[CR] [#Review] #หนังเก่าเล่าใหม่ The Babysitter & The Babysitter Killer Queen - รีวิวมัดรวบสองภาค ภาคแรกพอไหว ภาคสองอย่างรั่ว


🔪🔪🔪
ยอมรับว่าผมสับสนกับหนังชื่อเรื่องนี้พอสมควร เพราะมันจะมีหนังที่ชื่อเรื่องคล้ายกันและมีเส้นเรื่องคล้ายกันอยู่ซึ่งผมก็จำไม่ได้ว่าเคยดูรึเปล่า แล้วพอมาเห็นหนังเรื่องนี้ที่มีสองภาค ซึ่งยอมรับว่าจำไม่ได้ว่าเคบดูหรือยัง ที่อยากดูเพราะน้อง Samara Weaving เหตุผลเดียวเลย


🔪🔪🔪
ภาคแรก The Babysitter (2017)-   เรื่องราวของ โคล เด็กชายสุดเนิร์ดจอม Loser วัย 12 ปีที่มักจะโดนเพื่อนๆ ที่โรงเรียนกลั่นแกล้งอยู่เสมอ โดยปรกติเวลาที่พ่อ-แม่ของ โคล ไม่อยู่บ้าน พวกเขามักจะจ้าง บี สาววัยรุ่นสุดฮ็อตมาคอยเป็นพี่เลี้ยงและดูแล โคล ทั้งสองค่อนข้างที่จะสนิทกันมาก และที่สำคัญคือ โคล ยังแอบหลงรักพี่เลี้ยงสุดฮ็อตคนนี้อีกด้วย วันหนึ่งพ่อแม่ของ โคล มีธุระต้องไปที่อื่นเป็นเวลาหลายวัน พวกเขาจึงได้จ้างให้ บี มานอนค้างที่บ้านเพื่ออยู่ดูแล โคล เหมือนเช่นเคย แต่ครั้งนี้ บี ได้ชวนเพื่อนๆ ของเธอ มาปาร์ตี้สังสรรค์ที่บ้านด้วย และด้วยความอยากรู้อยากเห็น โคล ก็ตัดสินใจแอบดูการปาร์ตี้ของ บี และเพื่อนๆ และนั่นเองที่ทำให้ โคล ได้พบกับเรื่องราวอันสุดสยองเข้าให้


🔪🔪🔪
ภาคสอง The Babysitter Killer Queen (2020) - เรื่องราว 2 ปีต่อมาหลังจากจบเหตุการณ์ในภาคแรก เมื่อ โคล ต้องเผชิญกับผลกระทบทางด้านจิตใจอย่างหนัก เมื่อทุกคนไม่เชื่อว่าเหตุการณ์ฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในภาคแรกเป็นเรื่องจริง เพราะไม่มีการพบศพใครเลยสักศพตามคำให้การของ โคล ทุกคนเชื่อว่าเหตุการณ์ทุกอย่างเป็นเพียงภาพหลอนที่ โคล จินตนาการขึ้นมาเอง แต่มีเพียง เมลานี่ เพื่อนสาวข้างบ้านคนสนิทของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เชื่อว่าเหตุการณ์ที่ โคล เล่ามานั้นเป็นเรื่องจริง และเพื่อให้ โคล ผ่อนคลายจากการถูกกดดันจากสังคม เมลานี่ จึงได้ชวน โคล ไปเที่ยวออกแคมป์กับเพื่อนๆ นักศึกษาด้วยกัน และที่นั่นเองที่เหตุการณ์อันสุดสยองได้กลับมาหา โคล อีกครั้ง


🔪🔪🔪
หนังทั้งสองภาคเป็นหนังแนว Slasher ที่มีความเป็น Comedy เข้ามาเจือปนอยู่ด้วย อารมณ์หนังจะเหมือน Home Alone บวกกับ Scream ซึ่งมันก็พอถูไถไปได้อยู่ในภาคแรก และภาคแรกก็ดูสนุกพอตัว เพียงแต่ว่าการเล่าเรื่องในช่วงต้นมันน่าเบื่อไปหน่อย อาจจะมีอืดๆ นิดๆ แต่พอเข้าช่วงไล่ล่ากันก็สนุกเลยล่ะ


🔪🔪🔪
หนังภาคแรกมันจบปลายเปิดอยู่แบบเห็นๆ ว่าภาคต่อมีแน่ แต่พอมีภาคต่อแล้ว ส่วนตัวผมคิดว่ามันรั่วเกินไปหน่อย ภาคแรกปูมาแบบเป็นหนัง Slasher เลือดสาดธรรมดาๆ เรื่องหนึ่ง แต่พอมาภาคสอง ความรั่วของมันคือมีการเอาเรื่องราวของสิ่งมหัศจรรย์ ภูติผีปีศาจเข้ามาร่วมวงผสมผสานกันด้วย มันยิ่งกลายเป็นว่าหนังมันออกแนว คัลท์ และรั่วสุดๆ ไปเลย ทำให้ความรู้สึกจากที่หนังมันควรจะสยองขวัญ แต่กลายเป็นดูหนังตลกที่มีเลือดสาดไปซะอย่างงั้น


🔪🔪🔪
สิ่งที่ผมคาดหวังจริงๆ ก็คือการได้ดูน้อง Samara สวยๆ ไล่ล่าคนแบบเลือดสาดเต็มจอเหมือนหนังเรื่อง Ready or Not ที่ไล่กันอย่างมันส์ทั้งเรื่อง แต่ก็ไม่ถึงกับที่คาด เพราะมันจะคล้ายหนังวัยรุ่นมาเล่นแผลงๆ กันมากกว่า เหตุผลไม่ต้องไปคิดถึงมัน ดูเอาเพลินอย่างเดียว แต่อย่างที่บอกว่าตอนจบก็จะจบแบบงงๆ เพี้ยนๆ หน่อย ยิ่งภาคสองไม่ต้องพูดถึง การเอา Jenna Oetega มาเป็นตัวหลักอีกคนไม่ได้ช่วยให้หนังดีกว่าภาคแรก เพราะหนังรั่วออกทะเลเลอะเทอะไปหมด จนกลายเป็นว่าผมนั่งดูหนังภาคสอง ดุไปหัวเราะไป แทนที่จะเหวอกับฉากหัวแบะหรือเลือดสาด แต่กลับกลายเป็นนั่งขำฉากเหล่าน้ีไปเลย


🔪🔪🔪
เอาเป็นว่าหนังมันเอาไว้ดูเพลินๆ แหละ ภาคแรกโอเคหน่อย ตรงที่มันยังไม่เพี้ยน ไม่รั่วมาก แต่ภาคสองนี่ ถ้าไม่ติดว่าอยากรูตอนจบและอยากดูน้อง Samara ผมคงปิดทิ้งไปตั้งแต่กลางเรื่องละ

ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai
ชื่อสินค้า:   The babysitter
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่