เราจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดีคะ ก่อนหน้านั้นตลอดระยะเวลา25ปี ที่ผ่านมา ตั้งแต่เราอายุ5ขวบ คนใยครอบครัวโดยเฉพาะแม่ทำร้ายร่างกาย และจิตใจเรา
มาจนถึงอายุ25 จนตอนนี้เราอายุ30 ตอนที่เราอายุครบ30 ปี พอดี เพิ่งมาจะมาพูดขอโทษ ขอโทษจากเรา
เราร้องให้โฮเสียใจหนักมากๆ เป็นความเสียใจ ความเจ็บพอๆกับช่วงเวลาที่เค้าทำร้ายเรา
จนเราแทบไม่มีอากาศหายใจ เจ็บปวดทุรนรุรายและ ถูกทิ้งให้ตายทั้งที่อยู่ข้างกันอย่างไร้ค่า
แต่เหนือสิ่งอื่นใด จิตใจเราไม่เคยโกรธ ไม่เคยเกลียดอะไรเค้าเลย มีแต่ความเจ็บและเสียใจเท่านั้น มีแต่คำถามในหัว ว่าเค้าทำได้ยังไงแค่นั้นเลย
และรอวันที่เมื่อไร เค้าจะเป็นคนปกติทั่วไปแม่ปกติที่เค้าเป็นกัน คิดมาตลอด เสียใจตลอด จนเวลาล่วงเลย
วันที่เราพยายามตัดครอบครัวออกจากชีวิต แต่เรายังคงส่งของไปให้ครอบครัวเสมอทุกเดือนเป็นเวลา10 กว่าปี ถึงแม้ตัดยังไงเราก็ยังนึกถึงเขา
จนฟางเส้นสุดท้าย(ฟางเส้นสุดท้ายรายปี555) มีประโยคหนึ่ง ซึ่งประโยคแนวนี้แล้วก็เคยได้สัมผัสมาเยอะมากแล้ว
ที่เราคุยกับพี่สาว พี่สาวก็เป็นคนที่นิสัยเห็นแก่ตัวมากคิดถึงแต่ตัวเอง ต่อให้คนอื่น โดยเฉาพะเราดีกับเขาขนาดไหนก็ไม่เคยคิดว่าคนอื่นดี
และไม่เคยคิดที่จะ ดีกับคนอื่นตอบบ้างแม้เล็กน้อยก็ตาม แม้จะไม่เคยเรียกร้องเลยก็ตาม
แต่ว่าความดีของเค้าแค่เพียงเล็กน้อยเค้าจะมองจะมีค่ายิ่งใหญ่มาก พูดมาเอาเป็นบุญคุณได้เสมอ แต่ความเห็นแก่ตัวเองเหลือล้น
เหตุการณ์มีอยู่ว่า เราคัดเสื้อผ้าของใช้ดีๆ ส่งให้พี่สาวเสมอ และจะส่งแบ่งให้หลานอีกคนบ้าง ลูกของพี่ชายคนโต พี่สาวห้ามกีดกันไม่ให้ส่งไป
จะเก็บไว้ให้ลูกสาวของตัวเองคนเดียว
เราเลยนึกอะไรขึ้นมาได้1 อย่าง (คิดแค่ในใจว่าถ้าเราจะเอาทุกอย่างคนเดียวไม่แบ่งใคร) เราเสนอบอกพี่สาวประมาณว่า วันที่พี่มารับของที่บ้าน
มันมีจกย.คันนึง เป็นมือ1 แฟนซื้อมาให้มาไม่เคยขี่เลย3000 ช่วยซื้อได้ไหม เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เราขอความช่วยเหลือจากเค้าบ้าง
เพราะตอนนี้กำลังเดือดร้อน เค้าอิดออด บ่ายเบี่ยง บอกไม่มีเงิน บอกเรื่องจกย.ไม่เคย บอกมาก่อนไม่ได้อยู่ในข้อตกลง
เราเลยบอกงั้นเอางี้ ถ้าพี่ไม่เอาจกย.ไม่เป็นไร แต่ของก็ไม่ต้องมาเอาเหมือนกัน จริงๆเราคุยรายละเอียดกันเยอะมากกว่ามาก
มันมีทั้งเหตุการณ์ที่พ่อแท้ๆที่เคยทิ้งเราไป ที่เคยทำร้ายครอบครัวของเรามาฟ้องร้องค่าเลี้ยงดู จากลูกอย่างไม่เป็นธรรม
