สวัสดีครับ ยาวหน่อยนะครับ ขอความช่วยเหลือด้วยครับ
ผมได้ซื้อแอร์มือสอง รุ่นซัมซุง 12000BTU จากช่องทาง Facebook ในราคา 6,900 บาท พร้อมติดตั้งและประกัน 6 เดือน เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2567
แต่หลังจากติดตั้งแอร์แล้ว มันไม่สามารถใช้งานได้ตลอดระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา ผมจึงต้องการขอความช่วยเหลือหน่อยครับ
ขอขอบคุณครับ
รายละเอียดทั้งหมด
สถานที่ติดตั้งแอร์ คือ ห้องโถง ห้องนี้จะไม่ได้ค่อยใช้แอร์ประจำ จะใช้ต่อเมื่อเวลาหยุดทำงานเท่านั้น
ในวันที่ 22 กันยายน 2567
ตั้งแต่ติดตั้งแอร์วันแรก การใช้งานในช่วงแรกแอร์ทำงานได้ปกติ มีความเย็นตามที่คาดหวัง แต่หลังจากนั้นไม่นาน ความเย็นก็เริ่มหายไป กลายเป็นแค่ลมธรรมดาเท่านั้น โดยที่ไม่เย็นเหมือนตอนแรก ซึ่งตอนนั้นผมไม่ได้แจ้งช่างทันที เพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติของการใช้งานครั้งแรก ผมคาดว่าเพราะในช่วงนั้นอากาศภายนอกเย็นอยู่แล้ว เลยไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติ ตอนนั้นก็ไม่ได้ใช้แอร์ต่อจนกระทั่งหลังจากวันติดตั้งไปแล้ว
จนถึงวันที่ 17 ตุลาคม 2567
ผมได้แจ้งกับคนขายแอร์ ว่ามีแอร์ขนาดที่ให้ความเย็นกว่านี้ไหมครับ เพราะแอร์ที่ซื้อมาขนาด 12000BTU ยังไม่ค่อยเย็นหรือฉ่ำเท่าไหร่ ขนาดห้องไม่เกิน 25 ตร.ม. คนขาย แจ้งว่ามีแต่แอร์มือหนึ่ง ซึ่งต้องเพิ่มเงินอีกค่อนข้างเยอะ ผมจึงไม่ได้ตกลงเปลี่ยนหรือซื้อขายใหม่ หลังจากนั้นก็ทำงานยาวและไม่ได้ใช้แอร์เลยครับ.
จนวันที่ 6 ธันวาคม 2567
ผมได้ใช้แอร์อีกครั้งและพบว่าแอร์ไม่มีความเย็นออก ผมจึงคาดการณ์ว่าแอร์ไม่ได้ใช้มานาน คงต้องล้างทำความสะอาดใหม่หรือเติมน้ำยาแอร์ เลยตัดสินใจจ้างช่างคนหนึ่งจาก Facebook มาล้างแอร์ที่บ้าน
เมื่อช่างมาถึง เขาได้ถอดหน้ากากแอร์ออกมาดูและพบว่าแอร์ยังสะอาดดี จึงแจ้งว่าแอร์ไม่เย็นน่าจะเกิดจากสาเหตุอื่น แล้วช่างก็เดินออกไปดูที่คอมเพรสเซอร์ของแอร์ข้างนอกและพบว่ามีน้ำแข็งเกาะที่คอมแอร์ ซึ่งแสดงว่าแอร์มีปัญหาจริงๆ
ช่างแอร์ที่ผมจ้างมาได้ถามว่าผมยังมีประกันแอร์หรือไม่ ถ้ามี ให้เรียกช่างคนเดิมมาซ่อม เพราะเขาจะไม่ยุ่งกับงานที่มีประกันตามกฎของช่างแอร์ หลังจากนั้น ผมได้จ่ายค่าเสียเวลาให้ช่าง 300 บาท และได้แจ้งกับคนขาย ว่าแอร์ไม่เย็น และได้ให้ช่างเข้ามาล้างแอร์ แต่ช่างไม่ได้ล้างอะไรเลย เขาแค่ถอดหน้ากากแอร์มาดูและพบว่าแอร์สะอาดอยู่ จากนั้นช่างได้เดินไปดูที่คอมแอร์และพบว่ามีน้ำแข็งเกาะอยู่
