(Business และการจัดการล้วนๆ) ชำแหละความล้มเหลวของcgm48 +(แถม)จุดเฝ้าระวังของ bnk48

กระทู้สนทนา
หลายๆครั้งแต่หลายๆกระทู้เกี่ยวกับปัญหาของฝั่ง cgm48 ผมมักจะแสดงความเห็นเหมือนปกป้องผู้บริหารและด่าพนักงาน cgm48 ไม่ใช่ว่าผมเป็นสลิ่มอฟช.แต่อย่างใด แต่เหตุผลหลักๆคือ โครงสร้างและธรรมชาติของbusiness cgm48 ที่ทำให้ผมต้องแสดงความเห็นแบบนี้

ถ้าเทียบกับบริษัททั่วไป cgm คือบริษัทสาขา และbnk คือสำนักงานใหญ่ เป็นproductหลักหรือproduct เรือธงของบริษัท ดังนั้นการทรีต หรืองบประมาณมันต่างกันอยู่แล้ว นั่นหมายถึงว่าระบบงานของ cgm จะต่างจาก bnk โดยสิ้นเชิง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงมองว่า ทีมงาน สต๊าฟcgm ไม่มีศักยภาพ

1.ศักยภาพทีมงานไม่เพียงพอต่อความต้องการที่แท้จริงของวง นั่นคือทีมงานทุกคนทำงานroutine ของตัวเองได้ดี ในระดับทุกพนักงานระดับปฏิบัติการจะทำงานของตัวเองได้สำเร็จลุล่วง พูดง่ายๆคือ ar ก็ทำงานได้สมกับ ar คอสตูมสไตน์ลิสต์ manager ก็ทำได้ดีสมหน้าที่ ถ้ายกเซตนี้ไปทำงาน bnk ก็ไม่มีปัญหาอะไร

แต่...

มันก็ได้แค่นั้น อาจจะแรงแต่พูดให้เห็นภาพคือ เป็นลูกน้องที่ดีแต่ไม่มีความสามารถในการขึ้นมาเป็นหัวหน้าหรือฝ่ายวางแผนได้ เอาแค่การวางแผนการจัดการเบสิค แบบการวางผัง การวางแผนกิจกรรมอย่างตั้งแถวนู่นนั่นนี่ ตอนmanager ออก ถึงกับเละเทะ ทั้งๆที่ทำงานด้วยกันมาก็นาน แสดงให้เห็นว่าอายุงานที่เพิ่มขึ้นกลับไม่สามารถพัฒนาทักษะงานที่สูงขึ้นได้ กว่าจะมาลงตัวก็ช่วงหลัง(แต่ก็ใช่ว่าจะดี คือทำไปแก้ไปนั่นแหละ แต่กับการคาดหวังของแฟนคลับกับเงินที่แฟนคลับตัดสินใจจ่าย มันไม่ควรเสี่ยง) ซึ่งแค่นี้ยังคาดหวังไม่ได้แล้วจะหวัง solution กับprocess เดิมๆแล้วหวังผลลัพท์ที่เปลี่ยนไปมันทำไม่ได้อยู่แล้ว

2.การจัดการทรัพยากรบุคคลที่มีปัญหา หลายครั้งที่ ผบห.รู้ฟีตแบ็คว่าวงขาดอะไรต้องการตำแหน่งไหน แต่hr กลับตอบสนองไม่ได้ ยกตัวอย่างตำแหน่งที่มีปัญหาอย่าง manager วง ก่อนหน้านี้เหมือน อฟช.ก็รู้ว่าวงมีปัญหาทางbusiness มารับตำแหน่งใหม่ก็ใส่คุณสมบัติทาง business ไปด้วย สรุปได้คนทำงานเดือนเดียวออก แล้วก็รับใหม่โดยลดคุณสมบัตินี้ลง (ผมไม่แน่ใจว่าปกติงานตำแหน่งนี้ที่กทม.มันเงินเดือนเท่าไหร่ แต่ตอนรับสมัครที่cgm เห็นว่าประมาณ4หมื่นซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับเรตเงินเดือนเชียงใหม่) ซึ่งจากที่กล่าวมาคือ ผบห.รู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน แต่hr ตอบสนองไม่ได้ หรือได้คนมาก็ทำๆไปแต่ก็ไม่ได้เต็มศักยภาพตามที่วงต้องการจริงๆ

