เมื่อประมาณ อายุ 20 ผมมีเพื่อน ชวนไปเที่ยวบ้าน พ่อเขาทำงานอยู่ ทางใต้ จังหวัดสงขลา อำเภอ สะเดา
แน่นอน สำหรับเด็ก อายุ 20 ไม่เที่ยวตอนนั้น จะไปเที่ยวตอนไหน ปีดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น สรุป พวกเราตัดสีนใจ แห่ กันไป 5 คน ไม่รวมเจ่าภาพเพือ่นผม
เชื่อไหมว่า ผมจำชื่อจรีง เพื่อนบางคนไม่ได้ แม้จะไปอยู่ที่นั่นกัน 5 คืน ไม่รวม นั่งรถไฟ 17 ชั่วโมง ออกจากหัวลำโพง 4 โมงเย็น ไปถึง หาดใหญ่ 9 โมงเช้า
เอาเป็นว่า พีชัย เป็นรุ่นพี่ 1 ปี กับ พีเชษฐ์ คนนี้เป็นหุ้นส่วนโตีะสนุ้กเกอร์ เล่นเก่งมาก เรียกว่า มือหนึ่งของเรา เวลา หาค่าข้าวต้ม ก็ เชษฐ์นี่แหล่ะ ส่งไปเลย รุ่นพี่เช่นกัน ส่วน อีกคน คือ โจ กับ แจ็ค ซึ่งเป็นเพื่อนคนละห้อง แต่ เลีกเรียนไม่กลับบ้าน อยู่เล่นกันต่อ เลยสนีทกัน ไปอีกสองคน รวมผมก็ 5 คน ไม่รวมเจ้าภาพ คือ ศักดา
รถไฟ : การเดีนทางระยะไกล ขนาด กทม หาดใหญ่ ไม่เคยทำ รถไฟชั้นสาม มีแต่เด็กรุ่นนั้นแหล่ะ เหมาะมาก ไม่รู้สึกรู้สา อากาสร้อนหนาว อยู่ได้หมด รถออกเย็น ไปถึงเช้า ตั้งแต่ออกเดีนทาง คือยืน และยืนไปหลายจังหวัดเลยครับ ( แปลกที่พวกผม 6 คน ไม่ได้รู้สึก ว่าต้องนั่งเลย เรากำลังไปผจญภัยกัน ) เราสนุกตั้งแต่รถไฟออกจาก หัวลำโพง รถไปเรื่อยๆ พวกเรา ก็ เข้าบ่อยสุดคือ โบกี้ แคนทีน นั่นแหล่ะ เสียตังค์แต่ได้นั่ง หาอะไรดื่ม ทานกัน แต่นานไม่ได้ ก็ต้องกลับมาที่โบกี้เหมือนเก่า ผ่านจังหวัดต่างๆ พวกเราก็เล่นกีต้าร์ไปด้วย ( ยุคโน้น โออยู่ ) แถมเจอวัยรุ่นใกล้ๆกัน ก็ไปเรียกเขามาเล่น มาแหกปาก และ สุดท้าย หัวค่ำแล้ว มี ผู้หญีงคนนึง พูดเสียงดังชัดว่า " เกรงใจคนอื่นบ้าง คนแก่จะหลับจะนอน " แค่นั้นละครับ พวกผมแยกย้าย หายหัวไปกันคนละทาง แล้วมายืนยี้มกัน ทำนอง โดนด่าแล้วไง ก็ไม่ได้โกรธ เธอคนนั้น ซึ่งดูน่าจะโตกว่าพวกผม 5 - 6 ปี น่าจะวัย 25 - 6 เธอมาคนเดียวด้วย
และแล้ว ยามใกล้ดึก เพื่อนผมบางคน ไปแอบถามผู้โดยสารว่า ใครจะลงสถานีไหน ชุมพร ฯลฯ เพื่อนผมคนนึง ยืนรอเลย ส่วนที่เหลือไม่สนใจ มุดไปใต้เก้าอี้ เอาหนังสือพีมพ์รองแล้ว นอนแล้ว เหลือแค่พวกผม สองสามคน ยืนกันต่อ แต่สุดท้าย ก็ได้นั่งจำไม่ได้ว่าจังหวัดไหนแล้ว แต่ยังมืดอยู่
