คิมหันต์บรรเลง บทเพลงจั๊กจั่น
ยังนะครับ ยังไม่ถึงฤดูร้อน ยังหนาวอยู่ วันนี้มีเรื่องเก่ามาเล่าความหลังให้ฟังตามประสาของคนในวัยใกล้ชรา เมื่อวานนี้นี้วันเด็ก ผมเองมีลูกชายสองคน เคยเป็นผู้ดูแลเด็กผู้ชายดื้อๆซนๆ ทะโมนๆ ลูกชายผมเคยเป็นนักเพาะเลี้ยงแมลงปีกแข็งหลายชนิด ทั้งที่หาได้ในท้องถิ่น เก็บจากสวนหลังบ้านและซื้อหามาจากที่อื่น ถึงแม้ว่าวันนี้เด็กสองคนนั้นจะเติบโตขึ้นมาแล้ว ผ่านวันเวลาแบบนั้นไปแล้วและก็ไม่ได้เลี้ยงแมลงอีก แต่อุปนิสัยการปฎิบัติต่อสัตว์ผู้ยาก ไม่ว่าจะเล็กน้อยไม่มีความหมายในสายตาคนทั่วไป อย่างหนอน แมลง บุ้ง กบ เขียด กิ่งก่า นก หนู กระรอก กระแต ยังได้รับความเมตตามาเสมอ ลูกชายผมไม่ทำร้ายตัวอะไรเลย และช่วยเหลือสัตว์ที่ตกทุกข์เช่น เจอหนอนเดินขวางทางจะถูกคนเหยียบก็เก็บไปไว้ในป่าหรือต้นไม้ เจอผึ้งหรือแมลง แม้แต่มดตกน้ำก็หาอะไรมาตักขึ้น หลายครั้งที่ลุยน้ำลงไปช่วยผึ้งที่กระพือปีกหงายท้องอยู่ในสระหลังบ้าน
ความมีเมตตาและปรารถนาดีต่อเพื่อนร่วมโลกเป็นสิ่งที่ต้องปลูกฝังกันแต่เล็กแต่น้อย
รูปชุดนี้เป็นของเก่าผมกับลูกๆเป็นคนถ่าย ช่วงประมาณวันที่ 13 มีนาคม 2018 เมื่อ 7 ปีที่แล้ว หรือฤดูร้อนของปี 2561
" ตอนกลางวันเห็นแต่คราบ ไม่ได้เห็นว่ามันลอกคราบยังไง คืนนี้เลยพากันมาดูถึงที่
เขตจั๊กจั่นจะอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่หลายต้นครับมีต้นขนุน ต้นมะม่วง แล้วก็ต้นหว้า จะมีร่องรอยของคราบจั๊กจั่นและรูที่มันขุดดินออกมา หลายปีผ่านมาก็มีทุกปีครับ คราวนี้จะไปดูให้เห็นกับตาว่ามันลอกคราบยังไง
เริ่มตอนสองทุ่มครับ เดินฝ่าความมืดออกไปหลังบ้านถือไฟฉายไปด้วยค่อยๆเดินไม่ให้จั๊กจั่นตกใจ ค่อยๆฉายไฟดูก็เห็นจั๊กจั่นตัวอ่อนขึ้นมาจากดิน 5 ตัว ยังเป็นตัวที่มีเปลือก 3 ตัว แล้วก็ตัวที่ลอกคราบแล้ว 2 ตัว
ตัวอ่อนที่อยู่ในเปลือกยังขยับไปมาได้ หนีคนได้เดินไปเดินมาไต่ต้นไม้ ส่วนตัวที่ลอกคราบแล้วจะไปไหนไม่ได้มันจะเอาขาหน้าจิกกับเปลือกไม้เอาไว้แล้วดันตัวออกทางด้านหลัง
รอจนเกือบสามทุ่มก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงตัวที่ยังไม่ลอกคราบก็ยังเคลื่อนไหวได้อาจจะได้รับการรบกวนจากคน ตัวที่ลอกคราบแล้วเริ่มมีปีกเล็กๆงอกออกมา ก็เลยคิดว่าคืนนี้พักไว้แค่นี้ก่อน
รุ่งเช้าออกมาดูใหม่ตั้งแต่ตีห้า เห็นจั๊กจั่นตัวเต็มวัยที่ลอกคราบเรียบร้อยปีกงอกเต็มที่เกาะอยู่ข้างๆคราบของมัน ตัวที่ลอกคราบก่อนก็หายไปแล้วปีกแห้งก่อนคงบินออกไปก่อน