คนขายได้ถามย้ำว่าช่างได้ล้างแอร์หรือไม่ เพราะถ้าช่างล้างแอร์แล้วจะหมดประกัน ผมจึงบอกไปว่าช่างไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากถอดหน้ากากแอร์มาดูและพบว่าสะอาด และพบปัญหาน้ำแข็งเกาะที่คอมแอร์
คนขายแจ้งว่าทางเรามีการรับประกันและสามารถเครมให้ได้ แต่ให้ผมรอหน่อย เพราะต้องหาชิ้นส่วนแอร์หรืออุปกรณ์ที่จะเครมให้ใหม่ ซึ่งช่างไม่ได้บอกระยะเวลาในการรอ อ้างว่าเป็นแอร์มือสอง จึงต้องหาชิ้นส่วนใหม่มาแทน ช่างได้เสนอแอร์ขนาด 18000 BTU ซึ่งมีของพร้อม แต่ผมต้องจ่ายเพิ่มอีก 3500-4000 บาท ซึ่งผมไม่สะดวกจึงตอบปฏิเสธไป.
โพสต์วันที่ 8 ธันวาคม 2567:
หลังจากที่ผมเอาช่างคนอื่นมาล้างแอร์ที่ไม่ใช่ช่างของตัวเองแล้ว ดันเห็นโพสต์จากช่างแอร์คนหนึ่งว่า 'ขายแอร์มือสองพร้อมติดตั้งมีประกันให้ 6 เดือน ถ้าแอร์มีปัญหาเรียกช่างอื่นเข้าไปดู กูละงง ช่างอื่นดูเสร็จแล้วโทรหาให้กูไปเครมอะไรของคุณครับเนี่ย' เลยคิดว่ามันอาจจะเป็นโพสต์ของตัวเอง เลยสอบถามคนขายแอร์ไปว่าโพสต์นี้เกี่ยวกับเคสของผมหรือเปล่า ซึ่งคนขายตอบว่าไม่ใช่ หลังจากนั้นโพสต์ก็ถูกลบไป แต่ผมยังสงสัยว่าการเครมแอร์มีระยะเวลาและการดำเนินการยังไงบ้าง เพราะผมต้องใช้แอร์แล้ว คนขายบอกให้รอช่างหามือสองให้ก่อน แต่ไม่ได้บอกระยะเวลาแน่นอน และยังแนะนำให้ผมซื้อแอร์ใหม่ไปเลย โดยจะให้ราคามือสองที่ 2,000 บาท ถ้าผมเอาแอร์เก่าไปเทริน แต่ผมไม่ตกลง เพราะจากที่ติดตั้งมาจนถึงตอนนี้ แอร์ไม่สามารถใช้งานได้เลยในราคา 6,900 บาท ผมเลยคิดว่าเครมดีกว่า.
วันที่ 9 ธันวาคม 2567
ผมได้สอบถามเกี่ยวกับแอร์ว่าจะมีเข้ามาใหม่เมื่อไหร่ แต่ดูเหมือนคนขายเริ่มไม่พอใจที่ผมทวงถามซ้ำอีกครั้ง และได้ตอบกลับมาว่า "ประมาณ 2 อาทิตย์" ผมจึงตัดสินใจตกลงตามที่เขาบอกครับ.
24 ธันวาคม 2567
หลังจากครบ 2 อาทิตย์ ผมได้ทวงถามไปอีกครั้งในวันที่ 24 ธันวาคม 2567 ว่า สวัสดีครับพอจะหาตัวเลือกแอร์ให้ได้ไหมครับ แต่จนถึงตอนนั้นก็ยังไม่มีการตอบกลับจากทาง คนขาย
จนวันที่ 25 ธันวาคม 2567
ผมได้ทวงถามไปอีกครั้ง จนได้รับคำตอบว่าเขาป่วยและอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งผมก็เข้าใจและไม่ได้รบกวนหลังจากนั้น และผู้ขายได้แจ้งกับผมว่าแอร์มีแล้ว แต่ช่างจะเข้าไปทำการเครมให้ภายในวันที่ 4-5 มกราคม 2568.
