Spider-Man: Across the Spider-Verse: จักรวาลแมงมุมไม่สิ้นสุด การผจญภัยสุดตระการตาที่ยกระดับความยอดเยี่ยมไปอีกขั้น



เรื่องย่อ
"Spider-Man: Across the Spider-Verse" เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันซูเปอร์ฮีโร่ ออกฉายในปี 2023 เป็นภาคต่อของ "Spider-Man: Into the Spider-Verse" ที่เคยคว้ารางวัลออสการ์มาแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงพาผู้ชมดำดิ่งสู่โลกของ Miles Morales (พากย์เสียงโดย Shameik Moore) หรือ Spider-Man แห่งจักรวาล 1610 ที่กำลังใช้ชีวิตในฐานะซูเปอร์ฮีโร่และวัยรุ่นธรรมดาอย่างสมดุล แต่ก็ยังคงคิดถึงเพื่อนๆ จากจักรวาลอื่นอยู่เสมอ
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ Gwen Stacy (พากย์เสียงโดย Hailee Steinfeld) หรือ Spider-Gwen กลับมาปรากฏตัวในจักรวาลของ Miles ทำให้เขาได้เข้าสู่การผจญภัยครั้งใหม่ที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน Miles และ Gwen ต้องเดินทางข้ามพหุจักรวาล และได้พบกับ Spider-Society ซึ่งเป็นองค์กรลับขนาดใหญ่ที่รวบรวม Spider-People จากจักรวาลต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน นำโดย Miguel O'Hara (พากย์เสียงโดย Oscar Isaac) หรือ Spider-Man 2099 ผู้มีภารกิจในการปกป้องความเป็นระเบียบของพหุจักรวาล และดูแล "เหตุการณ์สำคัญ" (Canon Events) ที่จะต้องเกิดขึ้นในทุกจักรวาลของ Spider-Man เพื่อรักษาสมดุลของความเป็นจริง
แต่เมื่อ Miles ค้นพบว่า "เหตุการณ์สำคัญ" บางอย่างนั้นอาจจะหมายถึงโศกนาฏกรรมที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้สำหรับตัวตนของ Spider-Man และอาจส่งผลกระทบต่อคนที่เขารัก เขาจึงต้องเลือกข้าง ระหว่างการทำตามกฎของ Spider-Society หรือการสร้างเส้นทางของตัวเอง การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้ Miles ต้องปะทะกับ Miguel และ Spider-People คนอื่นๆ และนำไปสู่การผจญภัยไล่ล่าข้ามจักรวาลที่เต็มไปด้วยความระทึก ความขัดแย้ง และการค้นหาความหมายของการเป็น Spider-Man ที่แท้จริง
ความรู้สึกหลังรับชม
"Spider-Man: Across the Spider-Verse" เป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมและยกระดับมาตรฐานของภาพยนตร์แอนิเมชันไปอีกขั้น งานภาพแอนิเมชันนั้นน่าทึ่งและสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัด แต่ละจักรวาลที่ Miles เดินทางไปเยือนมีสไตล์ภาพที่เป็นเอกลักษณ์และสวยงาม ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังดูงานศิลปะเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา การผสมผสานเทคนิคแอนิเมชันหลากหลายรูปแบบเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว สร้างประสบการณ์การรับชมที่ตระการตาและไม่เหมือนใคร
เนื้อเรื่องมีความซับซ้อน ลึกซึ้ง และเต็มไปด้วยอารมณ์ ตัวละคร Miles Morales มีพัฒนาการที่น่าติดตาม เขาต้องเผชิญหน้ากับความกดดัน ความคาดหวัง และการตัดสินใจที่ยากลำบากที่กระทบต่อตัวตนของเขาเอง ความสัมพันธ์ระหว่าง Miles กับ Gwen และครอบครัวของเขาถูกนำเสนอได้อย่างอบอุ่นและเข้าถึงใจ บทภาพยนตร์ฉลาดและเต็มไปด้วยบทสนทนาที่คมคาย มุกตลกที่ยอดเยี่ยม และการอ้างอิงถึง Spider-Man ในรูปแบบต่างๆ ที่ทำให้แฟนๆ ต้องยิ้ม
ฉากแอ็คชั่นนั้นออกแบบมาได้อย่างน่าตื่นเต้นและสร้างสรรค์ การไล่ล่าข้ามจักรวาลเต็มไปด้วยความวุ่นวายที่งดงาม และการใช้พลังของ Spider-Man ในแบบที่หลากหลาย ทำให้ภาพยนตร์มีชีวิตชีวาตลอดเวลา นอกจากนี้ เพลงประกอบก็ยอดเยี่ยมและเข้ากับฉากต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
แม้ภาพยนตร์จะจบลงด้วยตอนจบที่ค้างคา (เนื่องจากเป็นภาคแรกจากสองภาค) แต่ก็เป็นตอนจบที่สร้างความตื่นเต้นและทำให้รอคอยภาคต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ "Across the Spider-Verse" ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ธรรมดา แต่เป็นการสำรวจแนวคิดเรื่องโชคชะตา การเสียสละ และความหมายของการเป็นวีรบุรุษได้อย่างลึกซึ้ง

คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes ปัจจุบัน
IMDb: 8.6/10
Rotten Tomatoes: คะแนนจากนักวิจารณ์ 95% , คะแนนจากผู้ชม 95%

สรุป
"Spider-Man: Across the Spider-Verse" คือภาพยนตร์แอนิเมชันที่โดดเด่นและเป็นผลงานชิ้นเอกที่ต้องจารึกไว้ ด้วยงานภาพที่ปฏิวัติวงการ เนื้อเรื่องที่ซับซ้อนและเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ บทบาทของตัวละครที่น่าจดจำ และฉากแอ็คชั่นสุดอลังการ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่สานต่อความสำเร็จจากภาคแรกได้อย่างน่าประทับใจ แต่ยังยกระดับมาตรฐานของภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่และแอนิเมชันไปอีกขั้น ด้วยคะแนนวิจารณ์และคะแนนจากผู้ชมที่สูงลิ่ว "Across the Spider-Verse" คือภาพยนตร์ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงสำหรับทั้งแฟน Spider-Man และผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะแอนิเมชันที่สร้างสรรค์.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่