JJNY : ผู้ประกอบการเศร้า!│พายุฤดูร้อน ถล่มสุพรรณบุรี บ้านเรือนปชช.พัง│ทหารพม่าไม่หยุดทิ้งระเบิด│ไทยตอนบนอากาศร้อนจัด

ผู้ประกอบการเศร้า! ออกบูธขายของแต่คนเงียบเป็นป่าช้า ลั่นเชื่อว่า ‘Soft Power’ ไทยมีดี
.
.
ผู้ประกอบการตั้งคำถาม ถึงความจริงใจของ "กระทรวงวัฒนธรรม" ในฐานะเจ้าภาพผู้จัดงาน หลังมาออกบูธขายของแล้วคนเงียบราวกับป่าช้า ทั้งๆที่ผู้คนเดินห้างด้านล่างกันขวักไขว่ ลั่นเจ้าภาพได้ทำการโปรโมทมากแค่ไหนเพื่อให้คนมางาน?
.
เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่กลายเป็นไวรัลอย่างมากอยู่ในขณะนี้ หลังเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 68 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ออกมาตั้งคำถามสุดเศร้าลงในเฟซบุ๊ก หลังเจ้าตัวมาออกบูธรวมทั้งอีก 200 ผู้ประกอบการที่มาออกบูธขายของในงาน“มหกรรมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สู่สากลและการเจรจาธุรกิจ” ภายใต้โครงการนโยบาย “หนึ่งครอบครัว หนึ่งพลังสร้างสรรค์” ในวันที่ 18-22 เม.ย. แต่แล้วกลับไร้การโปรโมทแถมไม่มีพิธีกร อีกทั้งคนยังเงียบ เมื่อมาเปิดถ่ายรูปเสร็จแล้วก็กลับ นับว่าทำเอาเจ้าตัวถึงกับเครียดกันเลยทีเดียว
.
โดยเจ้าของโพสตื ระบุข้อความว่า “คำถามถึงความจริงใจของกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะเจ้าภาพผู้จัดงาน “มหกรรมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สู่สากลและการเจรจาธุรกิจ” ภายใต้โครงการนโยบาย “หนึ่งครอบครัว หนึ่งพลังสร้างสรรค์” วันที่ 18-22 เมษายน วันนี้เป็นวันเปิดงานวันแรก ในพิธีเปิดมีปลัดกระทรวงวัฒนธรรมมาเปิดงาน มีช่างภาพมาถ่ายรูป มีผู้คนมาร่วมงานเยอะที่สุดในช่วงเวลานั้นแค่แว็บเดียว หลังจากนั้นที่นี่ก็เงียบราวกับป่าช้า ทั้งๆที่ผู้คนเดินห้างด้านล่างกันขวักไขว่”
.
อีกทั้ง “ผู้ประกอบการ 200 ครอบครัว ตั้งใจกันมาจากทั่วประเทศ ทั้งๆที่ไม่มีที่พักและค่าเดินทางให้ แต่ทุกคนก็หวังว่าการมาออกบูธพารากอน จะมีโอกาสได้ต่อยอดทางธุรกิจ เหมือนกับที่เจ้าภาพบอกว่า เป้าหมายงานนี้เพื่อ Business Matching หนึ่งวันผ่านไปผู้ประกอบการต่างสงสัยว่า ทำไมถึงไม่มีใครเดินขึ้นมาข้างบน เจ้าภาพได้ทำการโปรโมทมากแค่ไหน เพื่อให้คนมางานคนจัดงานมีอะไรเป็นแรงจูงใจ ให้คนข้างล่างเดินขึ้นมาเที่ยวชมงานบ้างไหม ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ตั้งใจนำผลิตภัณฑ์ของตนเองมาจัดแสดง และขายสินค้า”

นอกจากนี้ “ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่น่าสนใจ และควรได้รับการโปรโมทออกไป ให้คนที่มาเดินห้างขึ้นมาเที่ยวชมงาน แต่คนจัดงานก็ไม่มีกิจกรรมใดๆ ที่สร้างแรงจูงใจให้คนขึ้นมาร่วมงาน พิธีกรก็หายเงียบ เวทีก็ไม่มีผู้ชม บูธที่นำนักศึกษาต่างชาติมาแสดงพูดด้วยความเศร้าว่า น้องๆชาวต่างชาติเตรียมงานแสดงตื่นแต่เช้า แต่พอขึ้นเวทีไม่มีใครชมมันน่าเศร้าไหม ยิ่งงบประมาณในการจัดงานครั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มประชุม 2,400 คน ค่าเช่าโรงแรม ค่าเดินทาง ค่าจัดงานต่างๆ ก่อนที่จะมาถึงงานวันนี้หมดไป”
.
