ถ้าเป็นแบบนี้ถูกแล้วใช่ไหมคะที่เราเลือกที่จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว.

สวัสดีค่ะ อันนี้เป็นกระทู้ที่2 ของเรา กระทู้แรกเราตั้งเพื่อคำถามเพื่อหาเหตุผล เพื่อที่จะเอาไปปรับแก้กับแฟน เพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกันแบบไม่ต้องจบความสัมพันธ์ ซึ่งวันนี้ เราได้จบกับพ่อของเขาแล้วค่ะ ส่วนตัวที่เลือกแบบนี้ เรานึกถึงลูกอยู่นะคะ ว่าถ้าลูกไม่มีพ่อ เขาจะรู้สึกยังไง และเราจะเตรียมพร้อมรับมือกับลูกยังไง ถ้าเกิดลูกตั้งคำถามเกี่ยวกับพ่อ เรายอมรับค่ะว่าการตัดสินใจนี้ มันเกิดเพราะเราขอจบเองค่ะ เราไม่ไหว เราเหนื่อย เราแบกทุกอย่างวันนี้เราร้องไห้ตั้งแต่5โมงเย็นถึง3ทุ่ม ทบทวนอะไรต่างๆ ก่อนบอกจบความสัมพันธ์ 
เราทำงานเป็นแอดมินทำงาน12ชม. พอท้องเราขอWFH และขอให้แฟนมาทำด้วยกัน ซึ่งเขาก็ให้แฟนมาทำ
เราเงินเดือนรวมเบี้ยขยันได้15,000/เดือน เพราะทำมาปีกว่าแล้ว
ส่วนแฟนเงินเดือน12,500/เดือน รายได้เรา2คน เกือบ30,000 แค่หนี้ผ่อนมอไซต์เดือนละ2,000 กับค่าน้ำค่าไฟ เพราะอยู่บ้านพี่สาว พี่สาวไม่มีครอบครัว มีแค่พ่ออยู่ด้วย เลยแชร์ค่าใช้จ่ายกันเดือนละ1,000-2,000 ระยะเวลาที่เราท้อง แฟนเราไม่เคยทำแอดมิน เรายอมให้แฟนทำ8.00-20.00 เพราะช่วงนี้งานน้อย กะดึกงานจะเยอะ
เราควบดึก20.00-8.00 แต่สิ่งที่แฟนทำ เขากลับทำไม่เต็มที่ ไม่ตั้งใจทำ เราเข้างาน20.00เลิก8.00 แต่8โมง แฟนเรายังไม่ตื่น เราต้องเขากะทำงานรอเขาจนถึง10-11โมง พอเราไม่ไหว เราหลับ แฟนตื่นมาทำงานจริงๆประมาณ13.00น. ซึ่งการที่ค้างงานนานขนาดนี้ เราโดนหัก เพราะมีหัวหน้ากะ เขาคอยเช็กเวลาการตอบลูกค้า ถ้าค้างนานก็โดนหัก ซึ่งแฟนเราโดนหักเดือนละ2-3พัน เรารู้สึกว่า งานมันสบาย แค่ตอบๆไป และงานไม่ได้เยอะ ไม่ได้ใช้สมอง เราเข้าใจว่าเขาไม่ถนัดในช่วงแรก จนเข้า4-5เดือน ก็ยังโดนหัก จนพักงานไป1เดือน ช่วงที่เราคลอดให้แฟนทำคนเดียว กลับกลายเป็นว่า เราเพิ่งคลอดลูก ต้องดูลูก แล้วต้องพักผ่อน เราต้องมาทำงานแทน แฟนทำอะไร นอนค่ะ ตื่นมาเล่นเกมในคอมอีกเครื่อง ล้างขวดนมถ้าไม่บอกก็ไม่ทำ เอาลูกช่วยบ้างบางเวลา
