[CR] ทริปนี้มีเรื่องมาเล่า #ตอนที่ 2 >ผู้พิชิตผาแดงหลวง แสงตะวันแรกที่แม่ปิง

ทริปนี้มีเรื่องเล่า #Chapter 2# ผู้พิชิตผาแดงหลวง อุทยานแห่งชาติแม่ปิง

"ผ า แ ด ง ห ล ว ง" >>อุทยานแห่งชาติแม่ปิง >>ทริป 2 วัน 1 คืน ระยะทางไป-กลับ 30 กืโลเมตร
    >> "จุดชมวิวผาแดงหลวง" หรือที่หลายๆ คนอาจรู้จัดกันในชื่อ "สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย"
ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติแม่ปิง ตำบลก้อ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เป็นหน้าผาสูงชันที่ตั้งตะหง่านมองเห็นวิวของลำน้ำแม่น้ำปิงทอดตัวยาวสวยงาม ท่ามกลางภูเขาที่สลับซับซ้อนที่มองเห็นได้ในระยะไกล แบบ 360 องศา เป็นตอนบนของเขื่อนภูมิพล และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่บอกได้เลยว่าน่าจะสวยที่สุดของอุทยานแห่งชาติแม่ปิงแล้ว จนได้รับสมญานามว่า "สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย" ซึ่งหน้าผามีความสูงอยู่ที่ 1000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
    >> เมื่อมองจากมุมสูงจะเห็นหน้าผามีสีส้มอมแดง โดยเฉพาะหน้าผาที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ทำให้เมื่อได้รับแสงจากพระอาทิตย์ยิ่งสะท้อนให้เห็นเป็นสีส้มแดงมากขึ้น จึงเป็นที่มาของชื่อ “ผาแดงหลวง” นั่นเองครับ
    >> มาเข้าสู่เรื่องที่ผมจะเล่าให้ทุกคนได้ฟังกัน ของทริปผาแดงหลวง เรื่องก็มีอยู่ว่า อันที่จริงผมไม่ได้คิดเลยว่าจะมาเดินผาแดงหลวงในช่วงนี้ แค่มีลงเป้าหมายในชีวิตว่าจะมาเดินป่าที่นี่สักครั้งในวันใดวันหนึ่ง เพราะอยากมาชมพระอาทิตย์สวยๆ ของที่นี่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เพราะผมมีโปรแกรมเดินป่าไว้แล้วในช่วงต้นปี 2568 ที่โมโกจู อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ถึงแม้เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 ผมจะมาโอกาสได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์มาเที่ยวจากสมุทรปราการแบบคนเดียว และได้รับข้อมูลในการเที่ยวที่นี่มาเล็กน้อย ตอนนั้นก็แค่คิดว่าอีกสัก 2-3 ปีค่อยมาแล้วกัน ตอนนั่นก็ยังไม่รู้ด้วยว่าการมาที่นี่เดินทางแบบไหนบ้าง รู้แค่ว่าต้องเดินเข้ามา แต่คิดว่ามีรถเข้าไปส่งตรงที่กางเต็นท์ และช่วงเที่ยวที่นี่คือประมาณเดือนธันวาคม-มกราคม ก็แค่นั้น
    >> แต่มีอยู่วันหนึ่งน่าจะวันที่ 22 ตุลาคม 2567 ขณะที่ผมเล่น Facebook อยู่ดีๆ ฟีดของเพจอุทยานแห่งชาติแม่ปิงก็เลื่อนผ่านตาผมเข้ามา ว่าจะมีการเปิดให้ลงทะเบียนจองสิทธิ์ เข้าร่วมกิจกรรมเส้นทางเดินป่าระยะไกลผาแดงหลวง สมัครผ่าน Google form ในวันที่ 24-26 ตุลาคม ตามนี้เลยครับ


