คะแนน IMDb ปัจจุบัน: 8.6/10
กำกับโดย: Joaquim Dos Santos, Kemp Powers, Justin K. Thompson
พากย์เสียงโดย: Shameik Moore, Hailee Steinfeld, Oscar Isaac
🎬
เรื่องย่อ
ภาคต่อของแอนิเมชันสุดปัง
Into the Spider-Verse (2018) กลับมาอีกครั้งกับ
Miles Morales เด็กหนุ่มผู้รับหน้าที่เป็น Spider-Man ในจักรวาลของตนเอง หลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก เขายังคงต้องจัดการกับชีวิตวัยรุ่น, การเป็นฮีโร่ และครอบครัว
ทว่าเรื่องราวได้พลิกผันเมื่อเขากลับมาเจอกับ
Gwen Stacy และถูกดึงเข้าไปสู่ “Spider-Society” กลุ่มของสไปเดอร์แมนจากหลากหลายจักรวาลที่นำโดย
Miguel O’Hara (Spider-Man 2099) ซึ่งมีภารกิจในการรักษา “เส้นเรื่องหลัก” (
canon) ของแต่ละจักรวาลไม่ให้พังทลาย
แต่เมื่อ Miles ค้นพบว่าชะตากรรมของคนใกล้ตัวเขาอาจต้องสูญเสียเพื่อรักษาเส้นเรื่องนั้นไว้ เขาตัดสินใจขัดขืน และนั่นทำให้สไปเดอร์เวิร์สทั้งระบบเริ่มสั่นคลอน...
🎞️
รีวิวหลังรับชม
✅
จุดเด่นของภาพยนตร์
แอนิเมชันที่ล้ำยุค สวยงาม และสร้างสรรค์ระดับขึ้นหิ้ง
Across the Spider-Verse พาผู้ชมดิ่งลึกไปในจักรวาลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ละฉากคือ "ภาพวาดมีชีวิต" ที่ผสมผสานหลากหลายสไตล์อย่างลงตัว ทั้ง 2D, 3D, สีสเปรย์, โทนสีน้ำ ฯลฯ
เนื้อเรื่องที่เข้มข้น และซับซ้อนกว่าภาคแรก
หนังมีธีมหลักคือ "การเลือก" และ "การต่อต้านโชคชะตา" ซึ่งทำให้ตัวละครของ Miles เติบโตขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมทั้งตั้งคำถามใหญ่ ๆ เกี่ยวกับความเป็นฮีโร่
ตัวละครใหม่ที่น่าจดจำ
Miguel O’Hara / Spider-Man 2099 เป็นตัวละครที่มีความเทา มีภาระหนักอึ้ง
Spider-Punk (Hobie Brown) เท่มากกกก มีเสน่ห์เฉพาะตัว
The Spot วายร้ายที่เริ่มจากดูตลก ๆ แต่ค่อย ๆ พัฒนาไปสู่ความน่ากลัวแบบไม่รู้ตัว
บทสนทนาและดนตรีที่ร่วมสมัย
เพลงประกอบยังคงเท่ มีเอกลักษณ์เหมือนภาคแรก และช่วยส่งอารมณ์ให้กับหนังได้ดีมาก ๆ
ตอนจบที่ “หักมุม” และทิ้งให้คุณอยากดูภาคต่อทันที
นี่คือภาคกลางของไตรภาคที่ปูทางสู่
Beyond the Spider-Verse ได้อย่างยอดเยี่ยม และค้างคาอย่างมีชั้นเชิง
❌
จุดที่อาจเป็นข้อเสีย
เนื้อเรื่องเข้มข้น อาจซับซ้อนสำหรับผู้ชมบางกลุ่ม
หนังเล่าหลายจักรวาล หลายเส้นเรื่อง และมีศัพท์เฉพาะค่อนข้างเยอะ คนที่ไม่คุ้นกับ Spider-Verse อาจรู้สึกตามไม่ทันเล็กน้อย
หนังจบแบบ “พาร์ท 1” ที่ทำให้คนบางส่วนรู้สึกไม่พอใจ
เพราะยังไม่คลี่คลายอะไรชัดเจน ผู้ชมบางกลุ่มที่ไม่รู้ว่ามีภาคต่ออาจรู้สึกว่า “ยังไม่สุด”
🏆
สรุป
"Spider-Man: Across the Spider-Verse" คือหนึ่งในแอนิเมชันที่ดีที่สุดในรอบหลายปี — ทั้งด้านภาพ เนื้อหา และอารมณ์ หนังเต็มไปด้วยหัวใจของความเป็น “สไปเดอร์แมน” อย่างแท้จริง พร้อมทั้งผลักดัน Miles Morales ให้กลายเป็นหนึ่งใน Spider-Man ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ใคร
นี่คือหนังที่ไม่ได้แค่ “ดูสนุก” แต่ยัง “มีอะไรให้คิด” และ “มีอะไรให้ทึ่ง” อย่างแท้จริง
คะแนน: 9/10 ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐
รีวิวภาพยนตร์ "Spider-Man: Across the Spider-Verse" (2023) – เมื่อจักรวาลมีมากกว่าหนึ่งสไปดี้ และทุกทางเลือกมีผลลัพธ
คะแนน IMDb ปัจจุบัน: 8.6/10
กำกับโดย: Joaquim Dos Santos, Kemp Powers, Justin K. Thompson
พากย์เสียงโดย: Shameik Moore, Hailee Steinfeld, Oscar Isaac
🎬 เรื่องย่อ
ภาคต่อของแอนิเมชันสุดปัง Into the Spider-Verse (2018) กลับมาอีกครั้งกับ Miles Morales เด็กหนุ่มผู้รับหน้าที่เป็น Spider-Man ในจักรวาลของตนเอง หลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก เขายังคงต้องจัดการกับชีวิตวัยรุ่น, การเป็นฮีโร่ และครอบครัว
ทว่าเรื่องราวได้พลิกผันเมื่อเขากลับมาเจอกับ Gwen Stacy และถูกดึงเข้าไปสู่ “Spider-Society” กลุ่มของสไปเดอร์แมนจากหลากหลายจักรวาลที่นำโดย Miguel O’Hara (Spider-Man 2099) ซึ่งมีภารกิจในการรักษา “เส้นเรื่องหลัก” (canon) ของแต่ละจักรวาลไม่ให้พังทลาย
แต่เมื่อ Miles ค้นพบว่าชะตากรรมของคนใกล้ตัวเขาอาจต้องสูญเสียเพื่อรักษาเส้นเรื่องนั้นไว้ เขาตัดสินใจขัดขืน และนั่นทำให้สไปเดอร์เวิร์สทั้งระบบเริ่มสั่นคลอน...
🎞️ รีวิวหลังรับชม
✅ จุดเด่นของภาพยนตร์
แอนิเมชันที่ล้ำยุค สวยงาม และสร้างสรรค์ระดับขึ้นหิ้ง
Across the Spider-Verse พาผู้ชมดิ่งลึกไปในจักรวาลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ละฉากคือ "ภาพวาดมีชีวิต" ที่ผสมผสานหลากหลายสไตล์อย่างลงตัว ทั้ง 2D, 3D, สีสเปรย์, โทนสีน้ำ ฯลฯ
เนื้อเรื่องที่เข้มข้น และซับซ้อนกว่าภาคแรก
หนังมีธีมหลักคือ "การเลือก" และ "การต่อต้านโชคชะตา" ซึ่งทำให้ตัวละครของ Miles เติบโตขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมทั้งตั้งคำถามใหญ่ ๆ เกี่ยวกับความเป็นฮีโร่
ตัวละครใหม่ที่น่าจดจำ
Miguel O’Hara / Spider-Man 2099 เป็นตัวละครที่มีความเทา มีภาระหนักอึ้ง
Spider-Punk (Hobie Brown) เท่มากกกก มีเสน่ห์เฉพาะตัว
The Spot วายร้ายที่เริ่มจากดูตลก ๆ แต่ค่อย ๆ พัฒนาไปสู่ความน่ากลัวแบบไม่รู้ตัว
บทสนทนาและดนตรีที่ร่วมสมัย
เพลงประกอบยังคงเท่ มีเอกลักษณ์เหมือนภาคแรก และช่วยส่งอารมณ์ให้กับหนังได้ดีมาก ๆ
ตอนจบที่ “หักมุม” และทิ้งให้คุณอยากดูภาคต่อทันที
นี่คือภาคกลางของไตรภาคที่ปูทางสู่ Beyond the Spider-Verse ได้อย่างยอดเยี่ยม และค้างคาอย่างมีชั้นเชิง
❌ จุดที่อาจเป็นข้อเสีย
เนื้อเรื่องเข้มข้น อาจซับซ้อนสำหรับผู้ชมบางกลุ่ม
หนังเล่าหลายจักรวาล หลายเส้นเรื่อง และมีศัพท์เฉพาะค่อนข้างเยอะ คนที่ไม่คุ้นกับ Spider-Verse อาจรู้สึกตามไม่ทันเล็กน้อย
หนังจบแบบ “พาร์ท 1” ที่ทำให้คนบางส่วนรู้สึกไม่พอใจ
เพราะยังไม่คลี่คลายอะไรชัดเจน ผู้ชมบางกลุ่มที่ไม่รู้ว่ามีภาคต่ออาจรู้สึกว่า “ยังไม่สุด”
🏆 สรุป
"Spider-Man: Across the Spider-Verse" คือหนึ่งในแอนิเมชันที่ดีที่สุดในรอบหลายปี — ทั้งด้านภาพ เนื้อหา และอารมณ์ หนังเต็มไปด้วยหัวใจของความเป็น “สไปเดอร์แมน” อย่างแท้จริง พร้อมทั้งผลักดัน Miles Morales ให้กลายเป็นหนึ่งใน Spider-Man ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ใคร
นี่คือหนังที่ไม่ได้แค่ “ดูสนุก” แต่ยัง “มีอะไรให้คิด” และ “มีอะไรให้ทึ่ง” อย่างแท้จริง
คะแนน: 9/10 ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