เปิดความจริงครอบครัวของคิมซูฮยอนก็ล่มสลายเหมือนกัน นี่เองถึงว่าทำไมมาตรฐานการเลือกคู่ครองถึงแปลกประหลาดขนาดนี้(โดยบทความนี้อ้างอิงจากไดอารี่ออนไลน์ที่เค้าเขียนเมื่อปี 2008)
ไม่แปลกใจเลยที่มาตรฐานการเลือกคู่ครองของคิมซูฮยอนถึงแปลกมาก
ไม่ใช่แค่เรื่องการแต่งงานกับสาวอายุ 21 ปี ในวัย 41 ปี
เขายังอยากได้ผู้หญิงที่สามารถตายแทนเขาได้
ยิ่งกว่านั้นผู้หญิงคนนี้ไม่สามารถก้าวก่ายการทำงานของเขาและต้องอยู่เคียงข้างเขาเมื่อเขาต้องการเธอ
ที่เขาเป็นคนเจ้าบงการแบบนี้ เพราะว่าตอนเด็กๆ เขาขาดความรัก
ความขาดแคลนนี้สามารถสืบย้อนไปถึงครอบครัวเดิมของเขาได้
เมื่อคิมซูฮยอนเดบิวต์ครั้งแรก เขามักจะอ้างว่าเขาเป็นลูกคนเดียว จริงๆ แล้วเขาแค่ปกป้องแม่ของเขาและไม่อยากให้แม่ต้องเจ็บปวด
เนื่องจากพ่อของ คิมซูฮยอน ก็คือ คิมจองฮุน นักร้องนำของวงร็อค Seven Dolphins ที่โด่งดังในช่วงทศวรรษ 1980 เนื่องมาจากการนอกใจและการมีชู้ ชายคนนี้ได้ละทิ้งภรรยาและลูกชายคิมซูฮยอน ตอนที่เขายังเด็กมาก ๆ เขาใจร้ายทอดทิ้งแม่และลูกที่ต้องการทั้งการสนับสนุนทางเศรษฐกิจและจิตใจ แล้วไปไล่ตามความสุขของตัวเอง
ในวันที่เขาถูกทอดทิ้ง แม่ของเขาร้องไห้โฮและพาลูกชายวัยเตาะแตะคิมซูฮยอนผู้มีโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดไปอยู่ห้องเช่ารายเดือนที่เรียบง่าย
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา คิมซูฮยอนต้องพึ่งพาแม่ของเขา แต่แม่ซึ่งเป็นอดีตนางแบบที่ต้องอาศัยความเยาว์วัยของเธอในการหาเลี้ยงชีพจะมีรายได้จากการที่ต้องเลี้ยงลูกที่หิวโหยได้อย่างไร? ชีวิตของพวกเขาจึงยากลำบากมาก และเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะหาอาหารดีๆ รับประทานในวันธรรมดา
คิมซูฮยอนเติบโตมาในครอบครัวที่ยากจนและขาดความรักจากพ่อ เขาจึงเป็นคนเก็บตัวและไม่ชอบแสดงออก แม้แต่การมีคนมานั่งข้างๆ ก็ยังทำให้เขารู้สึกประหม่า
แม่ของเขาแนะนำให้เขาไปเรียนหลักสูตรฝึกอบรมการแสดงในโรงเรียนมัธยมเพื่อเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพของเขา นอกจากนี้ เขายังได้พบกับเพื่อน ๆ จากชมรมการแสดงมากมาย และสัมผัสถึงความสำเร็จในการเป็นนักแสดงในการแสดงละครเวทีของโรงเรียนอีกด้วย
หลังจากได้รับการปลุกปั้น เขาก็ปลูกฝังเมล็ดพันธุ์ของการเป็นนักแสดงในใจ และตัดสินใจที่จะสอบเข้าภาควิชาภาพยนตร์และการละครของมหาวิทยาลัยชุงอัง (Chung-Ang University)ในการสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย
แต่แค่มีความชอบ โดยไม่มีพื้นฐาน ทรัพยากร หรือประสบการณ์ใดๆ เลย แม้แต่ค่าสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังต้องรวบรวมเงินจากหลายๆ ที่ แล้วจะสอบเข้าได้อย่างราบรื่นได้อย่างไร?
