สัปดาห์ก่อนนู้นนน ได้สั่งซื้อเครื่องทำพาสต้าแบบหมุนมือมาเครื่องนึง พร้อมช็อกโกแลตสามห่อ
ตอนแรกอยากได้แค่ช็อกโกแลตเพราะมันถูกมาก ห่อละ 10 โครนสวีเดนเอง จากราคาปกติสามสิบกว่าๆ และเป็นรสที่หาซื้อยากตามร้านทั่วไป
หยิบใส่ตะกร้า พอจะจ่ายเงินก็มีค่าส่งเพิ่ม 59 โครน เลยคิดว่าซื้ออย่างอื่นเพิ่มก็แล้วกันจะได้คุ้มค่าส่ง
ก็เลยได้เครื่องทำพาสต้ามาเพิ่ม
เมื่อของมาถึง เปิดกล่องปุ๊บ แปลกใจทำไมมีสี ดูในเน็ตมันเป็นสแตนเลสเปลือยๆ นี่นา ดูๆ ไปเหมือนสีจะลอกด้วย โอ้ย อะไรเนี่ย
เอามือสะกิดๆ มันลอกออกมาเป็นขุยๆ ถ้าเป็นพลาสติคมันควรหลุดออกมาเป็นแผ่นๆ มะ....
คิดได้ดังนั้นเลยถ่ายรูปไว้ และติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ทางเว็บของบริษัทเพื่อแจ้งเขาว่าสินค้าของพวกคุณมีปัญหาสีลอกนะ อันตรายต่อสุขภาพ ฉันขอเปลี่ยนใจ คืนของ พร้อมแนบรูปถ่ายไปด้วย
ผ่านไปหนึ่งวัน บริษัทติดต่อกลับมาขอโทษขอโพย พร้อมแจ้งว่าฉันหักบิลค่าเครื่องทำพาสต้าออกให้นะ จ่ายแค่ค่าช็อกโกแลตอย่างเดียว+ค่าส่ง (เป็นการจ่ายผ่านแอปแบบรับของก่อน จ่ายทีหลัง)
ส่วนสินค้านั้นไม่ต้องส่งคืน จะเอาไปทิ้งหรือทำลายอย่างเหมาะสมตามที่เธอเห็นสมควรได้เลย
เราก็คิดในใจว่า สมน้ำหน้าตัวเอง เห็นแก่ของถูก สุดท้ายได้จ่ายค่าช็อกโกแลตแพงกว่าซื้อตามร้านอีก
เก็บเครื่องลงกล่องอย่างเซ็งๆ
ผ่านไปสามสี่วันก็เล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนฟัง พร้อมแนบรูปไป เพื่อนบอกว่ามันน่าจะเป็นพลาสติคหุ้มนะแก
- ไม่นะ ลองแกะแล้ว มันหลุดเป็นขุยๆ มันคือสีๆ
- ลองแกะดูอีกสักรอบดิ แกะแรงๆ ไปเลย ไหนๆ เขาก็ไม่เอาของคืนแล้วนิ
เลยลองเอามีดขูดๆๆ สรุป เพื่อนพูดถูก
จากนั้นก็ขูดๆ แงะๆ เอาพลาสติคออกจนหมด แล้วแจ้งบริษัทไปว่า คุณคะฉันขอโทษในความเข้าใจผิด
สิ่งที่ฉันคิดว่าเป็นสี จริงๆ มันคือพลาสติคค่ะ ฉันขอโทษ กรุณาส่งบิลค่าของมาใหม่ด้วยค่ะ ฉันจะจ่ายเงินให้
บริษัทตอบกลับมาว่า ดีใจที่เครื่องไม่มีปัญหา เธอไม่ต้องจ่ายอะไรหรอก เรามอบสินค้านี้ให้เป็นการสมนาคุณที่เธอช้อปปิ้งกับเรา และหวังว่าจะได้ให้บริการคุณอีกนะ
สำนึกผิดไม่ทันเลยทีนี้
