JJNY : รักชนกเดือด เหตุทำตึกสตง.ถล่ม│ไหว้ขอโทษแล้ว ลูกนักการเมืองดังไม่สน│ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงต่อ│ยูเครนเผยลงนามกับสหรัฐ

กระทู้ข่าว

พรรคประชาชน การเมืองท้องถิ่น ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวต่างประเทศ สงครามรัสเซีย-ยูเครน

รักชนกเดือด ชี้รากเหง้าคอร์รัปชั่น เป็นเหตุทำตึกสตง.ถล่ม ไม่ใช่ฮวงจุ้ย ย้ำแผ่นดินไหว ตัวเร่งทำเรื่องแดง

https://www.matichon.co.th/politics/news_5141968

รักชนกเดือด ชี้รากเหง้าคอร์รัปชั่น เป็นเหตุทำตึกสตง.ถล่ม ไม่ใช่ฮวงจุ้ย ย้ำแผ่นดินไหว ตัวเร่งทำให้เรื่องแดง

วันที่ 17 เมษายน จากกรณีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการทยอยเคลื่อนย้ายผู้สูญหายออกภายในตึกอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม.พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงสัมภาษณ์ของนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าสตง. ระบุว่า

ฟังอดีตผู้ว่า สตง. ให้สัมภาษณ์ว่า ขอโทษที่เลือกฮวงจุ้ยไม่ดีตึกจึงถล่ม ก็อุทานในใจเป็นคำที่หยาบพอสมควร พูดจาเหมือนไม่นึกถึงคนที่ต้องสูญเสียชีวิตเลย

ตึก สตง. มันไม่ได้ถล่มเพราะฮวงจุ้ย มันไม่ได้ถล่มเพราะแผ่นดินไหว แต่มันถล่มเพราะคอรัปชั่นที่ฝังรากลึกลงไปในทุกระดับ เริ่มตั้งแต่การเขียนแบบเพื่อลอคสเปค ใช้นอมินีตั้งบริษัท ใช้เหล็กผิดข้อกำหนด การแก้สัญญาแก้แบบ ปลอมลายเซนวิศวะกร ลดคุณภาพของอิฐหินดินปูนเหล็กที่ไม่ควรจะลด แต่ไปใส่ความหรูหราอลังการในแบบที่สิ้นเปลืองเช่นห้องชมภาพยนตร์ พรม โคมระย้าฯ ไปจนถึงการโก่งราคาของทุกอย่างให้แพงเกินจริง ซึ่งทั้งหมดที่ทำนี้ก็แน่นอนว่าทำถูกต้องภายใต้ระเบียบและกฏหมายการจัดซื้อจัดจ้าง แผ่นดินไหวเป็นเพียงตัวเร่งปฏิกิริยาทำให้เรื่องมันแดงเท่านั้น

ตั้งแต่ตึกถล่มจนวันนี้ประชาชนทั้งประเทศถามว่า ใครต้องรับผิดชอบ ? เราคงไม่คาดหวังมาตรฐานแบบต่างประเทศที่ต้องมีใครลาออก เพราะผู้มีอำนาจประเทศเราหน้าหนาและแน่นอนว่าโครงการตึก สตง. ไม่ได้เริ่มที่ผู้ว่าคนนี้

แต่อย่างน้อยที่สุด สตง. สิ่งที่คนคาดหวังคือควรออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเพื่อตอบทุกคำถามที่สาธารณะชนสงสัย และควรอย่างยิ่งหยิบฉวยใช้โอกาสนี้ในการประกาศสังคยานาปฏิรูปองค์กร สตง. ไปเลย อะไรที่ไม่ถูกไม่ควร อะไรที่ควรแก้ไข คำติติงจากท้องถิ่นและโรงเรียนทั่วประเทศ ผู้ว่า สงต. ควรใช้โอกาสนี้ในการแก้ไขข้อผิดพลาดในองค์กร

แต่ข่าวเกี่ยวกับผู้ว่า สตง. ที่เราเห็นเด่นชัดที่สุดกลับกลายเป็น “คุณอนุทินออกมาบอกว่า เป็นเพื่อนสนิทผู้ว่า สตง. คบกันมาสิบปียืนยันเป็นคนดีแน่นอน ข่าวนี้มันก็บอกอะไรได้หลายๆอย่าง เพราะที่เงียบกว่าผู้ว่า สตง. คือ รัฐบาล