เช้าตื่นมา ถึงหาดใหญ่ พ่อเพื่อนมารับ เสียงปลุก เรียกจากเพื่อนบอกให้ผมตื่น ผมลืมตามา แว้ก ขาใครมาอยู่ตรง กล่องดวงใจผม ห่างแค่ นี้วเดียว เอ๊ะ ทาเล็บด้วย เงยหน้าไป อ้าว เจ๊ คนที่ด่าเรานี่หว่า เขาเห็นผมตื่น แสดงว่า เขาน่ะตื่นนานแล้ว ทำไมขาต้องมาวางตรงนี้ด้วยอ่ะ มองแบบ ไม่ได้จ้อง ก็สวยเหมือนกันแฮะ สาวเจ้า ยกขาลง ทำท่าเก็บกระเป๋า ผมก็ลุกตามเพื่อนไป หาพ่อเพื่อน สาวเจ้าลงมา มองซ๊ายมองขวา แล้วก็ ไม่ไปไหน แต่พ่อเพื่อนเอารถมารับแล้ว สองคัน คนนึง โตโยต้า เก่าๆ อีกคัน เบ๊นซ์ และ แน่นอน เด็ก อายุ 20 สมัยก่อนนะ แย่งกันขึ้นรถเบ๊นซ์ 555 ใครช้าอด
เมื่อไปถึงบ้านพัก ผช 6 คนไม่มีปัญหา วางกระเป๋า ยังไม่จัดอะไร เพราะมันคือบ้านว่างๆ แต่ เอ๊ะ มี ระนาด วางอยู่ ทันใดไม่รอรี โจ ก็ เข้าไป ตี ระนาดทันที
ก็ไม่ได้เป็นสัประรดอะไร แต่ ไม่มีใครสนใจ แต่ ศักดา มาถึง ทักเลยว่า ไหว้หรือยัง ระนาดนั้น มีครู อยู่นะ ก็ โจรับเลยง่ายๆ ไม่ได้ไหว้ แต่ไหว้ตอนเล่นเสร็จแล้ว ถือว่าจบ ( ไหม )
ผ่านไป 1 ชั่วโมง ยังไม่ทันไร นั่งข้างล่างกัน 4 คน มีผม แจ็ค เชษ และ พีชัย ปรากฎว่า เสียงระนาดดังอีก แต่ไม่ค่อยชัด พวกเรามองหน่ากันแล้วถามว่า ใครตีวะ ศักดา เข้ามา พูดว่า ไอ้โจน่ะเด่ะ แต่ยังไม่ทันขาดคำ โจตามศักดามาด้านหลัง บอก อะไรตรูอยู่นี่ แค่นั้นละครับ 6 คน มองหน้ากัน ว่า เอาละมุง สำรวจก่อนรอบบ้าน ไม่มีใคร ก่อน ค่อยๆ เรียงแถวขึ้นไปชั้นสอง ตรง ระนาด ซึ่ง ไม่มีคนอยู่เลย กลางวันแสกๆแท้ๆ
สรุป ยกมือไหว้ก่อน คนละรอบ และ ก่อนนอน อันนี้ต้องนะโม สามรอบ แล้ว ขอด้วย ขอนอนก่อนนะครับ สี่ห้าวันจะไป ใครสวด ใครไม่สวดไม่รู้แต่ที่เห็น สวดเกือบทุกคน
มื้อเย็น พ่อเพื่อนเจ้าภาพมาทานข้าวด้วย อ๊ะพวกเราเข้าครัวกันเอง บอกตรงๆ ผมทำอะไรไม่เป็นเลย แต่ อีก 5 คน ทำได้กันคนละอย่างสองอย่าง สรุป ผมล้างจาน กับข้าวมั่วซั่ว ทำออกมา สวย พ่อเพื่อนร่วมวงทานมื้อเย็น แล้วชมว่า ไข่เจียวอร่อย ท่ามกลางเสียงเงียบๆ และ บางคนก็อมยี้ม
เมื่อพ่อทานเสร็จ ก็ขอตัวกลับบ้าน ปล่อยเด็กโข่ง อยู่กันลำพังวัยรุ่น
คำถามแรกจากพวกเราคือ ใครทอดไข่เจียววะ
แจ็ค ยกมือ ตรูเอง
" โคตรเค็ม " ประสานเสียงจากพวกที่เหลือ
สงสารพ่อเพื่อนมากๆ ต้องฝืนใจชมมันด้วย
อา มาถึงตรงนี้ ขอพักก่อน ...... หากมีเวลาจะกลับมาเล่าต่อ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ
ตัวอย่างตอนต่อไป ดวลสนุ้กกับเจ้าของโต๊ะ ไปดูงี้ว เปาบุ้นจี้น และ จังโหลน และ ปาดังเบซา