3.businessที่แย่ สักแต่ใช้เงินแต่ความสามาถในการหาเงินอ่อนด๋อย กรณีนี้ถ้าเป็น bnk ไม่ถือว่าเป็นเรื่องซีเรียสอะไร เพราะเป็นproduct เรือธง แค่คุมงบแล้วมีincomeเข้ามาบ้างพอไม่เข้าเนื้อมากก็โอเค แต่มันไม่ใช่กับ cgm ด้วย business model และ marketing ที่ผิดพลาดแต่ต้น (ทิ้งฐานแฟนพื้นที่ที่การเปย์ต่อคนน้อยไปเน้นวาฬกทม.) ทำให้การของบทำงบยากขึ้น แล้วยิ่งที่ผ่านมาขอเงินจัด event ก็ทำไม่ได้ตามเป้า (หนักสุดคือfan meet จนบัดนี้ อฟช.ก็ไม่ไว้ใจให้ทีมงานเชียงใหม่จัดevent สเกลนั้นที่เชียงใหม่อีกเลย) และevent ประจำเทศกาลแต่เหมือนจะดี แต่ก็เน้น playsafe แต่ไส้ในมันคือ ไฮทัช อัพเกรด ส่วนนึงที่event ตามเทศกาลหายไปก็เพราะแบบนี้คือรายรับไม่ตุ้มค่ากับการลงทุน(คือไม่ถึงกับเจ๊งแต่มันไม่คุ้มกับเม็ดเงินลงทุน) จริงๆทางแก้มันมี ก็แค่หาคนที่ทำ คอนเทเนต์เชิง business ได้ ทำแผนงานโครงการดีๆ ของเงิน อฟช. มีความน่าเชื่อถือ แค่นี้ก็พอกู้สถานการณ์ได้ แต่วกไปที่ข้อ2 คือแล้งมันหาจากไหน เพราะทุกครั้งที่ได้คนมา ศักยภาพก็แค่ระดับทำงานroutine ได้ดี แค่นั้น

4.การที่ไม่มีฝ่าย business และการตลาดประจำcgm โดยเฉพาะคือจุดใหญ่ตั้งแต่ตั้งวงมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่สยการตลาดน่าจะอยู่ที่กทม. เป็นตำแหน่ง back office ของ IAM (ใช้ร่วมกันหมดทั้ง bnk cgm IR) พอมันขาดตำแหน่งนี้ไป มันก็คือ ขาดอิสระในการทำตลสดและการหางานในพื้นที่ ทุกวันนี้cgm ได้แต่งานจ้างของส่วนราชการ(อบจ.) ที่แทบทั้งหมดเป็นงานแสดง บนเวที แต่ งานพรีเซนเตอร์ งานผลิตคอนเท้นต์ ให้กับภาคธุรกิจ หรือส่วนราชการอื่น ไม่มีเลย ยังไม่นับงานจ้างจากส่วนกลาง ที่ต้องรับการป้อนงานมาจาก IAM ซึ่งขาดอิสระและด้านต้นทุน มันแข่งขันกับ bnk qrra ไม่ได้ หรืองานเทศกาลดนตรีใหญ่ประจำท้องถิ่นอย่างเชียงใหญ่ หรืองานสิงห์เชียงรายก็ไม่เคยรับ แล้วคนในพื้นที่มันจะรู้จักวงได้ไง ถ้ายังต้องรอรับงานจากmarketing iam อยู่แบบนี้

5.จริงๆมันมีเรื่องในส่วนเมมด้วย แต่ไม่ขอพูดถึงเดี๋ยวดราม่าเปล่าๆ แต่ที่จะสรุปคือ ด้วยเรื่อง business marketing ตลอดจน ทรัพยากรบุคคลฝั่ง cgm มันพลาดแต่ต้น ที่ผ่านมาที่มันอยู่ได้ก็คือแฟนคลับช่วยล้วนๆ พอแฟนคลับลด บด หรือเลิกเปย์ ฐานแฟนไม่เพิ่ม ทีมงานทำงานเหมือนเดอม มันก็ย้อนกลับไปในสภาพที่วงมันควรจะเป็น

แถม...แล้วฝั่งbnk มีข้อควรระวังตรงไหน หลักๆเลยคือเรื่องเงิน หลังge4 bnk แอคทีฟมาตลอด มีกิจกรรมมากมาย ลดแลกแจกแถม หลายกิจกรรมแทบไม่มีความคุ้มค่าเชิงธุรกิจ แต่ถือว่าเป็นช่วงreform วงใหม่ถือว่าหยวนๆได้ แต่ในระยะยาวหลังจสกนี้ ถือที่ลงๆไปอย่าง naka หรือสเตจออริ มันไม่มีเม็ดเงินสะท้อนกลับมาบ้างในจุดคุ้มทุน แน่นอนว่าการตัดงบย่อมตามมา นั่นหมายถึงคอนเท้นต์ดรอปลง งานแสดงสเตจน้อยลง ช่องทางการพบปะก็น้อยลง ถ้าไปในจุดที่สังเกตได้แล้วเริ่มมีความไม่พอใจ มันก็วนลูปกลับมาอีกเหมือนเดิม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่