สวัสดีค่ะ ท่านผู้เข้ามาอ่าน
เรื่องที่ฉันจะเล่านี้ เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตฉันเป็นเรื่องที่ผ่านมา เมื่อ 20 กว่าปีก่อน ถ้าฉันจำไม่ผิด และเท่าที่จำได้ ตอนนั้นฉันยังเป็นเด็กหญิงอายุเพียงแค่ 8 - 9 ขวบ อาศัยอยู่กับพ่อ แม่ ฉัน และน้องสาว ฉันอาศัยอยู่ในสวนลิ้นจี่ ของนายจ้าง ที่จ้างให้ดูแลสวนอีกที ด้านหน้าทางเข้าสวนลิ้นจี่ จะเพาะชำปลูกต้นสนเล็กๆ ใส่ถุงดำเรียงรายเต็มพื้นที่ด้านหน้าทางเข้า ถ้าเดินเข้ามาก็จะเป็นบ้านพักคนงานที่พวกเราอาศัย และรอบๆ ก็จะเป็นต้นลิ้นจี่ขนาดใหญ่ อายุประมาณ น่าจะ 10 ปีขึ้นไป ปลูกเต็มรอบๆ บ้านยาวไปจนถึงด้านหลังของบ้าน เนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ เห็นจะได้ ส่วนด้านหลังสวนจะติดกับภูเขาเป็นแนวยาวต่อๆกันไป
ฉันยังมีปู่อีกคนที่ฉันรักมากๆ มาทำงานด้วยกัน กับพ่อของฉันในสวนลิ้นจี่ ปู่ของฉันเป็นคนใจดีมากเลี้ยงดูฉัน กับน้องสาว ดูแลเราทั้งสองคนเป็นอย่างดีมาตลอด ส่วนใหญ่ปู่จะเลี้ยงดูเราสองคนมากกว่าพ่อ เพราะพ่อฉันติดยา จากแรงชักจูงของเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ๆบ้านแถวๆนั้น ชักชวนกันไปซื้อ ไปเสพ ไปลอง จนพ่อฉันเป็นโรคประสาทหลอนชอบทำร้ายข้าวของในบ้าน ทั้งเตะ ทั้งทิ้งของใช้ในบ้านออกนอกบ้าน ในช่วงเวลาหลอนยา จะมีอารมณ์หงุดหงิด เวลาที่ไม่ได้เสพ และทุบตีแม่ เป็นบ้างครั้ง เพื่อจะเอาเงินไปซื้อยา นั้นอาจเป็นเหตุผลที่ปู่
เห็นแล้วเสียใจที่ลูกชายตัวเองกลายเป็นคนแบบนั้น และทำอะไรไม่ได้ ปู่จึงคอยดูแลเราสองคนมาตลอด ในช่วงนั้นน้องสาวของฉันพึ่งอายุได้ 2 -3 ขวบ แม่จึงต้องเลี้ยงน้องอยู่บ้าน ไปไหนไม่ได้ ส่วนบ้านของปู่จะอยู่ห่างจากบ้านพวกเราไปประมาณ 500 เมตร บ้านของปู่ มีย่า มีลุง และน้องชายพ่อ (น้าชาย) อาศัยอยู่ด้วยกัน ช่วงเวลาใกล้เที่ยงวันของทุกวัน น้าชายจะเอาห่อข้าวที่ย่าเตรียมไว้มาให้ปู่ที่สวนลิ้นจี่เสมอ และอยู่ช่วยปู่ทำงานเป็นบ้างครั้ง น้าชายบวชเรียนพึ่งสึกออกมาได้ไม่นาน ไม่แน่ใจว่าเรียนจบอะไร สมัยก่อนมีแต่รับจ้างคนสวน รับจ้างทั่วไป ทำรายวัน ไม่มีงานเป็นหลักแหล่ง
