เคิร์สตี้ โคเวนทรี ได้รับเลือกเป็นประธานคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ (International Olympic Committee President) คนที่ 10 ต่อจาก โทมัสบัค ซึ่งกำลังจะหมดวาระ โคเวนทรี่นับเป็นประธานหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ ด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์จากผู้สมัครชิงตำแหน่งทั้ง 7 คน ในการลงคะแนนครั้งนี้มีผู้ลงคะแนนเสียงทั้งสิ้น 97 เสียงโดยมีรายละเอียดคะแนนเสียงดังต่อไปนี้
- เจ้าชายไฟซาล อัล ฮุสเซน ได้ 2 เสียง
- เดวิด แลปปาร์เตียนต์ ได้ 4 เสียง
- โยฮัน เอเลียช ได้ 2 เสียง
- ฮวน อันโตนิโอ ซามารานซ์ ได้ 28 เสียง
- ลอร์ดเซบาสเตียน โค ได้ 8 เสียง
- โมรินาริ วาตานาเบะ ได้ 4 เสียง
- เคิร์สตี้ โคเวนทรี ได้ 49 เสียง
จากการลงคะแนนเสียงรอบเดียว ในการประชุม IOC Session ครั้งที่ 144 คอสตานาวาริโน ประเทศกรีซ ในวันที่ 20 มีนาคม 2568
"ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติและตื่นเต้นอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกเป็นประธานคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ ขอขอบคุณสมาชิกทุกคนจากใจจริงสำหรับความไว้วางใจและการสนับสนุนในครั้งนี้ จากเยาวชนที่เริ่มว่ายน้ำในซิมบับเวเมื่อหลายปีก่อน ข้าพเจ้าไม่เคยฝันถึงช่วงเวลานี้เลย
ดิฉันภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นประธานสตรีคนแรกของคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ และยังเป็นคนแรกจากแอฟริกาด้วย ฉันหวังว่าการลงคะแนนครั้งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆคน วันนี้เพดานกระจกแตกสลายไปแล้ว (ผมคิดว่าหมายถึง “ข้อจำกัดหรืออุปสรรคที่ไม่สามารถมองเห็นได้ เช่น เพศ ค่านิยม หรือสถานะทางสังคม) และดิฉันตระหนักดีถึงความรับผิดชอบในฐานะแบบอย่างที่ดี
กีฬาเป็นสิ่งที่มีพลังพิเศษในการเชื่อมโยงและรวมผู้คน สร้างแรงบันดาลใจ และสร้างโอกาสให้กับทุกคน และฉันมุ่งมั่นที่จะทำให้แน่ใจว่าเราจะใช้พลังนั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดร่วมกับครอบครัวโอลิมปิกทั้งหมด รวมถึงนักกีฬา ผู้ติดตาม และผู้สนับสนุนต่อเรา เราจะสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งด้วยนวัตกรรม และสนับสนุนค่านิยมของมิตรภาพ ความเป็นเลิศ และความเคารพ (ค่านิยมโอลิมปิก 3 ประการ) อนาคตของยุทธศาสตร์โอลิมปิกนั้นสดใส และฉันแทบรอไม่ไหวที่จะเริ่มต้น”
คำกล่าวสุนทรพจน์ของ เคิร์สตี้ โคเวนทรี หลังได้รับเลือกตั้ง
เคิร์สตี้ โคเวนทรี เป็นนักกีฬาว่ายน้ำที่เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกถึง 5 ครั้ง ตั้งแต่ ซิดนีย์ 2000 จนถึง ริโอเดอจาเนโร 2016 และประสบความสำเร็จอย่างมากในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ โดยคว้าเหรียญทองโอลิมปิก ในเอเธนส์ 2004 และ โอลิมปิก ปักกิ่ง 2008 เธอเข้าร่วมและมีบทบาทในคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติครั้งแรกในตำแหน่ง สมาชิกคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ หรือ IOC Memberครั้งแรก ในปี 2013 และก้าวสู่ตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติซิมบับเว (ZNOC) และดำรงตำแหน่งสำคัญคือ กรรมการบริหารคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ(EB) และดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการนักกีฬา (Athletes’ Commission) ประวัติด้านการบริหารกีฬามีมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นปรากฏการณ์สำคัญอีกครั้งคือ เธอเป็นสมาชิกคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติที่มาจากคณะกรรมาธิการนักกีฬา และเป็นนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิกเหมือนกับโทมัสบัค เป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญในหลักการของคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ “Put Athletes at The Heart of The Olympic Movement” นักกีฬาคือหัวใจของยุทธศาสตร์โอลิมปิก
ปล. วันเริ่มต้นการทำงานในวาระของ เคิร์สตี้ โคเวนทรี จะเริ่มขึ้นในวันที่ 23 มิถุนายน ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งในวันที่ 23 มิถุนายนของทุกปีคือ "วันโอลิมปิก Olympic Day" วันที่เรามีประธานคณะกรรมการโอลิมปิกคนแรก ซึ่งเป็นชาวกรีก ช่างเป็นปรากฏการณ์ที่น่าทึ่งจริงๆ