ตามที่คาดไว้มันยาก ยากถึงขนาดที่เขาต้องสอบถึงสี่ปี ระหว่างนั้นความกดดันมากจนเขาเคยคิดจะเปลี่ยนสายงาน จนกระทั่งปีที่สี่เขาถึงสอบเข้าได้สมใจ
หลังจากเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้ว คิมซูฮยอนก็สามารถกินหมูทอดที่แม่ของเขาและเขาไม่สามารถซื้อได้ แต่มันขายราคาถูกมากที่มหาวิทยาลัย สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกมีความสุขมาก เขาจึงทำงานหนักมากขึ้น
เขาเข้าร่วมการซ้อมละครเวทีอย่างกระตือรือร้นและแม้กระทั่งอาศัยอยู่ในอาคารโรงเรียนระหว่างการซ้อมและไม่เคยบ่นเลย
แต่ในวงการบันเทิง แค่ความพยายามอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีผู้สนับสนุนด้วย
คิมซูฮยอนโชคดีอย่างไม่ต้องสงสัย หลังจากแสดงใน 'Will It Snow for Christmas-อธิษฐานรัก ณ ปลายหนาว' เขาก็เริ่มฉายแววและถูกแบยองจุนชักชวนให้เซ็นสัญญาภายใต้สังกัดของเขา
หลังจากเซ็นสัญญา บริษัทได้ฝึกฝนคิมซูฮยอนในทุกด้าน ตั้งแต่การเต้น การร้องเพลง การแสดง รูปร่าง ท่าทาง การแสดงออกทางสีหน้า มารยาท ไปจนถึงการตอบสนองต่อสื่อ
หลังจากฝึกฝนมาหนึ่งปี ด้วยคำแนะนำอันเข้มแข็งของเบยองจุน คิมซูฮยอนก็สามารถแสดงในเรื่อง "Dream High" ได้สำเร็จ และเปิดตัวในวงการได้สำเร็จเป็นครั้งแรก
ในอีกไม่กี่ปีต่อมา อัตราการเติบโตของคิมซูฮยอนนั้นเปรียบเสมือนการได้ขี่จรวด ด้วยผลงานการออกอากาศอย่าง "The Moon Embracing the Sun" "Secretly, Greatly" และ "My Love from the Star-ยัยตัวร้าย,นายต่างดาว" ทำให้เขาประสบความสำเร็จในการสร้างฐานที่มั่นในวงการบันเทิงเกาหลีและกลายเป็นนักแสดงหนุ่มยอดนิยมทั้งในและต่างประเทศ โดยคว้ารางวัลมากมาย
เขาประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน และในที่สุดเขาก็สามารถให้ชีวิตที่ดีแก่แม่ของเขาได้ เขายังสามารถเข้ารับการผ่าตัดหัวใจได้ แต่ปัญหาที่ครอบครัวเดิมทิ้งไว้ก็ยังไม่ทำให้เขาหลุดพ้น
เขาไม่เคยเอ่ยถึงพ่อผู้ให้กำเนิดของเขาเลยเพราะกลัวจะทำให้แม่ของเขาเสียใจ แต่คิมจองฮุนพ่อของเขากลับพยายามเกาะกระแสความนิยมของลูกเพื่อชื่อเสียงของตัวเอง
เมื่อปล่อยเพลงใหม่ เขาเปิดเผยว่าเขามีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ใกล้ชิดกับลูกชายคิมซูฮยอนมาก
ลูกสาวของครอบครัวใหม่ น้องสาวต่างแม่ของคิมซูฮยอน เข้าร่วมรายการวาไรตี้แสดงความสามารถ และได้เปิดเผยความสัมพันธ์ของเธอกับคิมซูฮยอน