วันหนึ่ง ของวันหยุดเรียน น้าชายของพ่อ ได้หลอกพาฉันไปแถวด้านหลังสวนด้านในติดกับภูเขาที่อยู่ด้านหลังสุดของสวน และชวนฉันเล่นเกมแข่งขันปีนขึ้นต้นลิ้นจี่ ให้ถึงปลายยอดกิ่ง ฉันตัวเล็ก บางและผอม จึงแข่งชนะได้ทุกครั้ง มีครั้งหนึ่ง น้าชายได้เข้ามาจับแขนของฉัน และดึงฉันเข้าไปใกล้ๆ เขา จับฉันนั่งบนตักของเขา ตอนนั้นพวกเรานั่งอยู่ปลายกิ่งแยกต้นลิ้นจี่และน้าชายบอกว่าห้ามพูดห้ามบอกใครเป็นอันขาด ไม่งั้นจะเดือดร้อน ตอนนั้นฉันยังเด็กมาก ไม่รู้อะไรเลย นอกจากทำตามที่น้าชายบอก น้าชายเขาจับตัวฉันนั่งลงตักเขาและก็กระทำอนาจารฉันด้วยใช้มือล่วงด้านในกางเกงในและก็ใช้มือเขาลูบไปมา และเขาก็จับของตัวเองเพื่อสำเร็จความใคร่ของตัวเอง และในขณะที่ทำ จะสั่งให้ฉันหลับตา ห้ามมองเด็ดขาดจนกว่าจะบอกให้ลืมตา ถึงให้ฉันลืมตาได้ และนั้นเป็นครั้งแรกที่ฉันเจอกับเหตุการณ์ที่ทำอะไรไม่ถูกเลย และไม่รู้ว่าจะบอกใคร หรือจะเก็บเงียบดี แต่สุดท้ายฉันก็เลือกที่จะเก็บเงียบเป็นความลับ ด้วยจากการข่มขู่ของน้าชาย ทุกครั้งที่ทำแบบนี้ น้าชายจะสั่งฉันทุกครั้งว่าอย่าบอกใครเด็ดขาด จนฉันกลัว … ฉันคิดจะบอกพ่อ แต่พ่อก็หลอนยา ฉันกลัว จะไปบอกแม่ก็ไม่กล้าเพราะแม่ก็เป็นคนเจ้าระเบียบเหมือนกัน จะบอกปู่ แต่ฉันคิดว่าฉันสงสารปู่ กลัวปู่ถูกคนอื่นด่า ว่ากล่าว ฉันเลยไม่กล้าบอกใคร 🙂↕️🙂↕️🙂↕️
อ่านต่อวันพรุ่งนี้นะค่ะ..
เรื่องเล่าชีวิตในอดีต
เรื่องที่ฉันจะเล่านี้ เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตฉันเป็นเรื่องที่ผ่านมา เมื่อ 20 กว่าปีก่อน ถ้าฉันจำไม่ผิด และเท่าที่จำได้ ตอนนั้นฉันยังเป็นเด็กหญิงอายุเพียงแค่ 8 - 9 ขวบ อาศัยอยู่กับพ่อ แม่ ฉัน และน้องสาว ฉันอาศัยอยู่ในสวนลิ้นจี่ ของนายจ้าง ที่จ้างให้ดูแลสวนอีกที ด้านหน้าทางเข้าสวนลิ้นจี่ จะเพาะชำปลูกต้นสนเล็กๆ ใส่ถุงดำเรียงรายเต็มพื้นที่ด้านหน้าทางเข้า ถ้าเดินเข้ามาก็จะเป็นบ้านพักคนงานที่พวกเราอาศัย และรอบๆ ก็จะเป็นต้นลิ้นจี่ขนาดใหญ่ อายุประมาณ น่าจะ 10 ปีขึ้นไป ปลูกเต็มรอบๆ บ้านยาวไปจนถึงด้านหลังของบ้าน เนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ เห็นจะได้ ส่วนด้านหลังสวนจะติดกับภูเขาเป็นแนวยาวต่อๆกันไป
ฉันยังมีปู่อีกคนที่ฉันรักมากๆ มาทำงานด้วยกัน กับพ่อของฉันในสวนลิ้นจี่ ปู่ของฉันเป็นคนใจดีมากเลี้ยงดูฉัน กับน้องสาว ดูแลเราทั้งสองคนเป็นอย่างดีมาตลอด ส่วนใหญ่ปู่จะเลี้ยงดูเราสองคนมากกว่าพ่อ เพราะพ่อฉันติดยา จากแรงชักจูงของเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ๆบ้านแถวๆนั้น ชักชวนกันไปซื้อ ไปเสพ ไปลอง จนพ่อฉันเป็นโรคประสาทหลอนชอบทำร้ายข้าวของในบ้าน ทั้งเตะ ทั้งทิ้งของใช้ในบ้านออกนอกบ้าน ในช่วงเวลาหลอนยา จะมีอารมณ์หงุดหงิด เวลาที่ไม่ได้เสพ และทุบตีแม่ เป็นบ้างครั้ง เพื่อจะเอาเงินไปซื้อยา นั้นอาจเป็นเหตุผลที่ปู่
