วันนี้ขอเล่า มุมมองต่ออยุกูร์ ในฐานะผู้ทำงานด้านพหุวัฒนธรรม
เรารู้สึกว่า อุยกูร์เป็นมุสลิม และมุสลิมสร้างความเดือดร้อนหรือไม่?เค้าแตกต่างจากเราจริงๆหรือไม่ ?
จากภาพยนต์เรื่อง Xuan Zang (大唐玄奘) ซึ่งเล่าเรื่องการเดินทางของพระถังซัมจั๋ง มีช่วงหนึ่งที่ต้องเดินทางผ่านเมืองยี่หวู เพื่อเข้าสู่ทะเลทราย ผู้ช่วยเหลือพระถังซัมจั๋งคือ ชาวอาณาจักรเกาเชิง (Gaochang) ซึ่งเป็นกลุ่มชนฮั่นที่รับวัฒนธรรมจากชาวโตชาเรียน ซึ่งคือพื้นที่ซินเจียงในปัจจุบัน
แม้ชาวอุยกูร์จะยังไม่ได้ตั้งรกรากในซินเจียงช่วงที่พระถังซัมจั๋งเดินทางผ่าน แต่ในศตวรรษที่ 9 เมื่อพวกเขาอพยพเข้ามา พวกเขารับอิทธิพลทางศิลปะ วรรณกรรม และพิธีกรรมพุทธจากชนพื้นเมืองเดิม ต่อมาจึงเปลี่ยนสู่อิสลามในศตวรรษที่ 10 เชื้อสายของทั้งสองวัฒนธรรมหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน
นั่นเป็นเหตุผลว่า ชาวมุสลิมอุยกูร์ในซินเจียงสืบทอดมรดกพุทธศาสนาจากชนพื้นเมืองเดิม (ชาวโตชาเรียนและซอกเดียน) คนกลุ่มนี้ เป็นผู้แปลคัมภีร์พุทธมหายานจากภาษาสันสกฤตและจีนเป็นภาษาตุรกีโบราณ โดยใช้อักษรอุยกูร์ เช่น คัมภีร์สุวรรณประภาสสูตร และ วิมลเกียรติสูตร ในพื้นที่ที่เคยรุ่มรวยด้วยวัดวาอาราม และเป็นจุดแวะสำคัญของเส้นทางสายไหม เส้นทางเดียวกับที่พระถังซัมจั๋งใช้เดินทางไปชมพูทวีป
มาร์โค โปโล บันทึกในศตวรรษที่ 13 ว่า เมืองฮามี (Hami) มีทั้งมัสยิด วัดพุทธ และโบสถ์คริสต์อยู่ร่วมกัน แม้ปัจจุบัน พิธีกรรมอุยกูร์บางอย่าง ที่เป็นพิธีกรรมท้องถิ่น ยังแฝงบทสวดพุทธ ไว้จนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน สุสานโบราณในคาชการ์ก็มีสัญลักษณ์คริสต์และอิสลามตั้งเคียงข้าง
การหลอมรวมทางวัฒนธรรมปรากฏในพื้นที่ เช่น คำว่า ‘ดุนยา’ (โลก) ในภาษาอุยกูร์ที่ยืมมาจากภาษาอาหรับ ยังคงใช้เคียงคู่กับคำสันสกฤต เช่น ‘ไมตรี’ (เมตตา) และ ‘บุรขาน’ (พระพุทธเจ้า) ในสังคมมุสลิม เครื่องดุตาร์ (Dutar) การแสวงบุญและพิธีกรรมที่สุสานนักบุญ พิธีกรรมมาซาร์ (Mazar pilgrimage) ของชาวอุยกูร์ยังคงสะท้อนอิทธิพลจากพุทธศาสนา ซึ่งสืบทอดจากธรรมเนียมพุทธในเอเชียกลาง สู่ท่วงทำนองอิสลาม เทศกาล Nowruz ปีใหม่เปอร์เซีย ยังจัดในซินเจียง แม้ถูกมองว่าเป็นประเพณีก่อนอิสลาม แต่ทั้งหมดคือร่องรอยที่เชื่อมเข้าหากัน
สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ชาวอุยกูร์สืบทอดมาในวิถีชีวิต ตั้งแต่ มัมมี่ทาริม (ชนอินโด-ยูโรเปียนเมื่อ 1,800 ปีก่อน ค.ศ.), มรดกพุทธที่รับช่วงต่อในศตวรรษที่ 1 ค.ศ., และการเปลี่ยนสู่อิสลามในศตวรรษที่ 10 คนกลุ่มนี้ไม่ได้เป็นเพียงลูกหลานของผู้ช่วยเหลือพระถังซัมจั๋งโดยตรง แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของผู้ต่อลมหายใจให้พุทธศาสนาในเอเชียกลาง ผ่านวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่หลอมรวมกันมานับพันปี
ทั้งหมดคือสิ่งที่กำลังเผชิญความท้าทายในปัจจุบัน เพราะเราหลงลืมความเชื่อมโยงเหล่านี้ ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยเป็นพุทธ วันหนึ่งพวกเขากลายเป็นมุสลิม วันหนึ่งพวกเขาอาจเป็นผู้ไม่นับถือศาสนา แต่ หากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้เราปฏิบัติต่อพวกเขาในฐานะเพื่อนมนุษย์ต่างออกไป แสดงว่ามีบางอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวเราเองหรือไม่?
เยาฮารี แหละตี
ผู้ช่วยรวบรวมข้อมูล
ChatGPT, DeepSeek
อ้างอิง
Beckwith, C. I. (2009). Empires of the Silk Road.
Mallory, J. P., & Mair, V. H. (2000). The Tarim Mummies.
Hansen, V. (2012). The Silk Road: A New History.
Yakup, A. (2005). The Turfan Dialect of Uyghur.
Xuanzang. (ศตวรรษที่ 7). บันทึกการเดินทางสู่ดินแดนตะวันตก.
Polo, M. (ศตวรรษที่ 13). The Travels of Marco Polo.
Clauson, G. (1972). An Etymological Dictionary of Pre-Thirteenth-Century Turkish.
Harris, R. (2008). The Music of Central Asia.
Foltz, R. (1999). Religions of the Silk Road.
Mallory, J. P., & Mair, V. H. (2000). The Tarim Mummies.
Golden, P. B. (1992). An Introduction to the History of the Turkic Peoples.
Dawut, R. (2001), Elverskog, J. (2010).
พระถัมซัมจั๋ง และ อุยกูร์ ร่องรอย พหุวัฒนธรรม ในพื้นที่ซินเจียง
วันนี้ขอเล่า มุมมองต่ออยุกูร์ ในฐานะผู้ทำงานด้านพหุวัฒนธรรม