ก้าวเมือง ปชน. ลงพื้นที่ขอนแก่น จัดเวิร์กช็อป “แฮกเมือง”
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_800430/
กลุ่มก้าวเมือง ปชน. ลงพื้นที่ขอนแก่น จัดเวิร์กช็อป “แฮกเมือง” ค้นหาช่องว่างนโยบายพัฒนาเมือง-ปรับปรุงให้คนทุกกลุ่มในเมืองได้ประโยชน์ พร้อมลงพื้นที่สำรวจปัญหาจริงในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากรถไฟความเร็วสูง
กลุ่มก้าวเมือง พรรคประชาชน พร้อมด้วยเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเมือง นำโดย ผศ.ดร.
สักรินทร์ แซ่ภู่ และ ผศ.ดร.
ปูรณ์ ขวัญสุวรรณ ลงพื้นที่เทศบาลนครขอนแก่น เพื่อทำเวิร์กช็อปนโยบายการพัฒนาเมืองร่วมกับ
เบญจมาภรณ์ ศรีละบุตร ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครขอนแก่นของพรรคประชาชน ผ่านกระบวนการจากงานวิจัย “
เมืองแฮกได้” (Hackable City)
ที่มีแนวคิดหลักคือ “
ประชาชนเป็นเจ้าของนโยบาย พรรคการเมืองมีหน้าที่นำนโยบายไปขับเคลื่อน” และ
“เปลี่ยนจากพรรคการเมือง เป็นพรรคพัฒนาเมือง” โดยนาย
ณัฐพงศ์ เปรมพูลสวัสดิ์ สส.กรุงเทพฯ เขต 21 พรรคประชาชน ในฐานะผู้ประสานงานกลุ่มก้าวเมือง กล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักในการเดินทางมาจังหวัดขอนแก่นของกลุ่มก้าวเมือง คือ การจัดเวิร์กช็อปที่นำนโยบายของท้องถิ่นมาต่อยอด
โดยทำการวิเคราะห์ถึงกลุ่มประชาชนที่จะได้รับประโยชน์จากนโยบายเหล่านั้น เพื่อให้นโยบายที่มีอยู่ถูกพัฒนาให้หลากหลายและครอบคลุมกับทุกคนในเมืองมากที่สุด ทั้งในแง่มุมของความครอบคลุมเชิงพื้นที่ ความครอบคลุมเชิงประเด็น และความครอบคลุมเชิงบุคคล กล่าวคือ นโยบายที่จัดทำจะต้องมีทั้งนโยบายในภาพกว้าง
และนโยบายที่เจาะจงรายพื้นที่และกลุ่มคนในเมือง รวมถึงยังเป็นการค้นหาช่องว่างทางนโยบายด้วย นอกจากการวิเคราะห์ เพื่อค้นหาช่องว่างของนโยบายในปัจจุบันแล้ว กระบวนการแฮกเมืองยังมีการแลกเปลี่ยนกันให้ได้ข้อสรุปในเรื่องจังหวะก้าวของแผนงานเกี่ยวกับวิธีการที่จะทำให้สามารถผลักดันนโยบายนั้นจนสำเร็จ
ทั้งนี้ การแฮกเมืองของกลุ่มก้าวเมืองยังสามารถนำนโยบายที่ผ่านการคิดของว่าที่ผู้สมัครมาแล้ว มาทดสอบความเป็นไปได้และสร้างทางเลือกเพิ่มเติม ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของกลุ่มคนที่คาดว่าจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากนโยบาย เพื่อทดสอบว่านโยบายที่ผู้คิดนโยบายเชื่อว่าดีแล้ว จะเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการจริงหรือไม่ หากไม่ดีพอก็สามารถนำมาปรับปรุงให้เป็นตามความเหมาะสมได้ ทำให้พรรคประชาชนได้รับนโยบายที่ยึดโยงกับประชาชนอย่างแท้จริง
นอกจากการจัดเวิร์กช็อปนโยบายแล้ว กลุ่มก้าวเมืองยังได้ลงไปสำรวจและรับฟังปัญหาในพื้นที่จริง อย่างเช่นเมื่อวานนี้ (8 พ.ย.) กลุ่มก้าวเมืองร่วมกับ
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และ
วีรนันท์ ฮวดศรี สส.ขอนแก่น เขต 1 พรรคประชาชน ลงพื้นที่ไปยังชุมชนเทพารักษ์ 1-5 ที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนที่ดินเพื่อนำไปทำโครงการรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง
ซึ่งถึงแม้การรถไฟแห่งประเทศไทยจะจ่ายเงินอุดหนุนให้ประชาชนนำไปสร้างที่อยู่อาศัยใหม่บนที่ดินของการรถไฟฯ จุดอื่นเฉลี่ยครัวเรือนละ 100,000-160,000 บาท แต่ประชาชนก็ยังมีข้อกังวลต่อเงื่อนไขสัญญาฉบับใหม่ที่อาจทำให้รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เช่น สัญญามีอายุสั้นเพียง 3 ปี ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นทุกปี และมีการกำหนดเงื่อนไขห้ามทำการพาณิชย์
นาย
ณัฐพงศ์กล่าวทิ้งท้ายว่า นี่เป็นตัวอย่างของนโยบายพัฒนาเมืองที่มีช่องว่าง ไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับคนกลุ่มต่างๆ ในเมือง โดยนอกจากกลุ่มก้าวเมืองจะนำปัญหานี้ไปเข้าสู่กระบวนการแฮกเมืองแล้ว สส.วีรนันท์จะนำเรื่องนี้ยื่นต่อคณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนต่อไปด้วย
ต้นแบบ Hyperloop ย่อส่วนในยุโรป ทดสอบระบบการวิ่งสำเร็จ
https://www.tnnthailand.com/news/tech/180880
ยุโรปประสบความสำเร็จในการทดสอบระบบขนส่ง ไฮเปอร์ลูป (Hyperloop) หรือระบบขนส่งความเร็วสูงผ่านท่อสุญญากาศ โดยเป็นระบบแบบย่อส่วน ซึ่งสามารถวิ่งได้ในระยะทางไกลที่สุดเท่าที่เคยทดสอบมา ความสำเร็จครั้งนี้อาจทำให้ระบบการขนส่งความเร็วสูง เข้าใกล้ความเป็นจริงขึ้นไปอีกขั้น
เทคโนโลยีไฮเปอร์ลูป ถูกนำเสนอในปี 2013 โดย
อีลอน มัสก์ (Elon Musk) เจ้าของบริษัทด้านอวกาศอย่าง สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) โดยเป็นแนวคิดเกี่ยวกับแคปซูลขนส่ง ที่วิ่งอยู่ในท่อสุญญากาศ ช่วยลดแรงต้านของอากาศ ทำให้สามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 1,200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ล่าสุด อีพีเอฟแอล (EPFL) หรือสถาบันเทคโนโลยีแห่งสหพันธ์สวิส โลซาน ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้ทำการทดสอบต้นแบบ ของเทคโนโลยีไฮเปอร์ลูปในโครงการชื่อว่า ลิมิตเลส (LIMITLESS) โดยใช้เป็นไฮเปอร์ลูปจำลองในมาตราส่วน 1:12 ที่มีท่อเดินทาง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 เซนติเมตร
จากการทดสอบไปแล้ว 82 ครั้ง ทีมพัฒนาพบว่า แคปซูลสามารถวิ่งในระยะทางไกลสุดอยู่ที่ 11.8 กิโลเมตร และทำความเร็วสูงสุดที่ 40.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเป้าหมายต่อไป คือการพัฒนาระบบให้ทำระยะทางได้ไกลขึ้นเป็น 140 กิโลเมตร และทำความเร็วสูงสุดที่ราว 480 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากโครงการนี้แล้ว ยังมีบริษัทสัญชาติเนเธอร์แลนด์อย่าง ฮาร์ดท์ ไฮเปอร์ลูป (Hardt Hyperloop) ที่เคยทดสอบไฮเปอร์ลูปสำเร็จเช่นกัน โดยสามารถทำให้แคปซูลเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุด 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในท่อระยะทางประมาณ 100 เมตร
บริษัทเปิดเผยว่าในอนาคต หากสามารถขยายโครงสร้างพื้นฐานได้ ตัวแคปซูลจะสามารถทำความเร็วได้ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และหากขยายโครงสร้างให้ไกลขึ้นได้อีก ก็จะสามารถบรรลุความเร็วสูงสุดของไฮเปอร์ลูปได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้บริษัทมีเป้าหมายที่จะให้แคปซูลเคลื่อนที่ผ่านท่อได้ด้วยความเร็วสูงสุด 700 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ที่มาข้อมูล
