กระผมเป็นสมาชิกใหม่ของพันทิป (แต่เคยได้อ่านหลายกระทู้ในพันทิป มาเกิน 10 ปีแล้ว) ครับ
ได้เห็นกระทู้เรื่อง "ลมปราณ" และความคิดเห็นของหลายๆท่าน น่าสนใจมาก
ผมเห็นว่า การเผยแพร่เรื่องนี้ จะพอเป็นประโยชน์กับสังคม และท่านผู้ใฝ่ดี สนใจในการฝึกลมปราณ
ผมจึงขออนุญาตแชร์ความเข้าใจเรื่อง "ลมปราณ" ให้เป็นวิทยาทาน และธรรมทาน ครับ
***ผมไม่กล้า (บังอาจ) สั่งสอนใคร หรือ ท่านใด ทั้งสิ้น นะครับ ดังนั้น หากท่านใด อ่านแล้วขัดหู ขัดตา ไม่เชื่อ โปรดข้ามผ่านไป ประหนึ่งว่า เห็นเด็กโง่ มาเขียนเรื่องไร้สาระ *** นะครับ
กราบอนุโมทนา ล่วงหน้าสำหรับทุกท่าน ที่ได้เข้ามาอ่าน และศึกษาครับ🙏
****************************************************************************
"พลังภายใน" (ลมปราณ + จิต)
กับ
"พลังภายนอก" (กล้ามเนื้อ + การสั่งงานของสมอง)
2 สิ่งนี้ เกื้อหนุน ค้ำจุนกัน
หมายถึงว่า : หากพลังภายในจะเข้มแข็ง จะต้องฝึกพลังภายนอกให้เข้มแข็งไปด้วย
(และเนื่องจาก พลังภายนอก ฝึกง่ายกว่า พลังภายใน จึงควรเริ่มจาก พลังภายนอก ให้ได้ก่อน)
+++ถ้าเข้าใจแบบนี้ตรงกัน ค่อยเริ่มประเด็นต่อไป ครับ+++
โดยมาก บรรดาท่านอาจารย์ตามสวนสาธารณะ ((รวมทั้งการสอนตาม website หรือ โฆษณา)) ทั้งปวง
ทั้งในประเทศไทย และในต่างประเทศ
มักสอนเรื่องการใช้ "พลังภายใน" ล้วนๆ โดยไม่ต้องมีปัจจัย จาก "พลังภายนอก" เลย
(โดยเฉพาะ กรณีมวยไทเก็ก ที่เป็นผล มวยไทเก็กสิ้นสภาพการใช้งานสำหรับต่อสู้ เมื่อโดนท้าประลอง)
ยืนยันว่า มวยไทเก็ก และมวยจีนทั้งปวง ต้องมีพื้นฐานจากพลังภายนอก ที่ดีมาก เสียก่อน จึงจะฝึกพลังภายในได้จริง
ไม่เช่นนั้น ก็จะสู้ใครไม่ได้ แม้แต่อันธพาล ที่วิวาทบ่อยๆด้วย "มวยวัด" ก็ตาม
(คือ ประสบการณ์ของคนที่ วิวาท บ่อยๆ จะมีความถึกทน และรู้จังหวะการโจมตี โดยธรรมชาติ - - เปรียบเทียบว่า สุนัขจรจัดที่กัดตัวอื่นบ่อยๆ จะมี ทักษะการต่อสู้ โดยไม่ต้องเรียนวิชาอะไรเลย เป็นต้นฯ)
มวยจีน ตามสวนฯ จึงมีแนวโน้มใช้ป้องกันตัวไม่ได้จริง และมักถูกถากถางจาก มวยอื่นๆ ทั้งในไทย และต่างประเทศ
สาเหตุแห่งความเสื่อม ส่วนมาก เกิดจากเหล่าอาจารย์ ยุคกลาง
(ที่แม้จะสืบสายวิชามาจริง แต่ไม่ได้บรรลุวิชาจริง) กลัวเสียชื่อเสียง ขาดเงิน ขาดความนับถือจากสังคม และ บรรดาลูกศิษย์
อาจารย์เหล่านี้ สร้างทายาทไว้มากมาย จนกระทั่งมวยจีน และวิชาลมปราณ กลายเป็นปาหี่ และใช้สู้กับอันธพาล (วิวาทบ่อยๆ) ไม่ได้นะครับ