มันเลยต่อเนื่องที่ว่าพี่สาวคุยกับเราประมาณว่าเนี่ย การที่ยกฟ้อง เค้าทำเพื่อครอบครัวเลยนะเค้าทำเพื่อน้องเลยนะ
เราเคยขอบคุณที่เค้าทำแบบนั้น แต่จากนี้ขอไม่เจอกันเลยด้วยเหตุผล (ขอเล่าแบบเร็วๆนะคะ)
ต่อมาเข้าเรื่องตามหัวข้อเลยค่ะ ประโยคที่เราบอกพี่สาวว่าจะไม่ต้องมาเจอกันอีก แต่ก็จะคอยส่งของไปให้เสมอเหมือนเดิม
วันต่อมาแม่โทรหาเราเลย คุยตะล่อมๆ กล้อมแกล้มๆ เราเลยถามแม่ตรงๆ ทำไมคุยกับเราเหมือนจะไม่ได้เจอกัน
คุยกัน2-3 วัน เค้าไม่ยอมพูดตรงๆ กับเราซะทีเลยเปิดฉากคุยก่อน ค่อยๆ กระแซะๆ เข้าเรื่อง
เราเลยพูดว่าที่ผ่านมามีความรู้สึกยังไง สั้นๆ และตอนนี้รู้สึกยังไง
แม่พูดว่า
แม่ขอโทษ แม่ขอโอกาส ให้แม่กราบเท้าแม่ก็ยอม จะให้แม่ทำยังไงถึงจะกลับมาเป็นแม่ลูกกันเหมือนเดิม
คำว่าจะทำยังไงถึงจะกลับมาเป็นแม่ลูกกันเหมือนเดิม (ที่ผ่านมาเค้าไม่เคยมองว่าเราเป็นลูกเลยลูกของเค้าคือพี่สาว ส่วนเราเป็นแค่คนรองมือรองเท้าเขาเท่านั้นเป็นเหมือนแค่คนรับใช้ เป็นแค่ถังขยะ เป็นแค่เครื่องเครื่องทำความสะอาดที่มีชีวิตมีหัวใจที่เค้าคอดว่าสั่งได้อัตโนมัติ)
ในไหนก็เห็นว่าแม่อุตส่าห์พูดว่าขอโทษแล้ว คนอย่างเขาเกิดมา 60 ปี เรายังไม่เคยได้ยินคำว่าขอโทษออกจากปากเค้า ที่ออกมาจากใจจริงๆ
เค้าไม่เคยคิดว่าตัวเองผิดในเรื่องที่ทำผิด อ้างว่าทำไปเพราะรัก
เค้ากำลังจะเค้ากำลังจะขุดเรื่องที่เค้าเคยลำบากเลี้ยงเรามา เราก็ตอบไปว่า เราก็อยู่เคียฃข้างแม่เสมอเราลำบากมาด้วยกัน
จุด ที่ทำให้เราคิดว่า เค้าก็ยังเครียร์ใจเรากับ ไม่100% คือ
แม่ตอบเรื่องพ่อเลี้ยงให้เราไม่ได้
เราเคยพูดสั้นๆ แบบอึดอัดใจให้เค้ารับรู้ว่า แม่ปกป้องหนูจากพ่อเลี้ยงไม่ได้
เค้าเงียบไปสักพักนึง
เราตอบว่า มันสายไปแล้วที่จะบอกว่าขอโทษ และที่สำคัญหนูไม่เคยโกรธอะไรแม่เลยสักวัน แต่มีแต่ความเสียใจเท่านั้น
และแม่มีโอกาสมาตลอด25ปี มีโอกาสทุกวัน เราสะอื้นร้องให้ตอนวางสายหนักมาก พูดกับตัวเองว่ามาบอกอะไรตอนนี้ มันไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว
จากนั้นเค้าพยายาม จะมาหาเราที่บ้าน เราเลยด้วยความที่เราเป็นคนใจดี และดีกับคนรอบข้าง ดีกับครอบครัวเสมอ เลยถ้าจะมาก็ถือว่าเค้าได้มาเอาของที่เรารวบรวมไว้จะส่งไปให้ และพี่สาวก็โอนค่าจกย.มา3000 แต่สิ่งที่เขาจะได้ไปถ้าเค้ามาที่บ้านเรา คือ เราจะให้ของที่มูลค่าเกิน2-3 หมื่น ให้เค้าเอากะบะมาขน ที่บ้านมีอยู่แล้ว ส่วนแม่ โอนค่าของขวัญวันเกิดมา1000 (เราบอกว่าไม่ต้องโอนมาแต่แอบโอนมา)
