หมูประท้วงของเดนมาร์ก

.

.
.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
.
Danish Protest Pig
.
.

หมูพันธุ์นี้มีขนสีน้ำตาลแดง
ลายทางสีขาวที่โดดเด่น
อาจดูไม่น่าสนใจนัก
แต่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19
พวกมันได้กลายเป็นสัญลักษณ์
การประท้วงในหมู่ชาวนาเดนมาร์ก
.
.

.
.

กินเวลานานมากแล้วที่
Duchies of Schleswig and Holstein
เป็นศูนย์กลางของข้อพิพาทที่ยาวนาน
พื้นที่เหล่านี้อยู่ระหว่างเดนมาร์ก
และชาวบ้านที่พูดภาษาเยอรมัน
และไม่มีรัฐใดสามารถตัดสินใจได้ว่า
ใครควรปกครองทั้งสองภูมิภาค
Schleswig มีความผูกพันกับเดนมาร์ก
ในแง่ชุมชน/ประวัติศาสตร์
ในขณะที่ Holstein เป็นส่วนหนึ่งของ
จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
ที่ชาวบ้านพูดภาษาเยอรมัน
(นักรบเยอรมันเคยยึดกรุงโรมเป็นเมืองขึ้น
และมีอำนาจครอบงำพระสันตปาปา)

เมื่อเวลาผ่านไป
ภูมิภาคทั้งสองก็ถูกปกครองร่วมกัน
แม้ว่าทางเทคนิคแล้ว จะเป็นพื้นที่ประเทศ
ที่แตกต่างกันด้านภาษาและวัฒนธรรม

ในปี ค.ศ. 1460
เขตที่ดินของ Schleswig กับ Holstein
ได้ประกาศผ่านสนธิสัญญา Treaty of Ribe
ทั้งสองดินแดนควรคงอยู่ด้วยกันตลอดไป
ไม่ควรแบ่งแยกออกเป็นสองดินแดน
แม้ว่าจะยังคงมีความจงรักภักดี
ในเรื่องภาษาวัฒนธรรมแยกจากกันก็ตาม
Schleswig  อยู่กับเดนมาร์ก
ส่วน Holstein อยู่กับปรัสเซีย(เยอรมัน)
.
.

.
.

ในช่วงศตวรรษที่ 17 และ 18
เดนมาร์กพยายามหลายครั้ง
ที่จะผนวก Schleswig
จึงเกิดความตึงเครียดกับจักรวรรดิ์เยอรมัน
หลังจากสงครามนโปเลียน Napoleonic Wars
Holstein ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ
สมาพันธรัฐเยอรมัน อย่างเป็นทางการ
ทำให้ความสัมพันธ์กับเดนมาร์ก
ซึ่งยังคงควบคุมทั้ง Schleswig กับ Holstein
เกิดความตึงเครียดขัดแย้งมากยิ่งขึ้น
.
.

เมื่อถึงศตวรรษที่ 19
ลัทธิชาตินิยมที่เติบโตขึ้น
ทำให้เกิดความแตกแยกที่รุนแรงขึ้น
ระหว่างผู้ที่ระบุว่าตนเองเป็นชาวเดนมาร์ก
และผู้ที่มองว่าตนเองเป็นชาวเยอรมัน
ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นนี้
ถึงจุดสูงสุด/ต้องห้ำหั่นกันในสงคราม
First Schleswig War (ค.ศ. 1848–1851)

สงครามครั้งสุดท้าย คือ
Second Schleswig War (ค.ศ. 1864)
ซึ่งเดนมาร์กประสบความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่
ที่เมือง Dybbøl กับ Als

สงครามสิ้นสุดลงด้วยสนธิสัญญา
Treaty of Vienna (ค.ศ. 1864)
ซึ่งเดนมาร์กต้องยกเมือง
Schleswig Holstein และ Lauenburg
ให้แก่ราชอาณาจักรปรัสเซีย

(ต่อมา ออสเตรีย-ฮังการี ร่วมมือกับ ปรัสเซีย
ทำให้ชาวเยอรมันยิ่งใหญ่มาก
ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1
ก่อนถูกอังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา
สลายขั้วอำนาจจนแตกสลายเป็นหลายชาติ)

ปรัสเซียเข้ายึดครองดินแดนของเดนมาร์ก
อย่างรวดเร็วและบังคับใช้กฎหมาย
ที่เข้มงวดกดขี่หลายต่อหลายฉบับ
เพื่อปราบปราม/ทำลายเอกลักษณ์เดนมาร์ก
รวมถึงการห้ามแสดง ธงชาติเดนมาร์ก
.
.
.
First Schleswig War (ค.ศ. 1848–1851)
.

.
.
Second Schleswig War (ค.ศ. 1864)
.

.

.
.
Treaty of Vienna (ค.ศ. 1864)
.

.

.
.
Dannebrog
.

.
.
.

