รายการ The Chair ออกอากาศวันที่ 2 ตุลาคม 2567
"Jackie" อดิสรณ์ พึ่งยา สัมภาษณ์ "บิว" ภูริพล บุญสอน
"บิว" บอกว่ามี 2-3 ที่ ติดต่อมา เริ่มนาทีที่ 7:30-8:20 ในคลิปด้านล่าง
ทางเลือกแรกคือ เรียนต่อที่มหาวิทยาลัยโอเรกอน อเมริกา ทางนั้นเสนอมาว่าให้ไปเรียนกับเค้า ไปแข่งในนามของมหาวิทยาลัยเค้า แต่ต้องสอบเข้าด้วย
ทางเลือกที่สองคือ เอเจนซี่ของเนเธอร์แลนด์ติดต่อทางสมาคมฯ ให้ "บิว" ไปทัวร์แข่งหาประสบการณ์ หารายได้เข้าตัวเอง แต่ต้องดรอปเรียน 1 ปี
สำหรับคนที่ไม่สะดวกฟังคลิป
ผมสรุปการถามตอบในรายการโดยตัดมาสัก 60-70% ของการถามตอบทั้งหมด บางเรื่องเหมือนคุยกันแล้วค่อนข้าวยาว พิมพ์ตามไม่ค่อยทัน ส่วนคำถามของคุณ Jackie ถูกตัดทอนให้สั้นลงเพื่อความกระชับ ประโยคคำถามที่ถูกตัดทอนอาจจะดูห้วนๆ หน่อยนะครับ ประโยคคำตอบก็ถูกตัดทอนเช่นกันเพราะบางคำตอบยาวมาก ส่วนบางคำตอบ ผมใช้วิธีรวบคำตอบจาก 2 คำถามมาอยู่ด้วยกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Jackie: การฝึกซ้อม สภาพร่างกาย จิตใจเป็นอย่างไรบ้างหลังการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องและไปแข่งระดับโลกมา
บิว: ตอนนี้ โอเค ฝึกซ้อมไปเรื่อยๆ ไม่หักโหมเกินไป เพราะไม่มีรายการแข่ง กว่าจะมีรายการใหญ่ ก็กลางปีหน้า โดยสมาคมฯ เป็นผู้จัดโปรแกรมการซ้อมให้
Jackie: เป็นช่วง Off-Season ไม่ได้มีโปรแกรมมาก
บิว: ใช่ครับ ไม่มีโปรแกรมมาก แค่ไม่อยากให้ร่างกายหยุดพัก วิ่งวอร์มไปเรื่อยๆ เพราะกว่าจะกลับมาได้ก็เหนื่อยมากเหมือนกัน
Jackie: การ Maintain หรือรักษาร่างกายให้มันคงที่ต่อ ยากเหมือนกันนะ
บิว: ใช่ครับ แต่มีการปรับเปลี่ยนการซ้อมเพื่อออกตัวให้ดีขึ้น
Jackie: สิ่งที่สตาฟโค้ชมองว่าสิ่งที่เราต้องปรับปรุง
บิว: ในรายการโอลิมปิก reaction ดีขึ้น แต่ระยะ 10-20 เมตร ต้องมีแรงระเบิดมากขึ้น ต้องสร้างความแข็งแรงให้มากขึ้น
Jackie: Usain Bolt ออกตัวช้า แต่ก็เข้าเส้นชัยก่อน
บิว: Usain Bolt วิ่งเกาะกลุ่มไปได้เพราะมีช่วงขายาว วิ่งก้าวนึง 2 เมตร 40 กว่า (2.449 m) ถ้าขายาวและสับเร็ว ยิ่งได้เปรียบ ส่วนผม ก้าวนึง 2 เมตร 30 เซนติเมตร ก้าวยาวและสับเร็ว แต่แรงระเบิดไม่มากพอในช่วงต้น
