อะไรทำให้จีนยุคชุนชิว หรือยุครัฐสัประยุทธ์ ทุกฝ่ายต่างเหลี่ยมใส่กันอย่างหน้ากลัวมาก

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

มันเริ่มจากผมดูหนังเรื่องอัตชีวประวัติของขงจื๊อ

และในช่วงเวลาที่ ขงจื๊อ เป็นนายอำเภอและข้าราชการแคว้นหลู่ ในช่วงเวลานั้นจงกั๋ว อยู่ในยุคชุนชิว หรือยุครัฐสัประยุทธ์ ยุคที่ทุกฝ่ายต่อสู้กันเพื่อรวมดินแดน จีนให้เป็นหนึ่งเดียว

แต่สิ่งที่หน้าตกใจคือ การเมืองในแคว้นและอาณาจักรต่างๆ ของจีนในยุคนั้น ทุกคนต่างใช้เล่ห์เหลี่ยมใส่กันอย่างหน้ากลัว (ในสามก๊กถึงจะมีการใช้เล่ห์เหลี่ยมมากมายแต่ก็ดูมีหลักการและศิลปะ แต่ในยุคชุนชิว การใช้เล่ห์เหลี่ยมของผู้คนในยุคนั้นดูป่าเถื่อนและไม่ต่างจากชนนอกด้านหรือซงหนู)

ยกตัวอย่าง แคว้นหลู่ ที่ขงจื้อ รับใช้ก็มีปัญหากับแคว้นเพื่อนบ้านอย่างแคว้นฉี ที่สู้รบกันอย่างยาวนาน ขนาดจะมาเจรจาสันติภาพหรือสงบศึกก็เรียกได้ว่าต่างฝ่ายจ่องจะฆ่ากัน โดยไม่สนกฎเกณฑ์ใดๆทั้งสิ้น มีการเตรียมกองทัพลับไปซ่อนตามจุดๆต่างและเตรียมสังหารฝ่ายตรงข้าม หากมาเจรจาแต่ไม่ทันเกมคือตายได้เลย

แคว้นเพื่อนบ้าน ว่าเป็นปัญหา ภายในแคว้นหลู่ ขุนนาง ข้าราชการ และนายพลขุนศึกต่างเหลี่ยมใส่กัน ไม่เคารพเจ้าแคว้น เอาง่ายๆ ใครเป็นเจ้าแคว้นในยุคนั้นต้องต่อลองและว่างผลประโยชน์แต่ละฝ่ายให้ลงตัว พลาดนิดเดียว บัลลังก์มีสะเทือน เพราะ ขุนนางและขุนพลจ่องจะล้มผู้ปกครองอย่างไม่เห็นหัว  ราวกับว่ามีกษัตริย์ แต่พระราชอำนาจส่วนหนึ่งอยู่ในมือขุนนางและขุนพล การตัดสินใจอะไรก็เลยลำบาก ราวกับว่าไม่มีอำนาจ 

คนจีน ในจีนยุคชุนชิว อาจเรียกได้ว่าคือซงหนู เวอร์ชั่นที่ก่อร่างสร้างอาณาจักรและอารยธรรมขึ้นมาได้ แต่ไม่อาจทิ้งสันดานความป่าเถื่อนและโหดร้ายได้

ตลอดเวลาผมคิดว่า หลักคำสอนของขงจื๊อ ดูล้าสมัยไม่ทันโลก แต่พออ่านประวัติศาสตร์ยุคชุนชิวก็เข้าใจขึ้นมาทันที่ว่า ถ้าไม่มีขงจื้อ อารยธรรมจีนจะเละกว่านี้แน่ เพราะผู้คนในยุคจีนตอนต้น ต่างไร้กฎเกณฑ์ ป่าเถื่อนและเหลี่ยมใส่กัน ไม่ต่างจากซงหนู ขาดความเคารพซึ่งกันและกัน และไม่มีศิลปะในชีวิต สิ่งที่มีในยุคนั้นคือ ความเหลี่ยมและความเถื่อน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่