บริษัทก็นะ ไม่มีข้อมูลสินค้าตัวเองเลย ถ้าแจ้งเราว่าเป็นพลาสติคหรือสงสัยเรื่องความเข้าใจผิดของเราแต่แรกปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นเลยนะ
ส่วนเราเองก็ไร้เดียงสาซะเหลือเกิน แยกสีกับพลาสติคไม่ออก
สรุปว่าเครื่องยังนอนแอ้งแม้งอยู่ในกล่องเหมือนเดิม คิดว่าคงไม่ได้ใช้งานเพราะดูแล้วท่าแล้วคงจะไม่ง่าย
กำลังคิดว่าจะเอาไปที่ศูนย์รีไซเคิล ที่นั่นจะมีที่ให้คนเอาของไปบริจาคให้ร้านขายของมือสองที่เป็นองค์กรการกุศลอยู่
ตอนนี้เล็งเครื่องทำพาสต้าอัตโนมัติไว้แทน น่าจะสะดวกและง่ายกว่า ใส่วัตถุดิบลงเครื่อง กดปุ่ม และรอให้เส้นหมุนๆ ออกมา
ไม่ต้องยึดเครื่องกับขอบโต๊ะ ไม่ต้องรีดแป้งเอง แล้วต้องใช้มือหมุนๆๆๆ ถึงจะได้เส้นมาต้ม
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ข้อมูลเรื่อง สิทธิการเปลี่ยนใจ (Ångerrätt) ในการซื้อสินค้าออนไลน์ตามกฎหมายสวีเดน
"เมื่อคุณซื้อสินค้าหรือบริการแบบออนไลน์ เช่น ผ่านอินเทอร์เน็ต ปกติแล้วคุณจะมีสิทธิ์เปลี่ยนใจได้ภายในเวลา 14 ตามที่ระบุไว้ในกฎหมายว่าด้วย “สิทธิในการเปลี่ยนใจ - Ångerrätten” ซึ่งมีระบุไว้ในกฎหมายสัญญาการซื้อขายทางไกลและสัญญาการซื้อขายนอกสถานประกอบการ (Lagen om distansavtal och avtal utanför affärslokaler)
กฎนี้มีข้อผูกพันตามกฎหมายและเป็นภาคบังคับ ไม่ว่าบริษัทผู้ขายจะพูดหรือเขียนข้อกำหนดและเงื่อนไขของตนไว้ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถหลีกพ้นได้
กฎหมายนี้มีผลบังคับใช้เหมือนกันถ้าหากคุณซื้อสินค้าหรือบริการของประเทศในยุโรป นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และสหราชอาณาจักร
สิทธิในการเปลี่ยนใจหมายถึง คุณสามารถส่งคืนสินค้าหรือยกเลิกคำสั่งซื้อบริการได้
คุณมีสิทธิในการเปลี่ยนใจ 14 วันเมื่อคุณซื้อสินค้าหรือบริการจากบริษัทแบบทางไกล เช่น ซื้อผ่านอินเทอร์เน็ต หรือผ่านโทรศัพท์ เป็นต้น
คุณจะไม่ได้รับสิทธิในการเปลี่ยนใจหากคุณซื้อในร้านค้าโดยตรง แต่คุณสามารถสอบถามทางร้านได้ว่ามีบริการคืนสินค้า (öppet köp) หรือบริการเปลี่ยนสินค้า (bytesrätt) หรือไม่
