สมองล้าเพราะงานเยอะจนคิดไม่ออก ลองเปลี่ยนตัวเองแบบนี้แล้วช่วยได้จริง! ใครมีทิปส์ดี ๆ แบ่งปันบ้างคะ?

สวัสดีค่ะทุกคน ชีวิตมนุษย์เงินเดือนทำงานถวายชีวิต^^ ช่วงก่อนหน้านี้เรารู้สึกหัวตื้อ ๆ ตึบๆ หนักๆ เพราะงานถาโถมไม่หยุด นอกจากงานที่แน่นแล้วเรายังต้องกลับดึกเกือบทุกวัน เลยไม่ค่อยมีเวลาได้ออกกำลังกายเป็นเรื่องเป็นราว พอพักผ่อนน้อย ร่างกายก็ยิ่งเพลีย สมองเริ่มตื้อจนคิดอะไรไม่ออกเหมือนเครื่องคอมฯ ที่ใกล้จะค้างตลอดเวลาเลยค่ะ ความรู้สึกที่ดาวน์มากๆ
หลัง ๆ มาเลยรู้สึกถ้าอยู่แบบนี้ชีวิตคงเหี่ยวเฉาในวัยสามสิบแน่ๆ เราเลยเริ่มลองปรับตัวเองในหลาย ๆ ด้านเพื่อช่วยปลุกสมองให้สดชื่นขึ้น เริ่มจากการเปิดเพลงตั้งแต่ตอนตื่นนอน บางวันเราฟังเพลงจังหวะสนุก ๆ ให้กระปรี้กระเปร่า บางวันก็เลือกเพลงผ่อนคลายเบา ๆ แล้วแต่ฟีลค่ะ แต่ที่เหมือนกันคือ มันช่วยให้เรารู้สึก “มีพลัง” ต้อนรับเช้าวันใหม่ได้ดีขึ้นจริง ๆ 


อีกอย่างที่เราให้ความสำคัญคือการแบ่งเวลาพักช่วงสั้น ๆ ระหว่างทำงาน ถึงจะกลับบ้านดึกยังไง ระหว่างวันก็หาเวลาลุกขึ้นขยับตัวหรือเลี่ยงการจดจ่อกับจอคอมฯ นานเกินไป การหันไปมองต้นไม้หรือชงชาเขียวดื่มสักแก้วเพื่อเป็นการบอกรักตัวเองเพื่อเติมพลัง


เรื่องอาหารจากที่อ่านมาเค้าให้เราเลือกทานเมนูที่อุดมด้วยวิตามินบีให้มากขึ้น เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ถั่ว ธัญพืช ผักใบเขียว เพราะอ่านเจอมาว่าวิตามินบีมีส่วนสำคัญต่อการบำรุงระบบประสาทและสมอง แต่ถามว่าทำตามนั้นได้ไหม ตอบเลยว่า ไม่ค่ะ เอาเวลาไหนไปทำคะคุณ และยิ่งเราเป็นพวกไม่ค่อยถนัดอาหารสุขภาพด้วยแล้วนั้น เลยต้องหาตัวช่วยเสริม ร้านยาเค้าแนะนำให้Innobic Multi-B Amino Acids Plus เสริมเข้าไปแทนนี่ลองมาพักนึงละ รู้สึกสมองไม่ตื้อเท่าเดิม พอทำงานไปสักพักก็ยังมีแรงคิด ตอนกลางวันไม่หมดไฟเหมือนเมื่อก่อน
ที่เพิ่งรู้จากเพื่อนอีกอย่างก็คือ วิตามินดี ก็สำคัญมากสำหรับคนที่แทบไม่ได้ออกไปเจอแดด เพราะเราทำงานออฟฟิศกันทั้งวัน เลิกงานก็ฟ้ามืดแล้ว ช่วงหลังเลยเสริมวิตามินดีของ Blacmores เบา ๆ ควบคู่ไปด้วย แม้ว่าบางวันจะพยายามออกไปโดนแดดอ่อน ๆ บ้างแต่ก็ยังถือว่าน้อยอยู่ดี
ทีนี้เรื่องออกกำลังกาย พอเรากลับดึกจึงไม่ค่อยสะดวกไปฟิตเนสหรือวิ่งยาว ๆ แต่จะหาเวลาช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ไปเดินเร็วหรือจ็อกกิ้งสักครึ่งชั่วโมงในสวนสาธารณะ ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็จะทำโยคะหรือสควอชในห้องก่อนนอน อย่างน้อย 15-20 นาที บางทีก็ใส่เพลงจังหวะมัน ๆ เต้นเบา ๆ ในห้อง ให้ร่างกายได้เหงื่อบ้าง ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้นและสมองปลอดโปร่งอย่างบอกไม่ถูกค่ะ




ก่อนนอนเราเปลี่ยนมาวางแผนงานวันต่อไปสั้น ๆ เขียน To-do list ลงสมุดหรือมือถือ เอาไว้กันลืมและกันคิดฟุ้งซ่าน วิธีนี้ทำให้เราไม่ต้องเก็บเรื่องงานไปกังวลบนเตียง พอสมองได้เคลียร์ก่อนนอน หลับสบายขึ้นมาก


ผ่านมาไม่กี่สัปดาห์ เรารู้สึกว่าอาการสมองล้า เริ่มลดลง ความเครียดก็เบาลง ถึงจะยังไม่เพอร์เฟกต์ แต่ถือว่าช่วยได้เยอะเลยค่ะ ใครมีวิธีอื่น ๆ ที่ใช้ได้ผล ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคพักผ่อน จัดเวลา หรือตัวช่วยเสริมแบบไหนบ้าง มาแชร์กันได้นะคะ เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเจอปัญหาเดียวกัน
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ หวังว่าประสบการณ์ที่เราแชร์จะพอเป็นไอเดียให้เพื่อน ๆ ได้ลองไปปรับใช้กันดูนะคะ!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่