พอถึงวันที่ 5 มกราคาม
ผมก็ไม่สามารถติดต่อกับคนขายแอร์ได้อีกเลย.
วันที่ 10 มกราคม 2568
ผมจึงตัดสินใจทักไปหาช่างเอง ในวันที่ 10 มกราคม 2568 และช่างก็ได้นัดวันเข้ามาทำการเครมครั้งที่ 1 โดยมีการเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์แอร์ให้ หลังจากที่การเครมเสร็จสิ้น ผมสามารถใช้งานแอร์ได้ตามปกติ แต่หลังจากผ่านไปแค่ไม่กี่ชั่วโมง ความเย็นของแอร์กลับหายไปเหมือนเดิม.
จนถึงวันที่ 16 มกราคม 2568
ผลได้แจ้งกับช่างไปอีกครั้งว่าแอร์ไม่มีความเย็น ช่างก็รับปากว่าจะมาดูให้ แต่หลังจากนั้นก็หายไปเลยครับ.
จนถึงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568
ผมได้ทักไปถามอีกครั้งว่า ช่างจะสะดวกมาวันไหนครับ? ช่างแจ้งมาว่าบ่ายๆ จะเข้าไปดูให้ แต่ก็หายไปอีกครับ.
จนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568
ผมได้แจ้งไปแล้วว่าสะดวกมาวันไหน แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับมาอีกเลย
จนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568
ช่างได้เข้ามาซ่อมแอร์ให้ในรอบที่ 2 หลังจากการเครมครั้งก่อน แต่แอร์กลับไม่เย็นอีกภายในเวลาเพียงแค่ชั่วโมงเดียว ผมจึงแจ้งกับช่างไปอีกครั้ง ช่างบอกว่าจะเปลี่ยนชุดใหม่ให้ทั้งหมด ซึ่งผมได้แจ้งกับช่างไปว่า ผมซื้อแอร์มาตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2567 จนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นเวลา 4 เดือน 24 วันแล้วที่ไม่สามารถใช้งานแอร์ได้เลย คราวนี้ผมจึงขอให้ช่างช่วยจริงๆ เพราะเวลามันสมควรแล้ว และส่วนตัวผมก็ไม่สะดวกที่จะใช้บริการช่างคนนี้อีกต่อไป จึงขอเงินคืน
แต่ช่างกลับอ้างว่า การเข้าเครมมีค่าใช้จ่าย 4,000-5,000 บาท ถ้าจะคืนเงินจะได้แค่ 2,000 บาท และต้องถอดแอร์ออก ผมไม่ยอมตกลงเพราะไม่เห็นด้วยที่ช่างจะเอาภาระของการเครมมาตกกับผม และช่างบอกว่าถ้ารอแอร์ชุดใหม่ต้องรอประมาณ 1 เดือน หรืออาจเร็วกว่านั้น แต่ประกันที่ช่างให้ผมมีแค่ 6 เดือน ถ้ารอต่อไป ประกันก็จะหมดพอดี ผมจึงแจ้งกับช่างว่า จะขอนำเรื่องนี้ไปขอความเห็นจากกลุ่มสาธารณะเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกัน และป้องกันไม่ให้ช่างหลอกลวงผม เพราะประกันแอร์กำลังจะหมดแล้ว ถ้ารอให้นานเกินไป
ช่างได้ทิ้งท้ายกับผมว่า จริงๆ ผมควรแจ้งเรื่องตั้งแต่ภายใน 1 สัปดาห์หลังติดตั้ง ช่างจะได้ดำเนินการให้ทันที แต่ผมกลับมาแจ้งตอนที่ประกันใกล้หมด และยังให้ช่างคนอื่นเข้ามาล้างแอร์ ซึ่งช่างจะสื่อว่าประกันหมดตั้งแต่ให้ช่างอื่นเข้ามาดูแล้ว แต่จริงๆ ช่างอื่นไม่ได้ล้างแอร์หรือยุ่งเกี่ยวกับระบบแอร์เลย และหลังจากนั้นผมก็ไม่สามารถติดต่อช่างได้อีกเลย ทั้งที่ผมมีหลักฐานการแจ้งไปตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2567 แล้ว