เข้าใจดีว่า หน่วยงานราชการต่างๆเทคแอคชั่นแล้ว แต่นั่นคือฝ่ายราชการ แล้วฝ่ายการเมืองหายไปไหนกันหมด มีแค่วันที่ตึกถล่มเท่านั้นที่นายกออกมาบอกว่า จะต้องตอบชาวโลกภายใน 7วัน สุดท้ายเราก็ได้ตอบชาวโลกว่า ขอขยายเป็น 90 วัน

ต่อจากวันนั้นสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ก็โดนคนทั่วทั้งแผ่นดินตรวจเงิน มีเรื่องแดงออกมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ นอมินี แก้แบบแก้สัญญา ซื้อของแพงและหรูหราโดยไม่จำเป็น ไปจนถึงปลอมลายเซนวิศวะกร เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ประชาชนได้เห็นใครในฝากฝั่งรัฐบาลออกมาสื่อสารบ้างแล้วหรือยัง ตั้งแต่ ส.ส. ไปจนถึงรัฐมนตรี มีใครออกมาพูดอะไรเรื่องการคอรัปชั่นที่เกิดขึ้นทุกระดับนี้บ้างไหม ?

ตลอดสมัยของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยนี้ ประชาชนจะได้มีบุญเห็น ส.ส. ฝั่งรัฐบาลหรือรัฐมนตรี ออกมาพูดเรื่องต่อต้านการทุจริต ลดคอรัปชั่น และแนวทางในการกวาดล้างคนพวกนี้ออกจากอำนาจรัฐบ้างไหม อุ้ยตาย หรือว่าถ้าจะกวาดล้างจริงๆจังๆอาจจะหายกันหมดทั้ง ส.ส. ส.ว. รัฐมนตรี บอร์ดรัฐวิสาหกิจ องค์กรอิสระ

ย้ำอีกครั้ง เราต้องเลิกได้แล้ว ไอแนวคิดที่ว่า “โกงได้ ถ้าประเทศเจริญ คอรัปชั่นได้ถ้าเศรษฐกิจดี” ก็ที่ประเทศมันเป็นแบบนี้ ก็เพราะเราโกรธแค้นกับเรื่องการคอรัปชั่นน้อยไปมาก

https://www.facebook.com/nanaicez112/posts/pfbid0vR5BYY8JxxYiwWUaYoj2WW6xKMnAiabtx5miuD4E2ZgntuDMY11FJFK2pYLQcDLXl