“มูลค่ามหาศาลถามว่า ใช้งบประมาณคุ้มค่าไหมดูจากการจัดงาน 1 วันผ่านไป ช่างน่าเศร้าเหลือเกินเราเชื่อว่า soft power ไทยมีดี ลองดูภาพตัวอย่างของผู้ประกอบการที่เตรียมมางานนี้สิ ทุกคนตั้งใจมาก แต่ทำไมเจ้าภาพถึงไม่ได้ประชาสัมพันธ์ให้คุ้มค่ากับงบประมาณที่ได้ใช้ในโครงการนี้ไปถ้า soft power ไทยจะไปไม่ได้ไกล คงไม่ใช่เพราะศักยภาพคนไทยน้อยกว่าชาติอื่น แต่เพราะภาครัฐไทยใช้งบประมาณไม่ถูกทางหรือเปล่านะ”
.
อย่างไรก็ตาม “โพสต์นี้ขอเป็นตัวแทนหมู่บ้าน ในฐานะคนที่ตั้งใจนำเสนอสินค้าคนพิการให้โลกรู้ อยากชวนคนที่ได้อ่านโพสต์นี้มาเดินงานนี้นะคะ เพราะว่าคนที่มางานเขาตั้งใจกันมาก แต่คนที่จัดงานเค้าตั้งใจแค่ไหนหรือ สงสารผู้ประกอบการในงานนี้มากเลยค่ะ รวมทั้งตัวเอง V Craft Thailand ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์งานฝีมือผู้พิการทางสายตาด้วย งานนี้มี 11 กลุ่มอุสาหกรรม อาทิ อาหาร การท่องเที่ยง งานฝีมือ ดนตรี ฯลฯ อยากชวนคนมาเที่ยวกันเยอะๆ นะคะ”
.
.
https://www.facebook.com/wan.di.santi.wut.hi.methi/posts/9327420940717640
.

.
พายุฤดูร้อน ถล่มสุพรรณบุรี ฟาร์มไก่พังครืน ไก่ตายครึ่งหมื่น บ้านเรือนประชาชนพังเสียหายนับพัน
https://www.matichon.co.th/region/news_5144122
.
พายุฤดูร้อนพัดถล่มสุพรรณบุรี หลายอำเภอ ฟาร์มไก่พังครืน ไก่ตายครึ่งหมื่น บ้านเรือนประชาชนพังเสียหายนับพันหลังคาเรือน
.
วันที่ 18 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์พายุฤดูร้อน เกิดฝนตกหนักและ พายุ พัดกระหน่ำในหลายพื้นที่ของจังหวัดสุพรรณบุรี จนบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย นับพันหลังคาเรือน
.
โดยพื้นที่ อ.สองพี่น้อง นายรัชกฤต พยัคฆ์ นายอำเภอสองพี่น้อง พร้อมด้วยนายหมวดโท นเรศ หนูทอง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ได้เดินทางไปสำรวจในพื้นที่ พบว่า มีบ้านเรือนประชาชน และผู้ประกอบกิจการฟาร์มเลี้ยงไก่ ได้รับความเสียหาย โดยมีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ กว่า 410 หลังคาเรือน ประกอบไปด้วย ตำบลบางตาเถร ประมาณ 50 หลัง ตำบลบ้านช้าง ประมาณ 60 หลัง ตำบลต้นตาล ประมาณ 80 หลัง ตำบลบางตะเคียน ประมาณ 140 หลัง ตำบลบ้านกุ่ม ประมาณ 70 หลัง ตำบลบางพลับ ประมาณ 10 หลัง
.
นอกจากนี้ยังมีเสาไฟโค่นล้ม หัก ริมถนนหมายเลข 3351 ถนนบางแม่หม้าย – บางสาม จำนวน 80 ต้น และ โรงเรือนฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ ที่ต.บ้านกุ่ม ได้รับความเสียหายพังครืนมาทั้งหลัง ไก่ตายจำนวนกว่า 6,000 ตัว ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบอย่างหนัก ส่วนในเขตพื้นที่ ตำบลบางตะเคียน และตำบลบ้านกุ่ม เสาไฟได้หกโค่นกว่า 100 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับทั้งหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้ากำลังเร่งดำเนินการตั้งเสาใหม่คาดว่าต้องใช้เวลา 1-2 วัน
.