เรื่องนี้ยิ่งยุ่งเหยิงเมื่อช่างได้โพสต์ในเฟสส่วนตัวว่า “กูพยายามไม่พูดแล้วนะ อย่าวอนให้มาก ลูกค้าหัว ค. กูไม่สนใจหรอก สำหรับกูถ้าสุดแล้วจะ ค.อะไรก็ได้ทั้งนั้น” ซึ่งก็ชัดเจนว่าช่างมีปัญหากับลูกค้า ซึ่งก็คือผม
เรื่องได้มีการพูดคุยกันแล้วเพื่อหาทางออก โดยผมเสนอว่า ถ้ารอเปลี่ยนแอร์ชุดใหม่ภายใน 1 เดือน ผมขอให้ช่างยืดระยะเวลาประกันออกไปตามความเหมาะสมได้หรือไม่ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อช่างได้อีกเลย
ก่อนหน้านี้ช่างได้ทำการเครมและมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ทำผิด และได้ถ้าให้ผมไปแจ้งความ ซึ่งตัวช่างเองทราบดีว่าเรื่องนี้เป็นคดีแพ่ง และตำรวจไม่รับแจ้งความ ซึ่งช่างใช้ช่องโหว่ของกฎหมายหากินในทางที่ผิด
ผมอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดว่า ประกันแอร์ยังไม่หมดจนถึงปัจจุบัน และการเครมจากช่างแอร์ควรได้รับการพิจารณาหรือไม่ คาดว่า ช่างอาจจะหาซื้อแอร์มือสองมาประกอบขาย และถ้าแอร์มีปัญหา ก็แค่เข้าไปเครมไม่กี่ครั้งแล้วปล่อยลูกค้าหมดประกัน ซึ่งในทางกฎหมายไม่สามารถทำอะไรได้เลย .
ขณะนี้ในปัจจุบันผม ขอฝากเรื่องนี้ไว้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียด ด้วยครับ ขอบคุณครับ.
ซื้อแอร์มือสองแต่ใช้งานไม่ได้
ผมได้ซื้อแอร์มือสอง รุ่นซัมซุง 12000BTU จากช่องทาง Facebook ในราคา 6,900 บาท พร้อมติดตั้งและประกัน 6 เดือน เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2567
แต่หลังจากติดตั้งแอร์แล้ว มันไม่สามารถใช้งานได้ตลอดระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา ผมจึงต้องการขอความช่วยเหลือหน่อยครับ
ขอขอบคุณครับ
รายละเอียดทั้งหมด
สถานที่ติดตั้งแอร์ คือ ห้องโถง ห้องนี้จะไม่ได้ค่อยใช้แอร์ประจำ จะใช้ต่อเมื่อเวลาหยุดทำงานเท่านั้น
ในวันที่ 22 กันยายน 2567
ตั้งแต่ติดตั้งแอร์วันแรก การใช้งานในช่วงแรกแอร์ทำงานได้ปกติ มีความเย็นตามที่คาดหวัง แต่หลังจากนั้นไม่นาน ความเย็นก็เริ่มหายไป กลายเป็นแค่ลมธรรมดาเท่านั้น โดยที่ไม่เย็นเหมือนตอนแรก ซึ่งตอนนั้นผมไม่ได้แจ้งช่างทันที เพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติของการใช้งานครั้งแรก ผมคาดว่าเพราะในช่วงนั้นอากาศภายนอกเย็นอยู่แล้ว เลยไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติ ตอนนั้นก็ไม่ได้ใช้แอร์ต่อจนกระทั่งหลังจากวันติดตั้งไปแล้ว
จนถึงวันที่ 17 ตุลาคม 2567
ผมได้แจ้งกับคนขายแอร์ ว่ามีแอร์ขนาดที่ให้ความเย็นกว่านี้ไหมครับ เพราะแอร์ที่ซื้อมาขนาด 12000BTU ยังไม่ค่อยเย็นหรือฉ่ำเท่าไหร่ ขนาดห้องไม่เกิน 25 ตร.ม. คนขาย แจ้งว่ามีแต่แอร์มือหนึ่ง ซึ่งต้องเพิ่มเงินอีกค่อนข้างเยอะ ผมจึงไม่ได้ตกลงเปลี่ยนหรือซื้อขายใหม่ หลังจากนั้นก็ทำงานยาวและไม่ได้ใช้แอร์เลยครับ.