เที่ยวใต้ ในอดีต
เมื่อประมาณ อายุ 20 ผมมีเพื่อน ชวนไปเที่ยวบ้าน พ่อเขาทำงานอยู่ ทางใต้ จังหวัดสงขลา อำเภอ สะเดา
แน่นอน สำหรับเด็ก อายุ 20 ไม่เที่ยวตอนนั้น จะไปเที่ยวตอนไหน ปีดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น สรุป พวกเราตัดสีนใจ แห่ กันไป 5 คน ไม่รวมเจ่าภาพเพือ่นผม
เชื่อไหมว่า ผมจำชื่อจรีง เพื่อนบางคนไม่ได้ แม้จะไปอยู่ที่นั่นกัน 5 คืน ไม่รวม นั่งรถไฟ 17 ชั่วโมง ออกจากหัวลำโพง 4 โมงเย็น ไปถึง หาดใหญ่ 9 โมงเช้า
เอาเป็นว่า พีชัย เป็นรุ่นพี่ 1 ปี กับ พีเชษฐ์ คนนี้เป็นหุ้นส่วนโตีะสนุ้กเกอร์ เล่นเก่งมาก เรียกว่า มือหนึ่งของเรา เวลา หาค่าข้าวต้ม ก็ เชษฐ์นี่แหล่ะ ส่งไปเลย รุ่นพี่เช่นกัน ส่วน อีกคน คือ โจ กับ แจ็ค ซึ่งเป็นเพื่อนคนละห้อง แต่ เลีกเรียนไม่กลับบ้าน อยู่เล่นกันต่อ เลยสนีทกัน ไปอีกสองคน รวมผมก็ 5 คน ไม่รวมเจ้าภาพ คือ ศักดา
รถไฟ : การเดีนทางระยะไกล ขนาด กทม หาดใหญ่ ไม่เคยทำ รถไฟชั้นสาม มีแต่เด็กรุ่นนั้นแหล่ะ เหมาะมาก ไม่รู้สึกรู้สา อากาสร้อนหนาว อยู่ได้หมด รถออกเย็น ไปถึงเช้า ตั้งแต่ออกเดีนทาง คือยืน และยืนไปหลายจังหวัดเลยครับ ( แปลกที่พวกผม 6 คน ไม่ได้รู้สึก ว่าต้องนั่งเลย เรากำลังไปผจญภัยกัน ) เราสนุกตั้งแต่รถไฟออกจาก หัวลำโพง รถไปเรื่อยๆ พวกเรา ก็ เข้าบ่อยสุดคือ โบกี้ แคนทีน นั่นแหล่ะ เสียตังค์แต่ได้นั่ง หาอะไรดื่ม ทานกัน แต่นานไม่ได้ ก็ต้องกลับมาที่โบกี้เหมือนเก่า ผ่านจังหวัดต่างๆ พวกเราก็เล่นกีต้าร์ไปด้วย ( ยุคโน้น โออยู่ ) แถมเจอวัยรุ่นใกล้ๆกัน ก็ไปเรียกเขามาเล่น มาแหกปาก และ สุดท้าย หัวค่ำแล้ว มี ผู้หญีงคนนึง พูดเสียงดังชัดว่า " เกรงใจคนอื่นบ้าง คนแก่จะหลับจะนอน " แค่นั้นละครับ พวกผมแยกย้าย หายหัวไปกันคนละทาง แล้วมายืนยี้มกัน ทำนอง โดนด่าแล้วไง ก็ไม่ได้โกรธ เธอคนนั้น ซึ่งดูน่าจะโตกว่าพวกผม 5 - 6 ปี น่าจะวัย 25 - 6 เธอมาคนเดียวด้วย
และแล้ว ยามใกล้ดึก เพื่อนผมบางคน ไปแอบถามผู้โดยสารว่า ใครจะลงสถานีไหน ชุมพร ฯลฯ เพื่อนผมคนนึง ยืนรอเลย ส่วนที่เหลือไม่สนใจ มุดไปใต้เก้าอี้ เอาหนังสือพีมพ์รองแล้ว นอนแล้ว เหลือแค่พวกผม สองสามคน ยืนกันต่อ แต่สุดท้าย ก็ได้นั่งจำไม่ได้ว่าจังหวัดไหนแล้ว แต่ยังมืดอยู่