***ด้วยความเคารพ กระผมไม่มีเจตนาลบหลู่ ดูหมิ่น ท่านใดทั้งสิ้น นะครับ หากผมพูดผิดใจ ไม่เข้าหู อ่านดูขัดสายตา ขอกราบขมาท่านไว้ตรงนี้เลยครับ***
จากที่อารัมภบทมานี้ จึงพอสรุปหลักการได้ว่า
1. คนที่สำเร็จพลังภายในแล้ว จะแทบไม่ต้องใช้พลังภายนอก - - จริง
(แต่คนสำเร็จจริง ในสมัยนี้ ไม่มีจริงให้เห็น)
2. ก่อนที่จะเริ่มมีพลังภายใน จะต้องฝึกร่างกาย (พลังภายนอก) ให้แข็งแกร่งเสียก่อน - - จริง
(แต่เพราะวิชามวยจีนตามสำนักต่างๆ ข้ามขั้นตอนนี้ จึงทำให้ ลมปราณ เป็นเรื่องตลก และตีความกันไป ในแนวทางอื่นๆ เช่น ลำพังเพียงการ หายใจสอดคล้องร่างกายเคลื่อนไหว ก็เป็นลมปราณแล้ว ซึ่งจริงเพียงครึ่งเดียว เป็นต้นฯ)
3. สามารถฝึกพลังภายใน โดยไม่ต้องฝึกพลังภายนอก หรือ เพียงฝึกร่างกายแบบเบาๆ - - เท็จ
(สำหรับผู้เริ่มฝึกลมปราณ ทุกท่าน จะต้องออกกำลังกายพอสมควร คนโบราณ เดินขึ้นลงภูเขา วันละหลายๆ กิโลเมตร ท่านเหล่านั้น จึงฝึกลมปราณได้ง่าย ซึ่งแตกต่างจากคนสมัยใหม่ ที่ใช้กระทั่ง ลิฟท์ , บันไดเลื่อน เป็นพฤติกรรมย้ำซ้ำ เคยชิน ทำให้การฝึกปราณ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย)
4. พลังภายใน ทำให้ปล่อยพลังเป็นคลื่นแสง เสียง ทั้งปวง - - เท็จ (อย่างยิ่ง)
(หนังบู๊ แอคชั่น ทำลายวิชาลมปราณ ให้กลายเป็นเพียง "ตำนาน" และ ท้ายที่สุด เป็น "นิยายหลอกเด็ก")
****************************************************************
สาระของ วิชาลมปราณ (พื้นฐานที่ควรตระหนักทราบ ก่อนเริ่มฝึก เพื่อตั้ง "เข็มทิศ" ให้ถูกทางเสียก่อน)
***พลังภายใน คือ การควบคุม "พลังงานความร้อน" ของร่างกายให้เพิ่มขึ้น - ลดลง (ภายใน 1 - 3 ลมหายใจ) ซึ่งมีผลต่อความหนัก-เบา ของการต่อสู้จริง***
สังเกตว่า เมื่อเรามีอารมณ์ โกรธ , กามรมณ์ (ความอยาก ความใคร่ แบบรุนแรง) ร่างกายเราจะ "ร้อน"
คนไม่มีพลังภายใน คือ คนที่ต้องระบายอารมณ์ออกด้วยวิธีทางกาย เช่น โกรธก็ด่า ก็ทำร้าย , ใคร่ ก็เสพกาม , อยากได้อะไรก็ต้องเอาให้ได้ เร็วๆ ทันที ฯลฯ เพื่อให้ "ความร้อน" ที่สำแดงออกทางร่างกาย หมดไป
คนที่มี "พลังภายใน" คือ คนที่ไม่ต้องระบายออกด้วยวิธีการทางกาย ทางวาจา แบบนั้น
แต่สามารถใช้การกำหนดลมหายใจ ให้ร่างกายเย็นลง ภายใน 1 - 3 ลมหายใจ
(หากช้ากว่านั้น เช่น 8 - 10 ลมหายใจ คือ มีพลังภายใน แต่ยังอ่อนอยู่)
วิชาลมปราณ หรือ พลังภายใจ จึงเป็นวิชาสายธรรมะ เท่านั้น คนชั่ว คนบาป ฝึกไม่ขึ้น ทำไม่ได้
คนฝึกปราณ จึงมีนิสัย และพฤติกรรม รักสงบ ไม่ทะเลาะกับใคร ยอมคนได้ทุกสถานการณ์
อนึ่ง เมื่อควบคุมร้อนให้เย็นได้ หมายถึงว่า ผู้ฝึกปราณ ย่อมสามารถทำเย็นให้เป็นร้อนได้ ภายใน 1 - 3 ลมหายใจ เช่นกัน