ส่วนในพื้นที่อำเภออื่นๆ ของ จ.สุพรรณบุรี ได้รับรายงานจากสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุพรรณบุรี ว่า ยังเกิดความเสียหายจากวาตภัยในอีกหลายอำเภอ รวม 7 อำเภอ บ้านเรือน ที่ได้รับความเสียหาย 793 ครอบครัว ได้แก่ อ.ศรีประจันต์ 234 หลังคาเรือน อ.บางปลาม้า 80 หลังคาเรือน อ.สองพี่น้อง 410 หลังคาเรือน อ.อู่ทอง 11 หลังคาเรือน อ.หนองหญ้าไซ 50 หลังคาเรือน อ.ด่านช้าง 7 หลังคาเรือน และ อ.เดิมบางนางบวช 1 หลังคาเรือน
.

.
ทหารพม่า ไม่หยุดบินทิ้งระเบิด โจมตีใส่ชนกลุ่มน้อย ชาวบ้านอพยพหนีภัยสงครามทะลักเข้าไทย
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9723410
.
ตาก ชายแดนปะทุหนัก ทหารเมียนมา ไม่หยุดบินทิ้งระเบิดโจมตีทางอากาศกลางดึกชนกลุ่มน้อย ชาวบ้านมอพาซูอพยพหนีภัยสงครามทะลักเข้าไทย ฉก.ราชมนู วางกำลัง-อาวุธ เตรียมเผชิญเหตุ
.
19 เม.ย. 68 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทหารเมียนมาใช้เครื่องบินโจมตีทางอากาศ บริเวณพื้นที่บ้านมอพาซู ห่างจากแนวชายแดนไทย 2 กม. ส่งผลให้มีชาวบ้านชาวเมียนมาหนีภัยสงคราม อพยพข้ามมายังฝั่งประเทศไทย บริเวณ บ้านห้วยปลากอง ตำบลขะเนจื้อ อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก
.
โดย ฝ่ายปกครองอำเภอแม่ระมาด ประสานและรวบรวม ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา เข้าพักพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บริเวณ สำนักสงฆ์ห้วยปลากอง โดยมียอดทั้งสิ้น 215 คน แบ่งเป็นชาย 39 หญิง 72 ด.ช. 53 ด.ญ. 51
.
พอ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผบ.ฉก.ราชมนู สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ราชมนู , ฉก.ทพ.35 ร่วมกับฝ่ายปกครอง อ.แม่ระมาด , จนท.ตร. ดูแลความปลอดภัย และให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม พร้อมทั้งวางกำลังเฝ้าตรวจ นำอาวุธยิงสนับสนุนเข้าประจำที่ ที่ตั้งตามแผนเผชิญเหตุ เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย และดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน
.
ก่อนหน้านี้ เมื่อ วันที่ 18 เมษายน 68 ทหารเมียนมา ใช้อากาศยาน (แบบ YAK-130) จำนวน 1 ลำ ทิ้งระเบิดบริเวณพื้นที่ บ.ตะลวยโถ่ง อ.กอกาเร็ก จ.กอกาเร็ก รัฐกะเหรี่ยง สมม. ด้านตรงข้าม บ.ริมเมย ม.2 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จว.ต.ก. ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 50 กม.
ทำให้ต่อมา กองกำลัง KNLA พล.น.7 ทำการตอบโต้โดยได้นำกำลังเข้าประชิดปิดล้อม และใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ทิ้งระเบิดโจมตี ทมม.พัน.ร.24 ภทบ.ตอ./ต. ฐานฯ บ.มอพาซู อ.เมียวดี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา ด้านตรงข้าม บ.ห้วยปลากอง ม.12 ต.ขะเนจื้อ อ.แม่ระมาด จว.ต.ก. ห่างจากแนวชายแดน ประมาณ 2 กม. โดยในระหว่างการปะทะ ทมม.พัน.ร.24 ได้ทำการยิง อาวุธหนัก ตอบโต้เป็นระยะๆ
.
เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มี หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) จำนวนประมาณ 120 คน อพยพข้ามมายังพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวบริเวณช่องทาง/ท่าข้ามธรรมชาติ ท่าข้ามถ้ำโมกขละ ( MU 329858) บ.ห้วยปลากอง ม.12 ต.ขะเนจื้อ อ.แม่ระมาด จว.ต.ก.
.
โดย ฉก.ราชมนู ,ฉก.ทพ.35 ร่วมกับฝ่ายปกครอง อ.แม่ระมาด และ จนท.ตร.ดูแลความปลอดภัย และให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่