สิ่งที่เราให้คนอื่น มันคือเรื่องปกติของตัวเรามากๆ เราเป็นของเราแบบนี้มาตั้งนานแล้ว จนคนอื่นชิน
แต่สำหรับเรารู้สึกแปลก ไม่ชิน และรู้สึกอึดอัด กลัวและไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับการรับ อะไรจากคนในครอบครัว สะดวกให้อย่างเดียว
แม้แต่ที่เราตายก็ไม่ทำให้เค้าเดือดร้อน และบอกกับเค้าตรงๆ ว่าจะไม่บอกเค้าวันที่เราตาย
ส่วนพินัยกรรม เรายกให้สามี หรือจะยกให้มูลนิธิ ในอนาคตเรื่องนี้ยังไม่บอก
เค้าพยายาม จะโทรหาเราทุกวันถามไถ่เราว่าเป็นไงบ้าง ความรู้สึกเราในตอนนี้ เหมือนถูกเอาใจ ถูกง้อ ถูกอยากจะดูแล
จากคนที่เคยทำร้ายมานานไม่มีความสนิทใจที่จะรับ กลัวเจ็บกลัวเสียใจซ้ำแล้วซ้ำอีก เราก็บอกกับแม่ไปตรงตรงว่า แม่ไม่ได้มีความรู้สึกกับหนูแบบนี้จริงๆ
แม่ทำเพราะคนอื่นบอกว่าให้ทำ แต่พอตอนที่หนูเคยบอกแม่เพียงแค่ครั้ง เดียวเพราะไม่เคยบอกอะไรแม่ได้เลยแม่ไม่เคยรับฟัง
ว่าพออย่าบังคับอะไรหนูอีกเลย คำพูดของหนูไม่เคยมีความหมาย แม่ยอมเห็นหนูเสียใจ เจ็บปวด ห่างหายจากแม่ เพียงเพราะไม่ทำตามความต้องการของแม่ บังคับให้จัดงานแต่งงานทั้งที่ไม่อยากจัด แต่พอพี่สาวพูดแม่ฟัง
และมาคราวนี้แม่มาพูดคำว่าขอโทษ และเพิ่งมาพูดดี ทำดีกับเรา เพียงเพราะ พี่สาวบอกว่าเราจะตัดขา
ชีวิตเราเจออะไรมาเยอะมาก มันเจ็บและซับซ้อนมากๆ เค้าแค่คำว่าพูดแค่คำว่าขอโทษและหวังจะให้เรากลับไปเป็นเหมือนเดิม เราก็เคยบอกเค้าไปแล้วว่าเราเหมือนตายไปนานแล้วเพราะสิ่งที่เค้าทำ มันไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมและยังยืนยันคำเดิมว่าอย่ามาเจอกันอีกเลย
เค้าไม่ใช่คนแรกและคนสุดท้ายที่เราจะนึกถึง แม้เราจะมีความสุข หรือความทุกข์ก็ตามแล้ว
แต่เค้าเป็นความทรงจำเดียว คือตัวอย่างของความทุกข์อันโหดร้ายที่เราเจอ ไม่มีวันลืม
ในตอนนี้การที่เขาพยายามทำดีกับเรา แล้วเราปฎิเสธทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะเราไม่อยากเจ็บยิ่งทำแบบนี้เรายิ่งเจ็บเพราะทำยังไงแค่ไหน มันก็ไม่มีทาง
แก้ไขอะไรได้แล้ว มีแต่ทำให้ความรู้สึกเราแย่ลง แต่เราดีใจแค่เรื่องเดียว ที่ในที่สุดเราก็ได้ยินคำว่าขอโทษสักครั้ง ในชาตินี้เราจะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก
และถ้าเรายิ่งรับอะไรจากเค้ามามันจะยิ่งติดค้างกันอีกไม่อยากผูกพันไปกว่านี้แล้ว
เรามาถูกทางแล้วใช่ไหมคะ