ขึ้นมา 5 ตัวลอกคราบสำเร็จทุกตัว พอรุ่งสางแสงแดดเริ่มมาก็หายไปทุกตัว ดีใจด้วยขอให้ทำสำเร็จ แล้วอย่าลืมมากรีดปีกให้ฟังบ้างนะ "
จึกจึกจึก จึกจึกจึก วี้วี้วี้วี้ น่าจะทำนองนี้นะครับ ถ้าจั๊กจั่นที่บ้านท่านร้องไม่เหมือนเสียงนี้ต้องขออภัย เอิ้ก เอิ้ก
บทเพลงจั๊กจั่น
สีสันของฤดูร้อน
ใบไม้ร่วง ดอกไม้บาน ยอดไม้เริ่มผลิรับสายฝนโปรยปราย
จั๊กจั่น ลองไน เรไรนานาชนิดขึ้นมาจากใต้ดิน กรีดปีกร้องระงมหาคู่ จับคู่ผสมพันธุ์ทำภารกิจสุดท้ายของชีวิต คือวางไข่ให้หนอนตัวเล็กๆดำรงเผ่าพันธุ์น้อยๆสืบต่อไป
คราบจั๊กจั่นที่ติดอยู่กับต้นไม้ครับผม มันจะขึ้นจากดินมาตอนกลางคืนครับ เกาะต้นไม้แล้วก็ลอกคราบทิ้งไว้ ตัวเต็มวัยก็บินไปหาอาหารแล้วก็ผสมพันธุ์
หลังจากใช้ชีวิตตัวอ่อนอยู่ในดินนับเป็นสิบปี จั๊กจั่นตัวน้อยก็ขึ้นมาลอกคราบทำภาระกิจสุดท้ายของชีวิต คือผสมพันธุ์และวางไข่ ช่วงเวลาตรงนี้สั้นมากครับ นับจำนวนได้เป็นวันหรือเป็นเดือนเท่านั้นเอง
วางไข่แล้วก็ตาย เริ่มกระบวนการวงจรชีวิตอันแสนยาวนานของหนอนตัวน้อยรุ่นต่อไปในดิน หากินและใช้ชีวิตอยู่ในดินตามสภาพแวดล้อมที่แม่ของมันเลือกไว้ให้
หลังบ้านผมมีจั๊กจั่นขึ้นมาทุกปีครับ บางปีเยอะมากจนเดินไปทางไหนก็เจอแต่คราบของจั๊กจั่น ที่บ้านไม่พ่นยาฆ่าแมลงหรือยากำจัดวัชพืช ปลูกผักผลไม้ไปตามครรลองชีวิตแบบเกษตรอินทรีย์
ต้นไม้ต้นที่มีจั๊กจั่นขึ้นปีที่แล้วก็มี ปีนี้ก็มี ปีต่อไปคงคงจะมีเหมือนกันตราบใดที่สภาพแวดล้อมของบ้านยังรักษาไว้ได้แบบนี้
เสียงของฝูงจั๊กจั่นกรีดปีกทำให้ความร้อนในฤดูร้อนลดลง อย่างน้อยก็ในหัวใจของคนฟัง ช่วงเวลาสั้นๆแต่มีค่าทั้งกับแมลงน้อยๆและคนที่เฝ้ารอ
เสียงจั๊กจั่นไม่ได้มีให้ฟังทั้งปีแต่ก็แวะมาให้ได้ยินตลอด เสียงหัวใจตัวเองโดยแท้แล้วส่งเสียงอยู่ทุกเวลาทั้งยามหลับและยามตื่นแต่เราก็มักจะไม่ได้ยิน บางสิ่งบางอย่างร่ำร้อง จิตวิญญาณอันเปลี่ยวเหงาของเราร้องเรียกเพรียกหา จักรวาลและความจริงเปล่งเสียงที่ต้องการให้มีผู้รับฟัง
สิบปี นับสิบปีที่จั๊กจั่นตัวนึงเริ่มชีวิตของมัน เล่นบทแมลงตัวน้อยในวัฏฏสงสารอันเนิ่นนานและยาวไกล บางทีมันก็ส่งเสียง เสียงเล็กๆที่อยากให้ใครๆได้ยิน สำหรับจั๊กจั่นแล้วอยากให้จั๊กจั่นตัวเมียซักตัวได้ยินตามเสียงมาบรรเลงบทเพลงร่วมกับมัน บทเพลงจั๊กจั่น บทเพลงแห่งฤดูร้อน บทเพลงแห่งทศวรรษ บทเพลงแห่งชีวิต ชีวิตจั๊กจั่น