NewAtlas,
Swisspod
ที่มารูปภาพ
EPFL
ทีดีอาร์ไอ แนะรับมือเทรดวอร์ จากนโยบายทรัมป์ มีทั้งบวก-ลบ ชี้ตักตวงทุนใหญ่จีนย้ายฐาน-ห่วงสินค้าราคาถูกทุบตลาดไทย
https://www.matichon.co.th/economy/news_4890840
ทีดีอาร์ไอ แนะรับมือเทรดวอร์ จากนโยบายทรัมป์ มีทั้งบวก-ลบ ชี้ตักตวงทุนใหญ่จีนย้ายฐาน-ห่วงสินค้าราคาถูกทุบตลาดไทย
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน นาย
นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งและได้รับเลือกกลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอีกครั้งนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่พอสมควร จะมีความผันผวนทางเศรษฐกิจโลกในระยะสั้นแน่นอน เนื่องจากได้หาเสียงนโยบายทางเศรษฐกิจไว้หลายอย่างมาก จะต้องจับตาดูว่าจะสามารถทำได้จริงครบถ้วนอย่างที่หาเสียงไว้ได้หรือไม่
นาย
นณริฏกล่าวว่า ในส่วนที่เกี่ยวของกับประเทศไทยอย่างมากนั้น คือ เรื่องของสงครามการค้ากับประเทศจีน ซึ่งสิ่งที่จะมีความเป็นไปได้คือการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศจีน 60-70% และจากประเทศอื่นๆ 20% ซึ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้นในเชิงบวก คือ การลงทุนจะเป็นบวกและมีความเป็นไปได้สูงที่ประเทศจีนจะย้ายฐานการผลิตเพื่อหลีกเลี่ยงสงครามการค้า และอาจจะเป็นโอกาสให้กับประเทศไทยได้รับผลประโยชน์ เนื่องจากเงินทุนจะไหลเข้ามา จึงขึ้นอยู่กับทางประเทศไทยว่าจะตักตวงโอกาสตรงนี้ได้มากน้อยแค่ไหน
นาย
นณริฏกล่าวว่า แต่ถ้าหากมองในภาพเชิงลบ หากมีการขึ้นภาษีการนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนในสหรัฐ ประเทศจีนก็อาจจะย้ายช่องทางไปยังประเทศที่เปิดรับ เช่น ประเทศไทย เป็นต้น จะส่งผลให้มีสินค้าจากจีนมากขึ้นและมีการนำกลยุทธ์ดัมพ์ราคามากขึ้น และจะเป็นผลกระทบให้กับผู้ประกอบการไทยได้ ในอีกมุมมองหนึ่งนโยบายทางเศรษฐกิจบางอย่างเช่น การขึ้นภาษี หรืออื่นๆ อาจจะเป็นกลยุทธ์การขู่ให้ประเทศอื่นๆ มาสนใจร่วมการค้ากับสหรัฐ ก็เป็นไปได้ ดังนั้น จึงเกิดการผันผวนในระยะสั้น เพราะทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยต่างก็ตื่นตัวและไม่สามารถคาดเดาได้ว่านายทรัมป์จะสามารถทำได้ทุกนโยบายหรือไม่
นาย
นณริฏกล่าวว่า อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญเป็นเรื่องของนโยบายเศรษฐกิจภายในประเทศสหรัฐ ซึ่งทรัมป์มีนโยบายพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาด้วยการลดภาษีนิติบุคคล
ขณะเดียวกันก็จะมีการลดภาษีอื่นๆ ซึ่งนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์จะเป็นแบบประชานิยมและจะกระตุ้นในระยะสั้น โดยการที่เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาดี นั้นก็หมายความว่า
ค่าเงินภายในประเทศก็จะแข็ง ซึ่งประเทศไทยอาจจะได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทอ่อน ถึงแม้ว่าคนจะบอกว่าถ้าค่าเงินบาทอ่อน ก็จะดีกับการส่งออก แต่การส่งออกในช่วงที่มีสงครามการค้าอยู่นั้น ก็ใช่ว่าจะขายออกไปได้ง่ายๆ แบบตรงไปตรงมา ในทางตรงข้าม สินค้านำเข้าก็จะแพง
