หลายๆ คนอาจไม่ทราบ ค่าธรรมโบรกเกอร์ นอกเหนือจาก ค่า Spread Commission และ Swap ยังมีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
แต่อย่าพึ่งตกใจไป เราสามารถรับมือกับมันได้ หากเรารู้ว่าค่าธรรมเนียมพวกนี้เกิดจากอะไร ？
โบรกเกอร์ Forex มีค่าธรรมเนียมแอบแฝงอะไรบ้าง？
1. ค่าสลิปเพจ (Slippage)
2. อัตราแลกเปลี่ยน
3. ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
1. ค่าสลิปเพจ (Slippage)
เทรดเดอร์คงรู้จักกันดี ค่า Slippage คือ ค่าความคลาดเคลื่อนของราคาซื้อ-ขายกับราคาจริงของสินทรัพย์นั้นๆ เช่น หากคุณเทรดทองและตั้งคำสั่งซื้อที่ราคา 2,600.00 แต่ราคาเกิด Slippage ทำให้ราคาที่ได้คือ 2,600.05 แสดงว่าเราได้ราคาที่แพงกว่า 0.5 จุด ซึ่งนี้ก็เป็นต้นทุนของเราเหมือนกัน
แต่ก็ใช้ว่าจะมีข้อเสียเสมอไป ค่าสลิปเพจอาจทำกำไรให้เราได้ด้วยเช่นกัน หากราคามีการไหลไปในทิศทางที่เป็นบวก เช่น หากตั้งคำสั่งซื้อที่ราคา 2,600.00 แต่ราคาไหลไป 2,599.05 แสดงว่าเราได้ราคาดีกว่า 0.5 จุด
ทำไมถึงเกิด Slippage ?
1.1 สภาพคล่องในตลาด : เนื่องจากความต้องการซื้อขายเพิ่มขึ้น และมีออเดอร์ในปริมาณมาก ส่งผลให้ราคาของสินทรัพย์ไม่สามารถจับคู่ได้ ส่วนมากจะเกิดในช่วงการประกาศข่าวสำคัญ เช่น ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Payroll)
1.2 เกิดจากโบรกเกอร์ : โบรกเกอร์ที่ไม่ได้รับการดูแลจากหน่วยงานมาตรฐาน มักปรับเปลี่ยนราคา โดยอ้างว่าเป็นปัญหาจากสภาพคล่อง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลแต่อย่างใด หากเราใช้โบรกเกอร์ที่ได้มาตฐานปัญหานี้จะไม่เกิด
1.3 เสนอราคาล่าช้า : ปัญหานี้อาจคล้ายกับการเกิด Slippage แต่มีความคลาดเคลื่อนมากกว่า โดยส่วนใหญ่จะเกิดจากระบบหรือเครือข่ายของโบรกเกอร์ ซึ่งทำให้การออกออเดอร์ล่าช้า
เนื่องจากการส่งคำสั่งซื้อต้องทำผ่านระบบเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งส่วนนี้อาจเข้าใจยากสำหรับเทรดเดอร์อย่างเรา เอาเป็นว่าหากมี เซิร์ฟเวอร์เยอะการส่งคำสั่งซื้อก็จะทำได้ดีและมีประสิทธิภาพ
ยกตัวอย่าง โบรกเกอร์ EBC มีการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ระดับ Tier 4 ใน 5 ประเทศการเงินหลัก ทั่วโลก พร้อมศูนย์ข้อมูลกว่า 30 แห่ง ทำให้สามารถดำเนินการคำสั่งได้เร็วถึง 20 มิลลิวินาที และรองรับคำสั่งได้ถึง 1,000 คำสั่งต่อวินาที โดยมีความเสถียรของระบบถึง 98.75% ซึ่งช่วยให้การเทรดมีความแม่นยำและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
2. อัตราแลกเปลี่ยน
