ขอวิธีจัดการความคิด เมื่อสามีต้องสังสรรค์ที่ทำงานค่ะ

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ หลังจากเราแต่งงานมา 5 ปี ชีวิตคู่ไม่เคยมีปัญหาใดเลย นอกจากเรื่องสุรา เรื่องหึงหวงไม่เคยมี

เรื่องสุราก่อนแต่งงาน
สามีจะดื่มกับที่ทำงานเท่านั้น ซึ่งก่อนนี้เราทำงานที่เดียวกัน เราดื่มได้นิดหน่อย จะคอยดูแลเขากลับบ้านอย่างปลอดภัย และไม่เคยว่าเรื่องดื่ม เพราะเขาค่อนข้างคอแข็ง มีสติตลอดเวลา หลังจบงานก็จะช่วยดูแลเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆได้อีกด้วย

หลังแต่งงาน
ใน 3ปีแรก ไม่มีปัญหาใดๆค่ะ เพิ่งเริ่มมาหนักๆ เมื่อ 2ปีที่แล้ว เนื่องจากสุขภาพเขาแย่ลง น้ำหนักขึ้นมา 20กิโลกรัม เป็นภูมิแพ้บ่อย ป่วยบ่อย จากที่เคยมีสติ เริ่มไม่มี

นิสัยเราเกี่ยวกับการดื่มของเขา
1. เราปล่อยให้เขาสนุกกับเพื่อนๆเต็มที่ ไม่มีแชทชวนคุย
2. เราไม่แชทตาม ไม่โทรตาม ถ้าไม่เกินเวลาที่เขาบอกว่าจะกลับ
3. เราจะโทรแค่ประมาณ 2ครั้ง ครั้งแรกคือ เมื่อเลยเวลา ถามแค่จะกลับรึยัง จากนั้นเราก็นอนต่อ ครั้งที่สองคือเมื่อเราตื่นขึ้นมาอีกที
4. เราชอบพูดครั้งเดียว เพราะคิดว่าโตแล้ว ไม่จ้ำจี้ จ้ำไช
5. ถ้าเขาเมามากๆ เราจะบอกให้เขานอนบ้านเพื่อน หรือโรงแรมไปเลย
6. ถ้าเราบ่น เราจะร่ายยาวมากค่ะ สังเกตุจากการพิมพ์กระทู้ได้ เราจะเน้นเหมือนสอนมากกว่า ไม่เคยมีคำหยาบคาย ไม่เคยพูดหยาบคายเลยค่ะ ตลอดเวลาที่คบกันมา

เหตุการณ์แรก
เขาเมาแล้ว อุ้มเรานั่งตัก หนุบหนับกลางวง ซึ่งเรารับไม่ได้ ต่อให้แต่งงานแล้วก็เถอะ เราผลักเขาออก พอกลับมาเราก็เลยทะเลาะกับเขา (เราไม่ชอบทะเลาะต่อหน้าคนอื่นค่ะ รู้สึกว่าไม่ให้เกียรติเขา)

เหตุการณ์ที่สอง
เราไม่ได้ไปด้วยแล้ว เพราะเราสุขภาพไม่ดี และเราก็ไม่ได้ทำงานแล้ว เขาเมามาก กดเรียกรถกลับบ้านเองไม่ไหว เลยให้คนที่งานกดในแอพให้
ซึ่งคนที่งานก็เมาเหมือนกันเลยกดเรียกรถมอเตอร์ไซให้ (ถ้าวันไหนมีดื่มเขาจะไม่ขับรถไป) ระยะทางประมาณ 40km ถ้าเขาไม่เมาคงไม่เป็นไรค่ะ แต่ว่าเขาหลับบนมอไซ เกือบตลอดทาง จนเกือบตกรถ ทำให้เราทะเลาะกันในตอนเช้า เพราะเราเป็นห่วงอยู่ คอยดูแล เช็ดตัว เช็ดอาเจียน

เหตุการณ์ที่สาม
เขาพิมพ์บอกว่าเราว่า จะนั่งรถไฟฟ้ากลับ
แต่ผ่านไป 2 ชม. ยังไม่ถึงบ้าน เราเลยดูใน find my phone อยู่เป็น 10นาที ยังอยู่ที่สถานีรถไฟฟ้า แถมไม่ใช่สถานีใกล้บ้าน
เมื่อโทรไป เป็นเสียงผู้ชายคนอื่นรับ ‘สวัสดีครับ ผมนาย... เป็นเจ้าหน้าที่...’ ใจเราสั่นตั้งแต่เขาแนะนำตัว หวังอย่างเดียวว่าไม่ใช่ โรงพยาบาล ซึ่งโชคดีเป็นนายสถานี 555555 โล่งอกค่ะ
แต่ก็กลับมากังวลต่อ เพราะของทุกอย่าง รวมถึงกระเป๋าตังค์อยู่บนรถไฟฟ้า แต่ไม่เห็นเจ้าของ
ใจเราสั่นอีกครั้ง ขออย่าให้เป็นอะไร ในใจคิดต่างๆนานา ลักพาตัว? ตกราง? เมาจนลืมของ? ซึ่งอันสุดท้ายแทบไม่นึกถึง เพราะไม่เคยเกิดขึ้น เขาไม่เคยลืมโทรศัพท์สักครั้ง
เราเตรียมตัวออกจากบ้าน จะไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนให้ขับรถตามหา (เราขับรถไม่เป็นค่ะ)
แต่โชคยังดี ที่ผลออกมาเป็นอย่างสุดท้าย กลับบ้านมาแบบงงๆตอนเราก้าวเท้าออกจากบ้าน
ก็กลับมาเละเหมือนเดิม เมา อ้วก หลับ ลุกมาอ้วก เมา หลับ

