Porco Rosso คือภาพยนตร์แอนิเมชั่นของ ฮายาโอะ มิยาซากิ ที่ผมรักมากสุด

วันนี้มาเขียนยาวๆ พร้อมภาพประกอบแบบจัดเต็ม "มีการสปอยด้วย"

ขอเกริ่นก่อนว่าปัจจุบันนี้การ์ตูนจิบลิหาดูได้ง่ายกว่าเมื่อก่อน เพราะมีใน Netflix ซึ่งผมก็ตามจนครบของทุกผู้กำกับทั้งแนวแฟนตาซีและไม่แฟนตาซี โดยเรื่องล่าสุด เด็กชายกับนกกระสา ที่ว่าชนะรางวัลออสก้าก็ได้ดูจนจบแล้วแต่ว่าไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ และผมมองว่ามันยังเทียบผลงานยุคเก่าของตัว ฮายาโอะ มิยาซากิ เองไม่ได้ด้วยซ้ำ วันนี้เลยจะมาพูดถึงเรื่องที่ผมรักมากที่สุด และยกให้มันเป็นผลงานโรแมนติกกว่าเรื่องไหนๆ นั่นก็คือ Porco Rosso พอร์โค รอสโซ่ สลัดอากาศประจัญบาน จากปี 1992

เมื่อพูดถึงเอกลักษณ์ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของการ์ตูน ฮายาโอะ มิยาซากิ กำกับ ผมจะนึกออกห้าข้อหลักๆ
1. พลังหญิง
2. สถาปัตยกรรมแบบยุโรป ซึ่งว่ากันว่าสมัยเรียนมหาลัยแกเคยตั้งชมรมเกี่ยวกับยุโรปด้วย
3. ใช้ดนตรีประกอบจาก โจ ฮิซาอิชิ
4. สันติภาพ หรือแฝงประเด็นต่อต้านสงคราม
5. เครื่องบิน เครื่องร่อน สัตว์บินได้ หรืออะไรก็ตามที่มันลอยได้ ซึ่งข้อนี้ลุงแกน่าจะคลั่งไคล้สุด สังเกตได้จากผลงานส่วนใหญ่ บางเรื่องเกี่ยวกับคนทำเครื่องบินโดยเฉพาะเลยก็มี บางเรื่องก็มีตัวละครเด็กผู้ชายที่บ้าเครื่องบินแบบทอมโบะในกิกิ บางเรื่องต่อให้ไม่มีอะไรเกี่ยวกับเครื่องบินเลยแกก็แอบใส่มานิดๆ เช่น เด็กชายเล่นโมเดลเครื่องบินใน โตโตโร่ ซึ่งอาจแทนตัวของแกเอง หรือล่าสุดเด็กชายกับนกกระสาพ่อพระเอกก็ทำงานอยู่บริษัทที่ผลิตเครื่องบิน


ซึ่ง พอร์โค รอสโซ่ มันมีเอกลักษณ์ทั้งห้าข้อที่ว่าอยู่ในเรื่องเดียวครบครัน อย่างชัดเจนมาก

“I'd rather be a pig than a fascist.”