หากร้านค้าให้สิทธิเหล่านั้นแก่คุณ จะมีข้อมูลแสดงไว้ในใบเสร็จ และระบุจำนวนวันไว้อย่างชัดเจน
เก็บใบเสร็จไว้ให้ดีและนำไปด้วยหากคุณต้องการคืนหรือเปลี่ยนสินค้า
สิทธิในการเปลี่ยนใจมีระบุไว้ในกฎหมาย
ส่วน öppet köp และ bytesrätt นั้นไม่มีระบุไว้ ดังนั้นร้านค้าจึงสามารถกำหนดได้เองว่าจะให้หรือไม่ให้ก็ได้
คุณไม่มีสิทธิในการเปลี่ยนใจเมื่อคุณซื้อสินค้าหรือบริการจากบุคคลธรรมดา (privatperson)
ข้อยกเว้นบางอย่างที่ทำให้คุณไม่สามารถใช้สิทธิในการเปลี่ยนใจได้คือเมื่อคุณซื้อสินค้าและบริการเหล่านี้
- สินค้าสั่งทำเป็นพิเศษที่ผลิตขึ้นตามความข้อกำหนดของคุณ
- สินค้าที่เสื่อมคุณภาพหรือหมดอายุได้เร็ว เช่น อาหารบางประเภท
- สินค้าที่การซีลหีบห่อเสียหายและไม่สามารถส่งคืนได้เนื่องจากเหตุผลด้านสุขภาพและสุขอนามัย เช่น ชุดชั้นใน
- งานดิจิทัล เช่น โปรแกรม แอพต่างๆ เกมส์ หรือดนตรี/เพลง ที่ส่งในรูปแบบดิจิทัล ถ้าหากคุณตกลงยินยอมกับผู้ขายว่าให้มีการส่งสินค้าด้วยวิธีนี้และไม่ให้มีสิทธิในการเปลี่ยนใจ
- เครื่องบริโภคที่ส่งตามออร์เดอร์เป็นประจำ เช่น การส่งถุงอาหาร - matkassar (คุณสมัครสมาชิกและสั่งวัตถุดิบเพื่อประกอบอาหารเป็นประจำจากซุปเปอร์มาร์เก็ต ให้เขาไปส่งที่บ้าน)
- หนังสือพิมพ์และนิตยสารแบบซื้อตามร้านขายของชำ/ซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป"
ที่มา:
https://www.hallakonsument.se/konsumentratt-process/angerratt/
https://www.konsumentverket.se/for-foretag/konsumentratt-for-foretagare/om-kunden-angrar-sitt-kop/ 
เล่าสู่กันฟังแบบสำนึกผิดมากๆ ซื้อของมาแต่ไม่ได้จ่ายตังค์
ตอนแรกอยากได้แค่ช็อกโกแลตเพราะมันถูกมาก ห่อละ 10 โครนสวีเดนเอง จากราคาปกติสามสิบกว่าๆ และเป็นรสที่หาซื้อยากตามร้านทั่วไป
หยิบใส่ตะกร้า พอจะจ่ายเงินก็มีค่าส่งเพิ่ม 59 โครน เลยคิดว่าซื้ออย่างอื่นเพิ่มก็แล้วกันจะได้คุ้มค่าส่ง
ก็เลยได้เครื่องทำพาสต้ามาเพิ่ม
เมื่อของมาถึง เปิดกล่องปุ๊บ แปลกใจทำไมมีสี ดูในเน็ตมันเป็นสแตนเลสเปลือยๆ นี่นา ดูๆ ไปเหมือนสีจะลอกด้วย โอ้ย อะไรเนี่ย
เอามือสะกิดๆ มันลอกออกมาเป็นขุยๆ ถ้าเป็นพลาสติคมันควรหลุดออกมาเป็นแผ่นๆ มะ....