ยี่สิบปีที่แล้วผมก็อยู่ที่นี่ อาจจะเป็นช่วงเดียวกันกับจั๊กจั่นน้อยๆเริ่มวางไข่หรืออกจากไข่ใต้ต้นไม้ต้นเดิมที่พ่อแม่และปู่ย่าตายายของมันเคยขึ้นมา เสียงที่ผมเคยได้ยินในตอนนั้นอาจจะเป็นเสียงของพ่อแม่มันก็ได้ ผมอยากยิ้มน้อยๆให้แมลงสองตัวที่ทำบางสิ่งบางอย่างสำเร็จ บางทีก็อยากยิ้มให้ตัวเองบ้างเหมือนกันที่ทำบางสิ่งบางอย่างสำเร็จ ถึงเป็นเพียงรอยยิ้มน้อยๆสำหรับความสำเร็จเล็กๆก็ยังดี
พอๆกับอายุจั๊กจั่นตัวนึง ก็แอบคาดหวังว่ามันจะไปได้อีกสิบหรือสิบห้าปีอีกทีข้างหน้า เอิ้ก เอิ้ก ถ้าผมหอบสังขารเปราะบางฝ่าวันเวลาโหดร้ายไปได้ แล้วเราจะมาดูกัน โชคดีนะจั๊กจั่น ขอให้แกทำสำเร็จ ถ้าถึงวันนั้นคนที่นี่จะเฝ้าคอยฟังเสียงกรีดปีกของลูกๆของแก
ชีวิตมันสั้นแต่ศิลปะนั้นยืนยาว ความสุขมันสั้นหรือความทุกข์มันยาว ความรักอยู่กับเราได้นานแค่ไหน ความเป็นตัวของตัวเองจะต้านทานสิ่งกระทบรอบข้างได้นานเท่าไหร่ ความร่วมสมัยหรือคลาสสิกมันยังใช้ได้รึเปล่า บางทีค่ำคืนนี้เราอาจจะได้คำตอบ ในความมืดอ้างว้างผ่านทางสายลม ผ่านทางเสียงกรีดปีกบางๆ ผ่านทางบทเพลงจั๊กจั่น









ตามดูจั๊กจั่นลอกคราบ คิมหันต์บรรเลง บทเพลงจั๊กจั่น
ยังนะครับ ยังไม่ถึงฤดูร้อน ยังหนาวอยู่ วันนี้มีเรื่องเก่ามาเล่าความหลังให้ฟังตามประสาของคนในวัยใกล้ชรา เมื่อวานนี้นี้วันเด็ก ผมเองมีลูกชายสองคน เคยเป็นผู้ดูแลเด็กผู้ชายดื้อๆซนๆ ทะโมนๆ ลูกชายผมเคยเป็นนักเพาะเลี้ยงแมลงปีกแข็งหลายชนิด ทั้งที่หาได้ในท้องถิ่น เก็บจากสวนหลังบ้านและซื้อหามาจากที่อื่น ถึงแม้ว่าวันนี้เด็กสองคนนั้นจะเติบโตขึ้นมาแล้ว ผ่านวันเวลาแบบนั้นไปแล้วและก็ไม่ได้เลี้ยงแมลงอีก แต่อุปนิสัยการปฎิบัติต่อสัตว์ผู้ยาก ไม่ว่าจะเล็กน้อยไม่มีความหมายในสายตาคนทั่วไป อย่างหนอน แมลง บุ้ง กบ เขียด กิ่งก่า นก หนู กระรอก กระแต ยังได้รับความเมตตามาเสมอ ลูกชายผมไม่ทำร้ายตัวอะไรเลย และช่วยเหลือสัตว์ที่ตกทุกข์เช่น เจอหนอนเดินขวางทางจะถูกคนเหยียบก็เก็บไปไว้ในป่าหรือต้นไม้ เจอผึ้งหรือแมลง แม้แต่มดตกน้ำก็หาอะไรมาตักขึ้น หลายครั้งที่ลุยน้ำลงไปช่วยผึ้งที่กระพือปีกหงายท้องอยู่ในสระหลังบ้าน
ความมีเมตตาและปรารถนาดีต่อเพื่อนร่วมโลกเป็นสิ่งที่ต้องปลูกฝังกันแต่เล็กแต่น้อย
รูปชุดนี้เป็นของเก่าผมกับลูกๆเป็นคนถ่าย ช่วงประมาณวันที่ 13 มีนาคม 2018 เมื่อ 7 ปีที่แล้ว หรือฤดูร้อนของปี 2561