ตามตำนานท้องถิ่นเล่าว่า
เพื่อประท้วงต่อข้อจำกัดเหล่านี้
พวกชาวนาเดนมาร์กที่ถูกแยกดินแดน
ได้เริ่มคัดเลือกพันธุ์หมูโดยใช้สายพันธุ์ เช่น
Angeln Saddleback และ Tamworth
เป้าหมายของพวกชาวนา คือ
การผสมพันธุ๋ข้ามสายพันธุ์หมู
ที่มีลักษณะลำตัวเหมือนธงชาติ
จากพวกชาวนารักชาติอย่างลึกซึ้ง
นั่นก็คือ หมูตัวสีแดงที่มีแถบแนวตั้งสีขาว

แม้ว่าพวกชาวนาจะไม่สามารถ
เลียนแบบแถบแนวนอนได้
แต่พวกชาวนาก็ประสบความสำเร็จ
ในการสร้างสายพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ซึ่งกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของ
การท้าทายอำนาจปรัสเซีย (เรื่องธงชาติ)
อย่างเงียบๆ ในเชิงวัฒนธรรม
ชาวเดนมาร์กเริ่มเฉลิมฉลองหมูตัวนี้ในฐานะ
หมูประท้วงเดนมาร์ก
หรือ Husumer Protestschwein

.
.

.

.

.

.

.
.

ในปี ค.ศ. 1954
หมูสายพันธุ์นี้ได้รับการยอมรับ
อย่างเป็นทางการภายใต้ชื่อ
Husum Red Pied (Husumer Rotbunte)

การปรากฏตัวครั้งสุดท้ายที่ทราบ คือ
หมูตัวเมียกับลูกหมูในงานแสดงเกษตรกรรม
เกิดขึ้นที่เมือง Rendsburg ในปี 1968
หลังจากนั้น เชื่อกันว่า
หมูสายพันธุ์นี้ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว
.
.

.
.


อย่างไรก็ตาม ในปี 1984
หมูสีแดงที่มีลักษณะตรงกับ
หมูฮูซัมเรดไพด์ Husum Red Pied
ได้ปรากฏตัวอีกครั้งในกรุงเบอร์ลิน

ปัจจุบัน หมูหายากเหล่านี้
เหลือรอดอยู่ไม่ถึง 140 ตัว
โดยส่วนใหญ่อยู่ในสวนสัตว์
Berlin Zoological Garden, Hanover Zoo
Tierpark Arche Warder ใกล้กับ Kiel
ใน ZOOM Erlebniswelt Gelsenkirchen
ใน Dalmsdorf (Mecklenburg),
Hof Lütjensee,  Archehof Blumencron
The Dortmund Zoo และ Tierpark Krüzen

รัฐ Schleswig-Holstein ในเยอรมัน
ประกาศรับรองว่าเป็นสัตว์คุ้มครอง
สถานะสิ่งที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม

หมู Husumer Red Pied
ตัวผู้สูง 92 ซม. น้ำหนัก 350 กก.
ตัวเมียสูง 85 ซม. น้ำหนัก 300 กก.
เป็นหมูสีแดงที่มีแถบสีขาว
หรือส่วนที่คล้ายอานม้าคาดอยู่
โดยส่วนที่เป็นสีขาวนี้รวมถึงขาหน้าด้วย
ดังนั้น ส่วนหัว คอ สะโพก บั้นท้าย เป็นสีแดง

หมูสายพันธุ์นี้
น่าจะมีอัตราแลกเเนื้อต่ำ
ทำให้ไม่นิยมเลี้ยงกัน
เพราะป้อนอาหารเข้าไปแล้ว
เปลี่ยนเป็นเนื้อออกมาน้อยกว่า
ต้นทุนอาหารที่ป้อนให้พวกมันกิน
แบบยิ่งเลี้ยงยิ่งจน ยิ่งขาดทุน
.

เรียบเรียง/ที่มา

Danish Protest Pig
.
.
เรื่องเล่าไร้สาระ

ในปึ พ.ศ.2495
การประท้วงรัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม
มึบทกวีแสดงนัยการประท้วงคือ
ถ้าขาดโดม เจ้าพระยา ท่าพระจันทร์
ก็ขาดสัญลักษณ์พิทักษ์ธรรม

นายเปลื้อง วรรณศรี เป็นผู้แต่ง
บทกวี โดม…ผู้พิทักษ์ธรรม
เพื่อสะท้อนการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ
ของนักศึกษาในการทวงคืนพื้นที่
มหาวิทยาลัยที่ถูกยึดเป็นค่ายทหาร
ในปี 2494 หลังกบฏแมนฮัตตันของทหารเรือ
โดยมีข่าวว่า นายปรีดี พนมยงค์ เป็นแกนนำ

ท่านถูกจับกุมในคดี กบฏสันติภาพ
ปี 2495 และติดคุก 3 ปี
เป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ปิตุภูมิ
ที่เสนอแนวคิดเพื่อเอกราชและประชาธิปไตย
ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. สุรินทร์ในปี 2500
ถูกจับอีกครั้งหลังรัฐประหาร 2501
ในข้อหาเป็นคอมมิวนิสต์ และติดคุก 8 ปี
หลบหนีเข้าป่าและลี้ภัยการเมืองในจีน
ได้รับรางวัลผู้ทำคุณประโยชน์ดีเด่น
ในทางวรรณกรรมจากมูลนิธิเสฐียรโกเศศ
-นาคะประทีปในปี 2539
บทกวีได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 100 เล่ม
หนังสือดีที่คนไทยควรอ่าน