นี้ถือเป็นต้นทุนที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เนื่องจาก หากคุณฝากหรือถอนเงิน อาจมีเรทแลกเปลี่ยนเล็กน้อย ซึ่งปัจจุบัน การขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินเฉลี่ยในอุตสาหกรรมอยู่ที่ประมาณ 1.5% ซึ่งบางโบรกเกอร์มีการชดเชยความแตกต่างของอัตราแลกเปลี่ยนให้กับเรา
แต่เราสามารถลดการขาดทุนการเรทแลกเปลี่ยนได้ง่ายๆ ก็คืออย่าฝาก-ถอนบ่อยนัก
3. ค่าธรรมเนียมต่างๆ
3.1 ค่าธรรมเนียมจัดการบัญชี : บางโบรกเกอร์ที่ไม่น่าเชื่อถืออาจเรียกเก็บ ค่าธรรมเนียมการจัดการบัญชี โดยอ้างว่าเป็นค่าบริการในการดูแลบัญชีของนักลงทุน แต่ในความเป็นจริง การดูแลเงินทุนเป็นหน้าที่ของหน่วยงานกำกับดูแล เช่น FCA หรือ ASIC กำหนดให้โบรกเกอร์ต้องดำเนินการ โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม หากโบรกเกอร์ใดเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในส่วนนี้ คุณควรระวัง โบรกเกอร์ที่คุณเลือก
3.2 ค่าธรรมเนียมการโอน : โบรกเกอร์อาจเรียกเก็บ ค่าธรรมเนียมการโอน สำหรับการโอนเงินเข้า-ออกจากบัญชีเทรดของคุณ ซึ่งหากเจอแบบนี้อาจเป็นพวกหลอกลวง เพราะโดยส่วนใหญ่ การดูแลเงินทุนของนักลงทุน จะดำเนินการผ่านธนาคาร และแยกออกจากแพลตฟอร์มเทรด หากธนาคารไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการโอนเงิน คุณก็ไม่จำเป็นต้องจ่าย
ค่าธรรมเนียมเหล่านี้ สามารถหลีกเลี่ยงได้ หากเราเลือกโบรกเกอร์ที่มีการดูแลจากหน่วยงานที่มีมาตรฐาน ทั้งนี้คุณจะไม่มีทางทราบได้เลย ว่าโบรกที่เราเลือกมีต้นทุนแฝงเหล่านี้ไหม ผมแนะนำให้คุณลองใช้และหาดูรีวิวจากทางเว็ปไซต์หรือกูรูที่แชร์ความรู้ให้กับทุกๆ ท่าน หากเจอโบรกเกอร์ให้ความรู้ในส่วนนี้ นั้นแสดงถึงความจริงใจและโปร่งใส่ต่อนักลงทุน
ค่าธรรมเนียมแฝงที่หลายคนไม่รู้ โบรเกอร์ FOREX？
แต่อย่าพึ่งตกใจไป เราสามารถรับมือกับมันได้ หากเรารู้ว่าค่าธรรมเนียมพวกนี้เกิดจากอะไร ？
โบรกเกอร์ Forex มีค่าธรรมเนียมแอบแฝงอะไรบ้าง？
1. ค่าสลิปเพจ (Slippage)
2. อัตราแลกเปลี่ยน
3. ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
1. ค่าสลิปเพจ (Slippage)
เทรดเดอร์คงรู้จักกันดี ค่า Slippage คือ ค่าความคลาดเคลื่อนของราคาซื้อ-ขายกับราคาจริงของสินทรัพย์นั้นๆ เช่น หากคุณเทรดทองและตั้งคำสั่งซื้อที่ราคา 2,600.00 แต่ราคาเกิด Slippage ทำให้ราคาที่ได้คือ 2,600.05 แสดงว่าเราได้ราคาที่แพงกว่า 0.5 จุด ซึ่งนี้ก็เป็นต้นทุนของเราเหมือนกัน
แต่ก็ใช้ว่าจะมีข้อเสียเสมอไป ค่าสลิปเพจอาจทำกำไรให้เราได้ด้วยเช่นกัน หากราคามีการไหลไปในทิศทางที่เป็นบวก เช่น หากตั้งคำสั่งซื้อที่ราคา 2,600.00 แต่ราคาไหลไป 2,599.05 แสดงว่าเราได้ราคาดีกว่า 0.5 จุด
ทำไมถึงเกิด Slippage ?