Jackie: รับมืออย่างไรกับเสียงตอบรับที่ดีขึ้นมาก ดังขึ้นมาก
บิว: ช่วงแรก ซีเกมส์ที่เวียดนามกดดันมากๆ เพราะไม่เคยวิ่งกับคนต่างชาติ ไม่เคยแข่งในนามทีมชาติไทย ไม่เคยแข่งรายการใหญ่ขนาดนี้ กดดันตัวเอง แต่มีแม่คอยบอก ไม่ต้องกดดัน วิ่งให้เป็นตัวเองมากที่สุด พอแข่งรายการใหญ่มาเรื่อยๆ ไม่มีความกดดันเพราะลงสนามหลายครั้งแล้ว เริ่มชินแล้ว ตอนแข่งโอลิมปิก ตื่นเต้น แต่ผ่านอะไรมาเยอะ คุมสติตัวเองอยู่ จดจ่อแค่วิ่งเท่านั้นเอง
Jackie: Reaction Time มีการฝึกเป็นพิเศษมั้ย
บิว: Reaction Time ต้องมีสมาธิอย่างเดียวเลย
Jackie: การออกตัวมันก็สำคัญ นี่อาจเป็นจุดอ่อนของเราหรือเปล่า
บิว: การออกสตาร์ท อาจเป็นจุดอ่อน ต้องฝึกฝนไปเรื่อยๆ ให้ตัวเองแข็งแรงเพื่อให้มีแรงระเบิดสู้กับเขาได้ ส่วนแรงกลางและแรงปลาย สู้กับคนอื่นได้
Jackie: มีโครงการอะไรที่เราจะพัฒนาเพื่อไปต่อให้มันแข็งแกร่งมากขึ้นและก้าวไปสู่ความสำเร็จ มีโปรแกรมที่จะไปฝึกหรือไปเรียนต่ออะไรหรือเปล่า
บิว: มี 2-3 ที่ เช่น อาจจะไปเรียนต่อที่อเมริกา มหาวิทยาลัยโอเรกอน ทางนั้นเสนอมาว่าให้ไปเรียนกับเค้า ไปแข่งให้ในนามของมหาวิทยาลัยเค้า แต่ว่าติดเรื่องว่าต้องสอบเข้าด้วย เรื่องภาษา และก็มีเอเจนซี่ของเนเธอร์แลนด์ติดต่อทางสมาคมฯ มา ถ้าจะดรอปเรียน 1 ปี ไปทัวร์แข่งหาประสบการณ์ หารายได้เข้าตัวเอง
Jackie: ที่โอเรกอน เป็นทุน แต่ต้องสอบ แล้วพวกจาเมกา แอฟริกาใต้ ก็ต้องมาอยู่อเมริกากันไม่น้อย
บิว: มหาวิทยาลัยดังๆ ติดต่อนักกรีฑาเก่งๆ มาวิ่งให้มหาวิทยาลัยเค้า แบบรายการใหญ่สุดของมหาวิทยาลัยเค้า อย่าง NCAA
Jackie: เป็นโควตานักกีฬา ถ้าบ้านเราคือ โครงการช้างเผือก ได้ทุนเรียนแล้วก็มาสร้างชื่อเสียง แต่ว่าของเค้าไม่ได้แข่งระดับมหาวิทยาลัยอย่างเดียว มันพัฒนาการวิ่งด้วยใช่มั้ย
บิว: ใช่ครับ ของอเมริกามี 3 ดิวิชัน ตอนที่ผมไปแข่งเป็นดิวิชัน 3 ของเค้ามีความพร้อมทุกอย่างทั้งนักวิทยาศาสตร์การกีฬาอะไรแบบเนี่ย
Jackie: ที่เนเธอร์แลนด์ เป็นไง เนเธอร์แลนด์เค้าดังเรื่องกรีฑามั้ย