พอคุยกันว่า ที่บริษัทเขาบังคับให้ต้องกินขนาดนี้เลยหรอ เราไม่โอเคอยากคุยกับ HR เขาก็บอกว่าไม่ได้มีใครบังคับ ไม่กินก็ได้ ก็มีพี่ในทีมที่ไม่ดื่มเพราะขับรถมา เขาก็นั่งเล่นบอร์ดเกมส์รอ

มันเลยทำให้เรารอบนี้คือ เส้นความอดทนเราขาดดัง ปึ๊งง เรานึกว่าตลอดว่ามันเป็นการเข้าสังคม ลูกค้า ผู้ใหญ่เชียร์มห้ดื่มต้องดื่มเลยไม่เคยว่าอะไร ปกติเราจะแค่บ่นๆ สอนๆให้เขารักตัวเอง บ่นๆวันเดียวก็หาย

แต่ รอบนี้คือทนไม่ได้จริงๆค่ะ เราคุยกับตัวเองสักพัก ทำความเข้าใจตัวเอง และคิดว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนเขาได้ เรามีความคิดที่เห็นแก่ตัวว่า ทำไมเราจะต้องทน และ สร้างพลังงานลบไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปปัญหามันอาจลุกลามถึงขั้นแตกหักแบบรุนแรงกว่านี้ และเราทนรับรู้ว่าเขาตกอยู่ในอันตราย หรือเกิดสูญเสียมากกว่านี้ไม่ได้

*เราเป็นซึมเศร้า รับการรักษา และไม่อยากเป็นพลังงานลบให้ใคร แต่ก็คิดว่าตัวเองไม่สามารถรับความสูญเสียเขามาในชีวิตได้อีกแล้ว เลยเลือกไม่รับรู้ดีกว่า เหมือนตอนที่เริ่มรักษาแรกๆที่ต้องตัด ทริกเกอร์ออกไป*

เราเลยเลือก ขอหย่า
โดยไม่เอาสมบัติอะไรเลย ขอแค่ลูก เขามาเยี่ยมมาหาได้เราไม่ว่าอะไร แต่ สุดท้ายเขาง้อเราสำเร็จ และสัญญาจริงจังเป็นหนังสือสัญญา โดยระบุชัดเจน ถึงจำนวนแก้วที่กิน ปริมาณแอลกอฮอล์ และหากบอกจะกลับเวลาไหนกลับเวลานั้น เป็นระยะเวลา 1ปี หากทำไม่ได้ สัญญามีผลทันที

ซึ่งเราเป็นคนที่ถือคติว่า ไม่ว่าจะทะเลาะกันหนักแค่ไหน จะ ไม่บอกเลิก เพราะมันเป็นการทำลายความรู้สึกกัน แล้วสะสมจนทำให้ไปไม่รอดในที่สุด ซึ่งเราคิดว่ามันคือครั้งแรกและครั้งสุดท้ายแล้วสำหรับคำนี้

ไม่กี่วันก่อนเพิ่งครบอายุสัญญา
ใช่ค่ะ เขาทำตามสัญญาได้ทุกอย่าง ซึ่งเราก็มีส่วนที่เปลี่ยนไปและดูงี่เง่าขึ้น คือเราคอยโทรตามเขาก่อนถึงเวลาที่เขาแจ้งว่าจะกลับ  โดยเขาจะบอกก่อนล่วงหน้าวันนึงเลยว่า แบบ วันนี้จะออกจากออฟฟิศ 3ทุ่ม วันนี้จะออกจากออฟฟิศ 5 ทุ่ม บางครั้งโทรไปเขาก็มีงอแงว่าขออยู่ต่อ แต่เราบอกว่าสัญญาแล้วนะ เขาก็รักษาสัญญาและกลับตามเวลาค่ะ

เหตุการณ์ที่ทำให้ตั้งกระทู้

คือ วันนี้ค่ะ

เขาแจ้งล่วงหน้า 1 อาทิตย์แล้วว่า พุธ พฤ ศ เขาจะกลับดึกมีดื่มที่ออฟฟิศ ซึ่งเราก็โอเค ไม่ว่าอะไร
ก็เหมือนเดิมค่ะ เราไม่โทรไป ไม่ได้แชทไปกวนเวลาสังสรรค์ แชทสุดท้ายคือเราบอกเขาตอนเลิกงานว่า ’อย่าเมานะคะ’ ‘ดูแลตัวเองดีๆนะคะ‘