เรื่อง พอร์โค หรือ พอร์โก้ รอสโซ่ นั้นเป็นแนว ตลกผสมแอ็คชั่นพจญภัย และอาจเรียกได้ว่าเป็นผลงาน The most underrated masterpiece ของ ฮายาโอะ มิยาซากิ เพราะเมื่อพูดถึงคุณภาพนี่ถือว่าอยู่ระดับต้นๆ แต่กลับไม่ได้รับความนิยมเท่าเรื่องอื่นๆ อาจเพราะพระเอกเป็นหมูหรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจ อย่างไงก็ตามถึงแม้พอร์โก้จะไม่ได้หล่อชวนฝันถูกใจแฟนคลับสาวๆ เหมือนกับพ่อมดฮาวล์ แต่นิสัยตัวละครมันโคตรจะหล่อเท่ อารมณ์แบบหมาป่าเดียวดาย แต่ว่ามันเป็นหมู หรือหมูเดียวดาย สมัยนี้คงเรียกว่าหมูซิกม่า 555 ทั้งยังหยิ่งในศักดิ์ศรี ขี้มาด และปากร้ายเอาเรื่อง คล้ายๆ พระเอกในหนังคาวบอยยุคเก่าๆของปู่ คลินท์ อีสต์วู้ด ที่เป็นนักล่าค่าหัว หรือฮีโร่ผู้ผดุงความยุติธรรมในเวอร์ชั่นหมู
และแม้ทุกคนน่าจะเดาๆได้ว่ากลุ่มเป้าหมายหรือแฟนคลับส่วนใหญ่ของการ์ตูนจิบลิคือเน้นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย แต่เรื่องนี้ผู้ชายทั่วไปดูก็ได้แบบไม่เลี่ยน
เพลินๆ มีแอ็คชั่นเยอะด้วย แล้วก็แอบลึกซึ้ง แฝงไปด้วยนัยยะเช่นกัน ทั้งชวนโหยหาอดีต ที่เราคนดูไม่เคยสัมผัสแต่ก็สามารถรู้สึกไปกับมันได้ ถึงวันวานหวานชื่นที่ไม่อาจหวนคืนเพราะสงครามทำลายมันไป
ผมชอบการเล่าเรื่องที่ปะติดปะต่อน่าติดตามไม่เวิ่นเว้อ ทำให้เราหลุดเข้าไปในความรู้สึกของตัวละครได้ถึงอารมณ์ไม่ว่า ความรัก ความเศร้า ความผิดหวัง ความฝันและความหวังครั้งใหม่ ความสนุกสนาน อบอุ่นหัวใจ มันคลุกเคล้าปนเป รู้สึกถึงความเป็นมนุษย์



เรื่องนี้มีนางเอกสองคนสองสไตล์ คือสาวรุ่นเจ๊ที่สวยแบบผู้ใหญ่อย่างคุณ จีน่า และ สาวน้อยน่ารักแก่นๆ แบบ ฟิโอ




โดยโลเคชั่นของเรื่องนี้คือ อิตาลี่ หรือแถบ ทะเลเอเดรียติก ซึ่งเป็นทะเลที่มีคลื่นลมค่อนข้างสงบทำให้คนแถวนั้นนิยมใช้ Seaplane เป็นเครื่องบินที่แล่นบนน้ำได้แบบเรือ โดยเอาผิวน้ำเป็นรันเวย์ ทำให้มีความอิสระอย่างมาก


ช่วงเวลาในเรื่องน่าจะอิงมาจากหลังสงครามโลกครั้งที่ 1

ซึ่งเรื่องผลกระทบจากสงครามนั้นหนังทั้งใส่เข้ามาอย่างตรงๆ และแฝงด้วยนัยยะ โดยให้เห็นจิตใจของตัวเอกอย่างพอร์โก้ที่เป็นทหารผ่านศึกผู้มีความรู้สึกหมดศรัทธาในตัวเองและความเป็นมนุษย์ อย่างเช่นมีบทพูดประมาณว่า "เรื่องรักชาติอะไรพวกนั้นให้มนุษย์ทำเองเถอะ"
ใบหน้าเป็นหมูคงไม่ได้เป้นแค่คำสาปเหมือนในนิทาน แต่เปรียบการมองตัวเองในทางลบ และความเบื่อหน่ายในชีวิตของพอร์โก้ เพราะสัตว์อย่างหมูมักจะถูกมองในทางไม่ดี หรือเป็นที่รังเกียจในบางสังคม ซึ่งตรงกับความรู้สึกที่พอร์โก้มีต่อตัวเองหลังรอดจากสงครามมาคนเดียวโดยที่เพื่อนๆ ในหน่วยของเขาได้ตายไปหมด จนเป็นปม อีกทั้งเขามองตัวเองว่าไม่คู่ควรกับความรักของนางเอก เป็นแค่เพียงหมูไม่สนโลก และวันวานดีๆ ของเขามันได้ผ่านพ้นไปแล้ว