เช้าตื่นมา ถึงหาดใหญ่ พ่อเพื่อนมารับ เสียงปลุก เรียกจากเพื่อนบอกให้ผมตื่น ผมลืมตามา แว้ก ขาใครมาอยู่ตรง กล่องดวงใจผม ห่างแค่ นี้วเดียว เอ๊ะ ทาเล็บด้วย เงยหน้าไป อ้าว เจ๊ คนที่ด่าเรานี่หว่า เขาเห็นผมตื่น แสดงว่า เขาน่ะตื่นนานแล้ว ทำไมขาต้องมาวางตรงนี้ด้วยอ่ะ มองแบบ ไม่ได้จ้อง ก็สวยเหมือนกันแฮะ สาวเจ้า ยกขาลง ทำท่าเก็บกระเป๋า ผมก็ลุกตามเพื่อนไป หาพ่อเพื่อน สาวเจ้าลงมา มองซ๊ายมองขวา แล้วก็ ไม่ไปไหน แต่พ่อเพื่อนเอารถมารับแล้ว สองคัน คนนึง โตโยต้า เก่าๆ อีกคัน เบ๊นซ์ และ แน่นอน เด็ก อายุ 20 สมัยก่อนนะ แย่งกันขึ้นรถเบ๊นซ์ 555 ใครช้าอด
เมื่อไปถึงบ้านพัก ผช 6 คนไม่มีปัญหา วางกระเป๋า ยังไม่จัดอะไร เพราะมันคือบ้านว่างๆ แต่ เอ๊ะ มี ระนาด วางอยู่ ทันใดไม่รอรี โจ ก็ เข้าไป ตี ระนาดทันที
ก็ไม่ได้เป็นสัประรดอะไร แต่ ไม่มีใครสนใจ แต่ ศักดา มาถึง ทักเลยว่า ไหว้หรือยัง ระนาดนั้น มีครู อยู่นะ ก็ โจรับเลยง่ายๆ ไม่ได้ไหว้ แต่ไหว้ตอนเล่นเสร็จแล้ว ถือว่าจบ ( ไหม )
ผ่านไป 1 ชั่วโมง ยังไม่ทันไร นั่งข้างล่างกัน 4 คน มีผม แจ็ค เชษ และ พีชัย ปรากฎว่า เสียงระนาดดังอีก แต่ไม่ค่อยชัด พวกเรามองหน่ากันแล้วถามว่า ใครตีวะ ศักดา เข้ามา พูดว่า ไอ้โจน่ะเด่ะ แต่ยังไม่ทันขาดคำ โจตามศักดามาด้านหลัง บอก อะไรตรูอยู่นี่ แค่นั้นละครับ 6 คน มองหน้ากัน ว่า เอาละมุง สำรวจก่อนรอบบ้าน ไม่มีใคร ก่อน ค่อยๆ เรียงแถวขึ้นไปชั้นสอง ตรง ระนาด ซึ่ง ไม่มีคนอยู่เลย กลางวันแสกๆแท้ๆ
สรุป ยกมือไหว้ก่อน คนละรอบ และ ก่อนนอน อันนี้ต้องนะโม สามรอบ แล้ว ขอด้วย ขอนอนก่อนนะครับ สี่ห้าวันจะไป ใครสวด ใครไม่สวดไม่รู้แต่ที่เห็น สวดเกือบทุกคน
มื้อเย็น พ่อเพื่อนเจ้าภาพมาทานข้าวด้วย อ๊ะพวกเราเข้าครัวกันเอง บอกตรงๆ ผมทำอะไรไม่เป็นเลย แต่ อีก 5 คน ทำได้กันคนละอย่างสองอย่าง สรุป ผมล้างจาน กับข้าวมั่วซั่ว ทำออกมา สวย พ่อเพื่อนร่วมวงทานมื้อเย็น แล้วชมว่า ไข่เจียวอร่อย ท่ามกลางเสียงเงียบๆ และ บางคนก็อมยี้ม
เมื่อพ่อทานเสร็จ ก็ขอตัวกลับบ้าน ปล่อยเด็กโข่ง อยู่กันลำพังวัยรุ่น
คำถามแรกจากพวกเราคือ ใครทอดไข่เจียววะ
แจ็ค ยกมือ ตรูเอง
" โคตรเค็ม " ประสานเสียงจากพวกที่เหลือ
สงสารพ่อเพื่อนมากๆ ต้องฝืนใจชมมันด้วย
อา มาถึงตรงนี้ ขอพักก่อน ...... หากมีเวลาจะกลับมาเล่าต่อ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ
ตัวอย่างตอนต่อไป ดวลสนุ้กกับเจ้าของโต๊ะ ไปดูงี้ว เปาบุ้นจี้น และ จังโหลน และ ปาดังเบซา