จนกระทั่งลูกอายุได้3เดือน เรากับแฟนได้อยู่กะเดียวกัน แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดคือ หัวหน้าทักมาบอกแฟนเราให้ทำงานเดือนสุดท้าย ซึ่งตอนนั้นค่าใช้จ่ายเราเยอะมาก เพราะรถพัง ค่าหาหมอ ค่านมลูก เพราะเราทำงานหนัก เราไม่มีเวลาพักผ่อน จนปั๊มนมไม่เป็นเวลา จนน้ำนมหาย เหตุการณ์หนึ่งคือ เรานั่งปั๊มนม เราวูบจนกระทั่งน้ำนมที่ปั๊มใส่ขวด ราดใส่ตัวเรา เราเลยตื่น มันขนาดนั้นจริงๆค่ะ เราได้ไปขอร้องอ้อนวอนหัวหน้า ให้แฟนทำงานต่อ ร้องไห้จนเขายอม สุดท้ายก็ได้ทำงานต่อ แต่แฟนเราไม่ทำนะคะสรุปคือ เราควบทำคอม2เครื่องค่ะ สลับกะเดือนละ1ครั้ง เช้า/ดึก เรานั่งทำงานคนเดียวค่ะ เดือนไหนอยู่กะเช้า สบายหน่อย ลูกค้าไม่เยอะ พอได้พักผ่อน โฟกัสลูกบ้าง เดือนไหนที่ได้ขึ้นดึก หนักมากค่ะ 20.00เข้างาน บางวันลูกก็นอน3-4ทุ่ม ก็ต้องเป็นเราที่โอ๋ลูก เอาลูกนอน แฟนเรานั่งเล่นเกม ไม่ก็นั่งดีดกีต้าร์ร้องเพลง ซ้อมร้องเพลง ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ หัวหน้างานก็ตามงาน เราก็ต้องมาเคลียงาน2เครื่อง ได้กินข้าวตี1-2 ถ้าเราไม่สั่งเดลิเวอรี่ ก็ไม่ได้กิน ดึกๆก็มานั่งเล่นเกมเฝ้าเราทำงาน เข้าไปนอนก็ตี4-5 พอตอนเช้าลูกตื่น6โมง ก็ตื่นไม่ไหสเพราะเพิ่งนอน เราก็ต้องไปเอา แต่ยังดีที่แจ้งพักได้1ชม. เราก็เอาเวลาพักไปเอาลูก พอ8โมง เลิกงานลูกก็นอน เราก็นอน พอลูกตื่นอยากมาเล่น10-11โมง เราก็ต้องอุ้มออกมาฝากพ่อ กว่าแฟนจะตื่นก็ประมาณบ่าย2-3 พอตื่นก็คือปลุกเราบอกโอนเงินให้หน่อย หรือไม่ก็สั่งข้าว คือรหัสแอปธนาคารเราก็บอกค่ะ แบบ ทำเองเลยก็ได้ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือไม่ทำไม่เป็น อายุ27แล้วนะ เราก็ต้องตื่นบางวันตื่นบ่าย3 กว่าจะทำอะไรเสร็ต หากินข้าว ล้างขวดนม ก็5โมงเย็น ก็ต้องมาอาบน้ำให้ลูกต่อ เอาลูกนอน6โมงเย็น ลูกนอน เราค่อยได้งีบกับลูก แล้วตื่นมาทำงานอีก20.00 วนลูปแบบนี้
เข้าเดือนที่ลูกครบ4เดือน เราอยู่กะเช้า ก็แบบเดิมค่ะ เราตื่น7.30 เอาลูกออกมา แล้วมาทำงาน ไหนจะอาบน้ำเดินเล่น เราหัวหมุนมาก กว่าลูกจะนอนก็10โมง แฟนเราก็ยังไม่ตื่นอีก ตื่นอีกทีบ่าย2 ตื่นมา เราต้องสั่งข้าวไว้ ตื่นมาคือได้กินเลยอะไรแบบนี้ เราเหนื่อยมาก พอเลิกงานเราต้องล้างขวดนม กินข้าว เก็บของลูก เก็บบ้าน กว่าจะได้นอนเที่ยงคืน ตี1