คิดได้ดังนั้นเลยถ่ายรูปไว้ และติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ทางเว็บของบริษัทเพื่อแจ้งเขาว่าสินค้าของพวกคุณมีปัญหาสีลอกนะ อันตรายต่อสุขภาพ ฉันขอเปลี่ยนใจ คืนของ พร้อมแนบรูปถ่ายไปด้วย
ผ่านไปหนึ่งวัน บริษัทติดต่อกลับมาขอโทษขอโพย พร้อมแจ้งว่าฉันหักบิลค่าเครื่องทำพาสต้าออกให้นะ จ่ายแค่ค่าช็อกโกแลตอย่างเดียว+ค่าส่ง (เป็นการจ่ายผ่านแอปแบบรับของก่อน จ่ายทีหลัง)
ส่วนสินค้านั้นไม่ต้องส่งคืน จะเอาไปทิ้งหรือทำลายอย่างเหมาะสมตามที่เธอเห็นสมควรได้เลย
เราก็คิดในใจว่า สมน้ำหน้าตัวเอง เห็นแก่ของถูก สุดท้ายได้จ่ายค่าช็อกโกแลตแพงกว่าซื้อตามร้านอีก
เก็บเครื่องลงกล่องอย่างเซ็งๆ
ผ่านไปสามสี่วันก็เล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนฟัง พร้อมแนบรูปไป เพื่อนบอกว่ามันน่าจะเป็นพลาสติคหุ้มนะแก
- ไม่นะ ลองแกะแล้ว มันหลุดเป็นขุยๆ มันคือสีๆ
- ลองแกะดูอีกสักรอบดิ แกะแรงๆ ไปเลย ไหนๆ เขาก็ไม่เอาของคืนแล้วนิ
เลยลองเอามีดขูดๆๆ สรุป เพื่อนพูดถูก
จากนั้นก็ขูดๆ แงะๆ เอาพลาสติคออกจนหมด แล้วแจ้งบริษัทไปว่า คุณคะฉันขอโทษในความเข้าใจผิด
สิ่งที่ฉันคิดว่าเป็นสี จริงๆ มันคือพลาสติคค่ะ ฉันขอโทษ กรุณาส่งบิลค่าของมาใหม่ด้วยค่ะ ฉันจะจ่ายเงินให้
บริษัทตอบกลับมาว่า ดีใจที่เครื่องไม่มีปัญหา เธอไม่ต้องจ่ายอะไรหรอก เรามอบสินค้านี้ให้เป็นการสมนาคุณที่เธอช้อปปิ้งกับเรา และหวังว่าจะได้ให้บริการคุณอีกนะ
สำนึกผิดไม่ทันเลยทีนี้
บริษัทก็นะ ไม่มีข้อมูลสินค้าตัวเองเลย ถ้าแจ้งเราว่าเป็นพลาสติคหรือสงสัยเรื่องความเข้าใจผิดของเราแต่แรกปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นเลยนะ
ส่วนเราเองก็ไร้เดียงสาซะเหลือเกิน แยกสีกับพลาสติคไม่ออก
สรุปว่าเครื่องยังนอนแอ้งแม้งอยู่ในกล่องเหมือนเดิม คิดว่าคงไม่ได้ใช้งานเพราะดูแล้วท่าแล้วคงจะไม่ง่าย
กำลังคิดว่าจะเอาไปที่ศูนย์รีไซเคิล ที่นั่นจะมีที่ให้คนเอาของไปบริจาคให้ร้านขายของมือสองที่เป็นองค์กรการกุศลอยู่
ตอนนี้เล็งเครื่องทำพาสต้าอัตโนมัติไว้แทน น่าจะสะดวกและง่ายกว่า ใส่วัตถุดิบลงเครื่อง กดปุ่ม และรอให้เส้นหมุนๆ ออกมา
ไม่ต้องยึดเครื่องกับขอบโต๊ะ ไม่ต้องรีดแป้งเอง แล้วต้องใช้มือหมุนๆๆๆ ถึงจะได้เส้นมาต้ม
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ข้อมูลเรื่อง สิทธิการเปลี่ยนใจ (Ångerrätt) ในการซื้อสินค้าออนไลน์ตามกฎหมายสวีเดน
"เมื่อคุณซื้อสินค้าหรือบริการแบบออนไลน์ เช่น ผ่านอินเทอร์เน็ต ปกติแล้วคุณจะมีสิทธิ์เปลี่ยนใจได้ภายในเวลา 14 ตามที่ระบุไว้ในกฎหมายว่าด้วย “สิทธิในการเปลี่ยนใจ - Ångerrätten” ซึ่งมีระบุไว้ในกฎหมายสัญญาการซื้อขายทางไกลและสัญญาการซื้อขายนอกสถานประกอบการ (Lagen om distansavtal och avtal utanför affärslokaler)