" ตอนกลางวันเห็นแต่คราบ ไม่ได้เห็นว่ามันลอกคราบยังไง คืนนี้เลยพากันมาดูถึงที่
เขตจั๊กจั่นจะอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่หลายต้นครับมีต้นขนุน ต้นมะม่วง แล้วก็ต้นหว้า จะมีร่องรอยของคราบจั๊กจั่นและรูที่มันขุดดินออกมา หลายปีผ่านมาก็มีทุกปีครับ คราวนี้จะไปดูให้เห็นกับตาว่ามันลอกคราบยังไง
เริ่มตอนสองทุ่มครับ เดินฝ่าความมืดออกไปหลังบ้านถือไฟฉายไปด้วยค่อยๆเดินไม่ให้จั๊กจั่นตกใจ ค่อยๆฉายไฟดูก็เห็นจั๊กจั่นตัวอ่อนขึ้นมาจากดิน 5 ตัว ยังเป็นตัวที่มีเปลือก 3 ตัว แล้วก็ตัวที่ลอกคราบแล้ว 2 ตัว
ตัวอ่อนที่อยู่ในเปลือกยังขยับไปมาได้ หนีคนได้เดินไปเดินมาไต่ต้นไม้ ส่วนตัวที่ลอกคราบแล้วจะไปไหนไม่ได้มันจะเอาขาหน้าจิกกับเปลือกไม้เอาไว้แล้วดันตัวออกทางด้านหลัง
รอจนเกือบสามทุ่มก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงตัวที่ยังไม่ลอกคราบก็ยังเคลื่อนไหวได้อาจจะได้รับการรบกวนจากคน ตัวที่ลอกคราบแล้วเริ่มมีปีกเล็กๆงอกออกมา ก็เลยคิดว่าคืนนี้พักไว้แค่นี้ก่อน
รุ่งเช้าออกมาดูใหม่ตั้งแต่ตีห้า เห็นจั๊กจั่นตัวเต็มวัยที่ลอกคราบเรียบร้อยปีกงอกเต็มที่เกาะอยู่ข้างๆคราบของมัน ตัวที่ลอกคราบก่อนก็หายไปแล้วปีกแห้งก่อนคงบินออกไปก่อน
ขึ้นมา 5 ตัวลอกคราบสำเร็จทุกตัว พอรุ่งสางแสงแดดเริ่มมาก็หายไปทุกตัว ดีใจด้วยขอให้ทำสำเร็จ แล้วอย่าลืมมากรีดปีกให้ฟังบ้างนะ "
จึกจึกจึก จึกจึกจึก วี้วี้วี้วี้ น่าจะทำนองนี้นะครับ ถ้าจั๊กจั่นที่บ้านท่านร้องไม่เหมือนเสียงนี้ต้องขออภัย เอิ้ก เอิ้ก
บทเพลงจั๊กจั่น
สีสันของฤดูร้อน
ใบไม้ร่วง ดอกไม้บาน ยอดไม้เริ่มผลิรับสายฝนโปรยปราย
จั๊กจั่น ลองไน เรไรนานาชนิดขึ้นมาจากใต้ดิน กรีดปีกร้องระงมหาคู่ จับคู่ผสมพันธุ์ทำภารกิจสุดท้ายของชีวิต คือวางไข่ให้หนอนตัวเล็กๆดำรงเผ่าพันธุ์น้อยๆสืบต่อไป
คราบจั๊กจั่นที่ติดอยู่กับต้นไม้ครับผม มันจะขึ้นจากดินมาตอนกลางคืนครับ เกาะต้นไม้แล้วก็ลอกคราบทิ้งไว้ ตัวเต็มวัยก็บินไปหาอาหารแล้วก็ผสมพันธุ์
หลังจากใช้ชีวิตตัวอ่อนอยู่ในดินนับเป็นสิบปี จั๊กจั่นตัวน้อยก็ขึ้นมาลอกคราบทำภาระกิจสุดท้ายของชีวิต คือผสมพันธุ์และวางไข่ ช่วงเวลาตรงนี้สั้นมากครับ นับจำนวนได้เป็นวันหรือเป็นเดือนเท่านั้นเอง
วางไข่แล้วก็ตาย เริ่มกระบวนการวงจรชีวิตอันแสนยาวนานของหนอนตัวน้อยรุ่นต่อไปในดิน หากินและใช้ชีวิตอยู่ในดินตามสภาพแวดล้อมที่แม่ของมันเลือกไว้ให้