จนวันที่ 6 ธันวาคม 2567
ผมได้ใช้แอร์อีกครั้งและพบว่าแอร์ไม่มีความเย็นออก ผมจึงคาดการณ์ว่าแอร์ไม่ได้ใช้มานาน คงต้องล้างทำความสะอาดใหม่หรือเติมน้ำยาแอร์ เลยตัดสินใจจ้างช่างคนหนึ่งจาก Facebook มาล้างแอร์ที่บ้าน
เมื่อช่างมาถึง เขาได้ถอดหน้ากากแอร์ออกมาดูและพบว่าแอร์ยังสะอาดดี จึงแจ้งว่าแอร์ไม่เย็นน่าจะเกิดจากสาเหตุอื่น แล้วช่างก็เดินออกไปดูที่คอมเพรสเซอร์ของแอร์ข้างนอกและพบว่ามีน้ำแข็งเกาะที่คอมแอร์ ซึ่งแสดงว่าแอร์มีปัญหาจริงๆ
ช่างแอร์ที่ผมจ้างมาได้ถามว่าผมยังมีประกันแอร์หรือไม่ ถ้ามี ให้เรียกช่างคนเดิมมาซ่อม เพราะเขาจะไม่ยุ่งกับงานที่มีประกันตามกฎของช่างแอร์ หลังจากนั้น ผมได้จ่ายค่าเสียเวลาให้ช่าง 300 บาท และได้แจ้งกับคนขาย ว่าแอร์ไม่เย็น และได้ให้ช่างเข้ามาล้างแอร์ แต่ช่างไม่ได้ล้างอะไรเลย เขาแค่ถอดหน้ากากแอร์มาดูและพบว่าแอร์สะอาดอยู่ จากนั้นช่างได้เดินไปดูที่คอมแอร์และพบว่ามีน้ำแข็งเกาะอยู่
คนขายได้ถามย้ำว่าช่างได้ล้างแอร์หรือไม่ เพราะถ้าช่างล้างแอร์แล้วจะหมดประกัน ผมจึงบอกไปว่าช่างไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากถอดหน้ากากแอร์มาดูและพบว่าสะอาด และพบปัญหาน้ำแข็งเกาะที่คอมแอร์
คนขายแจ้งว่าทางเรามีการรับประกันและสามารถเครมให้ได้ แต่ให้ผมรอหน่อย เพราะต้องหาชิ้นส่วนแอร์หรืออุปกรณ์ที่จะเครมให้ใหม่ ซึ่งช่างไม่ได้บอกระยะเวลาในการรอ อ้างว่าเป็นแอร์มือสอง จึงต้องหาชิ้นส่วนใหม่มาแทน ช่างได้เสนอแอร์ขนาด 18000 BTU ซึ่งมีของพร้อม แต่ผมต้องจ่ายเพิ่มอีก 3500-4000 บาท ซึ่งผมไม่สะดวกจึงตอบปฏิเสธไป.
