JJNY : ไอซ์ ทวงคำตอบทำไมตั้งคนติดคดีเป็นรมช.│เมียนมาอภัยโทษ 4 ลูกเรือ│แอตต้าห่วงคุมไม่เข้มพอ│เตือนพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนอง

ไอซ์ ทวงคำตอบนายกฯ ทำไมตั้งคนติดคดี เป็นรมช. ถามป.ป.ช.คดีถึงไหน ทำก่อนเรื่อง 44 ส.ส.อีก
https://www.matichon.co.th/politics/news_5112153
.
.
ไอซ์ ทวงคำตอบนายกฯ ทำไมตั้งคนติดคดี เป็นรมช. แม้แต่ส.ส.เพื่อไทย ก็เคยซักฟอก ถามป.ป.ช. คดีถึงไหนแล้ว 
.
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ แม้ว่าฝ่ายค้านไม่สามารถจะทำให้นายกรัฐมนตรีหลุดออกจากตำแหน่งได้ แต่หวังว่าคงส่งผลไม่น้อยกับการปรับ ครม.คราวนี้
.
ซึ่งประเด็นที่นายกฯไม่ตอบคำถามการอภิปรายของ นายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน เลยสักคำคือ ทำไมถึงแต่งตั้งคนที่ยังมีคดีค้ามนุษย์อยู่ใน ป.ป.ช.อย่างนายสุชาติ ชมกลิ่น เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
.
ซึ่งคำตอบก็คงประมาณว่า คดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด ความผิดยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่แหม เปิดดูประวัติเอาก็น่าจะประกอบการพิจารณาได้ เพราะในอดีตก็ ส.ส.พรรคเพื่อไทย นิคม บุญวิเศษ เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจ แฉ (อดีต) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานว่า สั่งบอร์ดประกันสังคมซื้อหุ้นบริษัทพรรคพวก ก่อนวนมาซื้อบริษัทภรรยาตัวเอง เป็นความจริงหรือไม่? ซึ่งราคาซื้อสวนทางผลประกอบการ รวมทั้งพรรคพวกเก็บหัวคิวแรงงานไปทำงานเมืองนอก? ประวัติการทำงานแต่ละอย่างช่างเหมาะสมจริงๆ กับตำแหน่งรัฐมนตรี
.
ทั้งนายกฯก็ได้สื่อสารว่าได้ติดตามเรื่องประกันสังคมที่ดิฉันได้ออกมาพูดอยู่บ้าง น่าจะรู้อะไรเป็นอะไรอยู่บ้าง ดังนั้นสิ่งเหล่านี้คงเอาไปประกอบการตัดสินใจได้
.
และสุดท้ายนี้ ฝากคำถามไปถึง ป.ป.ช.สักหน่อย ไม่ได้มีเจตนาที่จะก้าวก่ายองค์กรอิสระ แต่คดีของคุณสุชาติ ชมกลิ่น เข้าสู่กระบวนการ ป.ป.ช.ก่อนคดี 43 ส.ส.พรรคประชาชน แน่ๆ ป่านนี้คดีมันไปถึงไหนแล้ว มีความคืบหน้าอะไรให้ประชาชนได้ทราบบ้างไหม? อย่าให้คนเขาคิดว่า ป.ป.ช.มีไว้เล่นงานแค่คนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับคนถืออำนาจ ไหนๆ เปลี่ยนประธานใหม่แล้ว แม้หนทางขึ้นมาจะไม่ได้งดงาม แต่ก็หวังว่าจะได้เห็นการทำงานที่ตรงไปตรงมา จะจับตารอดูความคืบหน้าอยู่เสมอนะคะ
.
https://www.facebook.com/nanaicez112/posts/pfbid0eTBJpCrQRKCCgoq7shFzh8osEPQpaip2TXdxC5R5keTt162muTXLdDDA9kei7zysl
.

.
เมียนมา อภัยโทษ 4 ลูกเรือประมงไทย พร้อมปล่อยกลับไทย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5113054
.
เมียนมา อภัยโทษ 4 ลูกเรือประมงไทย พร้อมปล่อยกลับไทย
.
ความคืบหน้าการปล่อยตัวลูกเรือประมงคนไทย 4 คน ที่ถูกกองทัพเรือเมียนมาจับกุมหลังทำประมงรุกน่านน้ำในพื้นที่ จ.ระนอง เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 นั้น
.