JJNY : ก้าวเมือง ปชน. “แฮกเมือง”│Hyperloop ย่อส่วนทดสอบสำเร็จ│ทีดีอาร์ไอแนะรับมือเทรดวอร์│ที่ปรึกษา"ทรัมป์"ชี้หยุดหวัง
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_800430/
กลุ่มก้าวเมือง พรรคประชาชน พร้อมด้วยเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเมือง นำโดย ผศ.ดร.สักรินทร์ แซ่ภู่ และ ผศ.ดร.ปูรณ์ ขวัญสุวรรณ ลงพื้นที่เทศบาลนครขอนแก่น เพื่อทำเวิร์กช็อปนโยบายการพัฒนาเมืองร่วมกับเบญจมาภรณ์ ศรีละบุตร ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครขอนแก่นของพรรคประชาชน ผ่านกระบวนการจากงานวิจัย “เมืองแฮกได้” (Hackable City)
ที่มีแนวคิดหลักคือ “ประชาชนเป็นเจ้าของนโยบาย พรรคการเมืองมีหน้าที่นำนโยบายไปขับเคลื่อน” และ “เปลี่ยนจากพรรคการเมือง เป็นพรรคพัฒนาเมือง” โดยนายณัฐพงศ์ เปรมพูลสวัสดิ์ สส.กรุงเทพฯ เขต 21 พรรคประชาชน ในฐานะผู้ประสานงานกลุ่มก้าวเมือง กล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักในการเดินทางมาจังหวัดขอนแก่นของกลุ่มก้าวเมือง คือ การจัดเวิร์กช็อปที่นำนโยบายของท้องถิ่นมาต่อยอด
โดยทำการวิเคราะห์ถึงกลุ่มประชาชนที่จะได้รับประโยชน์จากนโยบายเหล่านั้น เพื่อให้นโยบายที่มีอยู่ถูกพัฒนาให้หลากหลายและครอบคลุมกับทุกคนในเมืองมากที่สุด ทั้งในแง่มุมของความครอบคลุมเชิงพื้นที่ ความครอบคลุมเชิงประเด็น และความครอบคลุมเชิงบุคคล กล่าวคือ นโยบายที่จัดทำจะต้องมีทั้งนโยบายในภาพกว้าง
และนโยบายที่เจาะจงรายพื้นที่และกลุ่มคนในเมือง รวมถึงยังเป็นการค้นหาช่องว่างทางนโยบายด้วย นอกจากการวิเคราะห์ เพื่อค้นหาช่องว่างของนโยบายในปัจจุบันแล้ว กระบวนการแฮกเมืองยังมีการแลกเปลี่ยนกันให้ได้ข้อสรุปในเรื่องจังหวะก้าวของแผนงานเกี่ยวกับวิธีการที่จะทำให้สามารถผลักดันนโยบายนั้นจนสำเร็จ
ทั้งนี้ การแฮกเมืองของกลุ่มก้าวเมืองยังสามารถนำนโยบายที่ผ่านการคิดของว่าที่ผู้สมัครมาแล้ว มาทดสอบความเป็นไปได้และสร้างทางเลือกเพิ่มเติม ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของกลุ่มคนที่คาดว่าจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากนโยบาย เพื่อทดสอบว่านโยบายที่ผู้คิดนโยบายเชื่อว่าดีแล้ว จะเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการจริงหรือไม่ หากไม่ดีพอก็สามารถนำมาปรับปรุงให้เป็นตามความเหมาะสมได้ ทำให้พรรคประชาชนได้รับนโยบายที่ยึดโยงกับประชาชนอย่างแท้จริง
นอกจากการจัดเวิร์กช็อปนโยบายแล้ว กลุ่มก้าวเมืองยังได้ลงไปสำรวจและรับฟังปัญหาในพื้นที่จริง อย่างเช่นเมื่อวานนี้ (8 พ.ย.) กลุ่มก้าวเมืองร่วมกับณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และวีรนันท์ ฮวดศรี สส.ขอนแก่น เขต 1 พรรคประชาชน ลงพื้นที่ไปยังชุมชนเทพารักษ์ 1-5 ที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนที่ดินเพื่อนำไปทำโครงการรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง
ซึ่งถึงแม้การรถไฟแห่งประเทศไทยจะจ่ายเงินอุดหนุนให้ประชาชนนำไปสร้างที่อยู่อาศัยใหม่บนที่ดินของการรถไฟฯ จุดอื่นเฉลี่ยครัวเรือนละ 100,000-160,000 บาท แต่ประชาชนก็ยังมีข้อกังวลต่อเงื่อนไขสัญญาฉบับใหม่ที่อาจทำให้รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เช่น สัญญามีอายุสั้นเพียง 3 ปี ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นทุกปี และมีการกำหนดเงื่อนไขห้ามทำการพาณิชย์
นายณัฐพงศ์กล่าวทิ้งท้ายว่า นี่เป็นตัวอย่างของนโยบายพัฒนาเมืองที่มีช่องว่าง ไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับคนกลุ่มต่างๆ ในเมือง โดยนอกจากกลุ่มก้าวเมืองจะนำปัญหานี้ไปเข้าสู่กระบวนการแฮกเมืองแล้ว สส.วีรนันท์จะนำเรื่องนี้ยื่นต่อคณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนต่อไปด้วย
ต้นแบบ Hyperloop ย่อส่วนในยุโรป ทดสอบระบบการวิ่งสำเร็จ
https://www.tnnthailand.com/news/tech/180880
ยุโรปประสบความสำเร็จในการทดสอบระบบขนส่ง ไฮเปอร์ลูป (Hyperloop) หรือระบบขนส่งความเร็วสูงผ่านท่อสุญญากาศ โดยเป็นระบบแบบย่อส่วน ซึ่งสามารถวิ่งได้ในระยะทางไกลที่สุดเท่าที่เคยทดสอบมา ความสำเร็จครั้งนี้อาจทำให้ระบบการขนส่งความเร็วสูง เข้าใกล้ความเป็นจริงขึ้นไปอีกขั้น
เทคโนโลยีไฮเปอร์ลูป ถูกนำเสนอในปี 2013 โดยอีลอน มัสก์ (Elon Musk) เจ้าของบริษัทด้านอวกาศอย่าง สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) โดยเป็นแนวคิดเกี่ยวกับแคปซูลขนส่ง ที่วิ่งอยู่ในท่อสุญญากาศ ช่วยลดแรงต้านของอากาศ ทำให้สามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 1,200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ล่าสุด อีพีเอฟแอล (EPFL) หรือสถาบันเทคโนโลยีแห่งสหพันธ์สวิส โลซาน ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้ทำการทดสอบต้นแบบ ของเทคโนโลยีไฮเปอร์ลูปในโครงการชื่อว่า ลิมิตเลส (LIMITLESS) โดยใช้เป็นไฮเปอร์ลูปจำลองในมาตราส่วน 1:12 ที่มีท่อเดินทาง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 เซนติเมตร
จากการทดสอบไปแล้ว 82 ครั้ง ทีมพัฒนาพบว่า แคปซูลสามารถวิ่งในระยะทางไกลสุดอยู่ที่ 11.8 กิโลเมตร และทำความเร็วสูงสุดที่ 40.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเป้าหมายต่อไป คือการพัฒนาระบบให้ทำระยะทางได้ไกลขึ้นเป็น 140 กิโลเมตร และทำความเร็วสูงสุดที่ราว 480 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากโครงการนี้แล้ว ยังมีบริษัทสัญชาติเนเธอร์แลนด์อย่าง ฮาร์ดท์ ไฮเปอร์ลูป (Hardt Hyperloop) ที่เคยทดสอบไฮเปอร์ลูปสำเร็จเช่นกัน โดยสามารถทำให้แคปซูลเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุด 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในท่อระยะทางประมาณ 100 เมตร
บริษัทเปิดเผยว่าในอนาคต หากสามารถขยายโครงสร้างพื้นฐานได้ ตัวแคปซูลจะสามารถทำความเร็วได้ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และหากขยายโครงสร้างให้ไกลขึ้นได้อีก ก็จะสามารถบรรลุความเร็วสูงสุดของไฮเปอร์ลูปได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้บริษัทมีเป้าหมายที่จะให้แคปซูลเคลื่อนที่ผ่านท่อได้ด้วยความเร็วสูงสุด 700 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ที่มาข้อมูล NewAtlas, Swisspod
