เวลาที่จะซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ มีปัญหาเหล่านี้กันไหม มีงบอยู่ในใจแล้ว แต่จะซื้อคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือ โน้ตบุ๊ก แล้วสเปคละ ต้องเลือกแบบใหน ซีพียูต้องความเร็วเท่าไหร่ หน่วยความจำรองรับการเก็บข้อมูล ที่ 4, 8, 16, หรือจะเอา 32 แล้วบัสละ ประเภทจะเลือก DDR4 หรือ DDR5 อ้าวต้องใช้การ์ดจอออนบอร์ด หรือ การ์จอแยกดีละ อีกคำถามมากมายที่จะช่วยประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์
มาดูประเภทของคอมพิวเตอร์กัน
การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์นั้นเริ่มต้นจากการเข้าใจประเภทต่างๆ ที่มีอยู่ในตลาด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น ในที่นี้จะพูดถึงคอมพิวเตอร์ประเภทต่างๆ ได้แก่ คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ประกอบ เพื่อให้ผู้อ่านที่อยู่ระหว่างตัดสินใจ และหาข้อมูลได้รู้จักและสามารถเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการ

- เริ่มจากคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานบนโต๊ะ มักจะตั้งอยู่บนโต๊ะทำงาน มีข้อดีคือสามารถอัปเกรดและปรับแต่งในด้านฮาร์ดแวร์ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มการ์ดจอหรือหน่วยความจำ และมักจะมีความสามารถในการประมวลผลที่สูงกว่าในราคาที่เท่ากันเมื่อเปรียบเทียบกับโน้ตบุ๊ก

- ถัดมาคือโน้ตบุ๊ก ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์พกพาที่มักจะมีน้ำหนักเบาและขนาดเล็ก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานในหลายสถานที่ โน้ตบุ๊กมีคุณสมบัติที่หลากหลาย ตั้งแต่สำหรับการใช้งานทั่วไป จนถึงโน้ตบุ๊กสำหรับการเล่นเกมและงานกราฟิกที่ต้องการพลังประมวลผลสูง
- แท็บเล็ต เป็นอีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ด้วยความสะดวกสบายในการใช้งานที่มีหน้าจอสัมผัสและน้ำหนักเบา แท็บเล็ตเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเรียบง่ายในการอ่านเอกสารหรือดูวิดีโอ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือการใช้งานแท็บเล็ตที่สามารถทำงานได้ร่วมกับแอปพลิเคชันต่างๆ
- สุดท้ายคือคอมพิวเตอร์ประกอบ ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกชิ้นส่วนต่างๆ มา assemble ด้วยตนเองทำให้สามารถเลือกสเปกที่ตรงตามความต้องการและงบประมาณ คอมพิวเตอร์ประกอบมักจะได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีและต้องการประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน เช่น การเล่นเกมหรือการทำงานด้านกราฟิกที่ต้องใช้การประมวลผลมากๆ
คุณสมบัติหลักที่ต้องพิจารณา
การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ มีคุณสมบัติหลักหลายประการที่ผู้ซื้อควรพิจารณาอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าคอมพิวเตอร์ที่เลือกสามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในที่นี้จะกล่าวถึงคุณสมบัติต่าง ๆ ได้แก่ ชิปเซ็ต, ประสิทธิภาพของ CPU, ความจุของ RAM, ระบบเก็บข้อมูล (HDD/SSD), และการ์ดจอ
- ชิปเซ็ตเป็นชิ้นส่วนพื้นฐานที่เชื่อมต่อส่วนอื่น ๆ ของคอมพิวเตอร์ ชิปเซ็ตที่ดีจะช่วยให้งานต่าง ๆ ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ดังนั้นควรเลือกชิปเซ็ตที่เหมาะกับการใช้งานของท่าน หากท่านต้องการเล่นเกมหรือทำการตัดต่อวิดีโอ ควรเลือกชิปเซ็ตที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