.
ป้าเล่านาทีชีวิต! ยกมือไหว้ขอโทษแล้ว ลูกนักการเมืองดังไม่สน ‘ปาดจนชน’
https://www.dailynews.co.th/news/4613479/
.
ป้าเล่านาทีระทึก ลูกนักการเมืองดังหาว่าขับเบี่ยงไปในเลน คล้ายเมาเกรี้ยวกราดตะโกนสั่งให้จอดรถ ก่อนยกมือไหว้ขอโทษแล้วแต่ไม่ยอม ส่วนอาการ "ลุง" ซี่โครงร้าว จุกหน้าอก เริ่มดีขึ้น
.
จากกรณี เพจเฮียขับรถ ได้โพสต์คลิปวิดีโอพร้อมข้อความระบุว่า มัดรวมมาให้ เห็นชัดเต็มตาแน่นอนว่าเกิดอะไรขึ้น ภายในคลิปเผยภาพเหตุการณ์รถยนต์หรูบีเอ็มป้ายแดงสีขาว กำลังขับปาดไปมากับรถกระบะอีซูซุสีดำ บนถนนกาญจนาภิเษกหมายเลข 9 บางนา-บางปะอิน มุ่งหน้าบางปะอิน กม.22 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ก่อนที่รถบีเอ็มป้ายแดงสีขาวจะตบเข้าที่หน้ารถกระบะจนเสียหลักชนแบริเออร์ริมทางได้รับความเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เป็นผู้ขับขี่และโดยสารมากับรถกระบะ ขณะเดียวกันผู้ใช้โซเชียลมีการขุดประวัติและคลิปก่อนเกิดเหตุของผู้ขับรถหรู จนทราบว่า เป็นลูกนักการเมืองใหญ่ใน อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และกำลังเป็นผู้ลงสมัครสมาชิกสภาเทศบาลนั้น.
.
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้นำผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย ส่ง รพ.บางปะกอกรังสิต 2 ทราบชื่อต่อมา นายประจักษ์ ดวงใย อายุ 65 ปี คนขับ และนางสมศรี ดวงใย อายุ 64 ปี แพทย์ให้การรักษา
.
ทั้งนี้ จากการโทรฯ สอบถาม ป้าสมศรี เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นวานนี้ (16 เม.ย.) เวลาประมาณ 08.00 น. เศษ ขณะนั้นตนเองและสามีขับรถมาจากบ้านลูกสาวที่พัทยา เพื่อจะเดินทางกลับ จ.ลำปาง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ สามีก็ขับรถมาตามปกติ ก่อนจะมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีชายคนขับรถเก๋ง BMW เปิดกระจกชี้หน้าด่าทอหาว่า ขับเบี่ยงรถไปในเลนเขา และบอกให้จอดรถเพื่อลงมาคุยกัน
.
“วินาทีนั้น ป้ากลัวว่าเขาจะมีอาวุธ เพราะเหมือนเขาเมาอะไรบางอย่าง ก็เลยบอกไปว่า จอดได้มั้ย แต่ลุงบอกว่าไม่ต้องจอด เพราะกลัวเขามีอาวุธ และดูมีอาการโมโหเกรี้ยวกราด มีการตะโกนใส่ ก่อนป้ากับลุงได้ยกมือไหว้ขอโทษ บอกไปว่า “ขอโทษถ้าลุงกับป้าทำผิด” แต่คนขับก็ไม่ยอม ยังขับปาดหน้าซ้ายขวาไปมา ก่อนที่จะขับรถกระแทกจนเกิดอุบัติเหตุ แต่โชคดีที่ลุงขับรถไม่เร็วมาก” ป้าสมศรี กล่าว
.
ป้าสมศรี กล่าวอีกว่า ส่วนอาการขณะนี้ของตนดีขึ้น เพราะร่างกายกระแทกกับสายเข็มขัดนิรภัยและถุงลมนิรภัย เจ็บเล็กน้อย ส่วนสามียังอยู่ในห้องไอซียู กระดูกซี่โครงร้าว จุกหน้าอก แต่อาการเริ่มดีขึ้นตามลำดับแล้ว
.

.
ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงต่อ ข้อจำกัดขายชิปมะกันทำหุ้น Nvidia ร่วง 8% ทองพุ่งทำสถิติอีกรอบ 3.2%
https://www.matichon.co.th/foreign/news_5141938
.

ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงต่อ ข้อจำกัดขายชิปมะกันทำหุ้น Nvidia ร่วง 8% ทองพุ่งทำสถิติอีกรอบ 3.2%

ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่องในวันที่ 16 เมษายน หลังรัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศข้อจำกัดในการขายชิปให้กับจีน ขณะที่จีนประกาศคุมการขายแร่หายากให้กับสหรัฐ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีศุลกากรที่ยังดำเนินต่อไป จนทำให้ผู้คนพากันหันไปหาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ ที่พุ่งทำสถิติใหม่อีกครั้งในวันดังกล่าว

หลังสหรัฐประกาศข้อกำหนดใบอนุญาตส่งออกใหม่สำหรับการขายชิปปัญญาประดิษฐ์ของ Nvidia ไปยังจีน Nvidia ระบุว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัฐบาลจะทำให้บริษัทสูญเสียรายได้ไปถึง 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่หุ้นของบริษัทก็ร่วงลงถึง 8%

ดัชนีอุตสาหกรรม Dow Jones ลดลง 1.8% ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.5% และดัชนี Nasdaq Composite ซึ่งเน้นหุ้นเทคโนโลยี ลดลง 3.6% ขณะที่ดัชนี MSCI ของหุ้นทั่วโลก ลดลงประมาณ 1%

