มันเกิดขึ้นอะไรกับความคิดของผมกันเเน่

สวัสดีทุกคน ตอนนี้เราเรียนอยู่ ม.รามคําเเหง จะเริ่มจะต้องไหนดีล่ะเนี่ย งั้นเริ่มตั้งเเต่ต้นก็เเล้วกัน  เราเป็นคนพิการ ขาลีบเเขนลีบซีกขวา เเต่ก็เดินได้เหมือนคนปกติ ตอนเด็กเราอยู่กับยาย จนถึงอายุ 17 เเทบไม่เคยได้ออกจากบ้าน เราเลยไม่ค่อยได้รู้จักผู้คน ใครชวนไปไหนก็ไม่ให้ไป พอขึ้น มา ม.4 เราก็ลองปั้นจักรยานมาเรียน ตอนนั้นเรารู้สึกมีอิสระมากเลย เเต่ก็ยังมีเพื่อนน้อยอยู่ดี เเงงๆๆ เราได้มีโอกาสเเอบชอบเพื่อน เเต่สุดท้ายก็จบที่ตัดเพื่อน เพราะว่า เราบอกไปตรงๆเเต่ เธอมีเเฟนอยู่เเล้ว จนจบ ม.6 เราก็คุยกันเเค่เรื่องงานของวิชาต่างๆ เเต่โชคดีที่ยังมีพี่เขยที่เข้าใจ เราเลยไม่ถลำมากไปกว่านี้ หลังจากจบ ม.6 ได้ปีกว่า เราก็มาอยู่กรุงเทพฯกับพ่อเเม่ ซึ่งเเม่ก็อยากให้เราเรียนนิติ ซึ่งมันเป็นความฝันของเเม่ตั้งเเต่เด็กๆเลย เราก็ลองเรียนดูเพื่อทําให้เเม่ภูมิใจบ้าง ตอนเเรกนี่มาเเบบไฟลุกเลย55+ เเต่ตอนนี้ หึ มันมอดไปเเล้ว คงด้วยอะไรหลายอย่าง อย่างแรกก็คงเป็นเเม่ที่คาดหวังในตัวเราสูงด้วย เพราะว่าถ้าเขาอารมณ์เสียเขาจะชอบมาลงกับเรา ก็อย่างเช่น ดูลูกคนอื่นเขาสิน่า,ผลาญเงินตู,เปรียบเที่ยบกับพี่ที่ตายไปเเล้ว อะไรประมาณนี้ ทำให้เราเครียดมากเลย ทะเลากับเเม่ทุกวัน ไม่มีใจอยากอ่านประมวลเลย พออยากออกไปช่วยขายเตี๋ยว เเกก็ไม่ให้ออกเพราะอายคน พอเรามามหาวิทยาลัย ก็มีเพื่อนคนเดียว เเต่ก็ทำให้หายเครียดได้บ้าง เเต่ก็เเป๊ปเดียว เเต่พอมานั่งอ่านประมวล มันยิ่งทำให้ใจสับสน มันอยากมีเเฟนอย่างคนอื่นเขา ทำให้อ่านประมวลไม่ได้เลย มีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่เราอยากไปคุยกับผู้หญิงมาก เเต่เพื่อนเราดึงเราไว้ก่อน เเละบอกว่า ที่นี่ กรุงเทพ ทำอะไรควรคิดหน้าคิดหลัง อีกอย่างคือ ยิ้มมีเงินหรือยัง ไม่ใช้ขอพ่อเเม่กินเเล้วอยากมีเเฟน ทําให้เราคิดได้  เเล้วอยากหางานทำเพื่ออย่างน้อย เราก็จะได้มีเงินเป็นของตัวเองบ้าง สุดท้ายนี้เราก็คงได้เเต่ข่มใจ เจอใครก็ห้ามเเอบชอบ ห้ามรัก ทำได้เเค่ขอเป็นเพื่อน เพราะอย่างไงซะเรามันก็คนพิการ เป็นเพื่อนได้ก็ดีสุดเเล้ว ที่เหลือก็เเค่เรียนให้จบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่