ทำไมครูปกครองตรรกะผิดเพี้ยน ไร้ซึ่งความยุติธรรม ไร้สามัญสำนึกในการคิดวิเคราะห์แยกแยะว่าอะไรผิดหรือถูก

คือมีหลานมาเล่าให้ฟังประมาณว่า หลานโดนบูลลี่ที่โรงเรียน โดนเพื่อนต่อย ​เหตุเพราะเพื่อนหมั่นไส้ แต่พอเอาไปฟ้องครูฝ่ายปกครอง ครูกลับทำโทษด้วยการตี ​ทั้งที่ผิดกฎหมาย ​แล้วก็ทำโทษทั้งคู่ด้วย

เนื่องจากครูบอกว่ามันเป็นการทะเลาะวิวาทไม่เกี่ยวว่าใครจะเริ่มก่อน แต่ถ้ามีเหตุขึ้นมา ต้องตี​เป็น​การทะเลาะวิวาท ดังนั้นต้องโดนทั้งคู่
ยังทำทัณฑ์บนด้วย ถ้ามีเหตุเกิดขึ้นอีกก็จะไล่ทั้งคู่ออกเลย

ผมเลยตกใจแล้วก็สงสัย
​ว่าทั้งที่เราเป็นฝ่ายถูกกระทำ ​ทำไมเราต้องโดนทำโทษไปด้วยล่ะ
การทำโทษทั้งคู่มันเกิดเหตุไปหน่อย
ควรทำโทษแค่คนเดียวคือฝ่ายเริ่ม ทั้งที่หลานเราเป็นฝ่ายโดนทำร้ายเอง ทำไมต้องมาถูกครูลงโทษเป็นการซ้ำเติมการรังแกและบูลลี่กันด้วย?

คือโดยส่วนตัวแล้วเนี่ย ในสมัยเรียนผม​ก็เคยเจอเหมือนกัน นะ
เป็นเหตุการณ์ที่คล้ายกัน เกิดที่สถาบันเก่าสมัยมัธยม อะไรประมาณนี้
เรื่องมีประมาณว่า มีเด็กออทิสติกอยู่คนนึงที่ชอบโดนเพื่อนแกล้งเป็นประจำเพียงเพราะเด็กคนนั้นเป็นออทิสติก โดนเพื่อนรุมกระทืบ โดนเพื่อนทำร้าย
บางทีนั่งอยู่เฉยๆ ​ก็มีเพื่อนไปตบหัวเด็กคนนั้นเป็นนิจสิน​

จนเด็กคนนั้นคิดสั้น ​จะกระโดดตึก
​พอข่าวที่เด็กคนนั้นจะกระโดดตึกดังไปถึงหูครู
​ครูก็เรียกมาทำโทษ ​กล่าวหาว่าเด็กออทิสติกคนนั้น "สร้างความวุ่นวาย ​เรียกร้องความสนใจ"

​ผมยังจำเหตุการณ์ได้อยู่เลยเพราะสมัยนั้นเป็นประธานนักเรียน ไปสิงอยู่ในห้องปกครองเป็นประจำ
​พอ​เด็กคนนั้นเล่าเรื่องที่ตัวเองโดนทำร้ายเลยคิดสั้น
​อีครูนงเยาว์ก็ไปพูดใส่เด็กคนนั้นว่า
"ก็เธอเป็นคนแบบนี้ไงถึงไม่มีใครรัก เพื่อนเขาถึงไม่เอาสังคมรังเกียจ ​เข้ากับเพื่อนเขาก็ไม่ได้ ​ทำตัวปัญญาอ่อนพิการทางสมองแบบนี้ไง ​เพื่อนถึงได้แกล้ง จะไปโทษคนอื่นเขาก็ไม่ได้ มันผิดที่ตัวเธอเองที่เกิดมาบ้า ยอม​ให้เขาแกล้งเอง เป็นออทิสติกทำไมไม่ไปเรียนราชานุกูล มาเรียนทำไมที่นี่..." (ในใจผมตอนนั้นน่ะคิดเลยว่าอาจารย์พูดแรงเกินไป ที่อาจารย์พูดมันไม่ถูก เด็กคนนั้นเขามีศักยภาพสอบเข้ามาได้คุณจะปฏิเสธเขาไม่ได้ มันผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญในสิทธิและเสรีภาพและการเลือกปฏิบัติ ​แล้วผิดกฎกระทรวงศึกษาธิการด้วย ​ในเมื่อเขามีปัญญาสอบเข้ามาเขาก็มีสิทธิ์ที่จะเรียนที่นี่ ขนาดนักเลงหัวไม้โรงเรียนยังเอาเข้ามาเรียนได้เลย เข้ามาแล้วยิ้มก็สร้างความวุ่นวายทำสังคมโรงเรียนมัธยมเป็นระบบแบบเด็กช่าง ตั้งกลุ่มแก๊งชมรมขึ้นมาเป็นชื่อชมรมว่า ​วีรบุรุษบ้าง ​คฑาทองบ้าง แล้วถ้าใครจะเข้ากลุ่มก็ต้องมารับ "ระบบ" รับน้อง แบบเด็ก ช่างมั่วสุมสูบบุหรี่ดูดเนื้อกันเป็นประจำ ทำไมเด็กพวกนี้ยังรับล่ะครับครู)