แม้กระทั่งในปี 2024 เมื่อคิมซูฮยอนโด่งดังจากละครเรื่อง “Queen of Tears” พ่อของเขาก็ยังไม่ยอมปล่อยเขาไปและประกาศแต่งงานใหม่ ในปีที่เขาประสบความสำเร็จที่สุดด้วย
เขาถูกทอดทิ้งอย่างโหดร้ายในวัยเด็ก ขาดความรักจากพ่อเมื่อเติบโตขึ้น และไม่มีใครสนใจเมื่อเขาเผชิญกับความยากลำบากหลังจากโตเป็นผู้ใหญ่ แม้กระทั่งเมื่อเขาต้องเข้าผ่าตัดหัวใจ ก็ไม่มีใครอยู่เคียงข้างเขา แต่พอมีชื่อเสียงเขากลับถูกคนมากมายมาฉกฉวยผลประโยชน์และสร้างความสัมพันธ์ด้วย
เช่นเดียวกับคิมแซรน คิมซูฮยอนถูกครอบครัวดั้งเดิมของเขาครอบงำมาโดยตลอด
สิ่งที่แตกต่างออกไปคือ คิมแซรนไม่ได้ไปทำร้ายคนอื่น ในขณะที่ 'เด็กหนุ่มผู้พิชิตมังกร' อย่างคิมซูฮยอนในอดีต กลับกลายเป็น 'มังกรร้าย' ในกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคม
ถ้าหากว่าความผิดที่เขาได้ก่อในกระแสวิพากษ์วิจารณ์นั้นเป็นเรื่องจริง ในเวลานี้ วงจรแห่งความมืดมิดในชีวิตของเขาก็ได้ปิดลงอย่างสมบูรณ์แล้ว:
เพราะบาปของพ่อ เขาจึงใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังและเก็บตัวมาตั้งแต่เด็ก และแม่ของเขาก็มีชีวิตที่ยากลำบากมาก เขาเกลียดพ่อและสงสารแม่ เขาควรจะพยายามวิ่งเข้าไปในแสงสว่างเพื่อช่วยตัวเอง แต่เขากลับเลือกที่จะอยู่ในเงามืดและกลายเป็นคนที่เขาเกลียดที่สุด เหมือนพ่อของเขา
นักจิตวิทยาเรียกอาการชอบเด็กว่าเป็นความผิดปกติทางจิต
เป็นเรื่องยากที่จะสรุปว่าคิมซูฮยอนมีนิสัยเช่นนี้เอง หรือเป็นโรคทางจิตกันแน่
แต่เขาขาดความรักจริงๆ ถึงแม้ว่าเขาจะโด่งดังทั้งในและต่างประเทศ แต่เขาก็ไม่รู้สึกว่าคนดูจะรักเขาเลย แถมเขายังต้องซ่อนตัวอีกด้วย
ทั้งยังขี้อายและอ่อนไหวด้วย
หากคุณไม่ได้รับความรักที่ดี คุณย่อมไม่สามารถรักผู้อื่นได้ดีเช่นกัน
เมื่อเผชิญหน้ากับการประท้วงเงียบๆ ของคิมแซรนด้วยการโพสต์ภาพที่มีหน้าชิดกัน การวิงวอนอย่างสิ้นหวังที่จะผ่อนชำระหนี้ และความพยายามจบชีวิตเพื่อบรรเทาความทุกข์ เขาก็ยังคงเฉยเมย
ซ้ำร้าย ในเวลาที่ผู้หญิงต้องการการยอมรับและคำมั่นสัญญามากที่สุด เธอกลับถูกปฏิเสธอย่างเปิดเผย ปล่อยให้เธอเผชิญกับความรุนแรงทางโลกออนไลน์อย่างหนักหน่วง ซึ่งกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เธอพังทลาย
ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของความรู้สึกหรือเหตุผล ก็ยากที่จะทำให้ใครชอบเขาได้อีกต่อไป
ในตอนนี้ ภาพถ่ายใกล้ชิดของเขาถูกเผยแพร่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าคำปฏิเสธที่ผ่านมาของเขานั้นไม่เป็นความจริง
ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะพยายามมากเพียงใด มันก็ไม่มีประโยชน์เลย
โชคชะตาได้มอบความทุกข์ทรมานให้กับเขาในช่วงเริ่มต้นของชีวิต แต่เขาก็กลับมอบความทุกข์ทรมานนั้นให้กับผู้อื่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งน่าสงสารและน่าเกลียดชัง
คิมแซรนผู้เคราะห์ร้าย เธอไม่เพียงแต่ไม่พบพ่อแม่ที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องมาเจอผู้ชายที่เธอคิดว่าเป็นที่พึ่งสุดท้าย หักหลังเธอ และในท้ายที่สุด เธอต้องสูญเสียทั้งเงินและชีวิตของเธอ
อย่างที่ภาพยนตร์เรื่อง “好东西-Her Story”(หนังจีนปี 2024) บอกไว้ ผู้หญิงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้หากปราศจากความรัก
แน่นอนว่าเด็กผู้ชายก็เช่นกัน
แต่ขอให้เด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงทุกคนที่ไม่เคยได้รับความรักอย่างเหมาะสมจำไว้ว่า: "ชีวิตอาจเจออุปสรรคมากมาย แต่จงจำไว้ว่าคุณมีพลังที่จะก้าวผ่านมันไปได้ จงเข้มแข็งและช่วยเหลือตัวเองให้รอดพ้นจากทุกปัญหา
ที่มา : บทความนี้แปลมาจากภาษาจีนจากเพจบันเทิงจีน👇
https://m.163.com/dy/article/JQF7MQNL0517JTAM.html?spss=adap_pc
#คิมซูฮยอน #คิมแซรน
สื่อจีนเผย คิมซูฮยอน มาจากครอบครัวที่ล้มเหลว ส่งผลให้เขาทำร้ายจิตใจผู้หญิง
ไม่แปลกใจเลยที่มาตรฐานการเลือกคู่ครองของคิมซูฮยอนถึงแปลกมาก
ไม่ใช่แค่เรื่องการแต่งงานกับสาวอายุ 21 ปี ในวัย 41 ปี
เขายังอยากได้ผู้หญิงที่สามารถตายแทนเขาได้
ยิ่งกว่านั้นผู้หญิงคนนี้ไม่สามารถก้าวก่ายการทำงานของเขาและต้องอยู่เคียงข้างเขาเมื่อเขาต้องการเธอ
ที่เขาเป็นคนเจ้าบงการแบบนี้ เพราะว่าตอนเด็กๆ เขาขาดความรัก
ความขาดแคลนนี้สามารถสืบย้อนไปถึงครอบครัวเดิมของเขาได้
เมื่อคิมซูฮยอนเดบิวต์ครั้งแรก เขามักจะอ้างว่าเขาเป็นลูกคนเดียว จริงๆ แล้วเขาแค่ปกป้องแม่ของเขาและไม่อยากให้แม่ต้องเจ็บปวด
เนื่องจากพ่อของ คิมซูฮยอน ก็คือ คิมจองฮุน นักร้องนำของวงร็อค Seven Dolphins ที่โด่งดังในช่วงทศวรรษ 1980 เนื่องมาจากการนอกใจและการมีชู้ ชายคนนี้ได้ละทิ้งภรรยาและลูกชายคิมซูฮยอน ตอนที่เขายังเด็กมาก ๆ เขาใจร้ายทอดทิ้งแม่และลูกที่ต้องการทั้งการสนับสนุนทางเศรษฐกิจและจิตใจ แล้วไปไล่ตามความสุขของตัวเอง
ในวันที่เขาถูกทอดทิ้ง แม่ของเขาร้องไห้โฮและพาลูกชายวัยเตาะแตะคิมซูฮยอนผู้มีโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดไปอยู่ห้องเช่ารายเดือนที่เรียบง่าย
