การโจมตีของรัสเซียในยูเครนเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2025
ยังคงรุนแรงและต่อเนื่อง กองทัพรัสเซียใช้ขีปนาวุธและโดรนจำนวนมหาศาล ถล่มเป้าหมายสำคัญทั่วประเทศยูเครน ตั้งแต่เคียฟ โอเดสซา ดนีโปรเปตรอฟสค์ ไปจนถึงคาร์คิฟ สร้างความเสียหายหนักให้กับโครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน และคลังอาวุธของยูเครน
ขีปนาวุธ-โดรน ระดมถล่ม ยูเครนสกัดกั้นบางส่วน แต่ยังมีเป้าหมายถูกโจมตี!
รัสเซียยิงขีปนาวุธ Iskander-M และ S-300 รวมถึงโดรน 181 ลำ ยูเครนสามารถสกัดกั้นโดรนได้ 115 ลำ และโดรนล่ออีก 55 ลำหายไปโดยไม่สร้างความเสียหาย
อย่างไรก็ตาม มีโดรน 11 ลำและขีปนาวุธ 4 ลูกที่สามารถเข้าถึงเป้าหมายและสร้างความเสียหายอย่างหนักในพื้นที่ยุทธศาสตร์
โอเดสซาถูกโจมตีซ้ำ! ศูนย์กลางโลจิสติกส์-โรงงานผลิตอาวุธเสียหายหนัก
โอเดสซาเป็นหนึ่งในจุดที่ถูกโจมตีหนักที่สุด โดยรัสเซียใช้โดรนพลีชีพถล่มสถานีพลังงานเชอร์โนมอร์กา-110 รวมถึงศูนย์กลางโลจิสติกส์ทางทหารที่ท่าเรือเชอร์โนมอร์สก์ ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการรับอาวุธจากต่างประเทศ การทำลายท่าเทียบเรือและโกดังเก็บอาวุธหลายแห่งทำให้การส่งเสบียงทางทหารของยูเครนชะลอตัวลงอย่างมาก
เคียฟ-ดนีโปรเปตรอฟสค์ ถูกโจมตีต่อเนื่อง! โครงสร้างพื้นฐานพังเสียหาย
ขีปนาวุธรัสเซียพุ่งเป้าไปที่โรงงานอุตสาหกรรมใน Pavlograd ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำคัญในการผลิตและซ่อมแซมกระสุนพิสัยไกลและระบบจรวดหลายลำกล้อง ส่งผลให้โรงงานได้รับความเสียหายหนักและเกิดไฟไหม้
ขณะที่ในเคียฟ โดรนพลีชีพโจมตีคลังน้ำมันแกรนด์เทอร์มินัลและศูนย์กลางโลจิสติกส์ในบอริสปิล ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งหลักของยูเครน
รัสเซียมุ่งทำลายเส้นทางขนส่ง-พลังงาน ยูเครนจะรับมือได้แค่ไหน?
การโจมตีครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่ายุทธศาสตร์ของรัสเซียมุ่งเน้นไปที่การทำลายเส้นทางขนส่งและพลังงานของยูเครน เพื่อทำให้ยูเครนขาดแคลนทรัพยากรในการทำสงคราม
ขณะที่ยูเครนสามารถป้องกันการโจมตีบางส่วนได้ แต่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน และนาโต้จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือด้านอาวุธและโลจิสติกส์ต่อไป
สงครามยังคงดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด ยูเครนจะรับมือกับการโจมตีที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ได้อย่างไร? หรือรัสเซียจะสามารถกดดันให้ยูเครนเข้าสู่จุดแตกหัก? นี่คือคำถามที่ต้องจับตาในสมรภูมิที่ยังไม่มีวี่แววจะยุติในเร็วๆ นี้!
ล่าสุด กองทัพรัสเซีย ส่งขีปนาวุธ Iskander-M และ S-300 โจมตีถล่มเป้าหมายสำคัญทั่วประเทศยูเครน!?!
ยังคงรุนแรงและต่อเนื่อง กองทัพรัสเซียใช้ขีปนาวุธและโดรนจำนวนมหาศาล ถล่มเป้าหมายสำคัญทั่วประเทศยูเครน ตั้งแต่เคียฟ โอเดสซา ดนีโปรเปตรอฟสค์ ไปจนถึงคาร์คิฟ สร้างความเสียหายหนักให้กับโครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน และคลังอาวุธของยูเครน
ขีปนาวุธ-โดรน ระดมถล่ม ยูเครนสกัดกั้นบางส่วน แต่ยังมีเป้าหมายถูกโจมตี!
รัสเซียยิงขีปนาวุธ Iskander-M และ S-300 รวมถึงโดรน 181 ลำ ยูเครนสามารถสกัดกั้นโดรนได้ 115 ลำ และโดรนล่ออีก 55 ลำหายไปโดยไม่สร้างความเสียหาย
อย่างไรก็ตาม มีโดรน 11 ลำและขีปนาวุธ 4 ลูกที่สามารถเข้าถึงเป้าหมายและสร้างความเสียหายอย่างหนักในพื้นที่ยุทธศาสตร์
โอเดสซาถูกโจมตีซ้ำ! ศูนย์กลางโลจิสติกส์-โรงงานผลิตอาวุธเสียหายหนัก
โอเดสซาเป็นหนึ่งในจุดที่ถูกโจมตีหนักที่สุด โดยรัสเซียใช้โดรนพลีชีพถล่มสถานีพลังงานเชอร์โนมอร์กา-110 รวมถึงศูนย์กลางโลจิสติกส์ทางทหารที่ท่าเรือเชอร์โนมอร์สก์ ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการรับอาวุธจากต่างประเทศ การทำลายท่าเทียบเรือและโกดังเก็บอาวุธหลายแห่งทำให้การส่งเสบียงทางทหารของยูเครนชะลอตัวลงอย่างมาก
เคียฟ-ดนีโปรเปตรอฟสค์ ถูกโจมตีต่อเนื่อง! โครงสร้างพื้นฐานพังเสียหาย
ขีปนาวุธรัสเซียพุ่งเป้าไปที่โรงงานอุตสาหกรรมใน Pavlograd ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำคัญในการผลิตและซ่อมแซมกระสุนพิสัยไกลและระบบจรวดหลายลำกล้อง ส่งผลให้โรงงานได้รับความเสียหายหนักและเกิดไฟไหม้
ขณะที่ในเคียฟ โดรนพลีชีพโจมตีคลังน้ำมันแกรนด์เทอร์มินัลและศูนย์กลางโลจิสติกส์ในบอริสปิล ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งหลักของยูเครน
รัสเซียมุ่งทำลายเส้นทางขนส่ง-พลังงาน ยูเครนจะรับมือได้แค่ไหน?
การโจมตีครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่ายุทธศาสตร์ของรัสเซียมุ่งเน้นไปที่การทำลายเส้นทางขนส่งและพลังงานของยูเครน เพื่อทำให้ยูเครนขาดแคลนทรัพยากรในการทำสงคราม
ขณะที่ยูเครนสามารถป้องกันการโจมตีบางส่วนได้ แต่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน และนาโต้จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือด้านอาวุธและโลจิสติกส์ต่อไป
สงครามยังคงดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด ยูเครนจะรับมือกับการโจมตีที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ได้อย่างไร? หรือรัสเซียจะสามารถกดดันให้ยูเครนเข้าสู่จุดแตกหัก? นี่คือคำถามที่ต้องจับตาในสมรภูมิที่ยังไม่มีวี่แววจะยุติในเร็วๆ นี้!