น้ำท่วม​2เมตร2เดือน​ชาวบ้าน​ต้อง​จับสลาก​รับ​ถุง​ยังชีพ​

กระทู้คำถาม
พิจิตรยังวิกฤต น้ำท่วม 2 เมตรกว่า 2 เดือน ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก ถุงยังชีพได้ไม่ทั่วถึง
พิจิตรยังวิกฤต แม่น้ำยมท่วมสูง 2 เมตรนานกว่า 2 เดือน ระดับน้ำยังไม่ลดลง ทั้งนี้ยังต้องเฝ้าระวังอีกในช่วง 14-17 ตุลาคมนี้อีกจะมีฝนตกฟ้าคะนองในภาคเหนือตอนล่าง ขณะที่ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนัก น้ำท่วมนานกว่า 2 เดือนได้ถุงยังชีพ 2 ครั้งได้ไม่ทั่วถึง

จะได้ต้องจับสลากกัน เพราะถุงยังชีพที่นำมาแจกไม่เพียงพอ

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่ จ.พิจิตร ถือว่าเป็นพื้นที่รองรับมวลน้ำจากภาคเหนือตอนบน ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ที่ จ.นครสวรรค์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากอุทกภัยนอกจากพื้นที่ลุ่มแม่น้ำน่านท่วมหนักแล้ว พื้นที่ลุ่มแม่น้ำยม ได้รับผลกระทบหนักเช่นเดียวกัน โดยสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำยม ได้รับผลกระทบจำนวน 5 อำเภอยังอยู่ในระดับเกณฑ์ที่วิกฤต หรือระดับสีแดง เนื่องจากยังมีมวลน้ำยมจาก จ.สุโขทัย และจากทุ่งบางระกำโมเดล จ.พิษณุโลก ยังไหลบ่าลงมาในพื้นที่ จ.พิจิต อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในพื้นที่ จ.พิจิตรเองมีมวลน้ำสะสมที่ท่วมขังเดิมจำนวนค่อนข้างมากเกือบเทียบเท่ากับปี 2554

ทั้งนี้มวลน้ำยมดังกล่าวในปีนี้ไม่สามารถระบายลงสู่แม่น้ำน่าน ตามโครงการน่าน-ยม ที่คลอง DR2.8 ได้ เนื่องจากแม่น้ำน่านสูงอยู่ ส่งผลกระทบให้แม่น้ำยม ไหลมาจากพื้นที่ตอนบนโดยตรงเข้าในพื้นที่ อ.สามง่าม วชิรบารมี โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง และโพทะเล มีมวลน้ำท่วมขังเต็มพื้นที่ ซึ่งบ้านเรือนประชาชน เส้นทางคมนาคมต่างๆ ถูกน้ำท่วมสูงเฉลี่ย 1-2 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือเป็นพาหะนพเข้าออกหมู่บ้าน โดยที่สถานีวัดน้ำ Y-52 บ้านวังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง วัดระดับปัจจุบันได้ 07.66 ระดับตลิ่ง 06.31 เมตร ระดับน้ำทรงตัวในช่วง 1-2 วันนี้ แต่ยังสูงกว่าตลิ่ง 01.35 เมตร ทั้งนี้พื้นที่ 5 อำเภอดังกล่าวได้รับผลกระทบจากแม่น้ำยมล้นตลิ่ง มาตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลานานกว่า 2 เดือน โดยเพาะชาวบ้านตำบลรังนก อำเภอสามง่าม ถูกน้ำท่วมเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์

นางกำไล แท่งทอง ชาวบ้านจระเข้ผอม ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร กล่าวว่า น้ำท่วมพื้นที่ตำบลรังนก เกือบ 100% น้ำท่วมยาวนานมาตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมกว่า 2 เดือนแล้วขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักมากการ สัญจรไปมาลำบากต้องใช้เรือ เป็นพาหนะซึ่ง การช่วยเหลือ ของทางภาครัฐ ได้รับการช่วยเหลือเพียงแค่ 2 ครั้งตั้งแต่น้ำท่วมมาเท่านั้น แต่การช่วยเหลือนั้นไม่ทั่วถึงก็ไม่ได้ครบทุกคนหรือทุกครัวเรือนบ้านที่ถูกน้ำท่วม เพราะถุงยังชีพมีมาให้ไม่เพียงพอบางบ้านก็ได้ บางบ้านก็ไม่ได้ ทั้งที่เดือดร้อนเหมือนกัน ผู้น้ำท้องถิ่นจะให้ถุงยังชีพ ก็ต้องให้ชาวบ้านต้องใช้วิธีจับฉลากเอาว่าใครจะได้ถุงยังชีพไม่พอ นอกจากนี้ ชาวบ้านรอเงินเยียวยาหลังคาเรือนละ 9,000บาท จากรัฐบาล ก็ไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่า ได้เมื่อไหร่ ซึ่งทุกวันนี้ชาวบ้านเดือดร้อนกันหนักมาก อยากให้ภาครัฐเร่งเข้ามาช่วยเหลือต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามชาวจังหวัดพิจิตรพื้นที่น้ำท่วมทั้งลุ่มแม่น้ำน่าน และแม่น้ำยม ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อไปอีกเนื่องจากในช่วงวันที่ 14-17 ตุลาคมนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าภาคเหนือตอนล่าง จะมีฝนตกฟ้าคะนอง 40-70 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่าง ประกอบกับเขื่อนสิริกิติ์ระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนในอัตรา 30.37 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ระบายลงแม่น้ำน่าน 18.14 ล้าน ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จะทำให้เกิดน้ำที่ท่วมขังเดิมอยู่แล้วอาจจะได้รับผลกระทบอีก ซึ่งต้องเฝ้าระวัง

สำหรับพื้นที่น้ำท่วมลุ่มแม่น้ำยมนั้น คาดว่าจะท่วมขังไปอีกยาวนานถึงเดือนพฤศจิกายน ระดับน้ำถึงจะค่อยๆลดลง และจะเข้าสู่ภาวะปกติได้ในช่วงต้นเดือนธันวาคม นอกจากนี้ ผู้สื่อได้สำรวจพบว่าแม่น้ำพิจิตร หรือแม่น้ำน่านสายเก่า และคลองข้าวตอก ซึ่งมีน้ำกักเก็บไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ของความจุ แต่ไม่มีหน่วยงานไหนคิดจะมีแผนผันน้ำจากแม่น้ำน่านเข้ามากักเก็บไว้ใช้ฤดูแล้งปล่อยให้ไหลลงทะเลโดยเปล่าประโยชน์ อีกทั้งแม่น้ำพิจิตรและคลองข้าวตอก มีความยาวรวมกว่า 100 กม. หล่อเลี้ยงวิถีชีวิตชาวบ้านครอบคลุม 6 อำเภอ

ขอบคุณแหล่งข่าว - Matichon Online - มติชนออนไลน์

#น้ำท่วมพิจิตร #ถุงยังชีพได้ไม่ทั่วถึง #มติชนออนไลน์

https://www.facebook.com/share/p/1AFNM12Mh1/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่