Kirsty Coventry ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ คนที่ 10
เคิร์สตี้ โคเวนทรี ได้รับเลือกเป็นประธานคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ (International Olympic Committee President) คนที่ 10 ต่อจาก โทมัสบัค ซึ่งกำลังจะหมดวาระ โคเวนทรี่นับเป็นประธานหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ ด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์จากผู้สมัครชิงตำแหน่งทั้ง 7 คน ในการลงคะแนนครั้งนี้มีผู้ลงคะแนนเสียงทั้งสิ้น 97 เสียงโดยมีรายละเอียดคะแนนเสียงดังต่อไปนี้
- เจ้าชายไฟซาล อัล ฮุสเซน ได้ 2 เสียง
- เดวิด แลปปาร์เตียนต์ ได้ 4 เสียง
- โยฮัน เอเลียช ได้ 2 เสียง
- ฮวน อันโตนิโอ ซามารานซ์ ได้ 28 เสียง
- ลอร์ดเซบาสเตียน โค ได้ 8 เสียง
- โมรินาริ วาตานาเบะ ได้ 4 เสียง
- เคิร์สตี้ โคเวนทรี ได้ 49 เสียง
จากการลงคะแนนเสียงรอบเดียว ในการประชุม IOC Session ครั้งที่ 144 คอสตานาวาริโน ประเทศกรีซ ในวันที่ 20 มีนาคม 2568
"ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติและตื่นเต้นอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกเป็นประธานคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ ขอขอบคุณสมาชิกทุกคนจากใจจริงสำหรับความไว้วางใจและการสนับสนุนในครั้งนี้ จากเยาวชนที่เริ่มว่ายน้ำในซิมบับเวเมื่อหลายปีก่อน ข้าพเจ้าไม่เคยฝันถึงช่วงเวลานี้เลย
ดิฉันภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นประธานสตรีคนแรกของคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ และยังเป็นคนแรกจากแอฟริกาด้วย ฉันหวังว่าการลงคะแนนครั้งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆคน วันนี้เพดานกระจกแตกสลายไปแล้ว (ผมคิดว่าหมายถึง “ข้อจำกัดหรืออุปสรรคที่ไม่สามารถมองเห็นได้ เช่น เพศ ค่านิยม หรือสถานะทางสังคม) และดิฉันตระหนักดีถึงความรับผิดชอบในฐานะแบบอย่างที่ดี
กีฬาเป็นสิ่งที่มีพลังพิเศษในการเชื่อมโยงและรวมผู้คน สร้างแรงบันดาลใจ และสร้างโอกาสให้กับทุกคน และฉันมุ่งมั่นที่จะทำให้แน่ใจว่าเราจะใช้พลังนั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดร่วมกับครอบครัวโอลิมปิกทั้งหมด รวมถึงนักกีฬา ผู้ติดตาม และผู้สนับสนุนต่อเรา เราจะสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งด้วยนวัตกรรม และสนับสนุนค่านิยมของมิตรภาพ ความเป็นเลิศ และความเคารพ (ค่านิยมโอลิมปิก 3 ประการ) อนาคตของยุทธศาสตร์โอลิมปิกนั้นสดใส และฉันแทบรอไม่ไหวที่จะเริ่มต้น”
คำกล่าวสุนทรพจน์ของ เคิร์สตี้ โคเวนทรี หลังได้รับเลือกตั้ง
เคิร์สตี้ โคเวนทรี เป็นนักกีฬาว่ายน้ำที่เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกถึง 5 ครั้ง ตั้งแต่ ซิดนีย์ 2000 จนถึง ริโอเดอจาเนโร 2016 และประสบความสำเร็จอย่างมากในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ โดยคว้าเหรียญทองโอลิมปิก ในเอเธนส์ 2004 และ โอลิมปิก ปักกิ่ง 2008 เธอเข้าร่วมและมีบทบาทในคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติครั้งแรกในตำแหน่ง สมาชิกคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ หรือ IOC Memberครั้งแรก ในปี 2013 และก้าวสู่ตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติซิมบับเว (ZNOC) และดำรงตำแหน่งสำคัญคือ กรรมการบริหารคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ(EB) และดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการนักกีฬา (Athletes’ Commission) ประวัติด้านการบริหารกีฬามีมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นปรากฏการณ์สำคัญอีกครั้งคือ เธอเป็นสมาชิกคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติที่มาจากคณะกรรมาธิการนักกีฬา และเป็นนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิกเหมือนกับโทมัสบัค เป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญในหลักการของคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ “Put Athletes at The Heart of The Olympic Movement” นักกีฬาคือหัวใจของยุทธศาสตร์โอลิมปิก
ปล. วันเริ่มต้นการทำงานในวาระของ เคิร์สตี้ โคเวนทรี จะเริ่มขึ้นในวันที่ 23 มิถุนายน ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งในวันที่ 23 มิถุนายนของทุกปีคือ "วันโอลิมปิก Olympic Day" วันที่เรามีประธานคณะกรรมการโอลิมปิกคนแรก ซึ่งเป็นชาวกรีก ช่างเป็นปรากฏการณ์ที่น่าทึ่งจริงๆ