หลังบ้านผมมีจั๊กจั่นขึ้นมาทุกปีครับ บางปีเยอะมากจนเดินไปทางไหนก็เจอแต่คราบของจั๊กจั่น ที่บ้านไม่พ่นยาฆ่าแมลงหรือยากำจัดวัชพืช ปลูกผักผลไม้ไปตามครรลองชีวิตแบบเกษตรอินทรีย์
ต้นไม้ต้นที่มีจั๊กจั่นขึ้นปีที่แล้วก็มี ปีนี้ก็มี ปีต่อไปคงคงจะมีเหมือนกันตราบใดที่สภาพแวดล้อมของบ้านยังรักษาไว้ได้แบบนี้
เสียงของฝูงจั๊กจั่นกรีดปีกทำให้ความร้อนในฤดูร้อนลดลง อย่างน้อยก็ในหัวใจของคนฟัง ช่วงเวลาสั้นๆแต่มีค่าทั้งกับแมลงน้อยๆและคนที่เฝ้ารอ
เสียงจั๊กจั่นไม่ได้มีให้ฟังทั้งปีแต่ก็แวะมาให้ได้ยินตลอด เสียงหัวใจตัวเองโดยแท้แล้วส่งเสียงอยู่ทุกเวลาทั้งยามหลับและยามตื่นแต่เราก็มักจะไม่ได้ยิน บางสิ่งบางอย่างร่ำร้อง จิตวิญญาณอันเปลี่ยวเหงาของเราร้องเรียกเพรียกหา จักรวาลและความจริงเปล่งเสียงที่ต้องการให้มีผู้รับฟัง
สิบปี นับสิบปีที่จั๊กจั่นตัวนึงเริ่มชีวิตของมัน เล่นบทแมลงตัวน้อยในวัฏฏสงสารอันเนิ่นนานและยาวไกล บางทีมันก็ส่งเสียง เสียงเล็กๆที่อยากให้ใครๆได้ยิน สำหรับจั๊กจั่นแล้วอยากให้จั๊กจั่นตัวเมียซักตัวได้ยินตามเสียงมาบรรเลงบทเพลงร่วมกับมัน บทเพลงจั๊กจั่น บทเพลงแห่งฤดูร้อน บทเพลงแห่งทศวรรษ บทเพลงแห่งชีวิต ชีวิตจั๊กจั่น
ยี่สิบปีที่แล้วผมก็อยู่ที่นี่ อาจจะเป็นช่วงเดียวกันกับจั๊กจั่นน้อยๆเริ่มวางไข่หรืออกจากไข่ใต้ต้นไม้ต้นเดิมที่พ่อแม่และปู่ย่าตายายของมันเคยขึ้นมา เสียงที่ผมเคยได้ยินในตอนนั้นอาจจะเป็นเสียงของพ่อแม่มันก็ได้ ผมอยากยิ้มน้อยๆให้แมลงสองตัวที่ทำบางสิ่งบางอย่างสำเร็จ บางทีก็อยากยิ้มให้ตัวเองบ้างเหมือนกันที่ทำบางสิ่งบางอย่างสำเร็จ ถึงเป็นเพียงรอยยิ้มน้อยๆสำหรับความสำเร็จเล็กๆก็ยังดี
พอๆกับอายุจั๊กจั่นตัวนึง ก็แอบคาดหวังว่ามันจะไปได้อีกสิบหรือสิบห้าปีอีกทีข้างหน้า เอิ้ก เอิ้ก ถ้าผมหอบสังขารเปราะบางฝ่าวันเวลาโหดร้ายไปได้ แล้วเราจะมาดูกัน โชคดีนะจั๊กจั่น ขอให้แกทำสำเร็จ ถ้าถึงวันนั้นคนที่นี่จะเฝ้าคอยฟังเสียงกรีดปีกของลูกๆของแก
ชีวิตมันสั้นแต่ศิลปะนั้นยืนยาว ความสุขมันสั้นหรือความทุกข์มันยาว ความรักอยู่กับเราได้นานแค่ไหน ความเป็นตัวของตัวเองจะต้านทานสิ่งกระทบรอบข้างได้นานเท่าไหร่ ความร่วมสมัยหรือคลาสสิกมันยังใช้ได้รึเปล่า บางทีค่ำคืนนี้เราอาจจะได้คำตอบ ในความมืดอ้างว้างผ่านทางสายลม ผ่านทางเสียงกรีดปีกบางๆ ผ่านทางบทเพลงจั๊กจั่น