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา คิมซูฮยอนต้องพึ่งพาแม่ของเขา แต่แม่ซึ่งเป็นอดีตนางแบบที่ต้องอาศัยความเยาว์วัยของเธอในการหาเลี้ยงชีพจะมีรายได้จากการที่ต้องเลี้ยงลูกที่หิวโหยได้อย่างไร? ชีวิตของพวกเขาจึงยากลำบากมาก และเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะหาอาหารดีๆ รับประทานในวันธรรมดา
คิมซูฮยอนเติบโตมาในครอบครัวที่ยากจนและขาดความรักจากพ่อ เขาจึงเป็นคนเก็บตัวและไม่ชอบแสดงออก แม้แต่การมีคนมานั่งข้างๆ ก็ยังทำให้เขารู้สึกประหม่า
แม่ของเขาแนะนำให้เขาไปเรียนหลักสูตรฝึกอบรมการแสดงในโรงเรียนมัธยมเพื่อเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพของเขา นอกจากนี้ เขายังได้พบกับเพื่อน ๆ จากชมรมการแสดงมากมาย และสัมผัสถึงความสำเร็จในการเป็นนักแสดงในการแสดงละครเวทีของโรงเรียนอีกด้วย
หลังจากได้รับการปลุกปั้น เขาก็ปลูกฝังเมล็ดพันธุ์ของการเป็นนักแสดงในใจ และตัดสินใจที่จะสอบเข้าภาควิชาภาพยนตร์และการละครของมหาวิทยาลัยชุงอัง (Chung-Ang University)ในการสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย
แต่แค่มีความชอบ โดยไม่มีพื้นฐาน ทรัพยากร หรือประสบการณ์ใดๆ เลย แม้แต่ค่าสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังต้องรวบรวมเงินจากหลายๆ ที่ แล้วจะสอบเข้าได้อย่างราบรื่นได้อย่างไร?
ตามที่คาดไว้มันยาก ยากถึงขนาดที่เขาต้องสอบถึงสี่ปี ระหว่างนั้นความกดดันมากจนเขาเคยคิดจะเปลี่ยนสายงาน จนกระทั่งปีที่สี่เขาถึงสอบเข้าได้สมใจ
หลังจากเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้ว คิมซูฮยอนก็สามารถกินหมูทอดที่แม่ของเขาและเขาไม่สามารถซื้อได้ แต่มันขายราคาถูกมากที่มหาวิทยาลัย สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกมีความสุขมาก เขาจึงทำงานหนักมากขึ้น
เขาเข้าร่วมการซ้อมละครเวทีอย่างกระตือรือร้นและแม้กระทั่งอาศัยอยู่ในอาคารโรงเรียนระหว่างการซ้อมและไม่เคยบ่นเลย
แต่ในวงการบันเทิง แค่ความพยายามอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีผู้สนับสนุนด้วย
คิมซูฮยอนโชคดีอย่างไม่ต้องสงสัย หลังจากแสดงใน 'Will It Snow for Christmas-อธิษฐานรัก ณ ปลายหนาว' เขาก็เริ่มฉายแววและถูกแบยองจุนชักชวนให้เซ็นสัญญาภายใต้สังกัดของเขา
หลังจากเซ็นสัญญา บริษัทได้ฝึกฝนคิมซูฮยอนในทุกด้าน ตั้งแต่การเต้น การร้องเพลง การแสดง รูปร่าง ท่าทาง การแสดงออกทางสีหน้า มารยาท ไปจนถึงการตอบสนองต่อสื่อ
