พิพัฒน์ เล็งประกาศ ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท บางอาชีพ 1 พ.ค.นี้ ลั่นถ้าขึ้นทั่วประเทศ ส่อตกงาน 1.9 ล้านคน ต้องหารือผู้ประกอบการก่อน
เมื่อเวลา 19.05 น. วันที่ 25 มี.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการดำเนินการนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท หลังถูกฝ่ายค้านอภิปรายพาดพิง ว่า กระทรวงแรงงานไม่นิ่งนอนใจ โดยปลัดกระทรวงฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการค่าจ้าง กำลังจะเรียกประชุมครั้งต่อไป ก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อหาแนวทางการพิจารณาการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทครั้งต่อไป ให้ทันในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ซึ่งตรงกับวันแรงงานแห่งชาติ
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า หากประกาศทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศก็จะส่งผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย หรือเอสเอ็มอี ซึ่งมีกว่า 5 แสนราย ลูกจ้างประมาณ 5,800,000 คน ฉะนั้น หากมีการประกาศขึ้นค่าแรงอย่างพร้อมเพรียงกัน จำเป็นต้องมีการวิเคราะห์ และหารือกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกจังหวัดก่อน
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่านโยบายนี้ กระทรวงแรงงานไม่นิ่งนอนใจ แต่การจะดำเนินการต้องรอบคอบ เพราะหากเกิดความเสียหาย และกระทรวงแรงงานไม่สามารถรับผิดชอบได้ เช่น หากมีการประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอย่างเท่าเทียม อาจจะมีลูกจ้างบริษัทเอสเอ็มอีหายไปกว่า 30% จาก 5.8 ล้าน หรือจะหายไปประมาณ 1.9 ล้านราย ทั้งนี้ การดำเนินการทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี กระทรวงแรงงานก็พยายามผลักดันแรงงานให้ GDP โตตามเป้า 3%
เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรให้การขึ้นค่าแรงสัมพันธ์กับการเติบโตของ GDP 3% นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เราตั้งเป้าจะทำให้ถึง GDP 3% แต่หากวิเคราะห์แล้วไม่ถึง เราก็จะเลือกในบางสาขา ซึ่งตนได้ให้นโยบายปลัดกระทรวงไปแล้วว่า วันแรงงานจะต้องมีการประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในบางสาขา โดยที่ผู้ประกอบการไม่ได้รับผลกระทบ ดังนั้น การหาข้อมูลต่างๆ เราจะต้องพิจารณาอย่างละเอียด
ที่มา/อ่านข่าวต้นฉบับที่:
https://www.khaosod.co.th/politics/news_9689918
พิพัฒน์ ลั่นถ้าขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ทุกสาขาอาชีพ ส่อตกงาน 1.9 ล้านคน
พิพัฒน์ เล็งประกาศ ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท บางอาชีพ 1 พ.ค.นี้ ลั่นถ้าขึ้นทั่วประเทศ ส่อตกงาน 1.9 ล้านคน ต้องหารือผู้ประกอบการก่อน
เมื่อเวลา 19.05 น. วันที่ 25 มี.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการดำเนินการนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท หลังถูกฝ่ายค้านอภิปรายพาดพิง ว่า กระทรวงแรงงานไม่นิ่งนอนใจ โดยปลัดกระทรวงฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการค่าจ้าง กำลังจะเรียกประชุมครั้งต่อไป ก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อหาแนวทางการพิจารณาการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทครั้งต่อไป ให้ทันในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ซึ่งตรงกับวันแรงงานแห่งชาติ
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า หากประกาศทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศก็จะส่งผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย หรือเอสเอ็มอี ซึ่งมีกว่า 5 แสนราย ลูกจ้างประมาณ 5,800,000 คน ฉะนั้น หากมีการประกาศขึ้นค่าแรงอย่างพร้อมเพรียงกัน จำเป็นต้องมีการวิเคราะห์ และหารือกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกจังหวัดก่อน
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่านโยบายนี้ กระทรวงแรงงานไม่นิ่งนอนใจ แต่การจะดำเนินการต้องรอบคอบ เพราะหากเกิดความเสียหาย และกระทรวงแรงงานไม่สามารถรับผิดชอบได้ เช่น หากมีการประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอย่างเท่าเทียม อาจจะมีลูกจ้างบริษัทเอสเอ็มอีหายไปกว่า 30% จาก 5.8 ล้าน หรือจะหายไปประมาณ 1.9 ล้านราย ทั้งนี้ การดำเนินการทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี กระทรวงแรงงานก็พยายามผลักดันแรงงานให้ GDP โตตามเป้า 3%
เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรให้การขึ้นค่าแรงสัมพันธ์กับการเติบโตของ GDP 3% นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เราตั้งเป้าจะทำให้ถึง GDP 3% แต่หากวิเคราะห์แล้วไม่ถึง เราก็จะเลือกในบางสาขา ซึ่งตนได้ให้นโยบายปลัดกระทรวงไปแล้วว่า วันแรงงานจะต้องมีการประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในบางสาขา โดยที่ผู้ประกอบการไม่ได้รับผลกระทบ ดังนั้น การหาข้อมูลต่างๆ เราจะต้องพิจารณาอย่างละเอียด
ที่มา/อ่านข่าวต้นฉบับที่:https://www.khaosod.co.th/politics/news_9689918