การคลำพบก้อนที่เต้านมเป็นอาการที่พบบ่อยในผู้หญิง ก้อนเหล่านี้อาจเกิดจากความผิดปกติ เช่น เนื้องอก ถุงน้ำ หรือแม้กระทั่งมะเร็ง การตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ ช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาและลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคร้ายแรง

วิธีตรวจเต้านมด้วยตัวเอง
-ท่ายืน: ยืนหน้ากระจก ใช้นิ้วมือคลำเบาๆ ทุกส่วนของเต้านม จากนั้นยกแขนเหนือศีรษะและสังเกตความผิดปกติของเต้านม
-ท่านอน: นอนราบ ยกแขนข้างหนึ่งไว้ใต้ศีรษะ แล้วใช้อีกมือคลำทุกส่วนของเต้านม เริ่มจากรอบนอกแล้วเคลื่อนมาที่หัวนม สุดท้ายบีบหัวนมเบาๆ เพื่อตรวจดูว่ามีของเหลวผิดปกติหรือไม่

ก้อนในเต้านมบอกอะไรได้บ้าง?
-มะเร็งเต้านม: ก้อนแข็งผิดปกติ มักมาพร้อมอาการผิวหนังหรือหัวนมดึงรั้ง
-เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง (Fibroadenoma): ก้อนเนื้อแข็ง ไม่เป็นอันตราย และบางครั้งหายเองได้
-ซีสต์ในเต้านม: เกิดจากการสะสมน้ำในเนื้อเยื่อเต้านม
-เซลล์ไขมันตาย (Fat Necrosis): เซลล์ไขมันจับตัวเป็นก้อนแข็ง
หากพบก้อนที่เต้านม ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด

เลือดไหลออกจากหัวนม: สัญญาณอันตรายที่ต้องระวัง
เลือดไหลออกจากหัวนมเป็นอาการที่อาจเกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรง เช่น มะเร็งเต้านม หากพบว่ามีเลือดหรือของเหลวปนเลือดออกจากหัวนม ควรรีบพบแพทย์ทันที

ของเหลวผิดปกติจากหัวนมมีลักษณะอย่างไร?
-ของเหลวมีสีปนเลือด
-น้ำเหลืองข้นสีเทา เขียว หรือสีน้ำตาล
-ของเหลวไหลออกเองโดยไม่มีการบีบ
-ของเหลวไหลต่อเนื่องหรือออกบ่อย

โรคที่เกี่ยวข้องกับของเหลวไหลออกจากหัวนม
-มะเร็งเต้านม: ของเหลวปนเลือดมักเป็นสัญญาณที่ต้องระวัง
-เต้านมอักเสบ: พบในแม่ที่ให้นมบุตร เกิดจากการติดเชื้อหรือท่อน้ำนมอุดตัน
-ท่อน้ำนมโป่งพอง: มักพบในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน

ตรวจพบอาการผิดปกติในเต้านม ควรทำอย่างไร?
หากพบก้อนในเต้านม เลือดไหลจากหัวนม หรือความผิดปกติอื่นๆ เช่น รูปทรงหรือสีผิวของเต้านมเปลี่ยนไป ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมหรือวินิจฉัยโรคตั้งแต่ระยะแรก การรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสหายขาดและลดความเสี่ยงจากโรคที่รุนแรง

สุขภาพเต้านมดีเริ่มจากการดูแลตัวเอง! ตรวจเต้านมด้วยตัวเองทุกเดือน หมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลง และอย่าลืมเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อสุขภาพที่ดีและห่างไกลจากโรคร้าย!

อ่านเพิ่มเติม ที่ HDcare Blog