- ต่อมาเป็น CPU ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการประมวลผลข้อมูล มีหลายรุ่นและความสามารถให้เลือก ขึ้นอยู่กับว่าท่านต้องการประสิทธิภาพตามประเภทของการใช้งานหรือไม่ ตัวอย่างเช่น การเลือก CPU ที่มีแกนหลายตัวสำหรับการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน จะช่วยเพิ่มความเร็วในการทำงานอย่างมาก ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีในการผลิตซีพียูให้มีจำนวนแกนเยอะๆ ที่สามารถประมวณผลข้อมูลได้ไว แล้วยังมีการพัฒนา L3 cache ในการทำงานร่วมของแกนซีพียู เพื่อประสิทธภาพสูงสุดอีกด้วย

- ความจุของ RAM ก็เป็นสิ่งสำคัญ การมี RAM ที่เพียงพอจะช่วยให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างราบรื่น แต่การเลือก RAM จะต้องคำนึงถึงวิธีการใช้งานด้วย หากใช้ในการเล่นเกม ควรพิจารณา RAM ที่มีความจุสูง ปัจจุบันแนะนำความจุไม่น้อยกว่า 8G สามารถใช้งานในออฟฟิศ งานทั่วไปได้สบาย ส่วนถ้าจะใช้งานหนักๆ งานด้านกราฟฟิก งานออกแบบ งานพรีเซนเทชั่น ก็อาจจะเลือก RAM ไม่น้อยกว่า 16 หรือ 32G
- ระบบเก็บข้อมูลเป็นที่รู้จักกันดีระหว่าง HDD (Hard Disk Drive) และ SSD (Solid State Drive) โดย SSD จะมีประสิทธิภาพที่รวดเร็วและทำงานเงียบกว่า HDD แต่ราคาอาจสูงกว่า หรือต้องใช้พื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่า ในขณะที่ HDD มีราคาถูกและมีความจุมาก แต่การเข้าถึงข้อมูลจะช้า เลือก SSD เพื่อเริ่มต้นระบบปฏิบัติการ แล้วใช้ HDD เพื่อการจัดเก็บข้อมูลก็ได้ เป็นทางเลือกที่นิยมใช้กัน
- สุดท้ายการ์ดจอเป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบที่สำคัญสำหรับผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับกราฟฟิก ตัดต่อวิดีโอ งานด้านออกแบบ 2D, 3D งานเขียนแบบ กราฟแสดงผม หรือท่านที่ต้องการประสบการณ์การเล่นเกมที่ดี หากท่านชอบเล่นเกมหนักๆ การมีการ์ดจอที่มีประสิทธิภาพสูงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเลือกการ์ดจอที่เหมาะสมกับความต้องการของท่าน
การพิจารณาคุณสมบัติหลักเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ซื้อคอมพิวเตอร์สามารถตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น และให้ใช้งานได้ตรงตามลักษณะการใช้งานที่ต้องการ
งบประมาณในการซื้อ
การตั้งงบประมาณเป็นขั้นตอนสำคัญในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ ซึ่งควรพิจารณาจากปัจจัยหลายประการที่มีผลกระทบต่อราคา โดยเริ่มจากการวิเคราะห์ความต้องการใช้งาน เพื่อให้สามารถเลือกคอมพิวเตอร์ที่ตรงกับความต้องการได้ในราคาที่เหมาะสม
แบรนด์ของคอมพิวเตอร์เป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อราคา ข้อดีของการเลือกแบรนด์ที่เป็นที่รู้กันคือการันตีคุณภาพและการบริการหลังการขายที่ดี แต่แบรนด์ดังๆ มักมีราคาที่สูงกว่าคอมพิวเตอร์ที่ผลิตโดยแบรนด์ใหม่ หรือที่ไม่เป็นที่รู้จัก ส่วนในด้านฟีเจอร์เสริม เช่น หน่วยประมวลผล, ขนาด RAM, และการ์ดจอ ต่างก็มีส่วนสำคัญในการกำหนดราคา
อีกสิ่งที่ควรคำนึงถึงคือการรับประกัน หากสินค้าไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติในช่วงระยะเวลาที่กำหนด การมีการรับประกันที่ดี จะทำให้ใช้งานคอมพิวเตอร์ได้อย่างสบายใจ ข้อแตกต่างในระยะเวลาและเงื่อนไขการรับประกันสามารถส่งผลต่อค่าใช้จ่าย ระยะรับประกัน 1 ปี หรือ 3 ปี เพิ่มเงินไม่เท่ากัน