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ผู้สื่อข่าวมติชนออนไลน์ รายงานว่า ล่าสุด เมียนมา ได้อภัยโทษลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 คนและอนุญาตให้ออกนอกประเทศได้ โดย สภาบริหารแห่งรัฐ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ได้ออกคำสั่ง 27/2025 เรื่องคำสั่งอภัยโทษ ลงวันที่ 27 มีนาคม 2568 ความว่า
.
ประธานสภาบริหารแห่งรัฐได้ยกเลิกโทษของพลเมืองไทย 4 รายจากเรือนจำเกาะสองและพลเมืองฟิลิปปินส์ 3 รายจากเรือนจำฮปาอัน
ตามมาตรา 401 (1) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยมีเงื่อนไขว่าหากกระทำความผิดซ้ำอีกในครั้งต่อไป บุคคลดังกล่าวจะต้องรับโทษใหม่พร้อมกับการยกเว้นโทษที่ถูกตัดสิน และให้เนรเทศออกจากเมียนมาโดยเน้นที่ความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างประเทศและเหตุผลด้านมนุษยธรรม
.
สำหรับ ลูกเรือประมงไทย ทั้ง 4 คน ประกอบด้วย
1. นายสุนันท์ มงกุฎทอง อายุ 68 ปี ผู้ควบคุมเรือ
2. นายสมปอง วิวัฒน์ อายุ 61 ปี ช่างเครื่อง
3. นายถาวร พรหมนิมิต อายุ 64 ปี ช่างเครื่อง
และ 4. นายวิโรจน์ สพานทอง ณ นคร อายุ 69 ปี ลูกเรือ
.
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ทั้งนี้การปล่อยตัว 4 ลูกเรือประมงไทยดังกล่าว เกิดขึ้นก่อนหน้าที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ หรือ บิมสเทค ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นวันที่ 2-4 เมษายนนี้ ที่ยังเป็นที่จับตาดูอยู่ว่าพล.อ.อาวุโส มินอ่องลาย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา จะเดินทางมาร่วมประชุมด้วยหรือไม่
.

.
แอตต้า ชี้จำเป็นต้องสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ห่วงเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์คุมไม่เข้มพอ
https://www.matichon.co.th/economy/news_5112987
.
นายธนพล ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) คนใหม่ที่ได้รับเลือกเข้ามาหลังนายกสมาคมฯ เดิมหมดวาระไป เปิดเผยว่า ภาคการท่องเที่ยวไทยในขณะนี้จำเป็นต้องสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ หรือแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างขึ้น (แมนเมด) ถือเป็นสิ่งที่ต้องทำเพื่อหารายได้จากการใช้จ่ายเพิ่มเติมของนักท่องเที่ยว โดยหลังจากร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … ได้ผ่านการพิจารณาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) จากนี้จะต้องส่งให้รัฐสภา ประกอบด้วย ส.ส. และ ส.ว. พิจารณาเห็นชอบต่อไปนั้น ในร่างดังกล่าวกำหนดหลักการว่า ต้องมีกาสิโนไม่เกิน 10% ของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ทั้งหมด ซึ่งภาคเอชนกมีความเป็นห่วงและกังวลในเรื่องการดูแลควบคุมการเข้าใช้บริการของลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะต้องกำหนดให้เข้มข้นมากที่สุด ไม่มีช่องโหว่ให้คนไทยที่ไม่มีคุณสมบัติเข้าไปใช้บริการได้ทั้งสิ้น โดยความสำคัญคือ การจ้างงาน หากการจ้างงานเอื้อให้ชาวต่างชาติมากเกินไป อาจส่งผลกระทบต่ออานิสงส์การจ้างงานที่ควรเป็นของคนไทยได้ จึงต้องกำหนดเงื่อนไขของการจ้างงานโดยคนไทยให้มากที่สุด และควบคุมคนไทยไม่ให้เล่นในกาสิโน เพื่อป้องกันปัญหาสังคมที่จะตามมาด้วย
.
