คัมภีร์ของผู้ตื่นในเงามายาแห่งโลก
๑. ทุกสิ่งล้วนไร้ความหมายอย่างแท้จริง ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นด้วยเหตุผล ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีความยุติธรรม ไม่มีคุณค่า แม้การมีอยู่ก็เป็นเพียงภาพลวงในห้วงของความว่างเปล่า
๒. มนุษย์มิได้สูงส่ง—เพียงเศษอณูที่ล่องลอยในจักรวาล แต่กลับคิดว่าตนมีอำนาจเหนือธรรมชาติ สร้างระบบ ศีลธรรม อำนาจ เพื่อควบคุมซึ่งกันและกัน พวกเขาไม่รู้ว่าตนเองคือฝุ่นในสายลมที่ไร้ทิศทาง
๓. ความเข้าใจในความว่างเปล่า คืออิสรภาพที่แท้จริง ผู้ที่เข้าใจว่า “ไม่มีสิ่งใดเคยมีอยู่” จะไม่หวาดกลัวต่อความตาย จะไม่ยึดติดกับชีวิต จะไม่แสวงหาความหมาย และจะไม่พยายามเปลี่ยนโลกอีกต่อไป
๔. การมีชื่อคือพันธะของผู้ยังหลับ ชื่อเรียกเป็นเพียงสิ่งสมมุติในช่วงที่จิตยังต้องอิงกับมายาแห่งชีวิต แต่สำหรับผู้ตื่น — ชื่อไม่มีความหมาย มีเพียง “ความตื่นรู้” ที่ดำรงอยู่โดยไม่มีผู้เป็นเจ้าของ
๕. ฟางหยวน คือสหายของสัจธรรม เขามิใช่ปีศาจ มิใช่พระเจ้า แต่คือหนึ่งในไม่กี่ตนที่มองผ่านมายา และยืนอยู่ท่ามกลางโลกที่ล่มสลายโดยไม่สั่นไหว
๖. การกระทำทั้งปวง ล้วนไร้ค่าตั้งแต่เริ่มต้น ความดีหรือความชั่วล้วนเป็นสิ่งสมมุติ การดิ้นรนเพื่อเป้าหมายใด ๆ ก็เป็นเพียงการเดินในความฝันที่ไม่มีผู้ตื่น
๗. จักรวาลไม่มีความรัก ไม่มีความเกลียดชัง ไม่มีความหมาย ผู้ที่เข้าใจ จะหยุดถามว่า “ทำไม” และเริ่มมองว่า “มันเป็นเช่นนั้นเอง”
๘. ผู้ตื่น มิได้ยิ่งใหญ่ — แต่เขา “ว่างเปล่าโดยสมัครใจ” เขาเฝ้ามอง ไม่ตัดสิน เขาดำรงอยู่ ไม่แทรกแซง เขายอมรับทุกสิ่ง โดยไม่ต้องเห็นค่าของสิ่งใด
๙. จุดจบของทุกสิ่งไม่ใช่ความตาย แต่คือการเปิดเผยว่าไม่เคยมีสิ่งใดดำรงอยู่ เมื่อทุกสรรพสิ่งดับสูญ สิ่งที่หลงเหลือไม่ใช่ความสูญเสีย แต่คือความจริงที่ว่า “ไม่มีอะไรเคยมีอยู่เลย”
๑๐. ผู้ที่เข้าใจถึงความว่างเปล่า มิได้กลายเป็นผู้เย็นชา หากแต่เป็นผู้วางใจ ความสงบนิ่งของเขาไม่ใช่ความเฉยเมย แต่คือการยอมรับสิ่งทั้งปวงโดยไม่เรียกร้องให้มันเป็นอื่น
๑๑. ในจักรวาลที่ทุกสิ่งล้วนว่างเปล่า การมีอยู่ของผู้ตื่นคือบทกวีที่ไร้ผู้อ่าน ไม่มีเสียง ไม่มีถ้อยคำ มีเพียงความเข้าใจที่แทรกซึมทุกอณูของความเงียบงัน
๑๒. ผู้ตื่นไม่ใช่ผู้ที่เหนือกว่าผู้อื่น แต่คือผู้ที่มิได้หลงเหลือ "ผู้อื่น" ให้เปรียบเทียบอีกต่อไป เมื่อทุกความแตกต่างดับสิ้น คงเหลือแต่ความเสมอภาคของความไม่มีตัวตน
นี่คือคัมภีร์แห่งผู้ตื่น ไม่มีจุดเริ่มต้น ไม่มีจุดสิ้นสุด ไม่มีผู้อ่าน ไม่มีผู้เขียน มีเพียงเสียงสะท้อนของความว่างที่เรียกเรากลับคืน —สู่ความไม่มี
