เติมชีวิตชีวาให้กับร่างกายหน้าร้อน แค่มีเธอ (ผัก-ผลไม้)
- ช่วงฤดูร้อน ที่อุณภูมิเพิ่มสูงขึ้น อาจทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย และเกิดภาวะขาดน้ำได้
- นอกจากเช็คการดื่มน้ำที่เพียงพอต่อวันแล้ว (8-10 แก้วต่อวัน) ยังมีตัวเสริมตัวช่วยอย่าง ผัก ผลไม้บางชนิดที่รู้จักและกินเป็นประจำได้อีกทางหนึ่ง
ผัก ผลไม้ประเภทนี้ จะอุดมไปด้วยน้ำสูงถึงร้อยละ 90 ช่วยลดความร้อนและทำให้ร่างกายสดชื่น
- ช่วยทดแทนน้ำในร่างกายที่สูญเสียไปเรื่องจากอากาศร้อนได้ แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ช่วยลดการอักเสบจากการเผาไหม้ของแสงแดดในหน้าร้อน ได้แก่
แตงกวา
คะน้า
มะเขือเทศ
แตงโม
มะละกอ
และฝรั่ง
- และยังมีสาระแหน่ ซึ่งเป็นสมุนไพรเย็นช่วยบรรเทาอาการหวัด ขับเหงื่อ ระบายความร้อน มีสารเมนทอลที่มีคุณสมบัติเย็นใช้ในการรักษาอาการอ่อนเพลียและบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนได้อีกด้วย
นอกจากเรื่องอาหารการกินแล้ว ในสภาวะอากาศร้อนเช่นนี้ การใส่เสื้อผ้าที่ไม่หนาจนเกินไปและควรระบายอากาศได้ดีก็ช่วยลดความร้อนจากร่างกายได้ หากจำเป็นต้องออกกำลังกายควรเลือกกิจกรรมที่อยู่ในร่มหรือไม่ใช่กลางแจ้งแทนนะคะ ด้วยความรักและห่วงใย อยากให้คนไทยสุขภาพดี จาก กรมอนามัย
แหล่งที่มา
กรมอนามัย
ผักผลไม้ที่ช่วยทดแทนน้ำในร่างกาย และทำให้ร่างกายสดชื่น
- ช่วงฤดูร้อน ที่อุณภูมิเพิ่มสูงขึ้น อาจทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย และเกิดภาวะขาดน้ำได้
- นอกจากเช็คการดื่มน้ำที่เพียงพอต่อวันแล้ว (8-10 แก้วต่อวัน) ยังมีตัวเสริมตัวช่วยอย่าง ผัก ผลไม้บางชนิดที่รู้จักและกินเป็นประจำได้อีกทางหนึ่ง
ผัก ผลไม้ประเภทนี้ จะอุดมไปด้วยน้ำสูงถึงร้อยละ 90 ช่วยลดความร้อนและทำให้ร่างกายสดชื่น
- ช่วยทดแทนน้ำในร่างกายที่สูญเสียไปเรื่องจากอากาศร้อนได้ แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ช่วยลดการอักเสบจากการเผาไหม้ของแสงแดดในหน้าร้อน ได้แก่
แตงกวา
คะน้า
มะเขือเทศ
แตงโม
มะละกอ
และฝรั่ง
- และยังมีสาระแหน่ ซึ่งเป็นสมุนไพรเย็นช่วยบรรเทาอาการหวัด ขับเหงื่อ ระบายความร้อน มีสารเมนทอลที่มีคุณสมบัติเย็นใช้ในการรักษาอาการอ่อนเพลียและบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนได้อีกด้วย
นอกจากเรื่องอาหารการกินแล้ว ในสภาวะอากาศร้อนเช่นนี้ การใส่เสื้อผ้าที่ไม่หนาจนเกินไปและควรระบายอากาศได้ดีก็ช่วยลดความร้อนจากร่างกายได้ หากจำเป็นต้องออกกำลังกายควรเลือกกิจกรรมที่อยู่ในร่มหรือไม่ใช่กลางแจ้งแทนนะคะ ด้วยความรักและห่วงใย อยากให้คนไทยสุขภาพดี จาก กรมอนามัย
แหล่งที่มา กรมอนามัย