อยู่ๆ ตอน 4ทุ่ม เรามีเรื่องจะให้เขาช่วยดูให้หน่อย เลยโทรไปครั้งที่ 1 ปรากฎว่า เขาลิ้นเหลว พูดไม่รู้เรื่อง แค่เราโทรไป เขาพูดมาก่อนเลยว่า ‘ไม่ได้เมานะครับ ไม่ได้เมา เดี๋ยวกลับพร้อมน้อง น้องไปทางเดียวกันบลาๆ’ คือเรายังไม่ทันได้อ้าปากถามเลยใส่มาเป็นชุด ลำบากมานั่งถอดความอีก เลยถามเขาว่าเมาแล้วใช่ไหมคะ กินไปเท่าไหร่ พอเขาตอบกลับมา มันเกินจำนวนที่เราเคยทำสัญญาไป เขาบอกว่าแต่สัญญามันจบลงแล้วนะ เกิน 1ปีแล้วนะ เราโมโหมาก หลุดปากไปว่า ‘พอเลิก’ แล้วก็วางสาย

เราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำค่ะ ว่า ‘พอเลิก’ ของเราคือ เลิกกับเขา หรือ เลิกคุย มันสับสนไปหมด ซึ่งเรามานั่งคิดว่าอืม ความรู้สึกเรามันแค่อารมณ์โกรธ เลยตัดสินใจ พิมพ์แชทไปครั้งที่ 1 เพื่ออธิบาย เหตุผลในการที่ทำสัญญาขึ้น เพื่อให้เข้าใจถึงประโยชน์ และย้ำเตือนว่ามันไม่ใช่แค่ต้องการสร้างไว้เพื่อเป็นคำขู่ หรือการคุมขังเขาไว้ เพื่อให้เขาคิดวิเคราะห์สิ่งที่ทำได้เอง

แต่คนเมาอะเนอะ 5555555

เขาไม่ได้อ่านอะไร และเราก็เป็นห่วงกลัวเกิดเหตุการณ์เดิม หรือแย่กว่านั้น

เราจึงโทรไปหาเขาครั้งที่ 2 ว่า เรามีทางเลือก2 ทาง 1. กลับเองตอนนี้ หรือ ให้เราไปรับ
ซึ่งเขาตอบกลับทันทีว่า ไม่ ไม่เลือกทั้งสองทาง จะกลับกับน้อง เราจึงย้ำคำถามไปอีก รวมทั้งหมด 3ครั้ง เขาก็ตอบคำตอบเดิม

ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ เส้นอารมณ์เราขาด ตึ๊งงงงง อีกครั้ง

ตอนนี้ในหัวเรามีแต่คำว่าหย่าค่ะ ตอนนี้ก็เตรียมเอกสาร จัดการเรื่องราวหลังจากนี้ไว้หมดแล้ว(เอกสารจากคราวก่อน แค่เปลี่ยนวันที่ กับลงชื่อใหม่) จิตใจมันฟุ้งซ่านไปหมดค่ะ

เราคงไปพบแพทย์อีกครั้ง แต่เราไม่เคยพูดถึงด้านนี้ของครอบครัวเราให้ใครฟังมาก่อน เพื่อน พ่อแม่ แพทย์ เพราะไม่อยากให้ใครมองและมาด่าสามีเราไม่ดี ไม่อยากให้ใครเห็นความงี่เง่าของเรา ไม่อยากให้เห็นความแตกแยก (แต่ในพันทิป มปร 5555555 อย่างน้อยก็ไม่มีใครรู้จัก) เรื่องนี้แบบนี้ควรนำไปเล่าให้คุณหมอฟังไหมคะ?

ระหว่างรอพบแพทย์เราควรจัดการความรู้สึกยังไงดีคะ? เพราะว่าแพทย์ประจำเราคิวไม่ว่างเลย นัดใกล้สุดอีก 2อาทิตย์ค่ะ

เรากลัวว่าระหว่างนี้เราจะระเบิดไปก่อนค่ะ เพราะยังมีอีก 2วัน ที่เขาต้องไปดื่มอีก

หรือท่านใดมีประสบการณ์วิธีการแก้ปัญหาเรื่องนี้ รบกวนขอคำแนะนำหน่อยได้ไหมคะ

ถึงปัญหาเราจะเป็นเรื่องเล็กๆ เราเข้าใจค่ะ ว่าครอบครัวอื่นที่หย่ากันเจอเรื่องที่หนักกว่านี้มากๆ และการกระทำของเรามันเห็นแก่ตัว เรายอมรับความผิดค่ะ ด่าเราได้เลยค่ะ ถ้ามันช่วยทำให้ชีวิตคู่เราเดินต่อไปได้ ช่วยทำให้เราสามารถปรับมุมมองได้ทีค่ะ เรามองไม่เห็นทางไปต่อเลยจริงๆค่ะ ในตอนนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่