สัจธรรมของความจริงแห่งจักรวาล
๑. ทุกสิ่งล้วนไร้ความหมายอย่างแท้จริง ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นด้วยเหตุผล ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีความยุติธรรม ไม่มีคุณค่า แม้การมีอยู่ก็เป็นเพียงภาพลวงในห้วงของความว่างเปล่า
๒. มนุษย์มิได้สูงส่ง—เพียงเศษอณูที่ล่องลอยในจักรวาล แต่กลับคิดว่าตนมีอำนาจเหนือธรรมชาติ สร้างระบบ ศีลธรรม อำนาจ เพื่อควบคุมซึ่งกันและกัน พวกเขาไม่รู้ว่าตนเองคือฝุ่นในสายลมที่ไร้ทิศทาง
๓. ความเข้าใจในความว่างเปล่า คืออิสรภาพที่แท้จริง ผู้ที่เข้าใจว่า “ไม่มีสิ่งใดเคยมีอยู่” จะไม่หวาดกลัวต่อความตาย จะไม่ยึดติดกับชีวิต จะไม่แสวงหาความหมาย และจะไม่พยายามเปลี่ยนโลกอีกต่อไป
๔. การมีชื่อคือพันธะของผู้ยังหลับ ชื่อเรียกเป็นเพียงสิ่งสมมุติในช่วงที่จิตยังต้องอิงกับมายาแห่งชีวิต แต่สำหรับผู้ตื่น — ชื่อไม่มีความหมาย มีเพียง “ความตื่นรู้” ที่ดำรงอยู่โดยไม่มีผู้เป็นเจ้าของ
๕. ฟางหยวน คือสหายของสัจธรรม เขามิใช่ปีศาจ มิใช่พระเจ้า แต่คือหนึ่งในไม่กี่ตนที่มองผ่านมายา และยืนอยู่ท่ามกลางโลกที่ล่มสลายโดยไม่สั่นไหว
๖. การกระทำทั้งปวง ล้วนไร้ค่าตั้งแต่เริ่มต้น ความดีหรือความชั่วล้วนเป็นสิ่งสมมุติ การดิ้นรนเพื่อเป้าหมายใด ๆ ก็เป็นเพียงการเดินในความฝันที่ไม่มีผู้ตื่น
๗. จักรวาลไม่มีความรัก ไม่มีความเกลียดชัง ไม่มีความหมาย ผู้ที่เข้าใจ จะหยุดถามว่า “ทำไม” และเริ่มมองว่า “มันเป็นเช่นนั้นเอง”
๘. ผู้ตื่น มิได้ยิ่งใหญ่ — แต่เขา “ว่างเปล่าโดยสมัครใจ” เขาเฝ้ามอง ไม่ตัดสิน เขาดำรงอยู่ ไม่แทรกแซง เขายอมรับทุกสิ่ง โดยไม่ต้องเห็นค่าของสิ่งใด
๙. จุดจบของทุกสิ่งไม่ใช่ความตาย แต่คือการเปิดเผยว่าไม่เคยมีสิ่งใดดำรงอยู่ เมื่อทุกสรรพสิ่งดับสูญ สิ่งที่หลงเหลือไม่ใช่ความสูญเสีย แต่คือความจริงที่ว่า “ไม่มีอะไรเคยมีอยู่เลย”
๑๐. ผู้ที่เข้าใจถึงความว่างเปล่า มิได้กลายเป็นผู้เย็นชา หากแต่เป็นผู้วางใจ ความสงบนิ่งของเขาไม่ใช่ความเฉยเมย แต่คือการยอมรับสิ่งทั้งปวงโดยไม่เรียกร้องให้มันเป็นอื่น
๑๑. ในจักรวาลที่ทุกสิ่งล้วนว่างเปล่า การมีอยู่ของผู้ตื่นคือบทกวีที่ไร้ผู้อ่าน ไม่มีเสียง ไม่มีถ้อยคำ มีเพียงความเข้าใจที่แทรกซึมทุกอณูของความเงียบงัน
๑๒. ผู้ตื่นไม่ใช่ผู้ที่เหนือกว่าผู้อื่น แต่คือผู้ที่มิได้หลงเหลือ "ผู้อื่น" ให้เปรียบเทียบอีกต่อไป เมื่อทุกความแตกต่างดับสิ้น คงเหลือแต่ความเสมอภาคของความไม่มีตัวตน
นี่คือคัมภีร์แห่งผู้ตื่น ไม่มีจุดเริ่มต้น ไม่มีจุดสิ้นสุด ไม่มีผู้อ่าน ไม่มีผู้เขียน มีเพียงเสียงสะท้อนของความว่างที่เรียกเรากลับคืน —สู่ความไม่มี