ถ้าเพื่อนๆพี่ๆเจอแบบเรา จะทำยังไงกันคะมาแชร์กันได้นะคะ
ถูกแม่ทำร้ายร่างกายจิตใจ มา25ปี เขามาเพิ่งมาขอโทษเพราะมีคนบอกให้ทำ เรื่องนี้ควรจบยังไงดีคะ
มาจนถึงอายุ25 จนตอนนี้เราอายุ30 ตอนที่เราอายุครบ30 ปี พอดี เพิ่งมาจะมาพูดขอโทษ ขอโทษจากเรา
เราร้องให้โฮเสียใจหนักมากๆ เป็นความเสียใจ ความเจ็บพอๆกับช่วงเวลาที่เค้าทำร้ายเรา
จนเราแทบไม่มีอากาศหายใจ เจ็บปวดทุรนรุรายและ ถูกทิ้งให้ตายทั้งที่อยู่ข้างกันอย่างไร้ค่า
แต่เหนือสิ่งอื่นใด จิตใจเราไม่เคยโกรธ ไม่เคยเกลียดอะไรเค้าเลย มีแต่ความเจ็บและเสียใจเท่านั้น มีแต่คำถามในหัว ว่าเค้าทำได้ยังไงแค่นั้นเลย
และรอวันที่เมื่อไร เค้าจะเป็นคนปกติทั่วไปแม่ปกติที่เค้าเป็นกัน คิดมาตลอด เสียใจตลอด จนเวลาล่วงเลย
วันที่เราพยายามตัดครอบครัวออกจากชีวิต แต่เรายังคงส่งของไปให้ครอบครัวเสมอทุกเดือนเป็นเวลา10 กว่าปี ถึงแม้ตัดยังไงเราก็ยังนึกถึงเขา
จนฟางเส้นสุดท้าย(ฟางเส้นสุดท้ายรายปี555) มีประโยคหนึ่ง ซึ่งประโยคแนวนี้แล้วก็เคยได้สัมผัสมาเยอะมากแล้ว
ที่เราคุยกับพี่สาว พี่สาวก็เป็นคนที่นิสัยเห็นแก่ตัวมากคิดถึงแต่ตัวเอง ต่อให้คนอื่น โดยเฉาพะเราดีกับเขาขนาดไหนก็ไม่เคยคิดว่าคนอื่นดี
และไม่เคยคิดที่จะ ดีกับคนอื่นตอบบ้างแม้เล็กน้อยก็ตาม แม้จะไม่เคยเรียกร้องเลยก็ตาม
แต่ว่าความดีของเค้าแค่เพียงเล็กน้อยเค้าจะมองจะมีค่ายิ่งใหญ่มาก พูดมาเอาเป็นบุญคุณได้เสมอ แต่ความเห็นแก่ตัวเองเหลือล้น
เหตุการณ์มีอยู่ว่า เราคัดเสื้อผ้าของใช้ดีๆ ส่งให้พี่สาวเสมอ และจะส่งแบ่งให้หลานอีกคนบ้าง ลูกของพี่ชายคนโต พี่สาวห้ามกีดกันไม่ให้ส่งไป
จะเก็บไว้ให้ลูกสาวของตัวเองคนเดียว
เราเลยนึกอะไรขึ้นมาได้1 อย่าง (คิดแค่ในใจว่าถ้าเราจะเอาทุกอย่างคนเดียวไม่แบ่งใคร) เราเสนอบอกพี่สาวประมาณว่า วันที่พี่มารับของที่บ้าน
มันมีจกย.คันนึง เป็นมือ1 แฟนซื้อมาให้มาไม่เคยขี่เลย3000 ช่วยซื้อได้ไหม เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เราขอความช่วยเหลือจากเค้าบ้าง
เพราะตอนนี้กำลังเดือดร้อน เค้าอิดออด บ่ายเบี่ยง บอกไม่มีเงิน บอกเรื่องจกย.ไม่เคย บอกมาก่อนไม่ได้อยู่ในข้อตกลง
เราเลยบอกงั้นเอางี้ ถ้าพี่ไม่เอาจกย.ไม่เป็นไร แต่ของก็ไม่ต้องมาเอาเหมือนกัน จริงๆเราคุยรายละเอียดกันเยอะมากกว่ามาก
มันมีทั้งเหตุการณ์ที่พ่อแท้ๆที่เคยทิ้งเราไป ที่เคยทำร้ายครอบครัวของเรามาฟ้องร้องค่าเลี้ยงดู จากลูกอย่างไม่เป็นธรรม