โพสต์วันที่ 8 ธันวาคม 2567:
หลังจากที่ผมเอาช่างคนอื่นมาล้างแอร์ที่ไม่ใช่ช่างของตัวเองแล้ว ดันเห็นโพสต์จากช่างแอร์คนหนึ่งว่า 'ขายแอร์มือสองพร้อมติดตั้งมีประกันให้ 6 เดือน ถ้าแอร์มีปัญหาเรียกช่างอื่นเข้าไปดู กูละงง ช่างอื่นดูเสร็จแล้วโทรหาให้กูไปเครมอะไรของคุณครับเนี่ย' เลยคิดว่ามันอาจจะเป็นโพสต์ของตัวเอง เลยสอบถามคนขายแอร์ไปว่าโพสต์นี้เกี่ยวกับเคสของผมหรือเปล่า ซึ่งคนขายตอบว่าไม่ใช่ หลังจากนั้นโพสต์ก็ถูกลบไป แต่ผมยังสงสัยว่าการเครมแอร์มีระยะเวลาและการดำเนินการยังไงบ้าง เพราะผมต้องใช้แอร์แล้ว คนขายบอกให้รอช่างหามือสองให้ก่อน แต่ไม่ได้บอกระยะเวลาแน่นอน และยังแนะนำให้ผมซื้อแอร์ใหม่ไปเลย โดยจะให้ราคามือสองที่ 2,000 บาท ถ้าผมเอาแอร์เก่าไปเทริน แต่ผมไม่ตกลง เพราะจากที่ติดตั้งมาจนถึงตอนนี้ แอร์ไม่สามารถใช้งานได้เลยในราคา 6,900 บาท ผมเลยคิดว่าเครมดีกว่า.
วันที่ 9 ธันวาคม 2567
ผมได้สอบถามเกี่ยวกับแอร์ว่าจะมีเข้ามาใหม่เมื่อไหร่ แต่ดูเหมือนคนขายเริ่มไม่พอใจที่ผมทวงถามซ้ำอีกครั้ง และได้ตอบกลับมาว่า "ประมาณ 2 อาทิตย์" ผมจึงตัดสินใจตกลงตามที่เขาบอกครับ.
24 ธันวาคม 2567
หลังจากครบ 2 อาทิตย์ ผมได้ทวงถามไปอีกครั้งในวันที่ 24 ธันวาคม 2567 ว่า สวัสดีครับพอจะหาตัวเลือกแอร์ให้ได้ไหมครับ แต่จนถึงตอนนั้นก็ยังไม่มีการตอบกลับจากทาง คนขาย
จนวันที่ 25 ธันวาคม 2567
ผมได้ทวงถามไปอีกครั้ง จนได้รับคำตอบว่าเขาป่วยและอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งผมก็เข้าใจและไม่ได้รบกวนหลังจากนั้น และผู้ขายได้แจ้งกับผมว่าแอร์มีแล้ว แต่ช่างจะเข้าไปทำการเครมให้ภายในวันที่ 4-5 มกราคม 2568.
พอถึงวันที่ 5 มกราคาม
ผมก็ไม่สามารถติดต่อกับคนขายแอร์ได้อีกเลย.
วันที่ 10 มกราคม 2568
ผมจึงตัดสินใจทักไปหาช่างเอง ในวันที่ 10 มกราคม 2568 และช่างก็ได้นัดวันเข้ามาทำการเครมครั้งที่ 1 โดยมีการเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์แอร์ให้ หลังจากที่การเครมเสร็จสิ้น ผมสามารถใช้งานแอร์ได้ตามปกติ แต่หลังจากผ่านไปแค่ไม่กี่ชั่วโมง ความเย็นของแอร์กลับหายไปเหมือนเดิม.
จนถึงวันที่ 16 มกราคม 2568
ผลได้แจ้งกับช่างไปอีกครั้งว่าแอร์ไม่มีความเย็น ช่างก็รับปากว่าจะมาดูให้ แต่หลังจากนั้นก็หายไปเลยครับ.
จนถึงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568
ผมได้ทักไปถามอีกครั้งว่า ช่างจะสะดวกมาวันไหนครับ? ช่างแจ้งมาว่าบ่ายๆ จะเข้าไปดูให้ แต่ก็หายไปอีกครับ.
จนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568
ผมได้แจ้งไปแล้วว่าสะดวกมาวันไหน แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับมาอีกเลย
จนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568
ช่างได้เข้ามาซ่อมแอร์ให้ในรอบที่ 2 หลังจากการเครมครั้งก่อน แต่แอร์กลับไม่เย็นอีกภายในเวลาเพียงแค่ชั่วโมงเดียว ผมจึงแจ้งกับช่างไปอีกครั้ง ช่างบอกว่าจะเปลี่ยนชุดใหม่ให้ทั้งหมด ซึ่งผมได้แจ้งกับช่างไปว่า ผมซื้อแอร์มาตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2567 จนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นเวลา 4 เดือน 24 วันแล้วที่ไม่สามารถใช้งานแอร์ได้เลย คราวนี้ผมจึงขอให้ช่างช่วยจริงๆ เพราะเวลามันสมควรแล้ว และส่วนตัวผมก็ไม่สะดวกที่จะใช้บริการช่างคนนี้อีกต่อไป จึงขอเงินคืน
แต่ช่างกลับอ้างว่า การเข้าเครมมีค่าใช้จ่าย 4,000-5,000 บาท ถ้าจะคืนเงินจะได้แค่ 2,000 บาท และต้องถอดแอร์ออก ผมไม่ยอมตกลงเพราะไม่เห็นด้วยที่ช่างจะเอาภาระของการเครมมาตกกับผม และช่างบอกว่าถ้ารอแอร์ชุดใหม่ต้องรอประมาณ 1 เดือน หรืออาจเร็วกว่านั้น แต่ประกันที่ช่างให้ผมมีแค่ 6 เดือน ถ้ารอต่อไป ประกันก็จะหมดพอดี ผมจึงแจ้งกับช่างว่า จะขอนำเรื่องนี้ไปขอความเห็นจากกลุ่มสาธารณะเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกัน และป้องกันไม่ให้ช่างหลอกลวงผม เพราะประกันแอร์กำลังจะหมดแล้ว ถ้ารอให้นานเกินไป
ช่างได้ทิ้งท้ายกับผมว่า จริงๆ ผมควรแจ้งเรื่องตั้งแต่ภายใน 1 สัปดาห์หลังติดตั้ง ช่างจะได้ดำเนินการให้ทันที แต่ผมกลับมาแจ้งตอนที่ประกันใกล้หมด และยังให้ช่างคนอื่นเข้ามาล้างแอร์ ซึ่งช่างจะสื่อว่าประกันหมดตั้งแต่ให้ช่างอื่นเข้ามาดูแล้ว แต่จริงๆ ช่างอื่นไม่ได้ล้างแอร์หรือยุ่งเกี่ยวกับระบบแอร์เลย และหลังจากนั้นผมก็ไม่สามารถติดต่อช่างได้อีกเลย ทั้งที่ผมมีหลักฐานการแจ้งไปตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2567 แล้ว
เรื่องนี้ยิ่งยุ่งเหยิงเมื่อช่างได้โพสต์ในเฟสส่วนตัวว่า “กูพยายามไม่พูดแล้วนะ อย่าวอนให้มาก ลูกค้าหัว ค. กูไม่สนใจหรอก สำหรับกูถ้าสุดแล้วจะ ค.อะไรก็ได้ทั้งนั้น” ซึ่งก็ชัดเจนว่าช่างมีปัญหากับลูกค้า ซึ่งก็คือผม
เรื่องได้มีการพูดคุยกันแล้วเพื่อหาทางออก โดยผมเสนอว่า ถ้ารอเปลี่ยนแอร์ชุดใหม่ภายใน 1 เดือน ผมขอให้ช่างยืดระยะเวลาประกันออกไปตามความเหมาะสมได้หรือไม่ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อช่างได้อีกเลย
ก่อนหน้านี้ช่างได้ทำการเครมและมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ทำผิด และได้ถ้าให้ผมไปแจ้งความ ซึ่งตัวช่างเองทราบดีว่าเรื่องนี้เป็นคดีแพ่ง และตำรวจไม่รับแจ้งความ ซึ่งช่างใช้ช่องโหว่ของกฎหมายหากินในทางที่ผิด
ผมอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดว่า ประกันแอร์ยังไม่หมดจนถึงปัจจุบัน และการเครมจากช่างแอร์ควรได้รับการพิจารณาหรือไม่ คาดว่า ช่างอาจจะหาซื้อแอร์มือสองมาประกอบขาย และถ้าแอร์มีปัญหา ก็แค่เข้าไปเครมไม่กี่ครั้งแล้วปล่อยลูกค้าหมดประกัน ซึ่งในทางกฎหมายไม่สามารถทำอะไรได้เลย .
ขณะนี้ในปัจจุบันผม ขอฝากเรื่องนี้ไว้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียด ด้วยครับ ขอบคุณครับ.