กฎนี้มีข้อผูกพันตามกฎหมายและเป็นภาคบังคับ ไม่ว่าบริษัทผู้ขายจะพูดหรือเขียนข้อกำหนดและเงื่อนไขของตนไว้ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถหลีกพ้นได้
กฎหมายนี้มีผลบังคับใช้เหมือนกันถ้าหากคุณซื้อสินค้าหรือบริการของประเทศในยุโรป นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และสหราชอาณาจักร
สิทธิในการเปลี่ยนใจหมายถึง คุณสามารถส่งคืนสินค้าหรือยกเลิกคำสั่งซื้อบริการได้
คุณมีสิทธิในการเปลี่ยนใจ 14 วันเมื่อคุณซื้อสินค้าหรือบริการจากบริษัทแบบทางไกล เช่น ซื้อผ่านอินเทอร์เน็ต หรือผ่านโทรศัพท์ เป็นต้น
คุณจะไม่ได้รับสิทธิในการเปลี่ยนใจหากคุณซื้อในร้านค้าโดยตรง แต่คุณสามารถสอบถามทางร้านได้ว่ามีบริการคืนสินค้า (öppet köp) หรือบริการเปลี่ยนสินค้า (bytesrätt) หรือไม่
หากร้านค้าให้สิทธิเหล่านั้นแก่คุณ จะมีข้อมูลแสดงไว้ในใบเสร็จ และระบุจำนวนวันไว้อย่างชัดเจน
เก็บใบเสร็จไว้ให้ดีและนำไปด้วยหากคุณต้องการคืนหรือเปลี่ยนสินค้า
สิทธิในการเปลี่ยนใจมีระบุไว้ในกฎหมาย
ส่วน öppet köp และ bytesrätt นั้นไม่มีระบุไว้ ดังนั้นร้านค้าจึงสามารถกำหนดได้เองว่าจะให้หรือไม่ให้ก็ได้
คุณไม่มีสิทธิในการเปลี่ยนใจเมื่อคุณซื้อสินค้าหรือบริการจากบุคคลธรรมดา (privatperson)
ข้อยกเว้นบางอย่างที่ทำให้คุณไม่สามารถใช้สิทธิในการเปลี่ยนใจได้คือเมื่อคุณซื้อสินค้าและบริการเหล่านี้
- สินค้าสั่งทำเป็นพิเศษที่ผลิตขึ้นตามความข้อกำหนดของคุณ
- สินค้าที่เสื่อมคุณภาพหรือหมดอายุได้เร็ว เช่น อาหารบางประเภท
- สินค้าที่การซีลหีบห่อเสียหายและไม่สามารถส่งคืนได้เนื่องจากเหตุผลด้านสุขภาพและสุขอนามัย เช่น ชุดชั้นใน
- งานดิจิทัล เช่น โปรแกรม แอพต่างๆ เกมส์ หรือดนตรี/เพลง ที่ส่งในรูปแบบดิจิทัล ถ้าหากคุณตกลงยินยอมกับผู้ขายว่าให้มีการส่งสินค้าด้วยวิธีนี้และไม่ให้มีสิทธิในการเปลี่ยนใจ
- เครื่องบริโภคที่ส่งตามออร์เดอร์เป็นประจำ เช่น การส่งถุงอาหาร - matkassar (คุณสมัครสมาชิกและสั่งวัตถุดิบเพื่อประกอบอาหารเป็นประจำจากซุปเปอร์มาร์เก็ต ให้เขาไปส่งที่บ้าน)
- หนังสือพิมพ์และนิตยสารแบบซื้อตามร้านขายของชำ/ซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป"
ที่มา: https://www.hallakonsument.se/konsumentratt-process/angerratt/
https://www.konsumentverket.se/for-foretag/konsumentratt-for-foretagare/om-kunden-angrar-sitt-kop/