ผัก 5 อย่างไม่ควรกินสด “หมอ”เตือนระวังพยาธิขึ้นตา เสี่ยงตาบอด!

หมอเจด นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ให้ความรู้ด้านสุขภาพผ่านเฟซบุ๊ก  หมอเจด ว่า เชื่อว่าเราเคยเรียนมา หรือคงจะเคยได้ยินมาแหละ ต้องกินผัก griktผักมีประโยชน์กันร่างกาย การกินผักนี่ดีต่อสุขภาพก็จริง แต่ก็มีเรื่องที่ต้องระวังด้วย ผักสดบางอย่างอาจมีพยาธิติดมาด้วยแบบไม่รู้ตัว ถ้าล้างไม่สะอาด หรือบางทีเราก็ไม่เห็น ไม่ได้ห้ามกินนะ  แต่ต้องระวังให้มากขึ้น เดี๋ยวมาดูกันว่าผักอะไรเสี่ยงสุด และต้องล้างยังไงให้มั่นใจว่ากินได้แบบปลอดภัย 

1.ผักสดที่เสี่ยงมีพยาธิเยอะที่สุด
จากการศึกษาของ Punsawad C ซึ่งเก็บตัวอย่างผักจากตลาดในนครศรีธรรมราช พบว่ามี 5 ชนิด ที่เสี่ยงพยาธิ เรียงจากน้อยไปมาก
     1.ผักชีฝรั่ง พบพยาธิ  11%
     2.ใบบัวบก พบพยาธิ  12%
     3.ต้นหอม พบพยาธิ  13%
     4.ผักชีไทย พบพยาธิ 13%
     5.ขึ้นฉ่ายฝรั่ง พบพยาธิ 63.3%
อันนี้ต้องระวังเลยนะ ผักบางอย่างเราก็ไม่คิดว่าพยาธิเยอะโดยเฉพาะขึ้นฉ่ายฝรั่ง ตัวนี้แชมป์เรื่องพยาธิเพราะก้านมีร่องลึก ดินเข้าไปฝังตัวแน่น  บางทีแหล่งปลูกก็ใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ เลยกลายเป็นแหล่งสะสมของพยาธินะ  

2. พยาธิที่พบในผัก และมันทำอะไรกับเราได้บ้าง?
พยาธิที่พบในผักสดมันส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติ ตั้งแต่อาการเล็กน้อย เช่น ท้องเสีย ไปจนถึงปัญหาร้ายแรง เช่น ภาวะขาดสารอาหาร หรือการติดเชื้อภายในลำไส้ พยาธิพวกนี้ส่วนใหญ่จะพบในพื้นที่ที่มีการใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ โดยไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง ซึ่งอาจทำให้ไข่พยาธิปนเปื้อนลงสู่ดินและน้ำได้ง่าย พยาธิแต่ละชนิดก็ส่งผลแตกต่างกัน มาดูกันว่ามีตัวไหนบ้าง และมันแย่กับร่างกายเรายังไงบ้าง
     1.ปากขอ (Hookworm)  ตัวนี้ดูดเลือดจากลำไส้ ทำให้โลหิตจาง อ่อนเพลีย และขาดธาตุเหล็กได้
     2.พยาธิเส้นด้าย (Threadworm)  ตัวนี้ชอบออกมาแถว ๆ ทวารหนักตอนกลางคืน ทำให้คัน และถ้าไม่รักษา อาจแพร่กระจายไปทั่วบ้านได้
     3.พยาธิแส้ม้า (Whipworm)  ทำให้ท้องเสียเรื้อรัง ลำไส้อักเสบ และถ้าหนัก ๆ อาจทำให้ขาดสารอาหาร
     4.พยาธิไส้เดือน (Ascaris)  ตัวใหญ่และยาวสุด อาจทำให้แน่นท้อง ปวดท้องหนัก และบางครั้งพยาธิอาจเคลื่อนที่ไปถึงปอด ทำให้ไอเรื้อรังได้
     5.พยาธิไส้เดือนสุนัข (Toxocara canis)  อันตรายมาก โดยเฉพาะถ้าไข่พยาธิเข้าไปในตา อาจทำให้ตาบอดได้เลยนะ

3 .พยาธิพวกนี้เข้าสู่ร่างกายได้ยังไงบ้าง?
     1.กินผักที่ล้างไม่สะอาด  ถ้ามีไข่พยาธิหรือดินปนเปื้อนมากับผัก แล้วเรากินเข้าไปโดยไม่ล้างดี ๆ ก็เสี่ยงรับพยาธิเข้าท้องเต็ม ๆ
     2.มือสกปรกแล้วไปหยิบอาหารเข้าปาก  ถ้าจับผักที่ยังไม่ได้ล้าง แล้วไม่ล้างมือก่อนกินข้าว โอกาสพยาธิเข้าร่างกายก็เพิ่มขึ้น
     3.อุปกรณ์ครัวปนเปื้อน   มีด เขียง จาน หรือภาชนะที่ใช้สัมผัสกับผักที่มีพยาธิ แล้วไม่ล้างให้สะอาดก่อนใช้งานต่อ ก็ทำให้เราติดพยาธิได้

4. ล้างผักยังไงให้สะอาด ปลอดภัยจากพยาธิ?
เราสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการล้าผักนะ ทำง่าย ๆ ตามนี้เลย
     1. ล้างผักด้วยน้ำไหล   ขยี้ใบ ถูเบา ๆ ให้ดินและสิ่งสกปรกออกให้หมด
     2. แช่ในน้ำเกลือหรือน้ำส้มสายชู   ใช้ เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ หรือ น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ 4 ลิตร แช่ไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
     3. ใช้แปรงขัดผักที่มีร่องลึก   เช่น ขึ้นฉ่ายฝรั่งหรือต้นหอม เพราะสิ่งสกปรกติดอยู่เยอะ
     4.ลวก หรือต้มก่อนกิน   ถ้าผักชนิดนั้นไม่จำเป็นต้องกินดิบ แนะนำให้ลวก หรือต้มก่อน ช่วยฆ่าพยาธิได้แน่นอน

5. กินผักสดยังไงให้มั่นใจว่าปลอดภัย?
ถ้าอยากกินผักสดให้ปลอดภัย ทำตามนี้เลยนะ
     1.เลือกซื้อผักจากแหล่งที่เชื่อถือได้  หลีกเลี่ยงผักที่ดูสกปรก หรือปลูกในที่ที่ไม่มั่นใจเรื่องความสะอาด
     2.ล้างมือให้สะอาดก่อน-หลังสัมผัสผัก  ป้องกันการแพร่กระจายของพยาธิ
     3.ล้างอุปกรณ์ครัวหลังใช้   โดยเฉพาะเขียงและมีดที่ใช้หั่นผัก ควรล้างให้สะอาดก่อนนำไปใช้กับอาหารอื่น
     4.เลี่ยงการกินผักดิบถ้าไม่มั่นใจเรื่องความสะอาด  บางชนิดล้างออกยาก ถ้าไม่มั่นใจ แนะนำให้ทำให้สุกก่อน

แม้ว่าผักสดจะดีต่อสุขภาพ แต่ถ้าไม่ล้างให้ดี พยาธิก็อาจเข้าร่างกายได้  แนะนำว่าล้างให้สะอาดก่อนกิน เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงได้เยอะเลยนะ การแช่ผักในน้ำเกลือ หรือน้ำส้มสายชู เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยลดการปนเปื้อนของพยาธิและแบคทีเรียได้ดี ทุกบ้านน่าจะมีทั้ง 2 อย่างติดบ้านอยู่แล้วนะ ย้ำอีกรอบนะ ผักสดกินได้ แต่ต้องระวังให้มากขึ้น เอาวิธีด้านบนไปใช้นะครับจะได้กินผักแบบสบายใจ.

ขอบคุณ Thansettakij
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่