1.1 สภาพคล่องในตลาด : เนื่องจากความต้องการซื้อขายเพิ่มขึ้น และมีออเดอร์ในปริมาณมาก ส่งผลให้ราคาของสินทรัพย์ไม่สามารถจับคู่ได้ ส่วนมากจะเกิดในช่วงการประกาศข่าวสำคัญ เช่น ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Payroll)
1.2 เกิดจากโบรกเกอร์ : โบรกเกอร์ที่ไม่ได้รับการดูแลจากหน่วยงานมาตรฐาน มักปรับเปลี่ยนราคา โดยอ้างว่าเป็นปัญหาจากสภาพคล่อง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลแต่อย่างใด หากเราใช้โบรกเกอร์ที่ได้มาตฐานปัญหานี้จะไม่เกิด
1.3 เสนอราคาล่าช้า : ปัญหานี้อาจคล้ายกับการเกิด Slippage แต่มีความคลาดเคลื่อนมากกว่า โดยส่วนใหญ่จะเกิดจากระบบหรือเครือข่ายของโบรกเกอร์ ซึ่งทำให้การออกออเดอร์ล่าช้า
เนื่องจากการส่งคำสั่งซื้อต้องทำผ่านระบบเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งส่วนนี้อาจเข้าใจยากสำหรับเทรดเดอร์อย่างเรา เอาเป็นว่าหากมี เซิร์ฟเวอร์เยอะการส่งคำสั่งซื้อก็จะทำได้ดีและมีประสิทธิภาพ
ยกตัวอย่าง โบรกเกอร์ EBC มีการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ระดับ Tier 4 ใน 5 ประเทศการเงินหลัก ทั่วโลก พร้อมศูนย์ข้อมูลกว่า 30 แห่ง ทำให้สามารถดำเนินการคำสั่งได้เร็วถึง 20 มิลลิวินาที และรองรับคำสั่งได้ถึง 1,000 คำสั่งต่อวินาที โดยมีความเสถียรของระบบถึง 98.75% ซึ่งช่วยให้การเทรดมีความแม่นยำและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
2. อัตราแลกเปลี่ยน
นี้ถือเป็นต้นทุนที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เนื่องจาก หากคุณฝากหรือถอนเงิน อาจมีเรทแลกเปลี่ยนเล็กน้อย ซึ่งปัจจุบัน การขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินเฉลี่ยในอุตสาหกรรมอยู่ที่ประมาณ 1.5% ซึ่งบางโบรกเกอร์มีการชดเชยความแตกต่างของอัตราแลกเปลี่ยนให้กับเรา
แต่เราสามารถลดการขาดทุนการเรทแลกเปลี่ยนได้ง่ายๆ ก็คืออย่าฝาก-ถอนบ่อยนัก
3. ค่าธรรมเนียมต่างๆ
3.1 ค่าธรรมเนียมจัดการบัญชี : บางโบรกเกอร์ที่ไม่น่าเชื่อถืออาจเรียกเก็บ ค่าธรรมเนียมการจัดการบัญชี โดยอ้างว่าเป็นค่าบริการในการดูแลบัญชีของนักลงทุน แต่ในความเป็นจริง การดูแลเงินทุนเป็นหน้าที่ของหน่วยงานกำกับดูแล เช่น FCA หรือ ASIC กำหนดให้โบรกเกอร์ต้องดำเนินการ โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม หากโบรกเกอร์ใดเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในส่วนนี้ คุณควรระวัง โบรกเกอร์ที่คุณเลือก
3.2 ค่าธรรมเนียมการโอน : โบรกเกอร์อาจเรียกเก็บ ค่าธรรมเนียมการโอน สำหรับการโอนเงินเข้า-ออกจากบัญชีเทรดของคุณ ซึ่งหากเจอแบบนี้อาจเป็นพวกหลอกลวง เพราะโดยส่วนใหญ่ การดูแลเงินทุนของนักลงทุน จะดำเนินการผ่านธนาคาร และแยกออกจากแพลตฟอร์มเทรด หากธนาคารไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการโอนเงิน คุณก็ไม่จำเป็นต้องจ่าย
ค่าธรรมเนียมเหล่านี้ สามารถหลีกเลี่ยงได้ หากเราเลือกโบรกเกอร์ที่มีการดูแลจากหน่วยงานที่มีมาตรฐาน ทั้งนี้คุณจะไม่มีทางทราบได้เลย ว่าโบรกที่เราเลือกมีต้นทุนแฝงเหล่านี้ไหม ผมแนะนำให้คุณลองใช้และหาดูรีวิวจากทางเว็ปไซต์หรือกูรูที่แชร์ความรู้ให้กับทุกๆ ท่าน หากเจอโบรกเกอร์ให้ความรู้ในส่วนนี้ นั้นแสดงถึงความจริงใจและโปร่งใส่ต่อนักลงทุน