ดังนั้น หากลมปราณ ใช้ประกอบกับการฝึกยุทธ หรือ ออกกำลังกาย ย่อมให้ผลต่อผู้ฝึก เป็นความได้เปรียบ ทั้งปวง
และเมื่อใช้งานเสร็จแล้ว (บรรลุเป้าหมาย ครั้งนั้นๆ) ก็จะสั่งให้ ร่างกายเย็นลงได้ ด้วยการกำหนดลมหายใจ 1- 3 ลมหายใจ
เหล่านี้ ทดสอบได้ ด้วยตนเอง "ไม่ต้องไปไล่ท้าประลองกับใคร"
เพราะผู้ฝึกปราณ ไม่ใฝ่ชั่ว ไม่ใฝ่กามรุนแรง ไม่ใฝ่ชื่อเสียง จึงไม่มีอาจารย์สอนลมปราณ ให้เห็นตาม u-tube แน่นอน
ที่เห็นตามโฆษณา ผมไม่เชื่อ แม้แต่คนเดียว
ปล. ปราณ , ลมปราณ , สมาธิ , ฌาน มีความคล้ายคลีง (คาบเกี่ยวกัน) ในส่วนหลักการพื้นฐาน และมีผลแสดงออก ที่ทับซ้อนกันในหลายเรื่อง
เช่น พละกำลังที่เกินมนุษย์ปรกติ , พลังจิตในการอ่านใจคน เป็นต้นฯ
วิชาลมปราณ จะสาบสูญ เมื่อมนุษย์ใฝ่กาม ใฝ่ชั่ว ใฝ่ต่ำ ใฝ่หยาบ
อยากเด่น อยากดัง อยากโชว์
****ผู้ผ่านพื้นฐาน จะหายใจลึก-ยาว เป็นปรกติ (1 นาที/ 4ลมหายใจเข้า-ออก)****
หลังจากขั้นพื้นฐาน หากยังมีความพากเพียรต่อเนื่องจะก้าวหน้าขึ้นไปโดยลำดับ
จำนวนไม่น้อย ที่ผ่านพื้นฐาน แต่ไปติดกามรมณ์ ชื่อเสียง ความนิยม เช่น ยอดไลค์ ของคนสมัยนี้ ทำให้เวลาในการฝึกตนลดน้อยลง
มัวแต่ไปสอนคนอื่น จนไม่มีเวลาทบทวน พัฒนาตนเอง
เรื่องพวกนี้ อธิบายยาก ผู้ฝึกเอง ได้ผลเอง เข้าใจเอง ครับ🙏
วิชาลมปราณ มีจริง?
ได้เห็นกระทู้เรื่อง "ลมปราณ" และความคิดเห็นของหลายๆท่าน น่าสนใจมาก
ผมเห็นว่า การเผยแพร่เรื่องนี้ จะพอเป็นประโยชน์กับสังคม และท่านผู้ใฝ่ดี สนใจในการฝึกลมปราณ
ผมจึงขออนุญาตแชร์ความเข้าใจเรื่อง "ลมปราณ" ให้เป็นวิทยาทาน และธรรมทาน ครับ
***ผมไม่กล้า (บังอาจ) สั่งสอนใคร หรือ ท่านใด ทั้งสิ้น นะครับ ดังนั้น หากท่านใด อ่านแล้วขัดหู ขัดตา ไม่เชื่อ โปรดข้ามผ่านไป ประหนึ่งว่า เห็นเด็กโง่ มาเขียนเรื่องไร้สาระ *** นะครับ
กราบอนุโมทนา ล่วงหน้าสำหรับทุกท่าน ที่ได้เข้ามาอ่าน และศึกษาครับ🙏
****************************************************************************
"พลังภายใน" (ลมปราณ + จิต)
กับ
"พลังภายนอก" (กล้ามเนื้อ + การสั่งงานของสมอง)
2 สิ่งนี้ เกื้อหนุน ค้ำจุนกัน
หมายถึงว่า : หากพลังภายในจะเข้มแข็ง จะต้องฝึกพลังภายนอกให้เข้มแข็งไปด้วย
(และเนื่องจาก พลังภายนอก ฝึกง่ายกว่า พลังภายใน จึงควรเริ่มจาก พลังภายนอก ให้ได้ก่อน)
+++ถ้าเข้าใจแบบนี้ตรงกัน ค่อยเริ่มประเด็นต่อไป ครับ+++
โดยมาก บรรดาท่านอาจารย์ตามสวนสาธารณะ ((รวมทั้งการสอนตาม website หรือ โฆษณา)) ทั้งปวง
ทั้งในประเทศไทย และในต่างประเทศ