   ***ขอบคุณข้อมูลจากเพจอุทยานแห่งชาติแม่ปิง ดูรายละเอียดได้ที่เพจ อุทยานแห่งชาติแม่ปิง
   >> ซึ่งในตอนนั่นผมก็รู้สึกสนใจอยู่นิดหนึ่งนะ เพราะคิดในใจว่าถ้าได้ไปเดินก็คงดีจะได้วอร์มร่างกายก่อนไปเผชิญเส้นทางอันหฤโหดของโมโกจูด้วย พอถึงวันที่ 25 ตุลาคม ผมก็เข้ามากรอกใบสมัคร อ้าว!! ทำไมถึงไม่กรอกตั้งแต่วันที่ 24 ละ บอกตรงๆ เลยว่าผมลืม ก็อยากที่บอกผมมีความสนใจอยู่นิดหนึ่ง เลยไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาสมัครเท่าไหร่ แต่ใจก็อยากลองสมัครดูว่าจะได้ไหม เหมือนที่ลองสมัครโมโกจูแล้วได้ แต่อันนั้นคือตั้งใจสมัครมากๆๆๆ พอเข้ามากรอกใบสมัครใน Google form พบว่า เหลืออยู่แค่รอบเดียวจากที่เป็นทั้งหมด 18 รอบ ก็คือ รอบที่ 1 รอบบุกเบิกเลย ในวันที่ 15-16 พฤศจิกายน ในวันศุกร์-เสาร์ ซึ่งรอบการเดินก็เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 - 12 มกราคม 2568 มีเดินทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละ 2 รอบ คือ วันศุกร์-เสาร์ และวันเสาร์-อาทิตย์ แบบนี้จนครบ 18 รอบ รอบละ 30 คน ซึ่งในเมื่อเหลืออยู่รอบเดียวผมก็เลยต้องสมัครรอบที่ 1 ไป ที่เหลือคงเพราะการแข่งขันน้อย เพราะรอบไหนเต็มแล้วระบบจองก็จะไม่ขึ้นให้เลือก อันที่จริงผมก็อยากได้รอบวันเสาร์-อาทิตย์ สักเดือนธันวาคม เพราะจะได้ลางานแค่วันเสาร์
    >> มาดูรายละเอียดขั้นตอนในการสมัครครับ



    >> ตอนนี้ก็รอวันที่ 28 ที่จะประกาศผล

      >> พอถึงวันที่ 28 ตุลาคม วันประกาศผล สรุปคือ ผมได้ด้วยในลำดับที่ 23 แต่คนก็ไม่ได้ครบ 30 คน แต่มีแค่ 26 คน ซึ่งรอบอื่นๆ ก็เหมือนกัน พอได้แบบนี้แล้ว จากที่สมัครดูเล่นๆ ตอนนี้ก็คงต้องไปเดินจริงจังแล้วสินะ แต่ผมเห็นว่าในอีกหลายๆ รอบก็มีจำนวนคนสมัครที่ไม่ครบ 30 คนเหมือนกัน ผมจึงได้โทรไปสอบถามกับทางอุทยานเพื่อที่จะขอย้ายรอบการเดิน ซึ่งได้คำตอบว่า ที่จำนวนคนไม่คร 30 คน ก็เพราะจำนวนคนที่ขาดไปในแต่ละรอบคือ มีการลงซ้ำเขาไปจากคนเดียว นั่นก็เพราะบางคนไม่แน่ใจว่าตัวเองส่งใบสมัครได้แล้ว เพราะไม่มีอะไรแจ้งเตือนว่าส่งสำเร็จก็เลยส่งซ้ำอีก กลับกลายเป็นว่าคนเดียวส่งใบสมัคร 2-3 ใบ พอครบ 30 ใบ/รอบ ระบบก็ลบวันนั่นออกไม่ให้เลือกสมัคร หลังจากเจ้าหน้าที่คัดชื่อใบสมัครซ้ำออกก็เลยกลายเป็นคนไม่ครบไปในรอบนั้น
      >> เจ้าหน้าที่เลยแจ้งผมว่าในวันที่ 30 ตุลาคม  ที่จะชำระเงินเพื่อยืนยันสิทธิ์ยังไม่ต้องชำระเงิน ให้สมัครมาใหม่ เพราะจะมีรอบเก็บตกแทนคนที่ไม่เต็มในแต่ละรอบอีกครั้งในวันที่ 1 พฤศจิกายน
      >> ซึ่งหลังจากได้ในรอบแรก และยกเลิกไป แล้วรอสมัครใหม่ ผมก็ได้ชวนเพื่อนที่ไปเจอกันตอนไปเดินภูสอยดาวไปด้วยกัน จะได้ไม่เหงา พอถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน รอบสมัครเก็บตก ผมกลับเพื่อที่จะไปด้วยกันก็ลงมือสมัครทันที แต่เหมือนว่าไม่ว่าจะเป็นรอบไหนที่เราวางแผนกันไว้ว่าจะเลือกก็เต็มหมด จนน่าจะเหลืออยู่ 2 รอบ ซึ่งดูแล้วรอบที่ดูโอเคกับผมสุดในตอนนี้คือ รอบที่ 4 วันที่ 23-24 พฤศจิกายน (เสาร์-อาทิตย์) ส่วนเพื่อนที่จะไปด้วยกันไม่ได้สมัคร เพราะวันนั้นไม่ว่าง พอในวันประกาศผลรอบ 2 สรุปผมก็ได้เหมือนเดิม จึงได้ลงมือชำระเงินยืนยันไปเลย แต่ๆๆ ผมเห็นว่ายังมีรอบอื่นคนก็ยังว่างอีก ผมต้องการเลื่อนออกไปอีกเลยโทรไปสอบถามเจ้าหน้าที่เพื่อจะขอเลื่อนไปรอบ 8 วันที่ 7-8 ธันวาคม สรุปคือได้ด้วย และผมก็ยังเห็นว่ายังมีที่ว่างอีก 1 คน จึงสอบถามเจ้าหน้าที่ว่า จะขอสมัครเพื่อนเขาไปเพิ่มอีก 1 คนได้ไหม ซึ่งเป็นเพื่อนที่ทำงานผมละที่เป็นสายเดินป่าเหมือนกัน สรุปก็คือได้ครับ ผมเลยชำระเงินเลยทันทีงานนี้ไม่เหงาแล้ว ซึ่งผมโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ที่เบอร์ 0 5203 0380
     >> ซึ่งก่อนถึงวันเริ่มเดินทางเจ้าหน้าที่ก็จะให้เราเขากลุ่มไลน์ที่มีทุกคนที่ไปเดินในทริป ซึ่งจะมีแอดมินคอยตอบคำถาม ให้ข้อมูล และนำบรรยากาศมาลงให้ชม และเราต้องกรอกข้อมูลในเอกสารยินยอมในการเดินป่าเส้นทางผาแดงหลวง ที่จะส่งให้ในกลุ่มไลน์ปริ้นออกมากรอกข้อมูล และนำไปยื่นในวันที่ไปเดิน
    >> พอถึงวันที่ 6 ธันวาคม หลังจากเลิกงาน ผมกับเพื่อนก็เก็บของขึ้นรถเพื่อออกเดินทางจากจังหวัดสมุทรปราการในเวลา 18.00 น. โดยรถยนต์ส่วนตัวมุ่งหน้าสู่จังหวัดลำพูนด้วยระยะทางประมาณ 625 กิโลเมตร ซึ่งน่าจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง ให้ไปทันเวลาลงทะเบียนที่ทุ่งกิ๊กตอน 8 โมงเช้า ซึ่งผมต้องขับรถคนเดียวยิงยาว เพราะเพื่อนขับรถไม่เป็น
    >> เส้นทางทุ่งกิ๊ก จุดลงทะเบียน
      >> หลังจากขับรถยิงยาว และแวะเข้าปั๊ม ปตท. เข้าห้องน้ำ ล้างหน้า ซื้อของกินบ้างที่ จังหวัดอยุธยา จังหวัดตาก และจังหวัดลำปาง ประมาณตีสองผมก็ขับรถมาถึงถนนเส้นทาง อ.เถิน ลำปาง ไป อ.ลี้ ลำพูน ซึ่งบอกเลยว่าถนนมีความคดเคี้ยว โค้งเยอะ และขึ้นเขา-ลงเขา จนแบบว่าเข้าโค้งหมุนพวงมาลัยถี่ยิบจนหายง่วงไปเลย ถึงแม้นับเวลาที่นอนครั้งล่าสุดผ่านมาแล้ว 19 ชั่วโมง จนประมาณตีสามเกือบตีสี่เราก็เดินทางมาถึง ตลาดเทศบาลตำบลวังดิน

