เหตุผลหนึ่งที่พาตัวเองไปทำ Patch test ก็คือ การเกิดผิวสาก ผื่นแพ้ซ้ำซากหลังจากเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน ด้วยการตลาดสมัยนี้อะนะ เลื่อนผ่านอะไรหูยดี อยากลองอยากใช้ มีแบบซองก็ดีใช้ต่อไม่ไหวก็เอาไปทาหลังมือหลังเท้า และแพทย์เสนอให้ทำ Patch test เพื่อหลีกเลี่ยงสารที่แพ้ในชีวิตประจำวัน

 

ตอนแพทย์ซักประวัติ "คุณทำงานอะไร มีสัตว์เลี้ยงไหม (จะถามสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัว) สครับผิวบ้างไหม คุณทาโรออนระงับกลิ่นบ้างไหม คุณใช้น้ำหอมบ้างไหม ใช้บริเวณไหน" 

 

คำตอบคือ " ทำงานทั่วไปพบปะพูดคุยกับผู้คนเป็นส่วนใหญ่ บ้านเลี้ยงนกมาตั้งแต่เด็กไม่เคยแพ้ เพิ่งมาเลี้ยงแมว 2 ปี ไม่แพ้ เคยไปดำน้ำเมื่อปี 2018 แล้วเกิดอาการคัน มีตุ่มใสขึ้นตามแขนขา ลำตัว ได้รับยารับประทานต้านฮีสตามีน Gen 2 และสเตียรอยด์แบบรับประทานและทาภายนอก ไม่ดีขึ้น และเคยฉีดยาสเตียรอยด์ก็ยังไม่ดีขึ้น ไม่ดีขึ้นในที่นี้คือ เกิดตุ่มน้ำใสเพิ่มจำนวน แพทย์เคยนัดทำ Patch test เมื่อปี 2019 ตอนนั้นทิ้งนัดไปเพราะรักษาจนท้อ บวกกับกลัวแพง เลยเลือกที่จะทิ้งนัด อาการดีขึ้นการด้วยไม่ทาอะไร กินยาแก้แพ้เมื่อมีอาการ และใส่เสื้อผ้าไม่รัดให้ผิวได้หายใจ และใช้เวลาอยู่เกือบ 2 ปี ผื่นคัน ตุ่มใส หายสนิท เหลือเพียงรอยดำ ส่วนตัวไม่ขัดผิว ไม่ใช้อะไรผลัดผิวกายด้วย ไม่มีกลิ่นตัวเลยไม่ใช้โรออน น้ำหอมฉีดบนเสื้อผ้า ไม่ฉีดตามตัวเพราะมันเปลืองค่ะล้างมือบ่อย ส่วนใหญ่จะพยายามที่จะหาให้โลชั่นที่กักเก็บความชุ่มชื่นมาใช้ เพราะเข้าใจว่าตัวเองผิวแห้ง แต่หลังจากใช้ไป 3 วัน ที่ผิวหน้าจะมีอาการผิวสาก มีตุ่มใสขึ้นมาจากใต้ผิวไม่ใช่สิว และมีอาการคันร่วมด้วย เคยขูดผิวไปตรวจ ไม่พบทั้งเชื้อรา และเชื้อแบคทีเรีย เลยไม่ได้ใช้ยารักษา ใช้เพียงน้ำเกลือชุบสำลีชุ่มเช็ดและหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่คิดว่าก่อให้เกิดอาการข้างต้นที่กล่าวมาค่ะ ส่วนผิวกายแทบจะไม่ค่อยทาค่ะ มีทาโลชั่นกันแดดของนีเวียซัน เดลี่ มอยซ์ ที่ไม่มีน้ำหอม ใช้ติดกันมา 3 หลอดไม่มีอาการแพ้ค่ะ ล่าสุดลองเปลี่ยนไปใช้อีกตัวดังขอไม่เอ่ยชื่อนะคะ เพราะเห็นโฆษณาปักตะกร้ากันบ่อยเลยลองซื้อจากดรักสโตร์มาใช้ ใช้ครั้งแรกที่แขน 2 ข้าง มีอาการเย็นวาบ และ 30 นาทีต่อมามีผื่นแดง และตามด้วยตุ่มน้ำใสขึ้น ล้างน้ำเปล่าถึงจะดีขึ้น เราได้ส่งข้อความถามทางแบรนด์ในวันนั้นว่ามีส่วนผสมอะไรที่ทำให้เกิดความเย็นในโลชั่นไหมคะ แอดมินบอกไม่มีและบอกว่าเราไม่แพ้ ให้ทดลองใช้กับบริเวณอื่น ๆ ดูก่อน และสอบถามคนใกล้ตัวที่ใช้ผลิตภัณฑ์นี้ สรุปเรามีอาการนี้คนเดียวและไม่ใช่ความเย็นสบายผิวคืออาการแสบผิว"

 

แพทย์ "คุณเอาผลิตภัณฑ์มาด้วยไหมคะ หมอจะได้ทดลองแปะไปที่ผิวคุณ"

 