มักสอนเรื่องการใช้ "พลังภายใน" ล้วนๆ โดยไม่ต้องมีปัจจัย จาก "พลังภายนอก" เลย
(โดยเฉพาะ กรณีมวยไทเก็ก ที่เป็นผล มวยไทเก็กสิ้นสภาพการใช้งานสำหรับต่อสู้ เมื่อโดนท้าประลอง)
ยืนยันว่า มวยไทเก็ก และมวยจีนทั้งปวง ต้องมีพื้นฐานจากพลังภายนอก ที่ดีมาก เสียก่อน จึงจะฝึกพลังภายในได้จริง
ไม่เช่นนั้น ก็จะสู้ใครไม่ได้ แม้แต่อันธพาล ที่วิวาทบ่อยๆด้วย "มวยวัด" ก็ตาม
(คือ ประสบการณ์ของคนที่ วิวาท บ่อยๆ จะมีความถึกทน และรู้จังหวะการโจมตี โดยธรรมชาติ - - เปรียบเทียบว่า สุนัขจรจัดที่กัดตัวอื่นบ่อยๆ จะมี ทักษะการต่อสู้ โดยไม่ต้องเรียนวิชาอะไรเลย เป็นต้นฯ)
มวยจีน ตามสวนฯ จึงมีแนวโน้มใช้ป้องกันตัวไม่ได้จริง และมักถูกถากถางจาก มวยอื่นๆ ทั้งในไทย และต่างประเทศ
สาเหตุแห่งความเสื่อม ส่วนมาก เกิดจากเหล่าอาจารย์ ยุคกลาง
(ที่แม้จะสืบสายวิชามาจริง แต่ไม่ได้บรรลุวิชาจริง) กลัวเสียชื่อเสียง ขาดเงิน ขาดความนับถือจากสังคม และ บรรดาลูกศิษย์
อาจารย์เหล่านี้ สร้างทายาทไว้มากมาย จนกระทั่งมวยจีน และวิชาลมปราณ กลายเป็นปาหี่ และใช้สู้กับอันธพาล (วิวาทบ่อยๆ) ไม่ได้นะครับ
***ด้วยความเคารพ กระผมไม่มีเจตนาลบหลู่ ดูหมิ่น ท่านใดทั้งสิ้น นะครับ หากผมพูดผิดใจ ไม่เข้าหู อ่านดูขัดสายตา ขอกราบขมาท่านไว้ตรงนี้เลยครับ***
จากที่อารัมภบทมานี้ จึงพอสรุปหลักการได้ว่า
1. คนที่สำเร็จพลังภายในแล้ว จะแทบไม่ต้องใช้พลังภายนอก - - จริง
(แต่คนสำเร็จจริง ในสมัยนี้ ไม่มีจริงให้เห็น)
2. ก่อนที่จะเริ่มมีพลังภายใน จะต้องฝึกร่างกาย (พลังภายนอก) ให้แข็งแกร่งเสียก่อน - - จริง
(แต่เพราะวิชามวยจีนตามสำนักต่างๆ ข้ามขั้นตอนนี้ จึงทำให้ ลมปราณ เป็นเรื่องตลก และตีความกันไป ในแนวทางอื่นๆ เช่น ลำพังเพียงการ หายใจสอดคล้องร่างกายเคลื่อนไหว ก็เป็นลมปราณแล้ว ซึ่งจริงเพียงครึ่งเดียว เป็นต้นฯ)
3. สามารถฝึกพลังภายใน โดยไม่ต้องฝึกพลังภายนอก หรือ เพียงฝึกร่างกายแบบเบาๆ - - เท็จ
(สำหรับผู้เริ่มฝึกลมปราณ ทุกท่าน จะต้องออกกำลังกายพอสมควร คนโบราณ เดินขึ้นลงภูเขา วันละหลายๆ กิโลเมตร ท่านเหล่านั้น จึงฝึกลมปราณได้ง่าย ซึ่งแตกต่างจากคนสมัยใหม่ ที่ใช้กระทั่ง ลิฟท์ , บันไดเลื่อน เป็นพฤติกรรมย้ำซ้ำ เคยชิน ทำให้การฝึกปราณ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย)
4. พลังภายใน ทำให้ปล่อยพลังเป็นคลื่นแสง เสียง ทั้งปวง - - เท็จ (อย่างยิ่ง)
(หนังบู๊ แอคชั่น ทำลายวิชาลมปราณ ให้กลายเป็นเพียง "ตำนาน" และ ท้ายที่สุด เป็น "นิยายหลอกเด็ก")