การตั้งงบประมาณจึงไม่เพียงแต่พิจารณาจากตัวเลขที่มีอยู่ในกระเป๋าเงินจริง แต่ยังควรคำนึงถึงความคุ้มค่าของการลงทุนในคอมพิวเตอร์ที่มีคุณภาพและความสามารถในการรองรับการใช้งานในอนาคต การเปรียบเทียบราคาในตลาดและการตรวจสอบประสิทธิภาพ และฟีเจอร์ต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ที่ต้องการ ก็เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ
การเลือกซื้อตามการใช้งาน
การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์นั้นเป็นกระบวนการที่ต้องพิจารณาหลายปัจจัย ซึ่งการพิจารณาประเภทการใช้งานที่เหมาะสมถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกคอมพิวเตอร์ที่ตรงตามความต้องการของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การท่องเว็บ การจัดการเอกสาร หรือการใช้งานซอฟต์แวร์สำนักงาน คอมพิวเตอร์ที่มีสเปคพื้นฐาน อาทิเช่น ซีพียูระดับกลาง แรม 8GB และฮาร์ดดิสก์ SSD ขนาดไม่ต่ำกว่า 256GB จะเพียงพอในการรองรับการใช้งานเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ

- หากผู้ใช้มีความสนใจในด้านการเล่นเกม คอมพิวเตอร์ที่เลือกจำเป็นต้องมีการ์ดจอที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น การ์ดจอระดับกลางถึงสูง อาทิเช่น NVIDIA GeForce GTX 1660 หรือ RTX 3060 เพื่อรองรับกราฟิกที่ต้องการในเกมทันสมัย นอกจากนี้ ความจุของแรมควรอยู่ที่ 16GB ขึ้นไปเพื่อให้การเล่นเกมไม่มีสะดุด
- สำหรับผู้ที่มีความต้องการในด้านการตัดต่อวิดีโอหรือการทำงานกราฟิก คอมพิวเตอร์ที่เลือกควรมีสเปคที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะซีพียูที่มีแกนประมวลผลมาก เช่น Intel Core i7 หรือ AMD Ryzen 7 และแรมไม่ต่ำกว่า 16GB เพื่อให้การประมวลผลวิดีโอทำได้อย่างราบรื่น
การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ตามประเภทการใช้งานจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ หากมีการวางแผนที่ดี ผู้ใช้งานจะสามารถเลือกคอมพิวเตอร์ที่ตอบโจทย์ทางด้านประสิทธิภาพและคุณภาพได้อย่างถูกต้อง
การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ สิ่งที่ควรคำนึงมีอะไรบ้าง
มาดูประเภทของคอมพิวเตอร์กัน
การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์นั้นเริ่มต้นจากการเข้าใจประเภทต่างๆ ที่มีอยู่ในตลาด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น ในที่นี้จะพูดถึงคอมพิวเตอร์ประเภทต่างๆ ได้แก่ คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ประกอบ เพื่อให้ผู้อ่านที่อยู่ระหว่างตัดสินใจ และหาข้อมูลได้รู้จักและสามารถเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการ
- เริ่มจากคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานบนโต๊ะ มักจะตั้งอยู่บนโต๊ะทำงาน มีข้อดีคือสามารถอัปเกรดและปรับแต่งในด้านฮาร์ดแวร์ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มการ์ดจอหรือหน่วยความจำ และมักจะมีความสามารถในการประมวลผลที่สูงกว่าในราคาที่เท่ากันเมื่อเปรียบเทียบกับโน้ตบุ๊ก
- ถัดมาคือโน้ตบุ๊ก ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์พกพาที่มักจะมีน้ำหนักเบาและขนาดเล็ก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานในหลายสถานที่ โน้ตบุ๊กมีคุณสมบัติที่หลากหลาย ตั้งแต่สำหรับการใช้งานทั่วไป จนถึงโน้ตบุ๊กสำหรับการเล่นเกมและงานกราฟิกที่ต้องการพลังประมวลผลสูง