เรา "ไม่ได้เอามาด้วยค่ะ เอาไปบริจาค ทาหลังมือหลังเท้าหมดแล้วค่ะ แต่สามารถหาตัวอย่างมาทดสอบได้ค่ะ มีแบบซองขายและคนใกล้ตัวใช้อยู่"

 

แพทย์ "วันพุธเอามาด้วยนะคะ หมอจะได้แปะ และอ่านผลในวันศุกร์"

 

สิ่งที่เราแพ้ ที่จริงมีผลตรวจใบมาตรฐาน 59 ชนิด ที่มีชื่อเรา ชื่อแพทย์ผู้ตรวจ ทางคลินิกผื่นสัมผัสจะส่งมาให้เพิ่มทางไลน์ค่ะ และขอไม่ลงในนี้นะคะ เพราะมีข้อมูลส่วนบุคคลของเราอยู่ คุณหมอเขียนให้คร่าว ๆ ค่ะ ว่าแพ้อะไรบ้าง

สรุป แต่ยาวนะคะ

 

- เราไม่สามารถเดินไปขอให้แพทย์ทำการทดสอบ Patch test ได้ในการพบปะครั้งแรก อาจจะได้ในโรงพยาบาลเอกชน หรือคุณนำประวัติการรักษาจากสถานพยาบาลเก่ามาด้วยเพื่อประกอบการรักษา 

- การทดสอบ 32 สาร พื้นฐาน ราคาเริ่มต้น 1,500 บาท ค่าบริการทางพยาบาลในเวลาครั้งละ 100 บาท แปะตัวอย่างเพิ่มชนิดละ 50 บาท (บางสิทธิ์การรักษาเบิกได้) ส่วนตัวเราเบิกไม่ได้ค่ะ เพราะโรงพยาบาลต้นสังกัดมีแพทย์ผิวหนัง แต่แลปที่นั่นไม่มีศักยภาพมากพอ ถึงจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเองเราก็เลือกจะทำค่ะ อย่างเราไม่ต้องใช้ยารักษา ใช้การหลีกเลี่ยงเป็นหลัก จากการซักประวัติ แพทย์ให้เราทำทั้งหมด 54 สารพื้นฐาน อาจจะพบในกลุ่มเดียวกันไขว้กันไปมา และตัวอย่างสกินแคร์ที่เราทำไปแปะเพิ่มอีก 5 ชนิด พบแพทย์ทั้งหมด 3 วัน วันจันทร์แปะแผ่นทดสอบ ห้ามโดนน้ำ โดนเหงื่อ เพราะอาจจะทำให้สารเจือจาง วันพุธถอดแผ่นทดสอบอ่านผลทดสอบรอบแรก และแปะสารที่เราสงสัยที่นำมาเองเพิ่ม งดโดนน้ำโดนเหงื่อต่อไป วันศุกร์อ่านผลรวมทั้งหมด เรามีขึ้นแพ้มาเพิ่ม และในบางคนเช่นเรา อาจจะโดนยืดระยะเวลาโดนน้ำไปถึงวันอาทิตย์เช้า เพื่อถ่ายรูปส่งให้แพทย์ประเมินอีกครั้ง แพทย์จะสรุปอาการแพ้เอาไว้ แล้วเราค่อยเดินทางไปรับผลและขอประวัติการรักษา นำกลับไปโรงบาลที่มีสิทธิ์การรักษาเพื่อรับคำแนะนำหรือรับยาในอนาคตที่จะเกิดอาการแพ้ทางผิวหนังค่ะ

- ค่าใช้จ่าย เราแปะแผ่นทดสอบไปทั้งหมด 59 สาร พบแพทย์ 3 วัน รวมสุทธิ 3,150 บาท ไม่มียารักษาค่ะ แพทย์แนะนำให้หลีกเลี่ยง โดยการนำชื่อสารที่ขึ้นแพ้ไปค้นหา ชื่อผลิตภัณฑ์... เว้นวรรค ingredients กด 3 ตุ่มขวาบนหน้าจอ ค้นหาในหน้าเว็บ แล้วใส่ชื่อสารที่เราแพ้ลงไปค่ะ ปกติขอรับยาแก้แพ้ ต้านฮีสตามีน Gen 3 สิทธิ์ประกันสังคมที่เดิมอยู่แล้ว

- สถานที่ทำสถาบันโรคผิวหนัง อนุเสาวรีย์ชัยฯ ข้างโรงพยาบาลราชวิถีและโรงพยาบาลเด็กค่ะ ใช้เวลาพบแพทย์ ไม่เกิน 1 ชั่วโมงครึ่ง

- นัดหมายผ่านเว็บไซต์ของโรงพยาบาล กรอกประวัติ อาการเบื้องต้น เลือกวันเวลาได้ ค่าบริการทางพยาบาล 100 บาท ค่ายา ค่าแลปไม่แพงค่ะ หลักร้อย เราเคยขูดหาเชื้อรา แบคทีเรีย ราคาไม่ถึง 200 บาท รู้ผลภายใน 30 นาที ไม่แออัดเพราะรับผู้ป่วยนัดล่วงหน้าแบบจำกัด

- นอกเวลาก็มีค่ะ โทรสอบถามเพิ่มเติมได้ 0-2354-5222