จากนั้นก็เรียกผู้ปกครองของเด็กคนนั้นมาทั้งสองฝ่ายเลยทั้งฝ่ายเด็กออทิสติกกับผู้กระทำที่เป็นเด็กในรุ่นวีรบุรุษ
ผู้ปกครองเด็กออทิสติกคนนั้นเป็นผู้ดีมาก แต่งตัวมาดิบดีสุภาพสำรวม​
แต่ผู้ปกครองของเด็กที่เป็นฝ่ายกระทำเนี่ยอย่างกับขุดมาจากสลัมขุมไหนก็ไม่รู้
ในขณะไก่เกลี่ยกันที่โต๊ะรองผอ. แม่ของไอ้เปอร์ที่เป็นคนกระทำก็ถึงขนาดว่าไม่พอใจค่าเสียหายลุกขึ้น​จะไปตบไปทำร้ายฝั่งคุณแม่ของไอ้นิวที่เป็นเด็กออทิสติกผู้ถูกกระทำ
แล้วทำกันกลางห้องปกครองด้วย

สุดท้ายรองผู้อำนวยการเขาก็เลยย้ายไอ้เปอร์ไปเรียนที่อื่น แต่ว่าคุณครูบางคนที่อยู่ฝ่ายปกครองอ่ะเขาตัดสินแบบเพี้ยนๆ ​ประมาณว่า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้ถูกกระทำหรือใครเป็นผู้กระทำ
​แต่ถ้าเกิดเด็ก 2 คนมีเรื่องกันต่อให้นั่งอยู่เฉยๆ ก็ถือว่าเป็นการทะเลาะวิวาททั้งคู่
ฝ่ายหนึ่งก็ทำตัวน่าหมั่นไส้ให้เขากระทำ
ส่วนอีกฝ่ายนึงก็ไปกระทำเขาก่อน
​มันเป็นการประพฤติของเด็กเองทั้งสองฝ่าย
​จะมาโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ ต้องโดนทำโทษทั้งคู่เพราะถือเป็นการทะเลาะวิวาท

ผมเลยงงว่าทำไมตรรกะมันผิดเพี้ยนมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์
​ปัจจุบันนี้ทำไมยังเป็นอยู่ หลานผมเป็นผู้ถูกกระทำและเป็นความผิดตามกฎหมายทำร้ายร่างกายโดยเจตนาด้วย ไม่ใช่การทะเลาะวิวาท คุณครูเขาไม่ได้เรียนกฎหมายมาเหรอ?


เลยอยากจะขอให้มาช่วยกันถกประเด็นนี้หน่อยทำไมครูที่ทำหน้าที่เป็นครูฝ่ายปกครองถึงตรรกะบกพร่องผิดเพี้ยน ไม่มีความรู้ด้านกฎหมายอะไรเลยหรอ ไม่มีสามัญสำนึกไม่มีการคิดวิเคราะห์แยกแยะเลยหรอ ถ้าเรื่องนี้ถึงศาลน่ะคุณครูจะโดนด้วย ปกครองเด็กยังไงให้เด็กไปทำร้ายคนอื่น
แล้วจากจากเคสนี้นะ ​ผมจะเอาเรื่องนี้ขึ้นศาลปกครองและจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเลย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่