เห็นแล้วเสียใจที่ลูกชายตัวเองกลายเป็นคนแบบนั้น และทำอะไรไม่ได้ ปู่จึงคอยดูแลเราสองคนมาตลอด ในช่วงนั้นน้องสาวของฉันพึ่งอายุได้ 2 -3 ขวบ แม่จึงต้องเลี้ยงน้องอยู่บ้าน ไปไหนไม่ได้ ส่วนบ้านของปู่จะอยู่ห่างจากบ้านพวกเราไปประมาณ 500 เมตร บ้านของปู่ มีย่า มีลุง และน้องชายพ่อ (น้าชาย) อาศัยอยู่ด้วยกัน ช่วงเวลาใกล้เที่ยงวันของทุกวัน น้าชายจะเอาห่อข้าวที่ย่าเตรียมไว้มาให้ปู่ที่สวนลิ้นจี่เสมอ และอยู่ช่วยปู่ทำงานเป็นบ้างครั้ง น้าชายบวชเรียนพึ่งสึกออกมาได้ไม่นาน ไม่แน่ใจว่าเรียนจบอะไร สมัยก่อนมีแต่รับจ้างคนสวน รับจ้างทั่วไป ทำรายวัน ไม่มีงานเป็นหลักแหล่ง
วันหนึ่ง ของวันหยุดเรียน น้าชายของพ่อ ได้หลอกพาฉันไปแถวด้านหลังสวนด้านในติดกับภูเขาที่อยู่ด้านหลังสุดของสวน และชวนฉันเล่นเกมแข่งขันปีนขึ้นต้นลิ้นจี่ ให้ถึงปลายยอดกิ่ง ฉันตัวเล็ก บางและผอม จึงแข่งชนะได้ทุกครั้ง มีครั้งหนึ่ง น้าชายได้เข้ามาจับแขนของฉัน และดึงฉันเข้าไปใกล้ๆ เขา จับฉันนั่งบนตักของเขา ตอนนั้นพวกเรานั่งอยู่ปลายกิ่งแยกต้นลิ้นจี่และน้าชายบอกว่าห้ามพูดห้ามบอกใครเป็นอันขาด ไม่งั้นจะเดือดร้อน ตอนนั้นฉันยังเด็กมาก ไม่รู้อะไรเลย นอกจากทำตามที่น้าชายบอก น้าชายเขาจับตัวฉันนั่งลงตักเขาและก็กระทำอนาจารฉันด้วยใช้มือล่วงด้านในกางเกงในและก็ใช้มือเขาลูบไปมา และเขาก็จับของตัวเองเพื่อสำเร็จความใคร่ของตัวเอง และในขณะที่ทำ จะสั่งให้ฉันหลับตา ห้ามมองเด็ดขาดจนกว่าจะบอกให้ลืมตา ถึงให้ฉันลืมตาได้ และนั้นเป็นครั้งแรกที่ฉันเจอกับเหตุการณ์ที่ทำอะไรไม่ถูกเลย และไม่รู้ว่าจะบอกใคร หรือจะเก็บเงียบดี แต่สุดท้ายฉันก็เลือกที่จะเก็บเงียบเป็นความลับ ด้วยจากการข่มขู่ของน้าชาย ทุกครั้งที่ทำแบบนี้ น้าชายจะสั่งฉันทุกครั้งว่าอย่าบอกใครเด็ดขาด จนฉันกลัว … ฉันคิดจะบอกพ่อ แต่พ่อก็หลอนยา ฉันกลัว จะไปบอกแม่ก็ไม่กล้าเพราะแม่ก็เป็นคนเจ้าระเบียบเหมือนกัน จะบอกปู่ แต่ฉันคิดว่าฉันสงสารปู่ กลัวปู่ถูกคนอื่นด่า ว่ากล่าว ฉันเลยไม่กล้าบอกใคร 🙂↕️🙂↕️🙂↕️
อ่านต่อวันพรุ่งนี้นะค่ะ..