หุ้นยุโรปก็ปรับลดลงเช่นกัน โดยดัชนี STOXX 600 ลดลง 0.2% ด้านหุ้นเอเชียถูกเทขายเพิ่มขึ้นในช่วงบ่ายวันพุธ โดยดัชนี MSCI ที่ครอบคลุมหุ้นเอเชียแปซิฟิกนอกประเทศญี่ปุ่น ลดลง 0.8% ทำลายสถิติการขึ้นราคาติดต่อกัน 4 วัน

หุ้นบลูชิป CSI300 ของจีน เพิ่มขึ้น 0.3% เนื่องจากนักลงทุนยังซึมซับกับข้อมูลตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาสแรกของจีนที่เติบโตแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ แต่ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงลดลง 1.9%

เมื่อวันพุธ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้สั่งให้มีการสอบสวนภาษีนำเข้าแร่ธาตุที่สำคัญทั้งหมด นอกเหนือไปจากการตรวจสอบการนำเข้าผลิตภัณฑ์ยาและชิป ขณะที่จีนยังคงเล่นบทแข็งกร้าว โดยมีรายงานว่าจีนได้สั่งให้สายการบินระงับการส่งมอบเครื่องบินโบอิ้งจากสหรัฐแล้ว

พอล คริสโตเฟอร์ นักกลยุทธ์จาก Wells Fargo Investment Institute เขียนในบันทึกถึงลูกค้าว่า “ตลาดทุนยังคงติดอยู่ระหว่างข่าวเกี่ยวกับภาษีศุลกากรใหม่ กับการเกาะติดเรื่องการเจรจาและการระงับภาษีศุลกากร”

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มองว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐดูเหมือนจะชะลอตัวลง โดยระบุว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และการรีบเร่งนำเข้าสินค้าเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อการประมาณการ GDP ในประเทศ

ข้อมูลเมื่อวันพุธยังแสดงให้เห็นว่ายอดขายปลีกของสหรัฐพุ่งสูงขึ้นในเดือนมีนาคม เนื่องจากครัวเรือนเร่งซื้อรถยนต์ก่อนการจัดเก็บภาษีทรัมป์ แต่ความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายในภาพรวมก็ตาม

กระนั้นก็ดี ทำเนียบขาวกล่าวว่า ทรัมป์เปิดใจที่จะทำข้อตกลงการค้ากับจีน แต่ปักกิ่งควรเป็นฝ่ายเริ่มก่อน

ความไม่แน่นอนและสงครามการค้าทำให้ราคาทองคำ ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยพุ่งทำลายสติถิอีกรอบ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งที่ 3,331 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือเพิ่มขึ้น 3.2%

ธนาคาร ANZ ของออสเตรเลียคาดการณ์ว่า ราคาทองคำอาจจะพุ่งแตะระดับ 3,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปี เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยดังกล่าว เพื่อเป็นแหล่งหลบภัยจะเพิ่มสูงขึ้น

ขณะที่ราคาเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น 6 สกุล ร่วงลง 0.7% สู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนเมษายน 2022 ซึ่งเป็นสัญญาณว่านักลงทุนยังคงระมัดระวังสินทรัพย์ของสหรัฐ

คริส แซกคาเรลลี หัวหน้าฝ่ายการลงทุนของ Northlight Asset Management ระบุในอีเมลว่า เป็นไปได้มากที่ผู้บริโภคกำลังซื้อของล่วงหน้า และเราอาจเห็นยอดขายที่เพิ่มขึ้นแบบเทียม ซึ่งตลาดน่าจะต้องนำมาประกอบการพิจารณา ส่วนราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นราว 1.8% ในวันพุธ พลิกกลับมาจากการร่วงลงในช่วงเช้า เนื่องจากตลาดมีมุมมองเชิงบวกต่อท่าทีของจีนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าที่อาจเกิดขึ้นกับสหรัฐ แม้ว่าจะมีความกลัวอย่างต่อเนื่องว่าสงครามการค้าจะจำกัดความต้องการใช้พลังงานก็ตาม

ส่วนสกุลเงินดิจิทัล ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้น 0.7% เป็น 84,604 ดอลลาร์ แต่ก็ยังถือว่าลดลงเกือบ 10% ในรอบปี

แก้ไขข้อความเมื่อ