JJNY : ผ่าสนามเลือกตั้งนายกอบจ.│อดีตแกนนำนปช.ยื่นตรวจสอบ│เดินหน้าคัดเลือกปธ.บอร์ด│ชาวซีเรียประท้วงเหตุต้นคริสต์มาสถูกเผา

ผ่าสนามเลือกตั้งนายก อบจ.หลายพื้นที่ "บ้านใหญ่-เล็ก" เดิมพันสูง!!
https://www.pptvhd36.com/news/การเมือง/239331

ผ่าสนามเลือกตั้งนายก อบจ. ปราจีนบุรี-เชียงใหม่-เชียงราย-โคราช-ชลบุรี-สมุทรปราการ-ศรีสะเกษ งานนี้ "บ้านใหญ่-เล็ก" เดิมพันสูง!
 
หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เปิดรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ในหลายพื้นที่ เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้บรรยากาศการเมืองในเวทีท้องถิ่นหลายจังหวัดเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากสนามท้องถิ่น มักจะใช้เป็นฐานการเมืองต่อยอดสนามเลือกตั้ง สส.
 
โดยหลังจากเปิดรับสมัครต่างก็มีบรรดาตัวแทนจาก “บ้านใหญ่” – “บ้านเล็ก” ของแต่ละจังหวัด พร้อมใจกันเดินทางไปสมัครวันแรก สนามจังหวัดไหนส่อแววดุเดือดบ้างไปไล่เรียงกัน
 
โดยสนามที่เป็นที่พูดถึงและดุเดือดตั้งแต่ยังไม่เปิดสมัครรับเลือกตั้ง ก็คือ อบจ.ปราจีนบุรี หลัง “สจ.โต้ง” ถูกยิงเสียชีวิต ในบ้าน “โกทร” โดยการแข่งขันในสนามนี้ “สจ.จอย” ณภาภัช อัญชสาณิชมน ได้รับการสนับสนุนจาก พรรคเพื่อไทย ให้ลงสมัครนายก อบจ. ปราจีนบุรี ในนามพรรคโดย “สจ.จอย” จับได้เบอร์ 4

สำหรับคู่แข่ง ประกอบด้วย “อำไพ กองมณี” อดีต สส. บัญชีรายชื่อปราจีนบุรี พรรคเสรีรวมไทย ลงในนามอิสระ ได้เบอร์ 1 “จำรูญ สวยดี” ลงสมัครในนามพรรคประชาชน ได้เบอร์ 2 และ “กฤษณ์กมล แพงศรี” อดีตผู้สมัคร สส.ปราจีนบุรี พรรคเพื่อไทย ได้เบอร์ 3
 
อีกสนามเลือกตั้งที่กำลังดุเดือด เพราะการลงพื้นที่ช่วยหาเสียงของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล นั้นก็คือ อบจ.เชียงใหม่ โดยการเลือกตั้งสนามนี้นายทักษิณ ประกาศแพ้ไม่ได้ โดยส่ง “สว.ก๊อง” พิชัย เลิศพงศ์อดิศร ลงชิงในนามพรรคเพื่อไทย หวังป้องกันแชมป์อีกสมัย จับได้เบอร์ 2
 
โดยคู่แข่งคือ “พันธุ์อาจ ชัยรัตน์” อดีตผู้อำนวยการสถาบันนวัตรรมแห่งชาติ จากพรรคประชาชน จับได้เบอร์ 1 ซึ่งได้แรงสนับสนุนจากนางทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต สส.พรรคเพื่อไทย อีกแรงหนึ่ง

สนามเลือกตั้งอีกพื้นที่ที่น่าจับตาคือ อบจ.ชลบุรี โดย “บ้านใหญ่คุณปลื้ม” ส่ง “วิทยา คุณปลื้ม” อดีตนายก อบจ.ชลบุรี ลงในนามกลุ่มเรารักชลบุรี โดยที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ เชื่อมสัมพันธ์กับ “บ้านใหญ่คุณปลื้ม” ออกโรงสนับสนุน “วิทยา” ส่วนคู่แข่งคือ “ชุดาภัค วสุเนตรกุล” พรรคประชาชน จับได้เบอร์ 2