หลังจากฝึกฝนมาหนึ่งปี ด้วยคำแนะนำอันเข้มแข็งของเบยองจุน คิมซูฮยอนก็สามารถแสดงในเรื่อง "Dream High" ได้สำเร็จ และเปิดตัวในวงการได้สำเร็จเป็นครั้งแรก
ในอีกไม่กี่ปีต่อมา อัตราการเติบโตของคิมซูฮยอนนั้นเปรียบเสมือนการได้ขี่จรวด ด้วยผลงานการออกอากาศอย่าง "The Moon Embracing the Sun" "Secretly, Greatly" และ "My Love from the Star-ยัยตัวร้าย,นายต่างดาว" ทำให้เขาประสบความสำเร็จในการสร้างฐานที่มั่นในวงการบันเทิงเกาหลีและกลายเป็นนักแสดงหนุ่มยอดนิยมทั้งในและต่างประเทศ โดยคว้ารางวัลมากมาย
เขาประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน และในที่สุดเขาก็สามารถให้ชีวิตที่ดีแก่แม่ของเขาได้ เขายังสามารถเข้ารับการผ่าตัดหัวใจได้ แต่ปัญหาที่ครอบครัวเดิมทิ้งไว้ก็ยังไม่ทำให้เขาหลุดพ้น
เขาไม่เคยเอ่ยถึงพ่อผู้ให้กำเนิดของเขาเลยเพราะกลัวจะทำให้แม่ของเขาเสียใจ แต่คิมจองฮุนพ่อของเขากลับพยายามเกาะกระแสความนิยมของลูกเพื่อชื่อเสียงของตัวเอง
เมื่อปล่อยเพลงใหม่ เขาเปิดเผยว่าเขามีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ใกล้ชิดกับลูกชายคิมซูฮยอนมาก
ลูกสาวของครอบครัวใหม่ น้องสาวต่างแม่ของคิมซูฮยอน เข้าร่วมรายการวาไรตี้แสดงความสามารถ และได้เปิดเผยความสัมพันธ์ของเธอกับคิมซูฮยอน
แม้กระทั่งในปี 2024 เมื่อคิมซูฮยอนโด่งดังจากละครเรื่อง “Queen of Tears” พ่อของเขาก็ยังไม่ยอมปล่อยเขาไปและประกาศแต่งงานใหม่ ในปีที่เขาประสบความสำเร็จที่สุดด้วย
เขาถูกทอดทิ้งอย่างโหดร้ายในวัยเด็ก ขาดความรักจากพ่อเมื่อเติบโตขึ้น และไม่มีใครสนใจเมื่อเขาเผชิญกับความยากลำบากหลังจากโตเป็นผู้ใหญ่ แม้กระทั่งเมื่อเขาต้องเข้าผ่าตัดหัวใจ ก็ไม่มีใครอยู่เคียงข้างเขา แต่พอมีชื่อเสียงเขากลับถูกคนมากมายมาฉกฉวยผลประโยชน์และสร้างความสัมพันธ์ด้วย
เช่นเดียวกับคิมแซรน คิมซูฮยอนถูกครอบครัวดั้งเดิมของเขาครอบงำมาโดยตลอด
สิ่งที่แตกต่างออกไปคือ คิมแซรนไม่ได้ไปทำร้ายคนอื่น ในขณะที่ 'เด็กหนุ่มผู้พิชิตมังกร' อย่างคิมซูฮยอนในอดีต กลับกลายเป็น 'มังกรร้าย' ในกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคม
ถ้าหากว่าความผิดที่เขาได้ก่อในกระแสวิพากษ์วิจารณ์นั้นเป็นเรื่องจริง ในเวลานี้ วงจรแห่งความมืดมิดในชีวิตของเขาก็ได้ปิดลงอย่างสมบูรณ์แล้ว:
เพราะบาปของพ่อ เขาจึงใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังและเก็บตัวมาตั้งแต่เด็ก และแม่ของเขาก็มีชีวิตที่ยากลำบากมาก เขาเกลียดพ่อและสงสารแม่ เขาควรจะพยายามวิ่งเข้าไปในแสงสว่างเพื่อช่วยตัวเอง แต่เขากลับเลือกที่จะอยู่ในเงามืดและกลายเป็นคนที่เขาเกลียดที่สุด เหมือนพ่อของเขา
