‘ภูมิแพ้ผิวหนัง’ มากกว่าผื่นคัน ต้องรีบรักษา

อาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และพบได้บ่อย แต่บางกรณีอาการอาจรุนแรงจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้เช่นกัน
อาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และพบได้บ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนที่มีพันธุกรรมหรือมีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ชนิดอื่นๆ

คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล บอกเล่าเกร็ดความรู้เกี่ยวกับอาการของโรคดังกล่าว สาเหตุ และสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม รวมถึงแนวทางการรักษาและการดูแลตัวเอง

โรคภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) หรือเรียกกันว่า “โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง” เป็นโรคที่เกิดจากความไวของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายที่ตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ ทำให้เกิดการอักเสบของผิวหนัง มีลักษณะเป็นผื่นคัน แดง ผิวแห้ง ตกสะเก็ด ผื่นอักเสบจะขี้นตามบริเวณจำเพาะกับช่วงอายุ เช่น ข้อพับแขน ข้อพับเข่า หรือบริเวณหน้าและลำคอ ทั้งนี้อาการอาจรุนแรงจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ ทั้งนี้โรคผิวหนังไม่ใช่โรคติดต่อ แต่ถ้าหากเป็นแล้วจะเป็นยาวและเรื้อรัง

สาเหตุโรคภูมิแพ้ผิวหนัง

@ พันธุกรรม  หากมีสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้ชนิดใดชนิดหนึ่ง เช่น แพ้อากาศ หรือแพ้อาหาร มีโอกาสสูงที่ลูกจะเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังได้

@ สารก่อภูมิแพ้  ฝุ่นไรในบ้าน ขนสัตว์ ละอองเกสรดอกไม้ สารเคมีในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผงซักฟอก หรือน้ำหอม ล้วนเป็นปัจจัยที่สามารถกระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองผิวและกระตุ้นให้โรคกำเริบได้ ทั้งนี้ความจำเพาะขึ้นกับแต่ละบุคคล

@ สภาพอากาศ  อากาศแห้งหรืออากาศเย็นจัดอาจทำให้ผิวแห้ง และทำให้เกิดผื่นคัน ขณะที่สภาพอากาศร้อนชื้นอาจกระตุ้นการอักเสบได้ หากไม่รักษาความสะอาดอย่างเหมาะสม

@ ผิวไม่แข็งแรง  ผิวหนังขาดสารให้ความชุ่มชื้น ปกป้องสารระคายเคืองและเชื้อโรคไม่ได้

อาการโรคภูมิแพ้ผิวหนัง ตามช่วงวัย

-ช่วงวัย 2 เดือน ถึง 2 ปี ผิวหนังอักเสบ แดง บริเวณใบหน้า ลำตัว และแขนขาด้านนอก

-ช่วงอายุ 2 ปีขึ้นไป อาการอักเสบบริเวณข้อพับ ซอกคอ และหน้า

-ช่วงวัยรุ่นและผู้ใหญ่ ผิวหนังอักเสบบริเวณข้อพับ ข้อมือ ฝ่ามือ และหน้า


การวินิจฉัยโรคภูมิแพ้ผิวหนัง

การวินิจฉัยโรคภูมิแพ้ผิวหนังจะอาศัยการตรวจร่างกายและการซักประวัติเป็นหลัก โดยแพทย์จะสอบถามประวัติอาการ อาหารหรือสิ่งแวดล้อมที่อาจกระตุ้นอาการ รวมถึงประวัติคนในครอบครัว หากจำเป็นอาจมีการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ เช่น การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง หรือการตรวจเลือดเพื่อยืนยันสาเหตุและสารก่อภูมิแพ้ที่เกี่ยวข้องในรายที่มีอาการรุนแรง

วิธีป้องกันโรคภูมิแพ้ผิวหนัง

1.ดูแลผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ ใช้ครีมบำรุงผิวหรือโลชั่นหลังอาบน้ำทันทีเพื่อป้องกันผิวแห้ง

2.หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ ทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ ปิดหน้าต่างในช่วงที่มีฝุ่นหรือละอองเกสรสูง และหลีกเลี่ยงการเลี้ยงสัตว์ที่มีขนยาว

3.เลือกเสื้อผ้าและผ้าปูที่นอนที่เหมาะสม ใช้เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายและผ้าปูที่นอนที่ผ่านการซักทำความสะอาด หลีกเลี่ยงผ้าขนสัตว์หรือผ้าสังเคราะห์ที่ระคายเคืองผิว

4.ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในห้อง

5.ไม่อาบน้ำอุ่น

6.อาบน้ำวันละ 2 ครั้ง แทนการเช็ดตัว


วิธีการรักษาโรคภูมิแพ้ผิวหนัง

วิธีการรักษาโรคนี้จะเน้นไปที่การบรรเทาอาการคัน ลดการอักเสบ และป้องกันไม่ให้อาการลุกลามหรือกลับมาเป็นซ้ำ โดยทั่วไป การรักษาประกอบด้วยการใช้ยาร่วมกับการปรับพฤติกรรมและสภาพแวดล้อม ดังนี้

1.อาบน้ำวันละ 2 ครั้ง แทนการเช็ดตัว

2.หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น

3.หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผิวแห้ง

4.ทาสารเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

5.ใช้ยาสเตียรอยด์ชนิดทาร่วมด้วยถ้ามีผื่นอักเสบ

หากมีอาการรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

โรคภูมิแพ้ผิวหนังเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และอาจเกิดซ้ำๆ หากไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง อาการเด่น ได้แก่ ผื่นแดง คัน ผิวแห้ง ซึ่งมักส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในระยะยาว หากสังเกตว่าตัวเองหรือคนใกล้ชิดมีสัญญาณดังกล่าว ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม

นอกจากนี้ การหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น การดูแลผิวให้ชุ่มชื้น และการปรับสิ่งแวดล้อมรอบตัวจะช่วยลดความรุนแรงและป้องกันการกำเริบของโรคได้ดีที่สุด

การหมั่นใส่ใจสุขภาพผิวอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้สามารถป้องกันและรับมือกับโรคภูมิแพ้ผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม การดูแลความสะอาดในบ้าน หรือการปรับพฤติกรรมต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยง ทั้งหมดนี้ล้วนช่วยให้คุณมีผิวสุขภาพดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น...

สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/4545797/

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่