****************************************************************
สาระของ วิชาลมปราณ (พื้นฐานที่ควรตระหนักทราบ ก่อนเริ่มฝึก เพื่อตั้ง "เข็มทิศ" ให้ถูกทางเสียก่อน)
***พลังภายใน คือ การควบคุม "พลังงานความร้อน" ของร่างกายให้เพิ่มขึ้น - ลดลง (ภายใน 1 - 3 ลมหายใจ) ซึ่งมีผลต่อความหนัก-เบา ของการต่อสู้จริง***
สังเกตว่า เมื่อเรามีอารมณ์ โกรธ , กามรมณ์ (ความอยาก ความใคร่ แบบรุนแรง) ร่างกายเราจะ "ร้อน"
คนไม่มีพลังภายใน คือ คนที่ต้องระบายอารมณ์ออกด้วยวิธีทางกาย เช่น โกรธก็ด่า ก็ทำร้าย , ใคร่ ก็เสพกาม , อยากได้อะไรก็ต้องเอาให้ได้ เร็วๆ ทันที ฯลฯ เพื่อให้ "ความร้อน" ที่สำแดงออกทางร่างกาย หมดไป
คนที่มี "พลังภายใน" คือ คนที่ไม่ต้องระบายออกด้วยวิธีการทางกาย ทางวาจา แบบนั้น
แต่สามารถใช้การกำหนดลมหายใจ ให้ร่างกายเย็นลง ภายใน 1 - 3 ลมหายใจ
(หากช้ากว่านั้น เช่น 8 - 10 ลมหายใจ คือ มีพลังภายใน แต่ยังอ่อนอยู่)
วิชาลมปราณ หรือ พลังภายใจ จึงเป็นวิชาสายธรรมะ เท่านั้น คนชั่ว คนบาป ฝึกไม่ขึ้น ทำไม่ได้
คนฝึกปราณ จึงมีนิสัย และพฤติกรรม รักสงบ ไม่ทะเลาะกับใคร ยอมคนได้ทุกสถานการณ์
อนึ่ง เมื่อควบคุมร้อนให้เย็นได้ หมายถึงว่า ผู้ฝึกปราณ ย่อมสามารถทำเย็นให้เป็นร้อนได้ ภายใน 1 - 3 ลมหายใจ เช่นกัน
ดังนั้น หากลมปราณ ใช้ประกอบกับการฝึกยุทธ หรือ ออกกำลังกาย ย่อมให้ผลต่อผู้ฝึก เป็นความได้เปรียบ ทั้งปวง
และเมื่อใช้งานเสร็จแล้ว (บรรลุเป้าหมาย ครั้งนั้นๆ) ก็จะสั่งให้ ร่างกายเย็นลงได้ ด้วยการกำหนดลมหายใจ 1- 3 ลมหายใจ
เหล่านี้ ทดสอบได้ ด้วยตนเอง "ไม่ต้องไปไล่ท้าประลองกับใคร"
เพราะผู้ฝึกปราณ ไม่ใฝ่ชั่ว ไม่ใฝ่กามรุนแรง ไม่ใฝ่ชื่อเสียง จึงไม่มีอาจารย์สอนลมปราณ ให้เห็นตาม u-tube แน่นอน
ที่เห็นตามโฆษณา ผมไม่เชื่อ แม้แต่คนเดียว
ปล. ปราณ , ลมปราณ , สมาธิ , ฌาน มีความคล้ายคลีง (คาบเกี่ยวกัน) ในส่วนหลักการพื้นฐาน และมีผลแสดงออก ที่ทับซ้อนกันในหลายเรื่อง
เช่น พละกำลังที่เกินมนุษย์ปรกติ , พลังจิตในการอ่านใจคน เป็นต้นฯ
วิชาลมปราณ จะสาบสูญ เมื่อมนุษย์ใฝ่กาม ใฝ่ชั่ว ใฝ่ต่ำ ใฝ่หยาบ
อยากเด่น อยากดัง อยากโชว์
****ผู้ผ่านพื้นฐาน จะหายใจลึก-ยาว เป็นปรกติ (1 นาที/ 4ลมหายใจเข้า-ออก)****
หลังจากขั้นพื้นฐาน หากยังมีความพากเพียรต่อเนื่องจะก้าวหน้าขึ้นไปโดยลำดับ
จำนวนไม่น้อย ที่ผ่านพื้นฐาน แต่ไปติดกามรมณ์ ชื่อเสียง ความนิยม เช่น ยอดไลค์ ของคนสมัยนี้ ทำให้เวลาในการฝึกตนลดน้อยลง
มัวแต่ไปสอนคนอื่น จนไม่มีเวลาทบทวน พัฒนาตนเอง
เรื่องพวกนี้ อธิบายยาก ผู้ฝึกเอง ได้ผลเอง เข้าใจเอง ครับ🙏