ลูกเข้าเดือนที่6 เป็นเดือนที่ต้องเริ่มกินข้าว แล้วต้องทำกะดึก พนักงานลาออกก่อนปีใหม่กัน เราไม่ไหวค่ะ เราเลยให้แฟนเราทำงาน แต่เขาเหวี่ยง โมโห ไม่พอใจ เราเลยบอกให้ลาออก สรุปก็คือลาออกค่ะ รายได้ที่มีคือมาจากเราคนเดียวแล้วตอนนี้ ส่วนแฟนเราอยากไปทำงานกับงานดนตรี เช่น โบกรถ ตรวจตั๋วเข้าดูดนตรี พวกเฟสติวัลอะไรแบบนั้น เพราะก่อนที่เขาไม่เจอเรา เขาใช้ชีวิตแบบ ฮิปปี้ไปกับชาวอีสานเขียว(เสิรชหาในกูเกิ้ลได้ค่ะงานดนตรีแบบนี้แล้วจะพอรู้ว่า จะใช้ชีวิตแบบไหน) พอออกจากงานประจำ ไปทำงานเสริม งานแรกไปเชียงคานเฟสธันวา ไป4วัน3คืน ยืมเงินเรา1,000 ค่าน้ำมัน+ค่ากิน พอไปแล้วได้ไปยืนโบกรถ ให้คนมาชมงานว่าต้องจอดไหนทางเข้า ยืนตั้งแต่14.00-4.00น. คือมันนานมาก แล้วยืนอย่างเดียว แดดก็แดด พอเสร็งานก็บ่น แล้วหลับตื่นมาก็ต้องทำเหมือนเดิม สุดท้ายกลับบ้านได้เงินมา2,500 หักที่ยืมเรา1,000เหลือ1,500
งานที่2 ระยะทางไป-กลับ350กิโล หมดค่าน้ำมัน ค่ากิน 2,700 งานนี้ไป3วัน2คืน ได้ค่าแรงวันละ500 คือได้1,000ค่ะ อ่านไม่ผิดค่ะ1,000 เราต้องเอาเงินที่จะซื้อนมลูก ออกมาให้ก่อน สุดท้ายได้1,000 แล้วมาบ่นกับเรา เชิงตัดพ้อ
งานที่3 ระยะทางไป-กลับ 250กิโล เอาก็เอาเงินที่ได้นั่นแหละค่ะไป 1,000 กับเงินขอเราอีก1,000แต่งานที่3 ไม่ได้ค่าแรงเลย ไปเอาคอนแทคล้วนๆ
แล้วสิ้นเดือนมา ไทยจะหนี้รถ ค่าน้ำค่าไฟ ค่านมลูก ค่าแพมเพิส ค่ากินส่วนตัว ค่าของใช้ลูกอีก เงินเดือนเราหักเบิก4,000 เหลือแค่9,000กว่า เพราะเราลาป่วย+พาลูกไปโรงบาล เกินวันที่เขากำหนดให้หยุด เลยไม่ได้ค่าแรงค่ะ เรายังรู้สึกโชคดีที่ได้9,000
พอหักค่าใช้จ่าย เหลือใช้แค่3,000 เราไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมาอยู่จุดนี้ มันเหนื่อย เราอายุ21 เกิด(2546) แต่ภาระ หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ที่เราไม่ได้สร้างคนเดียว เราต้องแบกมันคนเดียว มันหนักมากสำหรับเด็กอายุ21 มันแบบ มันจุก มันเหนื่อย พูดไม่ออก ทำได้แค่ร้องไห้
แม้แต่ลูกเราโตขึ้นเรื่อยๆ เสื้อผ้าลูกเราก็ได้ซื้อตามเพจมือ2สอง สภาพดีๆ ส่วนพี่สาวแฟน เขาหน้าที่การงานดีมากๆ เขาก็คอยมาซัพพอตเราเช่น ซื้อเสื้อผ้าให้หลาน ซื้อของกินมาใส่ตู้เย็นไว้ให้เราทำกับข้าว บริษัทพี่สาวเบิกค่าเลี้ยงลูกค้าได้ เขาก็จะซื้อmk ชาบู หรือ ขนมปังดีๆมาไว้ให้เรากิน เรารู้สึกว่า เรายังโชคดีที่บ้านเขาดี ทุกอย่างเป็นแบบนี้จนถึงวันนี้ วันที่เราเหนื่อย เราเหนื่อยเกินจะทน เราไม่ไหวกับมันแล้ว เราไม่สามารถแบกได้คนเดียว มันเหนื่อยมากๆ 
ปัจจุบัน เราทำงานคนเดียว เข้างาน8.00 เราก็ต้องป้อนข้าวลูก เอาลูกฝากไว้กับพ่อ แล้วมาทำงาน พอ10โมง เราก็เอาลูกเข้าไปนอน แล้วมานั่งทำงานต่อ พอลูกร้อง เราเปิดประตูเข้าไป แฟนเราไม่ตื่น บางวันก็หงุดหงิดลูก เราต้องเป็นคนเข้าไปโอ๋ จนลูกติดเรา จนต้องเป็นเราที่คอยเอาลูกนอน เรื่องทำงานและเรื่องเอาลูกนอนมันไม่ใช่ปัญหา แต่พอแฟนเราตื่น ตื่นบ่ายโมง ตื่นมา เดินออกไปนอกบ้านทำรถ เดินเมาะๆแมะๆ ในบ้าน เล่นโทรศัพท์ ทำทุกอย่างยกเว้นล้างขวดนม กับ หาผลไม้ป้อนลูก กับล้างจานช่วย ถ้าแช่คือแช่ไว้แบบนั้น ไม่บอกคือไม่ทำ ต่อให้บอก สุดท้ายก็ไม่พ้นเราที่ต้องทำเอง
วันนี้เราเลยตัดสินใจพูดออกไป ว่าคิดอะไรอยู่ แต่ละวัน ทำอะไรไม่ถูกใจก็หงุดหงิด ก็ไม่พอใจ เขามีเหตุผลให้ตัวเอง คนอื่นบอกไม่ได้ แม้กระทั่งพี่สาว กับพ่อ เขาก็ปลงกันหมดแล้วค่ะ 
เวลาลูกร้อง ไม่เคยโอ๋ ปล่อยให้ลูกร้องไห้จนหัวเปียก หน้าแดง นมชงไว้ กินไม่หมดก็ไม่เอาออกไป เคยหยิบนมบูดให้ลูกกินจนได้ไปหาหมอแล้วมาโทษเราว่าเราไม่เอาออกไปทั้งๆที่เรานั่งทำงานอยู่ข้างนอกห้องนอน
พอเราถามว่าคิดอะไรอยู่ แฟนเราสวนกลับมาบอกว่า ไม่คุยแล้วนะ ที่เป็นอะไร เป็นแล้วค่อยมาพูด จะให้ทำอะไรทำไมไม่บอก ต้องการอะไร
แล้วเวลาบอกอะไร มีครั้งไหนไหม ที่ไม่ทำให้ พอแล้ว แยกกันเถอะ บอกมาเลยลิสมาเลยว่าต้องทำอะไรบ้าง แบ่งหน้าที่ให้เลย
เราเลยพูดค่ะว่า บอกให้ล้างขวดนม เราบอกเพราะมันหมด ต้องล้าง เดี๋ยวลูกร้องอยากกินนม จะเอาขวดนมมาจากไหน 
แฟนเราตอบ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าต้องบ้างตอนไหน ขวดนมมันหมดยัง
เรารู้สึกว่า มันไม่ใช่คำถามของคนเป็นพ่อเลยนะคะคำนี้ ที่ต้องล้างขวดนมตอนไหน ทั้งๆที่กล่องใส่ขวดนม อยู่ชั้น ด้านล่างกระปุกนม ข้างบนเป็นกาน้ำร้อน สีใส พลาสติกใส ไม่รู้ หรือ ไม่ใส่ใจกันแน่
