เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา Bigscreen ได้มีการเปิดตัว Bigscreen Beyond 2 ซึ่งห่างจากรุ่นแรกที่เปิดตัวเมื่อกุมภาพันธ์ 2023 ประมาณ 2 ปี
โดยมี 3 สีให้เลือกคือ Carbon Black, Crystal Clear และ Nuclear Orange
สำหรับ Beyond 2 นั้น มี FOV แนวแทยง (diagonal) 116° และมีความคมชัดกว่ารุ่นก่อน
เพื่อให้สามารถแชร์การใช้งาน Beyond 2 กับผู้อื่นได้ Beyond 2 จึงออกแบบให้สามารถปรับ IPD ได้ในรูปแบบแมนนวล
โดยเป็นการปรับต่อข้าง (Per-Eye IPD Adjustment) เพื่อจะได้ปรับค่าระยะห่างระหว่างสายตาให้เหมาะสมกับแต่ละผู้ใช้
Beyond 2 มาพร้อมกับสายรัด Halo ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Tactical Night vision goggle ช่วยให้สวมใส่ได้สบาย ไม่มีแรงกดกดทับที่ใบหน้า
ทุกกรัมมีความหมาย (Every Gram mattters) เพื่อให้ BSB2 มีน้ำหนักที่เบาลงไปได้อีก จากรุ่นแรกที่หนัก 127 กรัม เหลือเพียง 107 กรัม
(น้ำหนัก 127 กรัมไม่รวม headstrap น้ำหนักรวม Headstap อยู่ที่ 155 กรัม) ทุก ๆ อย่างจึงต้องถูกตัดสินใจอย่างรอบคอบ
และเพื่อตอบสนองต่อกลุ่มผู้ใช้งาน VR สำหรับ Social เช่น VRchat จึงมีรุ่นที่ใส่ Eye Tracking มาด้วย
โดยใช้เทคโนโลยี Eye Tracking ที่เล็กที่สุดในโลกใส่เข้ามา
ช่วงก่อนหน้านี้ มี VR Headset เปิดตัวหลาย Brand เช่น
Immersed Visor
Samsung Project Moohan
Pimax Dream Air
Shiftall MeganeX Superlight 8K
แต่ Brand เหล่านั้นหลังการเปิดตัวไม่ได้วางจำหน่ายทันที แต่สำหรับ Beyond 2 หลังจากที่เปิดตัว ก็ประกาศวางจำหน่ายทันที
โดยรุ่นปรกติ Beyond 2 ราคาอยู่ที่ $1019 เริ่มส่งของเมษายนและรุ่น Beyond2e ซึ่งมี Eye Tracking ราคา $1219 เริ่มส่งของเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป
เปิดตัว Bigscreen Beyond 2 VR Headset น้ำหนัก 107 กรัม
โดยมี 3 สีให้เลือกคือ Carbon Black, Crystal Clear และ Nuclear Orange
สำหรับ Beyond 2 นั้น มี FOV แนวแทยง (diagonal) 116° และมีความคมชัดกว่ารุ่นก่อน
เพื่อให้สามารถแชร์การใช้งาน Beyond 2 กับผู้อื่นได้ Beyond 2 จึงออกแบบให้สามารถปรับ IPD ได้ในรูปแบบแมนนวล
โดยเป็นการปรับต่อข้าง (Per-Eye IPD Adjustment) เพื่อจะได้ปรับค่าระยะห่างระหว่างสายตาให้เหมาะสมกับแต่ละผู้ใช้
Beyond 2 มาพร้อมกับสายรัด Halo ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Tactical Night vision goggle ช่วยให้สวมใส่ได้สบาย ไม่มีแรงกดกดทับที่ใบหน้า
ทุกกรัมมีความหมาย (Every Gram mattters) เพื่อให้ BSB2 มีน้ำหนักที่เบาลงไปได้อีก จากรุ่นแรกที่หนัก 127 กรัม เหลือเพียง 107 กรัม
(น้ำหนัก 127 กรัมไม่รวม headstrap น้ำหนักรวม Headstap อยู่ที่ 155 กรัม) ทุก ๆ อย่างจึงต้องถูกตัดสินใจอย่างรอบคอบ
และเพื่อตอบสนองต่อกลุ่มผู้ใช้งาน VR สำหรับ Social เช่น VRchat จึงมีรุ่นที่ใส่ Eye Tracking มาด้วย
โดยใช้เทคโนโลยี Eye Tracking ที่เล็กที่สุดในโลกใส่เข้ามา
ช่วงก่อนหน้านี้ มี VR Headset เปิดตัวหลาย Brand เช่น
Immersed Visor
Samsung Project Moohan
Shiftall MeganeX Superlight 8K
แต่ Brand เหล่านั้นหลังการเปิดตัวไม่ได้วางจำหน่ายทันที แต่สำหรับ Beyond 2 หลังจากที่เปิดตัว ก็ประกาศวางจำหน่ายทันที
โดยรุ่นปรกติ Beyond 2 ราคาอยู่ที่ $1019 เริ่มส่งของเมษายนและรุ่น Beyond2e ซึ่งมี Eye Tracking ราคา $1219 เริ่มส่งของเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป