eu·than·asia [ˌjuːθəˈneɪzɪə, ˌjuːθəˈneɪʒə] noun
the painless killing of a person or animal suffering from an incurable and painful disease or in an irreversible coma
กริ่งระวังภัยในตัวหมอกันต์ดังไม่หยุด เขาเข้าใจว่าจดหมายนั้นควรเป็นของปลอม ผอ.สมศักดิ์ แอนตี้วิธีการแบบนี้มากกว่าสิ่งใด ฆ่าตัวตายหนีให้พ้นผิดไม่มีทางมันช่างขัดแย้งกับผอ.สมศักดิ์ที่เขารู้จัก คน ๆ นั้นที่ลุแก่โทสะ เห็นช้างตัวเท่าหมูจนแทบจะจับเขาถวายพานใส่ให้ตำรวจได้อยู่แล้ว ต่อให้ใจอยากจะเชื่อก็เชื่อได้ยากยิ่ง ไม่แปลกที่หมอกันต์ตัดสินใจแอบเข้าไปในบ้านของผอ.สมศักดิ์ เผื่อจะเจอร่องรอยเบาะแสอะไร ความลับที่เก็บซ่อนไว้ไม่ควรมีใครรู้เพิ่ม อันที่จริงเพียงเขากับพี่อร ก็มากเกินไป นี่ยังมีใครอีกคนที่อาจจะอยู่ในสมการ เมื่อหมอสมศักดิ์รู้ คนที่มาในวันนั้นก็อาจจะเป็นคนที่รู้เช่นเดียวกัน
แจ็คพ็อตเข้าอีกครั้ง เมื่อการมาในครั้งนี้ ปะกันแหม กับ คนของใจ คดีที่ผ่านมาฝุ่นยังไม่ทันตลบดี ข้อสงสัยใหม่ก็ผุดขึ้นซ้ำ คำโกหกมี 2 ครั้ง คือ ครั้งแล้วกับครั้งเล่า และ คราวนี้ถึงขั้นต้องค้นตัว ใส่กุญแจมือ ความเจ็บช้ำชัดเจน ความอ่อนล้านเข้าเคลือบคลุม จนกระทั่งมีระฆังช่วยชีวิต เมื่อผู้กองพบว่าเส้นผมและเลือดในที่เกิดเหตุ เป็นของคนอื่นไม่ใช่หมอกันต์ แต่กลายเป็นเภสัชบอส
เรื่องเล่าเคล้าน้ำตา ดราม่าเหมือนตาเห็น สิ่งที่หมอกันต์เล่า กับ สิ่งที่บอสเล่า ต่างกันราวฟ้ากับเหว แน่นอนเรื่องที่ตำรวจได้ฟังจากหมอกันต์มันคือเรื่องโกหก เขาไม่มีทางบอกความจริงออกมาได้ เพราะ มีความลับซ่อนเร้นปกปิด ส่วนเรื่องที่บอสเล่าเป็นส่วนต่างที่หายไปยามหมอกันต์หมดสติ สองส่วนสอดรับ จดหมายคือของจริง หมอกันต์ไม่รู้เรื่องที่บอสพูด เรื่องที่ปรากฏในสถานีตำรวจเป็นสารวัตรที่ห้ามหวงไว้ไม่ให้บอกใคร ความสัมพันธ์ระหว่างบอสกับผอ.เป็นเรื่องส่วนตัว คนตายก็ตายไปแล้ว เรื่องราวเปลี่ยนแต่ผลไม่ได้เปลี่ยนไป ข้อเท็จจริงที่บอสเล่าในวันนี้ก็ให้มันจบลงในห้องนี้ ... สงสารแก สารวัตรว่าไว้อย่างนั้น หมดปัญหาซะทีนะผู้กอง
ร่องรอยน่าสงสัยเต็มไปหมด
แต่ปะติดปะต่ออะไรไม่ได้เอาเลย
แต่หลักฐานมันก็กระจ่างชัด ไม่ใช่หมอกันต์ ความสงสัยหลายครั้งแค่ไหน แต่มันก็มีเหตุผลในเชิงที่อธิบายได้ทุกครั้งไป ก็แล้วมันจะยังไง ไม่ใช่หมอกันต์ซักเรื่อง ความสัมพันธ์จึงหวนกลับมาสว่างสดใสอีกครา ปากกาสีแดงก่ำมีราคา เป็นของขวัญแทนใจจากผู้กองหนวดแงวให้แก่คุณหมอตัวท็อปแห่งเวียงสิงห์ ปากหวาน มีบ้าน มีเงิน มีรถ และ มีใจ ไหนใครจะทนได้ ยามปริศนาคลี่คลาย ดอกไม้ในหัวใจก็ผลิบาน ต่างคนทำความรู้จัก พูดคุยอ่อนหวาน เขาถึงได้รู้ว่า อีกฝ่ายเป็นคุณชายท่านหนึ่ง ซึ่งต้องจากบ้านมาไกลเพราะรสนิยมที่ไม่เหมือนใครของตัวเอง แล้วก็เป็นค่ำคืนนั้น ที่การตอบรับกลาย ๆ ได้เกิดขึ้น ทิวขอเวลา เวลาที่ก่อนหน้านั้นที่โต๊ะอาหารยังบอกว่า ปากกาน่ะใช้เถอะ ปีหน้าก็จะซื้อให้อีก ไม่เรียกตอบรับให้เรียกอะไร เมื่อความหมายคือการบอกว่า เรื่องของเราไม่ได้จบเพียงครั้งนี่ แต่มันจะมีครั้งต่อ ๆ ไป ท้องฟ้ามืดมิด แต่หัวใจไม่เหน็บหนาว
จนเช้าตรู่อีกวัน ข่าวร้ายก็มาเยือน คุณอุไร และ คุณครีม คู่รัก LQBT คุณอุไรเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ประสงค์จะทำ Living Will ตามมาตรา 12 พรบ.สุขภาพแห่งชาติ 2550 พี่จะแต่งงานกับเธอก่อนแล้วพี่ค่อยตาย หมอกันต์มองภาพตรงหน้าแล้วใจสลาย เขาไม่อาจทนฟังได้อีกต่อไป จิตใจไหวอ่อน คับแค้น ทั้ง PM 2.5 ที่เป็นต้นเหตุแห่งเรื่องราว ไม่มีใครควรต้องตายเพราะเพียงแค่หายใจ คุณอุไรทรมานเหลือเกินจากความเจ็บปวดทางกาย ส่วนคุณครีมก็รวดร้าวไม่ต่างด้วยความเจ็บปวดทางใจ
มาถึงตรงนี้ เฉดสีของการุณยฆาต แสดงผ่านทัศคติได้อย่างน่าสนใจ ผอ. ไม่เห็นด้วยเลย ชีวิตมีค่า ต้องพยายามรักษา มองในมุมความเป็นแพทย์ ต้องช่วยชีวิต ไม่ใช่พรากชีวิต ดั้งเดิมมาก เภสัชบอส เห็นด้วย คนไข้ก็ลำบาก ญาติลำบาก บุคลากรทางการแพทย์ก็ลำบาก คนป่วยหนึ่งคน กลืนกินชีวิตเลือดเนื้อคนไม่รู้กี่คน มาแบบ untilitarian theory เสียสละไปเถอะ ไหน ๆ ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว พี่อร คล้ายจะเป็นเหมือนหมอกันต์ แต่ในเคสของพี่อุไรนั้น ออกจะแฝงด้วยความกระหาย ช่วยเขาดีไหมหมอ ทำดีไหมหมอ เสนอตัวดีไหมหมอ คล้ายเสนอตัวว่า เออ ไปสนับสนุนให้เค้าตายกันเถอะ ส่วนหมอกันต์สร้างความตายในอุดมคติขึ้นมาให้ผู้ป่วยอย่างสมศักดิ์ศรีการเป็นหมอพาลิ ความตายที่มีคุณภาพ ผู้ป่วยระยะสุดท้ายตายไร้กังวล ประคับประคองหัวใจของญาติ แต่ใครเลยจะรักษาใจหมอ ความอ่อนไหว ความสงสารของหมอ ทำให้หมอก้าวข้าม norm ปัจจุบันที่มีไปกระทำการที่กฎหมายยังมิกล้าเอื้อมมือ เฉดของมันตรงนี้ทำให้การตัดสินใจจะให้ "ความชอบด้วยกฎหมาย"เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าหนักใจ
และ หมอกันต์กำลังจะเผชิญผลแห่งความน่าหนักใจอันนี้ เมื่อพี่อุไร เดินทางไกลก่อนเวลาที่เป็นหมุดหมาย ชุดแต่งงานยังแขวนรออยู่ด้วยซ้ำ ทำอย่างไรเมื่อ "ความตาย" มิได้เป็นช่นอุดมคติอย่างที่หมอกันต์คิด ไม่ใช่ทุกคนที่สนับสนุนการุณยฆาต จะมี ideal แบบหมอกันต์ ที่มุ่งเน้น "คุณภาพ" แห่งความตาย ให้ทางเลือกแก่ผู้ป่วย จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อการตัดสินใจไม่ใช่ทางเลือก แต่กลายเป็นการตัดสินใจฝ่ายเดียว มิใช่เจตจำนงค์แท้จริงของคนไข้ แม้มีกฎหมายบังคับ แม้มีกระบวนการ เชื่อเถอะเคสหลุดรอดมันต้องมี
ปากกาแทนใจที่กันตภัทรซุ่มซ่ามทำหาย สำหรับคนเป็นหมออันที่จริงไม่ได้แปลกอะไร นิสัยหมอทั่วไปที่ชอบจุ๊บปากกาพยาบาล คำโกหกที่เกิดขึ้นคราวนี้น่าเห็นใจ ว่าที่แฟนซื้อให้ ทำหายตั้งแต่เริ่มใช้ได้ที่ไหน ถ้ามันจะไม่ไปอยู่ในห้องผู้ตายในยามเช้าวันนั้น ใครจะไปนึกว่าปากกาหนึ่งแท่ง จะผลักกันตภัทรลงหลุมลึกแห่งความสงสัยอีกครา คำพูดในคราวนี้ถัดมาแม้เป็นจริง แต่กันตภัทรจะมีสภาพเป็นเด็กเลี้ยงแกะหรือไม่ หากเปรียบเป็นแมวเก้าชีวิต ยามนี้คงเป็นชีวิตที่ 9 แล้วนั่นแหละ
เสียงกริ่งระวังภัยดังก้องกรีดร้องกังวาล
เฉดเงาการุณยฆาตเวลานี้ แท้จริงมาจากผู้ใด
กันตภัทรไม่รู้เลย
การุณยฆาต รีวิว (ตอนที่ 5) : Shades
the painless killing of a person or animal suffering from an incurable and painful disease or in an irreversible coma
แจ็คพ็อตเข้าอีกครั้ง เมื่อการมาในครั้งนี้ ปะกันแหม กับ คนของใจ คดีที่ผ่านมาฝุ่นยังไม่ทันตลบดี ข้อสงสัยใหม่ก็ผุดขึ้นซ้ำ คำโกหกมี 2 ครั้ง คือ ครั้งแล้วกับครั้งเล่า และ คราวนี้ถึงขั้นต้องค้นตัว ใส่กุญแจมือ ความเจ็บช้ำชัดเจน ความอ่อนล้านเข้าเคลือบคลุม จนกระทั่งมีระฆังช่วยชีวิต เมื่อผู้กองพบว่าเส้นผมและเลือดในที่เกิดเหตุ เป็นของคนอื่นไม่ใช่หมอกันต์ แต่กลายเป็นเภสัชบอส
เรื่องเล่าเคล้าน้ำตา ดราม่าเหมือนตาเห็น สิ่งที่หมอกันต์เล่า กับ สิ่งที่บอสเล่า ต่างกันราวฟ้ากับเหว แน่นอนเรื่องที่ตำรวจได้ฟังจากหมอกันต์มันคือเรื่องโกหก เขาไม่มีทางบอกความจริงออกมาได้ เพราะ มีความลับซ่อนเร้นปกปิด ส่วนเรื่องที่บอสเล่าเป็นส่วนต่างที่หายไปยามหมอกันต์หมดสติ สองส่วนสอดรับ จดหมายคือของจริง หมอกันต์ไม่รู้เรื่องที่บอสพูด เรื่องที่ปรากฏในสถานีตำรวจเป็นสารวัตรที่ห้ามหวงไว้ไม่ให้บอกใคร ความสัมพันธ์ระหว่างบอสกับผอ.เป็นเรื่องส่วนตัว คนตายก็ตายไปแล้ว เรื่องราวเปลี่ยนแต่ผลไม่ได้เปลี่ยนไป ข้อเท็จจริงที่บอสเล่าในวันนี้ก็ให้มันจบลงในห้องนี้ ... สงสารแก สารวัตรว่าไว้อย่างนั้น หมดปัญหาซะทีนะผู้กอง