เขาก็ตอบมา อื้ม เธอพูดมาขนาดนี้ บอกมาเลยให้ทำอะไร
เราเลยลิสไป ถ้าเราอยู่กะเช้า เราจะเป็นคนทำเองทั้งหมด ให้เขาทำตอนที่เราขึ้นกะดึก
ค่าใช้จ่ายลูกหาร2 เงินใช้ส่วนตัวแยก หาได้ก็ใช้ หาไม่ได้ ก็ไม่ต้องใช้
หนี้รถ สิ้นปีหมดถึงตอนนั้น เราจะดูเองค่ะว่าแฟนเราดูแลลูกได้ดีไหม เพราะตอนนี้เราคนเดียว หาเงอนคนเดียว ดูแลลูกคนเดียวได้ตลอดมาไม่ต้องพึ่งเขาแล้ว
ถ้าครบ1ปี เขายังทำหน้าที่พ่อได้ไม่ดีพอ เราจะให้แค่ให้เขามาหาลูก หรือ ติดต่อกันทางโทรศัพท์ จะไม่ฝากลูกจนกว่าลูกจะดูแลตัวเองได้
เพราะเรากลัวว่าถ้าสลับกันเลี้ยง เรากลัวลูกเราจะอด กลัวลูกไม่ได้อาบน้ำ กลัวเอานมบูดให้ลูกกิน 
อ่านมาถึงตอนนี้ เราขอบคุณทุกคนนะคะ เราเองที่พลาด ไม่ป้องกัน รักสนุก แต่พอมีลูก เราพยายามทำหน้าที่แม่ให้เต็มที่ที่สุดแล้ว เราเสียใจทุกครั้งเวลาที่ทะเลาะกันแล้วมีลูกอยู่ด้วย ถึงมันไม่บ่อย แต่ลูกไม่ควรต้องมาเจออะไรแบบนี้ เราเหนื่อยมาก เราคิดถึงชีวิตที่ได้นอนดูซีรีย์ หลับคาโทรศัพท์ ตื่นมาอีกรอบก็รีกลับไปดูใหม่ นอนหมกในห้อง ขี้เกียจ ทำอะไรก็ได้ ใช้ชีวิตสโลไลฟ์
แต่ตอนนี้มันต่างมากๆ เราต้องตื่นเป็นเวลา คิดวิธีหาเงิน ขี้เกียจไม่ได้เพราะลูกมีเราแค่คนเดียว เราไม่ทำใครจะทำ เราไม่อาบน้ำให้เขา ให้จะอาบให้ เราไม่ล้างขวดนม เขาหิวใครจะทำให้ กลายเป็นเรามีวินัยขึ้นมากๆ เรารักลูกมาก แต่ตอนนี้เรายังคิดไม่ตกว่า เราเป็นคนเห็นแก่ตัวไหม ที่เอาความรู้สึกเหนื่อยส่วนตัว มาตัดพ่อของลูกออกจากชีวิต แล้วใช้ชีวิตกัน2คน ลูกจะโกรธไหม เราจะเลี้ยงลูกได้ดีไหม ถ้าเขาโตขึ้น แล้วเขาตั้งคำถามกับเรา เราจะให้เหตุผลเขายังไง
คู่อื่นประคับประคองกันยังไง ไม่ให้แยกกัน  แต่วันนี้ เราไม่ไหวแล้ว เราเลิกคิดคำถามแล้วว่าทำยังไงจะได้อยู่ด้วยกัน
เราเหนื่อยมากๆ จนเราไม่มีเวลาเหนื่อย เพราะพิมพ์เสร็จเราก็ต้องไปอาบน้ำ นอน เตรียมตัวทำงานใช้ชีวิตเหมือนทุกๆวัน หาเงินเลี้ยงลูกต่อไป
ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่าน เป็นกำลังใจให้หนูด้วยนะคะ หนูจะพยายามเลี้ยงให้ลูกหนูมีรอยยิ้ม ใจดี ไม่อคติ เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะ.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่