พูดถึงงานภาพแม้เรื่องนี้จะเก่าแต่งานแอนิเมชั่นนั้นทำออกมาได้สวยงามลื่นไหลมาก มันดูมีชีวิตชีวา และมุมกล้องขั้นเทพ พวกฉากแอ็คชั่นขับเครื่องบิน Dog Fight กันกลางอากาศก็เคลื่อนไหวสมจริง บางฉากมีตัวประกอบขยับพร้อมๆกันเป็นจำนวนมาก

กลับมาประเด็นที่พูดถึงก่อนหน้านี้อย่างเรื่องพลังหญิงก็ใส่เข้ามาเยอะพอสมควร

หญิงชรากับหนังของมิยาซากินี่เป็นของคู่กัน


พลังหญิงในหนังของมิซากิมันไม่ใช่การที่ผู้หญิงมาทำตัวห้าวๆแบบผู้ชาย หรือเก่งเวอร์จนกดผู้ชาย หรือต้องไปทำให้ผู้ชายในเรื่องดูกากอย่างหนังยุคปัจจุบันแบบกัปตันมาเวล เพราะว่าผู้หญิงก็มีความเก่งในแบบของเค้า ไม่ว่า ความฉลาด ความอ่อนโยนแต่เข้มแข็ง ความมั่นใจ ซึ่งความแกร่งแบบผู้หญิงนี้ที่มิยาซากิมักนำเสนออยู่ตลอด

มาถึงประเด็นหลักที่ผมอยากพูดถึงนั่นคือ ความโรแมนติก ในผลงานชิ้นนี้ ซึ่งเห็นได้ว่านี่เป็นผลงานที่มีความส่วนตัวมากที่สุดของมิยาซากิ บรรยากาศที่สะท้อนความเป็นผู้ใหญ่ หรือมุมมองที่มองโลกแง่ร้ายซ่อนอยู่ แต่มันก็มีความรัก ความหวัง อิสรภาพ และสันติภาพอยู่ในนั้นด้วย
อารมณ์ Nostalgia ที่เป็นดั่งจดหมายรักถึงถึงอะไรหลายๆ อย่าง ไม่ว่าความโรแมนติกต่อเครื่องบิน ความโรแมนติกแบบชายหญิง ความโรแมนติกต่ออดีตหรือความเป็นยุโรป ทั้งปลอบประโลมและโอบกอดคนดูไปพร้อมๆ กัน



ฉากที่ผมรักสุดในเรื่อง


คราวนี้มันพูดถึงความสนุกสนานของเรื่องนี้กัน อย่างที่เห็นคือตีมเรื่องมันมีความเป็นคอมมาดี้เฮฮาและมีฉากแอ็คชั่นน่าจะเยอะเป็นอันดับต้นๆของจิบลิ ทั้งตื่นเต้น รวดเร็วโลดโผน ตัวละครมีสีสัน มีความน่ารัก ทำให้มันไม่น่าเบื่อ






ฟิโอเป็นนางเอกของจิบลิที่ผมชอบไม่แพ้กีกิเลย หรืออาจจะชอบสุดด้วย

องค์สุดท้ายของเรื่องมันยิ่งใหญ่แล้วก็เป็นหนึ่งในไคลแม็กซ์ที่ดีสุดของจิบลิ พอๆกับ Laputa เพราะการ์ตูนจิบลิส่วนใหญ่มักมีองค์สามที่ไม่ค่อยสุดเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้เอนเตอร์เทน

มุมกล้องเท่











ตัวละครมีมิติ




ความรัก การต่อสู้ ศักดิ์ศรี และมิตรภาพ


จบแบบปลายเปิด ให้คนดูไปคิดเอาเอง โดยมีจุดสังเกตเล็กๆทางขวา

มันน่าปะทับใจจริงๆ
และสุดท้ายที่อยากพูดถึงคือ ดนตรีประกอบของเรื่องนี้ที่ชื่อ Bygone Days หรือ วันวานที่ผ่านพ้น จาก โจ ฮิซาอิชิ ที่สื่ออารมณ์ของเรื่องได้อย่างลงตัวและติดหูมากๆ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่