ขณะที่สนามเลือกตั้ง อบจ.สมุทรปราการ ถือเป็นสนามใหญ่ที่ “บ้านใหญ่อัศวเหม” ต้องกอบกู้คืนมาหลัง เลือกตั้งปี 2566 เสียเก้าอี้ สส. ให้พรรคก้าวไกล ยกจังหวัด โดยตัวแทนของบ้านใหญ่อัศวเหม คือ “สุนทร ปานแสงทอง” อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ สมัครในนามกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า ได้เบอร์ 1 ขณะที่คู่แข่งสำคัญคือ “นพดล สมยานนทนากุล” ตัวแทนจากพรรคประชาชน จับได้เบอร์ 3
 
ส่วนสนามเลือกตั้ง อบจ.นครราชสีมา “บ้านใหญ่แป้งมัน” ส่ง “มาดามหน่อย” ยลดา หวังศุภกิจโกศล ลงป้องกันแชมป์ ในนามพรรคเพื่อไทย จับได้เบอร์ 2 แม้คู่แข่งอย่างพรรคประชาชน จะไม่ส่งผู้สมัคร แต่ก็มีชื่อของ “มารุต ชุ่มขุนทด” เจ้าของร้านกาแฟชื่อดัง ลงสมัครในนามอิสระ จับได้เบอร์ 3 โดยก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า “มารุต” จะลงสมัครในนามพรรคประชาชน
 
นอกจากนั้นยังมี สนามเลือกตั้ง อบจ.ศรีสะเกษ ซึ่งสนามเลือกตั้งนี้ นายทักษิณ ก็เคยบอกว่าแพ้ไม่ได้เช่นกัน โดยจะมีการส่ง “วิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ”  อดีต สส.ศรีสะเกษ เขต 3 เป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย จับได้เบอร์ 1 ลงแข่งกับ “บ้านใหญ่ไตรสรณกุล” ที่ส่ง “วิชิต ไตรสรณกุล” แชมป์เก่า ตัวแทนกลุ่มฅนท้องถิ่นลงป้องกันแชมป์ จับได้เบอร์ 7

อีกสนามเลือกตั้งที่น่าสนใจคือ สนามเลือกตั้ง อบจ.นครพนม ศึกเดิมพันอนาคตของ “สหายแสง” ศุภชัย โพธิ์สุ อดีต สส.พรรคภูมิใจไทย หลังพ่ายแพ้การเลือกตั้ง สส. ปี 2566 โดยในรอบนี้ได้ส่งลูกสาว “ศุภพานี โพธิ์สุ” ลงสมัคร จับได้เบอร์ 2 ส่วนคู่แข่งจากทีมฮักนครพนม “อนุชิต หงษาดี” ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย ยังไม่มาจับเบอร์ โดยมี นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม คอยให้การสนับสนุน
 
นอกจากนั้นยังมีสนามเลือกตั้ง อบจ.เชียงราย ซึ่งเดิมพัน “บ้านใหญ่” สู้กันเอง โดย “อทิตาธร วันไชยธนวงศ์” แชมป์เก่า ลงสมัครในนามอิสระไม่สังกัดพรรค จับได้เบอร์ 1 ด้าน “สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช” ผู้ท้าชิงจากพรรคเพื่อไทย ภรรยา “ยงยุทธ ติยะไพรัช” คนสนิทนายทักษิณ จับได้เบอร์ 2 ซึ่งศึกเลือกตั้งนายก อบจ. เชียราย รอบนี้เป็นเดิมพันของสองตระกูล โดยมีหลายตระกูลการเมืองสนับสนุนอยู่เบื้องหลังของแต่ละฝ่าย



อดีตแกนนำ นปช.อุบล ยื่น กกต.ตรวจสอบ ทักษิณ-ณัฐวุฒิ-นายกฯเล็ก เข้าข่าย ผิดพ.ร.บ.เลือกตั้งหรือไม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4970720

อดีตแกนนำ นปช.อุบล ยื่น กกต.ตรวจสอบ ทักษิณ-ณัฐวุฒิ-นายกฯเล็ก เข้าข่ายผิดพ.ร.บ.เลือกตั้งหรือไม่ หลังพบคล้ายมีการปลอมแปลงลายมือชื่อเป็นผู้ช่วยหาเสียง
 
เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม นายจำรูญศักดิ์ จันทรมัย อายุ 54 ปี อดีตแกนนำ นปช.อุบลฯ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง จ.อุบลราชธานี (กกต.จ.อุบล) เพื่อร้องเรียนและขอให้ตรวจสอบ การกระทำของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี,นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และนางสาวพิศทยา ไชยสงคราม นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี เนื่องจากพบว่า วิธีการหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครนายก อบจ. หมายเลข 1 นายกานต์ กัลป์ตินันท์ มีพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2563 และที่แก้ไขเพิ่มเติมหรือไม่
 
ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 จึงขอส่งรายละเอียดตามข้อเท็จจริงของการกระทำ หรือพฤติการณ์ของผู้สมัครรับเลือกตั้ง และบุคคลที่เกี่ยวข้องในการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯในครั้งนี้
 
นายจำรูญศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. เวลากลางวัน นายกานต์ กัลป์ตินันท์ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ หมายเลข 1 ได้นำนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นบุคคลที่เคยแจ้งเปลี่ยนจากสัญชาติไทยเป็นสัญชาติอื่นหลายสัญชาติ จึงไม่มีสถานะเป็นผู้ถือสัญชาติไทยตามกฎหมาย ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้ช่วยเหลือผู้สมัครรับเลือกตั้ง หมายเลข 1 ในการหาเสียงเลือกตั้งโดยมีหลักฐานประกอบหลายอย่าง รวมถึงนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีหาเสียงปราศรัยสนับสนุนนายกานต์ กัลป์ตินันท์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ. ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำให้มีข้อสงสัยว่า การช่วยหาเสียงของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อาจขัดต่อกฎหมายและจริยธรรมในฐานะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และนางสาวพิศทยา ไชยสงคราม นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี ในฐานะผู้บริหารท้องถิ่นและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการใดๆโดยมิชอบด้วยหน้าที่และใช้อำนาจหน้าที่ช่วยเหลือผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ หมายเลข 1 ลักษณะเป็นการกระทำเพื่อกลั่นแกล้งผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.รายอื่น หรือดำเนินการใดๆที่เป็นคุณแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลข 1
 
นายจำรูญศักดิ์ กล่าวว่า ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนและขอให้ตรวจสอบ ที่ กกต.จ.อุบลฯ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ใน 3 ประเด็น ได้แก่ 1. เรื่องของสัญชาติ ของนายกทักษิณ รวมถึงได้รับความยินยอมจากนายทักษิณ เรื่องป้าย และได้รับการยินยอมจากพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เพราะวันที่ นายทักษิณมาที่อุบลฯมีการขึ้นป้ายมีภาพของผู้สมัครและภาพนายทักษิณ และมีชื่อป้ายพรรคเพื่อไทย 2.การเป็นผู้ช่วยหาเสียง และ 3.การครอบงำพรรค ซึ่งจากการที่ได้ไปให้ปากคำที่ กกต.อุบลฯเกี่ยวกับประเด็นการเป็นผู้ช่วยหาเสียงในวันที่ 11 ธ.ค. นั้น กกต.ได้สอบถามว่ารู้ได้อย่างไรว่านายกทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้เป็นผู้ช่วยหาเสียง ซึ่งได้ชี้แจงว่าการที่มาร้องเรียนตรวจสอบนั้น ตนเองก็ต้องยอมรับในข้อกฎหมาย
 
ซึ่งได้ย้อนถาม กกต.ว่าจะพิสูจน์ตัวเองได้อย่างไรว่าสิ่งที่ กกต.ตั้งคำถามมานั้น ต้องมีมูลเหตุ และยืนยันว่านายทักษิณ ไม่ได้เป็นผู้ช่วยหาเสียงอย่างแน่นอน เพราะนายทักษิณ เดินทางมาถึงที่ จ.อุบลฯประมาณ 12.30 น. คงไม่มีเวลาที่จะไปแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยหาเสียง จึงขอดูเอกสาร หลักฐาน ที่ถูกนำมายื่น กกต. จังหวัดอุบลฯในการเป็นผู้ช่วยหาเสียง ทางกกต.จังหวัดได้นำหลักฐานส่วนหนึ่งมาให้ดู ซึ่งมีบัตรประชาชน แนบมาด้วย สำหรับตนเองร้องไป 3 คน ปรากฏว่าลายปากกาที่เขียนรับรองลงนามในบัตรประชาชน เป็นปากการสีดำที่เขียนคล้ายกันทั้ง 3 คน เป็นการเขียนชื่อ ไม่ใช่ลายเซ็น เป็นลายมือเดียวกัน สำหรับเวลาในการที่ไปยื่นกกต.อุบลฯว่าขอเป็นผู้ช่วยหาเสียงของนายทักษิณนั้น ยื่นเวลา 08.43 น. นายณัฐวุฒิ ยื่นเวลา 08.46 น.ของวันที่ 11 ธ.ค. ซึ่งจากการเป็นคนเสื้อแดงมาก่อน เคยเห็นท่านเป็นนายกมาก่อน ลายเซ็นท่านไม่ใช่ลายเซ็นแบบนี้ จึงมั่นใจในเรื่องนี้ว่าน่าจะไม่ใช่ลายเซ็นจริง แต่อาจจะมอบให้คนใดคนหนึ่งในทีมหาเสียงไปยื่นเรื่องเพื่อให้ถูกต้องตามระเบียบข้อกฎหมาย
 