นายธนพล กล่าวว่า ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กำลังวิกฤตในขณะนี้คือ นักท่องเที่ยวจีน ต้องยอมรับว่ามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป นิยมเดินทางเข้ามาเที่ยวเอง (เอฟไอที) มากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับเปลี่ยนการทำธุรกิจ รับลูกค้าเป็ากรุ๊ปเล็กมาขึ้น ทั้งนักท่องเที่ยวจีนและนักท่องเที่ยวตลาดอื่นๆ ด้วย โดยหากเป็นกรุ๊ปใหญ่ที่จะดึงดูดให้เข้ามามากขึ้น จะเน้นไปที่กลุ่มท่องเที่ยวเชิงประชุมสัมมนา (ไมซ์) และท่องเที่ยวเป็นรางวัล (อินเซนทีฟ) แทน เพราะมีการเข้ามาพร้อมกันในจำนวนที่เยอะมาก และมีศักยภาพในการใช้จ่ายสูง โดยการกระตุ้นตลาดจีนในส่วนของแอตต้า เพื่อแก้ไขปัญหาจำนวนนักท่องเที่ยวจีนชะลอตัว วางแผนไว้คือ ช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ จะเดินทางไปโรดโชว์ที่ 3 เมืองของจีน โดยนำผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จำนวน 100 ราย พบปะผู้ประกอบการจีนกว่า 400 ราย เพื่อเจรจาธุรกิจระหว่างกัน ซึ่งจะจัดอย่างยิ่งใหญ่มากขึ้น เพื่อให้เห็นผลเชิงบวกที่รวดเร็วกว่าเดิม
.
นายธนพล กล่าวว่า ในภาพรวมตลาดจีนเที่ยวไทยปี 2568 ก็ยังหวังให้ถึง 8 ล้านคนตามเป้าหมายของรัฐบาล แต่เป็นไปได้ยาก ซึ่งจะต้องกระตุ้นตลาดแรงๆ อย่างต่อเนื่อง เพราะขณะนี้หมดไตรมาส 1 แล้ว มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวไทยเพียง 1.2 ล้านคนเท่านั้น แม้นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปหารือร่วมกับ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน แต่ก็ช่วยด้านความเชื่อมั่นเพียงระดับหนึ่งเท่านั้น ซึ่งความจริงแล้วจะต้องหารือกับผู้ประกอบการจีน เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นในประเทศไทย เมื่อยังไม่มีการหารือกันจึงยังไม่มีอะไรกระเตื้องขึ้นเช่นกัน
.
“สิ่งที่ภาคเอกชนต้องการจากรัฐบาลในขณะนี้คือ การสนับสนุนด้านงบประมาณในการทำตลาดจากภาครัฐ เพราะรัฐบาลไม่ค่อยมีงบประมาณเข้ามาสนับสนุนเอกชน รวมถึงงบประมาณในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ มากขึ้น ซึ่งยังไม่เห็นแผนงานว่าจะทำอะไรบ้างอย่างชัดเจน อาทิ การเดินทางไปโรดโชว์ที่จีน 3 เมือง จะใช้งบประมาณอยู่ 6 ล้านบาทต่อครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่รัฐบาลไม่ได้ช่วยสนับสนุนส่วนนี้ ทั้งที่ผู้ประกอบการออกไปต่างประเทศเพื่อดึงความเชื่อมั่นในภาคท่องเที่ยวกลับมา จึงอยากให้รัฐบาลมองว่า การออกไปโรดโชว์เพื่อทำตลาดต่างชาติถือเป็นการสร้างนายได้ให้ประเทศไทย ไม่ใช่เพียงสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการเองเท่านั้น” นายธนพล กล่าว
.
นายธนพล กล่าวว่า การเข้ารับตำแหน่งในครั้งนี้ วางแผนการทำงานเบื้องต้นไว้คือ จะสานต่องานที่สมาคมฯ ทำมาก่อนหน้าตั้งแต่เกิดโควิด-19 ระบาดเข้ามาส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว จนหลังโควิดผ่านไปก็มีการกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยสิ่งที่จะทำมากขึ้นคือ สมาคมฯ ในส่วนกลางจะเข้าไปหารือร่วมกับคณะกรรมจากภูมิภาคในแต่ละจังหวัด ดึงเข้ามาทำงานร่วมกับส่วนกลางมากขึ้น เพื่อให้เข้าใจถึงกายภาพและศักยภาพของแต่ละพื้นที่อย่างแท้จริง กระจายนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติลงไปมากขึ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่