ท่านหัวใจวายตายที่นครคุนหมิง จีน
วันที่ 28 มิถุนายน 2539 ขณะอายุ 74 ปี
ท่านเป็นผู้ที่ใช้ภาษาทั้งการเขียนและการพูด
เป็นอาวุธสำคัญในการเผยแพร่ความคิด
และอุดมคติเพื่อสังคมไทย

(คนละคนกับ นายผี อัศนี พลจันทร์
อดีตอัยการปัตตานี ที่ยกฟ้องคดีความมั่นคง
เลยถูกยัดเยียดความเป็นธรรม
จนต้องหนึเข้าป่าเป็นคอมมี่
ผู้แต่งเพลง เดือนเพ็ญ/คิดถึงบ้าน
เกิดปี 2461 เสียชีวิตปี 2530
ท่านอธิบายนามปากกาของตนว่า
นายผีหมายถึง เจ้านายของภูตผีทั้งหลาย
ไม่ใช่ผี (หลอก) อย่างที่หลายคนเข้าใจผิด)
.
.

หมายเหตุ

ทั่วโลกมีหมูหลากหลายสายพันธุ์
สายพันธุ์แท้ที่ได้รับการยอมรับมี 87 สายพันธุ์
ซึ่งกระจายอยู่ในยุโรปและอเมริกา
ชื่อวิทยาศาสตร์หลักของหมูคือ
Sus scrofa domesticus สำหรับหมูบ้าน
และ Sus scrofa สำหรับหมูป่า

ตัวอย่างสายพันธุ์ที่สำคัญ

ลาร์จไวท์ (Large White) จากอังกฤษ
สีขาว ลำตัวยาว เจริญเติบโตเร็ว

แลนด์เรซ (Landrace) จากเดนมาร์ก
สีขาว ลำตัวยาว เหมาะกับการผลิตเบคอน

ดูร็อกเจอร์ซี่ (Duroc Jersey) จากอเมริกา
สีแดง เติบโตเร็ว ทนถึกต่อสภาพแวดล้อม

เบอร์กเชียร์ (Berkshire) จากอังกฤษ
สีดำ มีจุดขาว แข็งแรง ให้เนื้อคุณภาพดี

เหมยซาน (Meishan) จากจีน
ให้ลูกดก แต่โตช้า
.
.

หมูที่นิยมเลี้ยงในไทยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก
คือ หมูพันธุ์พื้นเมือง และ หมูพันธุ์ต่างประเทศ
โดยพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ได้แก่

พันธุ์ต่างประเทศ

1.    ลาร์จไวท์ (Large White) อังกฤษ
ลักษณะเด่น สีขาวทั้งตัว  โตเร็ว ให้ลูกดก
เนื้อแดงมาก ไขมันน้อย  เหมาะกับเมืองไทย

2.    แลนด์เรซ (Landrace) เดนมาร์ก
ลักษณะเด่น ลำตัวยาว ซี่โครงมากกว่า 16 คู่
โตเร็ว เนื้อคุณภาพดี ให้ลูกดก นิยมเป็นแม่พันธุ์

3.    ดูร็อก (Duroc) สหรัฐอเมริกา
ลักษณะเด่น สีแดงเข้ม ลำตัวหนา สะโพกใหญ่
ทนต่อสภาพอากาศ เหมาะเป็นพ่อพันธุ์

4.    เปียเทรน (Pietrain) เบลเยียม
ลักษณะเด่น กล้ามเนื้อมัดเด่น เนื้อแดงสูง
แต่โตช้า ใช้ผสมข้ามสายพันธุ์

ลาร์จไวท์และแลนด์เรซ เป็นที่นิยมมากกว่า
เพราะโตเร็วและให้ผลผลิตสูง เหมาะกับตลาด
ในไทย หมูเหล่านี้ถูกพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์
เพื่อให้เหมาะสมกับการเลี้ยงในแต่ละพื้นที่
และมีวัตถุประสงค์ การผลิตเนื้อหรือเบคอน
.
.

พันธุ์พื้นเมือง

1.    ไหหลำ แถวบ้านเรียก หมูขี้พร้า
พบในภาคกลางและใต้ สีดำปนขาว
โตช้าแต่เลี้ยงง่าย ใช้อาหารบุฟเฟ่เลี้ยง
(เก็บจากที่ต่าง ๆ ต้มผสมรำ/หยวกให้กินได้)

ที่ตรังนิยมทำหมูย่างกินกัน จนมีวาทกรรม
เช้า ๆ กินหมู ทั้งวันทุกเรื่องราวจะได้หมู หมู

2.    ควาย
พบในภาคเหนือ สีดำ ขนาดใหญ่กว่าไหหลำ

3.    พวง
พบในภาคอีสาน สีดำ ผิวหยาบ มักใช้ผสมปรับปรุงพันธุ์
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่