มันเลยต่อเนื่องที่ว่าพี่สาวคุยกับเราประมาณว่าเนี่ย การที่ยกฟ้อง เค้าทำเพื่อครอบครัวเลยนะเค้าทำเพื่อน้องเลยนะ
เราเคยขอบคุณที่เค้าทำแบบนั้น แต่จากนี้ขอไม่เจอกันเลยด้วยเหตุผล (ขอเล่าแบบเร็วๆนะคะ)
ต่อมาเข้าเรื่องตามหัวข้อเลยค่ะ ประโยคที่เราบอกพี่สาวว่าจะไม่ต้องมาเจอกันอีก แต่ก็จะคอยส่งของไปให้เสมอเหมือนเดิม
วันต่อมาแม่โทรหาเราเลย คุยตะล่อมๆ กล้อมแกล้มๆ เราเลยถามแม่ตรงๆ ทำไมคุยกับเราเหมือนจะไม่ได้เจอกัน
คุยกัน2-3 วัน เค้าไม่ยอมพูดตรงๆ กับเราซะทีเลยเปิดฉากคุยก่อน ค่อยๆ กระแซะๆ เข้าเรื่อง
เราเลยพูดว่าที่ผ่านมามีความรู้สึกยังไง สั้นๆ และตอนนี้รู้สึกยังไง
แม่พูดว่า
แม่ขอโทษ แม่ขอโอกาส ให้แม่กราบเท้าแม่ก็ยอม จะให้แม่ทำยังไงถึงจะกลับมาเป็นแม่ลูกกันเหมือนเดิม
คำว่าจะทำยังไงถึงจะกลับมาเป็นแม่ลูกกันเหมือนเดิม (ที่ผ่านมาเค้าไม่เคยมองว่าเราเป็นลูกเลยลูกของเค้าคือพี่สาว ส่วนเราเป็นแค่คนรองมือรองเท้าเขาเท่านั้นเป็นเหมือนแค่คนรับใช้ เป็นแค่ถังขยะ เป็นแค่เครื่องเครื่องทำความสะอาดที่มีชีวิตมีหัวใจที่เค้าคอดว่าสั่งได้อัตโนมัติ)
ในไหนก็เห็นว่าแม่อุตส่าห์พูดว่าขอโทษแล้ว คนอย่างเขาเกิดมา 60 ปี เรายังไม่เคยได้ยินคำว่าขอโทษออกจากปากเค้า ที่ออกมาจากใจจริงๆ
เค้าไม่เคยคิดว่าตัวเองผิดในเรื่องที่ทำผิด อ้างว่าทำไปเพราะรัก
เค้ากำลังจะเค้ากำลังจะขุดเรื่องที่เค้าเคยลำบากเลี้ยงเรามา เราก็ตอบไปว่า เราก็อยู่เคียฃข้างแม่เสมอเราลำบากมาด้วยกัน
จุด ที่ทำให้เราคิดว่า เค้าก็ยังเครียร์ใจเรากับ ไม่100% คือ
แม่ตอบเรื่องพ่อเลี้ยงให้เราไม่ได้
เราเคยพูดสั้นๆ แบบอึดอัดใจให้เค้ารับรู้ว่า แม่ปกป้องหนูจากพ่อเลี้ยงไม่ได้
เค้าเงียบไปสักพักนึง
เราตอบว่า มันสายไปแล้วที่จะบอกว่าขอโทษ และที่สำคัญหนูไม่เคยโกรธอะไรแม่เลยสักวัน แต่มีแต่ความเสียใจเท่านั้น
และแม่มีโอกาสมาตลอด25ปี มีโอกาสทุกวัน เราสะอื้นร้องให้ตอนวางสายหนักมาก พูดกับตัวเองว่ามาบอกอะไรตอนนี้ มันไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว
จากนั้นเค้าพยายาม จะมาหาเราที่บ้าน เราเลยด้วยความที่เราเป็นคนใจดี และดีกับคนรอบข้าง ดีกับครอบครัวเสมอ เลยถ้าจะมาก็ถือว่าเค้าได้มาเอาของที่เรารวบรวมไว้จะส่งไปให้ และพี่สาวก็โอนค่าจกย.มา3000 แต่สิ่งที่เขาจะได้ไปถ้าเค้ามาที่บ้านเรา คือ เราจะให้ของที่มูลค่าเกิน2-3 หมื่น ให้เค้าเอากะบะมาขน ที่บ้านมีอยู่แล้ว ส่วนแม่ โอนค่าของขวัญวันเกิดมา1000 (เราบอกว่าไม่ต้องโอนมาแต่แอบโอนมา)