     >> ที่ตลาดเทศบาลตำบลวังดิน อ.ลี้ ก่อนจะเข้าไปที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง เราแวะที่นี่ก่อนเพื่อซื้ออาหารไปกินเป็นมื้อเช้า และวัตถุดิบบางอย่างเพื่อเอาไว้ไปเป็นมื้อเย็นของวันนี้ด้วย หลังจากวนหาที่จอดรถได้แล้ว ราก็เดินเข้าไปที่ตลาดกัน ซึ่งที่นี้จะเป็นตลาดเช้า ที่มีชาวบ้านมาเป็นร้านขายผักพื้นบ้านแปลกๆ  ผักปกติทั่วไป ผลไม้ อาหารต่างๆ โดยเราเดินวนดูด้านนอกก่อน








     >> มีผักแปลกของท้องถิ่นที่ผมไม่รู้จักหลายอย่างเลย อย่างอันนี้เขาบอกว่าเอาไปยำกินแบบสดๆ รสชาติจะออกเปรี้ยวๆ

     >> อันนี้เป็นเห็ดที่เขาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตอนแรกผมก็ไม่รู้จักจนมารูว่าคือ เห็ดลม หรือโคราชบ้านผมเรียกว่า เห็ดกระดั้ง

     >> อันนี้เคยกินอยู่นะ แต่หากินยาก น่าจะเรียกว่า ผักหูด

     >> และก็มีอีกหายอย่างเลยแบบว่าราคาก็ไม่แพงด้วยราคาชาวบ้านจนผมอยากซื้อกลับบ้านเลย แต่ก็เอาไปเก็บไว้รอวันกลับไม่ได้ เราเข้าไปซื้อขนมในตัวตลาด และได้ผักนิดหน่อยก่อนที่จะออกเดินทางต่อ




     >> จุดที่เราเอารถมาจอดไว้ อันที่จริงตลาดน่าจะเข้าได้ 3 ทาง
ชื่อสินค้า:   ผาแดงหลวง อุทยานแห่งชาติแม่ปิง จ.ลำพูน
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่