ถ้าปราบทุจริตได้จริง ๆ ในทุกระดับ โดยเฉพาะการทุจริตเชิงโครงสร้าง ผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้น (SET Index) ก็จะชัดเจนมากขึ้น เพราะ:
ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้น ต่างชาติและนักลงทุนสถาบันมักมองหาตลาดที่โปร่งใสและมีธรรมาภิบาล การลดคอร์รัปชันทำให้การลงทุนมีความเสี่ยงน้อยลง เงินลงทุนจากต่างชาติก็อาจไหลเข้า งบประมาณรัฐถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เงินที่เคยรั่วไหลจากการคอร์รัปชันจะถูกนำไปใช้พัฒนาสาธารณูปโภค การศึกษา และเทคโนโลยี ส่งผลให้เศรษฐกิจโตอย่างยั่งยืน ภาคธุรกิจแข่งขันอย่างเป็นธรรม บริษัทที่มีศักยภาพจริง ๆ จะได้รับโอกาสเติบโต แทนที่ธุรกิจสีเทาหรือธุรกิจที่ได้เปรียบจากการติดสินบน เครดิตเรตติ้งของประเทศดีขึ้น
ประเทศที่โปร่งใสจะได้เครดิตเรตติ้งสูงขึ้น ดึงดูดการลงทุนทั้งในตลาดหุ้นและตราสารหนี้
แต่จะดัน SET ไปถึง 3,000 จุด หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เช่น นโยบายเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยโลก ความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทย รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจโลกด้วย
ถ้าปราบคอร์รัปชันได้จริงแบบถอนรากถอนโคน ผนวกกับการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อเนื่อง ระดับ 3,000 จุด ก็อาจไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝัน! ✨
ปราบทุจริตได้ SET index จะไป 3000 จุด
ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้น ต่างชาติและนักลงทุนสถาบันมักมองหาตลาดที่โปร่งใสและมีธรรมาภิบาล การลดคอร์รัปชันทำให้การลงทุนมีความเสี่ยงน้อยลง เงินลงทุนจากต่างชาติก็อาจไหลเข้า งบประมาณรัฐถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เงินที่เคยรั่วไหลจากการคอร์รัปชันจะถูกนำไปใช้พัฒนาสาธารณูปโภค การศึกษา และเทคโนโลยี ส่งผลให้เศรษฐกิจโตอย่างยั่งยืน ภาคธุรกิจแข่งขันอย่างเป็นธรรม บริษัทที่มีศักยภาพจริง ๆ จะได้รับโอกาสเติบโต แทนที่ธุรกิจสีเทาหรือธุรกิจที่ได้เปรียบจากการติดสินบน เครดิตเรตติ้งของประเทศดีขึ้น
ประเทศที่โปร่งใสจะได้เครดิตเรตติ้งสูงขึ้น ดึงดูดการลงทุนทั้งในตลาดหุ้นและตราสารหนี้
แต่จะดัน SET ไปถึง 3,000 จุด หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เช่น นโยบายเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยโลก ความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทย รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจโลกด้วย