นักจิตวิทยาเรียกอาการชอบเด็กว่าเป็นความผิดปกติทางจิต
เป็นเรื่องยากที่จะสรุปว่าคิมซูฮยอนมีนิสัยเช่นนี้เอง หรือเป็นโรคทางจิตกันแน่
แต่เขาขาดความรักจริงๆ ถึงแม้ว่าเขาจะโด่งดังทั้งในและต่างประเทศ แต่เขาก็ไม่รู้สึกว่าคนดูจะรักเขาเลย แถมเขายังต้องซ่อนตัวอีกด้วย
ทั้งยังขี้อายและอ่อนไหวด้วย
หากคุณไม่ได้รับความรักที่ดี คุณย่อมไม่สามารถรักผู้อื่นได้ดีเช่นกัน
เมื่อเผชิญหน้ากับการประท้วงเงียบๆ ของคิมแซรนด้วยการโพสต์ภาพที่มีหน้าชิดกัน การวิงวอนอย่างสิ้นหวังที่จะผ่อนชำระหนี้ และความพยายามจบชีวิตเพื่อบรรเทาความทุกข์ เขาก็ยังคงเฉยเมย
ซ้ำร้าย ในเวลาที่ผู้หญิงต้องการการยอมรับและคำมั่นสัญญามากที่สุด เธอกลับถูกปฏิเสธอย่างเปิดเผย ปล่อยให้เธอเผชิญกับความรุนแรงทางโลกออนไลน์อย่างหนักหน่วง ซึ่งกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เธอพังทลาย
ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของความรู้สึกหรือเหตุผล ก็ยากที่จะทำให้ใครชอบเขาได้อีกต่อไป
ในตอนนี้ ภาพถ่ายใกล้ชิดของเขาถูกเผยแพร่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าคำปฏิเสธที่ผ่านมาของเขานั้นไม่เป็นความจริง
ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะพยายามมากเพียงใด มันก็ไม่มีประโยชน์เลย
โชคชะตาได้มอบความทุกข์ทรมานให้กับเขาในช่วงเริ่มต้นของชีวิต แต่เขาก็กลับมอบความทุกข์ทรมานนั้นให้กับผู้อื่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งน่าสงสารและน่าเกลียดชัง
คิมแซรนผู้เคราะห์ร้าย เธอไม่เพียงแต่ไม่พบพ่อแม่ที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องมาเจอผู้ชายที่เธอคิดว่าเป็นที่พึ่งสุดท้าย หักหลังเธอ และในท้ายที่สุด เธอต้องสูญเสียทั้งเงินและชีวิตของเธอ
อย่างที่ภาพยนตร์เรื่อง “好东西-Her Story”(หนังจีนปี 2024) บอกไว้ ผู้หญิงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้หากปราศจากความรัก
แน่นอนว่าเด็กผู้ชายก็เช่นกัน
แต่ขอให้เด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงทุกคนที่ไม่เคยได้รับความรักอย่างเหมาะสมจำไว้ว่า: "ชีวิตอาจเจออุปสรรคมากมาย แต่จงจำไว้ว่าคุณมีพลังที่จะก้าวผ่านมันไปได้ จงเข้มแข็งและช่วยเหลือตัวเองให้รอดพ้นจากทุกปัญหา
ที่มา : บทความนี้แปลมาจากภาษาจีนจากเพจบันเทิงจีน👇 https://m.163.com/dy/article/JQF7MQNL0517JTAM.html?spss=adap_pc
#คิมซูฮยอน #คิมแซรน