สิ่งที่เราให้คนอื่น มันคือเรื่องปกติของตัวเรามากๆ เราเป็นของเราแบบนี้มาตั้งนานแล้ว จนคนอื่นชิน
แต่สำหรับเรารู้สึกแปลก ไม่ชิน และรู้สึกอึดอัด กลัวและไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับการรับ อะไรจากคนในครอบครัว สะดวกให้อย่างเดียว
แม้แต่ที่เราตายก็ไม่ทำให้เค้าเดือดร้อน และบอกกับเค้าตรงๆ ว่าจะไม่บอกเค้าวันที่เราตาย
ส่วนพินัยกรรม เรายกให้สามี หรือจะยกให้มูลนิธิ ในอนาคตเรื่องนี้ยังไม่บอก
เค้าพยายาม จะโทรหาเราทุกวันถามไถ่เราว่าเป็นไงบ้าง ความรู้สึกเราในตอนนี้ เหมือนถูกเอาใจ ถูกง้อ ถูกอยากจะดูแล
จากคนที่เคยทำร้ายมานานไม่มีความสนิทใจที่จะรับ กลัวเจ็บกลัวเสียใจซ้ำแล้วซ้ำอีก เราก็บอกกับแม่ไปตรงตรงว่า แม่ไม่ได้มีความรู้สึกกับหนูแบบนี้จริงๆ
แม่ทำเพราะคนอื่นบอกว่าให้ทำ แต่พอตอนที่หนูเคยบอกแม่เพียงแค่ครั้ง เดียวเพราะไม่เคยบอกอะไรแม่ได้เลยแม่ไม่เคยรับฟัง
ว่าพออย่าบังคับอะไรหนูอีกเลย คำพูดของหนูไม่เคยมีความหมาย แม่ยอมเห็นหนูเสียใจ เจ็บปวด ห่างหายจากแม่ เพียงเพราะไม่ทำตามความต้องการของแม่ บังคับให้จัดงานแต่งงานทั้งที่ไม่อยากจัด แต่พอพี่สาวพูดแม่ฟัง
และมาคราวนี้แม่มาพูดคำว่าขอโทษ และเพิ่งมาพูดดี ทำดีกับเรา เพียงเพราะ พี่สาวบอกว่าเราจะตัดขา
ชีวิตเราเจออะไรมาเยอะมาก มันเจ็บและซับซ้อนมากๆ เค้าแค่คำว่าพูดแค่คำว่าขอโทษและหวังจะให้เรากลับไปเป็นเหมือนเดิม เราก็เคยบอกเค้าไปแล้วว่าเราเหมือนตายไปนานแล้วเพราะสิ่งที่เค้าทำ มันไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมและยังยืนยันคำเดิมว่าอย่ามาเจอกันอีกเลย
เค้าไม่ใช่คนแรกและคนสุดท้ายที่เราจะนึกถึง แม้เราจะมีความสุข หรือความทุกข์ก็ตามแล้ว
แต่เค้าเป็นความทรงจำเดียว คือตัวอย่างของความทุกข์อันโหดร้ายที่เราเจอ ไม่มีวันลืม
ในตอนนี้การที่เขาพยายามทำดีกับเรา แล้วเราปฎิเสธทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะเราไม่อยากเจ็บยิ่งทำแบบนี้เรายิ่งเจ็บเพราะทำยังไงแค่ไหน มันก็ไม่มีทาง
แก้ไขอะไรได้แล้ว มีแต่ทำให้ความรู้สึกเราแย่ลง แต่เราดีใจแค่เรื่องเดียว ที่ในที่สุดเราก็ได้ยินคำว่าขอโทษสักครั้ง ในชาตินี้เราจะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก
และถ้าเรายิ่งรับอะไรจากเค้ามามันจะยิ่งติดค้างกันอีกไม่อยากผูกพันไปกว่านี้แล้ว
เรามาถูกทางแล้วใช่ไหมคะ
ถ้าเพื่อนๆพี่ๆเจอแบบเรา จะทำยังไงกันคะมาแชร์กันได้นะคะ