ที่มารูปภาพ EPFL
ทีดีอาร์ไอ แนะรับมือเทรดวอร์ จากนโยบายทรัมป์ มีทั้งบวก-ลบ ชี้ตักตวงทุนใหญ่จีนย้ายฐาน-ห่วงสินค้าราคาถูกทุบตลาดไทย
https://www.matichon.co.th/economy/news_4890840
ทีดีอาร์ไอ แนะรับมือเทรดวอร์ จากนโยบายทรัมป์ มีทั้งบวก-ลบ ชี้ตักตวงทุนใหญ่จีนย้ายฐาน-ห่วงสินค้าราคาถูกทุบตลาดไทย
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน นายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งและได้รับเลือกกลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอีกครั้งนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่พอสมควร จะมีความผันผวนทางเศรษฐกิจโลกในระยะสั้นแน่นอน เนื่องจากได้หาเสียงนโยบายทางเศรษฐกิจไว้หลายอย่างมาก จะต้องจับตาดูว่าจะสามารถทำได้จริงครบถ้วนอย่างที่หาเสียงไว้ได้หรือไม่
นายนณริฏกล่าวว่า ในส่วนที่เกี่ยวของกับประเทศไทยอย่างมากนั้น คือ เรื่องของสงครามการค้ากับประเทศจีน ซึ่งสิ่งที่จะมีความเป็นไปได้คือการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศจีน 60-70% และจากประเทศอื่นๆ 20% ซึ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้นในเชิงบวก คือ การลงทุนจะเป็นบวกและมีความเป็นไปได้สูงที่ประเทศจีนจะย้ายฐานการผลิตเพื่อหลีกเลี่ยงสงครามการค้า และอาจจะเป็นโอกาสให้กับประเทศไทยได้รับผลประโยชน์ เนื่องจากเงินทุนจะไหลเข้ามา จึงขึ้นอยู่กับทางประเทศไทยว่าจะตักตวงโอกาสตรงนี้ได้มากน้อยแค่ไหน
นายนณริฏกล่าวว่า แต่ถ้าหากมองในภาพเชิงลบ หากมีการขึ้นภาษีการนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนในสหรัฐ ประเทศจีนก็อาจจะย้ายช่องทางไปยังประเทศที่เปิดรับ เช่น ประเทศไทย เป็นต้น จะส่งผลให้มีสินค้าจากจีนมากขึ้นและมีการนำกลยุทธ์ดัมพ์ราคามากขึ้น และจะเป็นผลกระทบให้กับผู้ประกอบการไทยได้ ในอีกมุมมองหนึ่งนโยบายทางเศรษฐกิจบางอย่างเช่น การขึ้นภาษี หรืออื่นๆ อาจจะเป็นกลยุทธ์การขู่ให้ประเทศอื่นๆ มาสนใจร่วมการค้ากับสหรัฐ ก็เป็นไปได้ ดังนั้น จึงเกิดการผันผวนในระยะสั้น เพราะทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยต่างก็ตื่นตัวและไม่สามารถคาดเดาได้ว่านายทรัมป์จะสามารถทำได้ทุกนโยบายหรือไม่
นายนณริฏกล่าวว่า อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญเป็นเรื่องของนโยบายเศรษฐกิจภายในประเทศสหรัฐ ซึ่งทรัมป์มีนโยบายพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาด้วยการลดภาษีนิติบุคคล
ขณะเดียวกันก็จะมีการลดภาษีอื่นๆ ซึ่งนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์จะเป็นแบบประชานิยมและจะกระตุ้นในระยะสั้น โดยการที่เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาดี นั้นก็หมายความว่า
ค่าเงินภายในประเทศก็จะแข็ง ซึ่งประเทศไทยอาจจะได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทอ่อน ถึงแม้ว่าคนจะบอกว่าถ้าค่าเงินบาทอ่อน ก็จะดีกับการส่งออก แต่การส่งออกในช่วงที่มีสงครามการค้าอยู่นั้น ก็ใช่ว่าจะขายออกไปได้ง่ายๆ แบบตรงไปตรงมา ในทางตรงข้าม สินค้านำเข้าก็จะแพง