คำแนะนำหนูได้นะคะ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนถึงตอนนี้ ขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ
หากหนูพิมพ์งง ๆ วกวนไปมา ขออภัยด้วยนะคะ สามารถถามเพิ่มเติมได้หากคำถามนั้นหนูตอบได้
ประสบปัญหาเรื่องการเรียนต่อ
ขอเกริ่นก่อนเลยนะคะ หนูเป็นเด็กต่างจังหวัดค่ะ หนูเป็นเด็กสายวิทย์คณิตที่ชอบวาดรูปค่ะ เลยอยากไปต่อคณะสาขาที่ตัวเองชอบ
เริ่มที่มหาลัยแรกค่ะ ขอแทนเป็น มหาลัย A เป็นมหาลัยที่อยู่ใกล้บ้านค่ะ ขับรถไปครึ่งวันหรือเต็มวันก็ถึงแล้ว คณะที่ยื่นไปเกี่ยวกับแอนิเมชันและเกม ตอนนี้สอบสัมภาษณ์เสร็จไป มีความมั่นใจว่าติดแน่นอนค่ะ เพราะอาจารย์ที่สัมภาษณ์ท่านชิลมาก ไม่ให้เราพรีเซ็นต์ PORTFOLIO ให้เราแนะนำตัวเองเพราะท่านต้องการรู้จักตัวเรามากขึ้น ทั้งยังขายคณะให้เราสุด ๆ เลยค่ะ
คณะนี้หนูไม่ได้บอกรายละเอียดให้กับที่บ้านฟังค่ะว่าเป็นยังไง บอกเขาแค่ว่าเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ค่าเทอม 25,000 บาท 4 ปี 200,000
มหาลัยที่สอง แทนเป็น มหาลัย B นะคะ เป็นมหาลัยที่ไกลจากบ้านค่ะ ต้องนั่งเครื่องบิน 2 ชม.ถึง อีกหรือนั่งรถไฟไปประมาณ 1-2 วัน ( จากที่ฟังเพื่อนพูดมา ) คณะที่หนูยื่นเกี่ยวกับอาร์ตและแพทย์รวมกันค่ะ เรียกง่าย ๆ ว่า มีเดียแพทย์ หรือ เวชนิทัศน์ หนูผ่านไปรอบสัมภาษณ์แต่ไม่มีสิทธิ์เข้าเรียนค่ะ
โดยความที่หนูเรียนสายวิทย์มาและสนใจคณะสาขานี้อยู่แล้ว พอเว็บแจ้งว่าไม่มีสิทธิ์ ใจแป๋ว เลยค่ะ
คณะนี้หนูบอกหมดเปลือกเลยค่ะว่าจบมามีงานอะไรทำ เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง เรื่องค่าเทอมบ้าง ค่าเทอม 30,000 บาท 4 ปี เกือบ 300,000 *โดยประมาณ
ซึ่งตอนนี้หนูกำลังรอผลจากสัมภาษณ์มหาลัย A ค่ะว่าติดไหม จากใจหนูจริง ๆ ไม่อยากติดเลยค่ะ แต่ก็เกิดความลังเลอีกค่ะ เพราะคุณปู่นั้นเป็นคนในจังหวัดที่มหาลัย A ตั้ง ตอนที่หนูบอกท่านว่าได้สัมภาษณ์มหาลัย A นะ สีหน้าท่านตอนนั้นดูดีใจมากค่ะ บอกว่าต้องไปสัมภาษณ์ที่มหาลัยไหม ท่านจะไปส่งเเอง หนูเป็นลูกสาวคนโตที่ท่านเลี้ยงเอ็นดูมาตลอดค่ะ พอเห็นแบบนั้นแล้วทำให้หนูลังเลTT
ส่วนมหาลัย B ตอนแรกทางบ้านไม่อยากให้เรียนที่ไกลเลยค่ะ แต่พวกท่านเปิดใจให้เพราะพูดคุยเรื่องมหาลัย B ตลอดว่าเขาเรียนอย่างงี้นะ จบมาอะไรบ้าง แต่ดันไม่ติดนี่สิคะ
พอทางบ้านทราบ คุณย่าเราท่านรู้ทีหลัง หนูพูดคุยว่า
" หนูสัมภาษณ์มหาลัย A นะย่า "
' แล้วมหาลัย B ล่ะ '
" ไม่ติดอ่ะย่า ใกล้บ้านก็ได้ไหม "
' แล้วมหาลัย (เป็นคณะวิทยาศาสตร์ มหาลัยที่ใกล้บ้านเดินทาง 1-2 ชั่วโมงถึงค่ะ แต่ไม่อยากเข้าเลย) '
" ต้องรอรอบ 3 นะย่า "
**ที่จำบทสนทนาได้ เพราะผ่านไปไม่กี่วันค่ะ ฝังใจด้วย**
พูดอย่างงั้นจบ คุณย่าท่านทำสีหน้าผิดหวังใส่ค่ะ ยอมรับค่ะว่าเป็นคนที่อ่อนไหวมาก เฉพาะครอบครัวนะคะ หนูไม่อยากทำให้คนที่บ้านผิดหวังกับหนู เลยยอมเรียนสายวิทย์ เรียนพิเศษกวดวิชาให้ตลอด แต่พอเรื่องมหาลัยแล้วหนูอยากทำสิ่งที่ชอบ แต่จบออกมาต้องมีงานที่ช่วยค่าใช้จ่ายคุณแม่และน้อง ๆ ค่ะ
เครียดได้สักพักนึงก็นึกถึงคำพูดของคุณป้ากับน้องชาย ( ญาติที่เรียนก่อนเกณฑ์ ) ว่าถ้าเกิดไม่ติดที่ไหนเลย เรียนนิติศาสตร์ ม.ราม แล้วปีหน้าเอาใหม่กับมหาลัย B
หนูจึงมีความคิดอยู่ 2 ความคิด
***ความคิดแรก***
หนูไม่สละสิทธิ์มหาลัย A และเรียนต่อ
***ความคิดสอง***
หนูสละสิทธิ์มหาลัย A สมัครเรียนนิติราม เก็บเกี่ยวผลงานแล้วยื่นมหาลัย B ใหม่เป็นเด็ก69
ประมาณว่าเรียน 2 มหาลัยพร้อมกันค่ะ ทั้งนิติรามและมหาลัย B
สามารถแสดงความคิดเห็น ให้คำแนะนำหนูได้นะคะ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนถึงตอนนี้ ขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ
หากหนูพิมพ์งง ๆ วกวนไปมา ขออภัยด้วยนะคะ สามารถถามเพิ่มเติมได้หากคำถามนั้นหนูตอบได้