- แท็บเล็ต เป็นอีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ด้วยความสะดวกสบายในการใช้งานที่มีหน้าจอสัมผัสและน้ำหนักเบา แท็บเล็ตเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเรียบง่ายในการอ่านเอกสารหรือดูวิดีโอ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือการใช้งานแท็บเล็ตที่สามารถทำงานได้ร่วมกับแอปพลิเคชันต่างๆ
- สุดท้ายคือคอมพิวเตอร์ประกอบ ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกชิ้นส่วนต่างๆ มา assemble ด้วยตนเองทำให้สามารถเลือกสเปกที่ตรงตามความต้องการและงบประมาณ คอมพิวเตอร์ประกอบมักจะได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีและต้องการประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน เช่น การเล่นเกมหรือการทำงานด้านกราฟิกที่ต้องใช้การประมวลผลมากๆ
คุณสมบัติหลักที่ต้องพิจารณา
การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ มีคุณสมบัติหลักหลายประการที่ผู้ซื้อควรพิจารณาอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าคอมพิวเตอร์ที่เลือกสามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในที่นี้จะกล่าวถึงคุณสมบัติต่าง ๆ ได้แก่ ชิปเซ็ต, ประสิทธิภาพของ CPU, ความจุของ RAM, ระบบเก็บข้อมูล (HDD/SSD), และการ์ดจอ
- ชิปเซ็ตเป็นชิ้นส่วนพื้นฐานที่เชื่อมต่อส่วนอื่น ๆ ของคอมพิวเตอร์ ชิปเซ็ตที่ดีจะช่วยให้งานต่าง ๆ ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ดังนั้นควรเลือกชิปเซ็ตที่เหมาะกับการใช้งานของท่าน หากท่านต้องการเล่นเกมหรือทำการตัดต่อวิดีโอ ควรเลือกชิปเซ็ตที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
- ต่อมาเป็น CPU ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการประมวลผลข้อมูล มีหลายรุ่นและความสามารถให้เลือก ขึ้นอยู่กับว่าท่านต้องการประสิทธิภาพตามประเภทของการใช้งานหรือไม่ ตัวอย่างเช่น การเลือก CPU ที่มีแกนหลายตัวสำหรับการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน จะช่วยเพิ่มความเร็วในการทำงานอย่างมาก ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีในการผลิตซีพียูให้มีจำนวนแกนเยอะๆ ที่สามารถประมวณผลข้อมูลได้ไว แล้วยังมีการพัฒนา L3 cache ในการทำงานร่วมของแกนซีพียู เพื่อประสิทธภาพสูงสุดอีกด้วย
- ความจุของ RAM ก็เป็นสิ่งสำคัญ การมี RAM ที่เพียงพอจะช่วยให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างราบรื่น แต่การเลือก RAM จะต้องคำนึงถึงวิธีการใช้งานด้วย หากใช้ในการเล่นเกม ควรพิจารณา RAM ที่มีความจุสูง ปัจจุบันแนะนำความจุไม่น้อยกว่า 8G สามารถใช้งานในออฟฟิศ งานทั่วไปได้สบาย ส่วนถ้าจะใช้งานหนักๆ งานด้านกราฟฟิก งานออกแบบ งานพรีเซนเทชั่น ก็อาจจะเลือก RAM ไม่น้อยกว่า 16 หรือ 32G
- ระบบเก็บข้อมูลเป็นที่รู้จักกันดีระหว่าง HDD (Hard Disk Drive) และ SSD (Solid State Drive) โดย SSD จะมีประสิทธิภาพที่รวดเร็วและทำงานเงียบกว่า HDD แต่ราคาอาจสูงกว่า หรือต้องใช้พื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่า ในขณะที่ HDD มีราคาถูกและมีความจุมาก แต่การเข้าถึงข้อมูลจะช้า เลือก SSD เพื่อเริ่มต้นระบบปฏิบัติการ แล้วใช้ HDD เพื่อการจัดเก็บข้อมูลก็ได้ เป็นทางเลือกที่นิยมใช้กัน
- สุดท้ายการ์ดจอเป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบที่สำคัญสำหรับผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับกราฟฟิก ตัดต่อวิดีโอ งานด้านออกแบบ 2D, 3D งานเขียนแบบ กราฟแสดงผม หรือท่านที่ต้องการประสบการณ์การเล่นเกมที่ดี หากท่านชอบเล่นเกมหนักๆ การมีการ์ดจอที่มีประสิทธิภาพสูงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเลือกการ์ดจอที่เหมาะสมกับความต้องการของท่าน
การพิจารณาคุณสมบัติหลักเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ซื้อคอมพิวเตอร์สามารถตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น และให้ใช้งานได้ตรงตามลักษณะการใช้งานที่ต้องการ
งบประมาณในการซื้อ
การตั้งงบประมาณเป็นขั้นตอนสำคัญในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ ซึ่งควรพิจารณาจากปัจจัยหลายประการที่มีผลกระทบต่อราคา โดยเริ่มจากการวิเคราะห์ความต้องการใช้งาน เพื่อให้สามารถเลือกคอมพิวเตอร์ที่ตรงกับความต้องการได้ในราคาที่เหมาะสม
แบรนด์ของคอมพิวเตอร์เป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อราคา ข้อดีของการเลือกแบรนด์ที่เป็นที่รู้กันคือการันตีคุณภาพและการบริการหลังการขายที่ดี แต่แบรนด์ดังๆ มักมีราคาที่สูงกว่าคอมพิวเตอร์ที่ผลิตโดยแบรนด์ใหม่ หรือที่ไม่เป็นที่รู้จัก ส่วนในด้านฟีเจอร์เสริม เช่น หน่วยประมวลผล, ขนาด RAM, และการ์ดจอ ต่างก็มีส่วนสำคัญในการกำหนดราคา
อีกสิ่งที่ควรคำนึงถึงคือการรับประกัน หากสินค้าไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติในช่วงระยะเวลาที่กำหนด การมีการรับประกันที่ดี จะทำให้ใช้งานคอมพิวเตอร์ได้อย่างสบายใจ ข้อแตกต่างในระยะเวลาและเงื่อนไขการรับประกันสามารถส่งผลต่อค่าใช้จ่าย ระยะรับประกัน 1 ปี หรือ 3 ปี เพิ่มเงินไม่เท่ากัน
การตั้งงบประมาณจึงไม่เพียงแต่พิจารณาจากตัวเลขที่มีอยู่ในกระเป๋าเงินจริง แต่ยังควรคำนึงถึงความคุ้มค่าของการลงทุนในคอมพิวเตอร์ที่มีคุณภาพและความสามารถในการรองรับการใช้งานในอนาคต การเปรียบเทียบราคาในตลาดและการตรวจสอบประสิทธิภาพ และฟีเจอร์ต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ที่ต้องการ ก็เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ
การเลือกซื้อตามการใช้งาน
การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์นั้นเป็นกระบวนการที่ต้องพิจารณาหลายปัจจัย ซึ่งการพิจารณาประเภทการใช้งานที่เหมาะสมถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกคอมพิวเตอร์ที่ตรงตามความต้องการของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การท่องเว็บ การจัดการเอกสาร หรือการใช้งานซอฟต์แวร์สำนักงาน คอมพิวเตอร์ที่มีสเปคพื้นฐาน อาทิเช่น ซีพียูระดับกลาง แรม 8GB และฮาร์ดดิสก์ SSD ขนาดไม่ต่ำกว่า 256GB จะเพียงพอในการรองรับการใช้งานเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ
- หากผู้ใช้มีความสนใจในด้านการเล่นเกม คอมพิวเตอร์ที่เลือกจำเป็นต้องมีการ์ดจอที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น การ์ดจอระดับกลางถึงสูง อาทิเช่น NVIDIA GeForce GTX 1660 หรือ RTX 3060 เพื่อรองรับกราฟิกที่ต้องการในเกมทันสมัย นอกจากนี้ ความจุของแรมควรอยู่ที่ 16GB ขึ้นไปเพื่อให้การเล่นเกมไม่มีสะดุด
- สำหรับผู้ที่มีความต้องการในด้านการตัดต่อวิดีโอหรือการทำงานกราฟิก คอมพิวเตอร์ที่เลือกควรมีสเปคที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะซีพียูที่มีแกนประมวลผลมาก เช่น Intel Core i7 หรือ AMD Ryzen 7 และแรมไม่ต่ำกว่า 16GB เพื่อให้การประมวลผลวิดีโอทำได้อย่างราบรื่น
การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ตามประเภทการใช้งานจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ หากมีการวางแผนที่ดี ผู้ใช้งานจะสามารถเลือกคอมพิวเตอร์ที่ตอบโจทย์ทางด้านประสิทธิภาพและคุณภาพได้อย่างถูกต้อง