ด้านนายไชยเดช ศิริพร อดีต อัยการจังหวัดอุบล และอดีตประธาน กกต. จ.ยโสธร กล่าวว่าจากการที่นายจำรูญศักดิ์ จันทรมัย อดีตแกนนำ นปช.อุบลฯ ไปยื่นร้อง กกต.ให้ตรวจสอบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกับพวกนั้น ซึ่งก่อนที่จะมีการร้องเรียนได้มีการมาปรึกษาในเรื่องดังกล่าว ถ้าเป็นไปตามที่ข้อเท็จจริง เรื่องดังกล่าว สันนิษฐานว่าน่าจะมีการปลอมแปลงลายมือชื่อ ถ้าทำแบบนี้ถือว่าเป็นการหลอกลวง ซึ่งน่าจะเข้าข่ายข้อ กฎหมาย พ.ศ.2562 มาตรา 65 (5) ทาง กกต.เคยมีคำวินิจฉัยว่าเป็นการหลอกลวง และมีประเด็นอื่นอีกเมื่อเข้าข่าย มาตรา 65 (5) ก็จะผิดมาตรา 126 มีการระวางโทษไว้แล้ว ซึ่งมาตรา 126 ก็มาเขียนในมาตรา 116 อีกว่า ถ้าผิดในมาตรา 126 ก็ถือว่าเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง ส่วนจะถึงผู้สมัครหรือไม่ค่อยว่ากันตรงนี้ และในแนวทางการสอบสวนของ กกต.ก็จะต้องตั้งอนุกรรมการขึ้นมา ไต่สวนสอบข้อเท็จจริง ซึ่งมีพิรุจตรงที่ว่า ท่านทักษิณบินมาถึงอุบลฯ 12.30 น.แต่มาเซ็นรับรองแต่งตั้งผู้ช่วยหาเสียงเวลา 08.43 น.มันย้อนแย้งกันไม่ต้องให้พวกจบกฎหมายมาดู ให้นาย ก นาย ข ทำไร่ไถ่นาที่บ้านก็รู้ว่ามันย้อนแย้ง ขัดแย้งไปในตัว ตรงนี้ตนเองมองว่าน่าจะเข้าข่ายความผิด แต่ทาง กกต.จะวินิจฉัยอย่างไรก็ค่อยว่ากัน ซึ่งถ้าผู้ร้องไม่พอใจก็อาจจะฟ้อง กกต.ต่อไป ก็ค่อยว่ากันอีกรอบหนึ่ง
 
นายไชยเดช กล่าวเพิ่มเติมว่าการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯในครั้งนี้มีแต่แมวเท่านั้นที่ไม่รู้ว่ามีการซื้อสิทธิ ขายเสียง ตนเองไปเจอด้วยตัวเอง อสม.อยู่ที่ ต.ไร่น้อย อ.เมือง แจกเงิน ซึ่งก็มีคลิปได้บันทึกไว้แล้ว ปัญหาว่ามีรายเดียวจะมีน้ำหนักพอไหม ซึ่งเรื่องการซื้อเสียงทำไม กกต.ไม่รู้ไม่เห็น ผมเองก็งง พร้อมระบุว่าคุณนั่งอยู่ในออฟฟิศอย่างเดียว ขอตั้งข้อสังเกตว่าบ้านเมืองเราต้องอาศัยการซื้อเสียงอย่างเดียวเหรอ ถึงจะได้เป็น ผู้บริหาร น่าเป็นห่วงมาก ขณะนี้เกิดอะไรขึ้นเงียบ และยังปล่อยให้มีอิสระเสรีมากในเรื่องนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่