บิว: ก็ดังนะครับ พวก 400 เมตรก็วิ่งดีเหมือนกัน ระยะสั้นก็ถือว่าโอเค เยอรมนีก็ดี พร้อมหลายๆ อย่าง ทั้งนักวิทยาศาสตร์การกีฬา นักนวด เค้า support เต็มที่
Jackie: เห็นส่วนใหญ่ สมาคมกรีฑาฯ มักจะส่งนักกรีฑาของเราไปเก็บตัวที่เยอรมนีบ่อยนะ ใช่มั้ยครับ
บิว: ใช่ครับ รุ่นพี่ก็เล่าให้ฟัง เก็บตัวที่เยอรมัน มันเหมือนบ้านเค้ามีแข่งทุกๆ อาทิตย์ พัฒนาตัวเองไปอีกแบบ ถ้าซ้อมอย่างเดียวโดยไม่มีเกมแข่ง มันก็ดูน่าเบื่อ
Jackie: ถ้าไปอยู่ที่โอเรกอน ก็ต้องซ้อม แข่ง เรียน เป็นวัฏจักรแบบนี้
บิว: ใช่ครับ
Jackie: ยังตัดสินใจอยู่ใช่มั้ย
บิว: ยังตัดสินใจอยู่ อยากจะหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองเหมือนกันครับ
Jackie: มองเป้าหมายไว้อย่างไง เนเธอร์แลนด์ดีหรือสหรัฐอเมริกาดี
บิว: ผมก็อยากจะได้เรื่องการเรียนด้วยครับ ถ้าเรียนก็ได้เรื่องภาษาด้วย ที่นั่นเรียนเกี่ยวกับกีฬาโดยเฉพาะเลย
Jackie: ถ้าเราไปตรงนั้น มันจะทำให้เราได้พัฒนาอะไรกลับมาใช้ได้บ้าง
บิว: ผมว่าเยอะเหมือนกันครับ เพราะว่าช่วงที่ไปเก็บตัวที่อเมริกา ความพร้อมเค้าเยอะมาก เค้า support นักกีฬาเต็มที่ ทั้งเรื่องค่าเดินทาง ค่าที่พัก การแข่งรายการนึง มีรายได้ให้นักกีฬาด้วย
Jackie: มองเป้าหมายอย่างไร ได้ลงแข่งขันรายการสำคัญของโลกแล้ว เราคิดว่าเรามีโอกาสมั้ยที่จะไปยืนบนแป้น 1-2-3 ในระดับ Top อะไรยังเงี่ย
บิว: ผมว่ามีโอกาสนะครับ แต่ผมเพิ่งอายุ 18 ต้องพัฒนาไปอีก ช่วงที่พีคของนักวิ่ง คือ ช่วง 20 ต้นๆ ช่วง 22-23 ที่จะพีคๆ ก็คิดว่า ช่วงนั้นถ้าได้ไปซ้อมที่ต่างประเทศ น่าจะแข็งแรงขึ้น น่าจะสู้คนอื่นเขาได้
Jackie: การจัดการแข่งขันวิ่งในเมืองไทยอาจจะน้อยเกินไป
บิว: ผมว่าอาจจะน้อยไป อย่างที่อเมริกา แข่งทุกวันอาทิตย์ ซ้อมจันทร์ถึงศุกร์ เสาร์พัก
Jackie: เราเป็นนักวิ่งพรสวรรค์ ไม่ใช่พรแสวง อันนี้ใช่มั้ย เกิดมาวิ่งเก่งเลย
บิว: ช่วงแรกอาจจะใช่ อายุ 8 ขวบ ถึง 12-13 ปี ไม่ได้ตั้งใจซ้อม แต่วิ่งชนะคนอื่น คิดว่าเป็นพรสวรรค์ ช่วงอายุสัก 16 ปี พรสวรรค์ ช่วยไม่ได้แล้ว ต้องพัฒนาตัวเองมากขึ้น หาพรแสวง หาการซ้อมใหม่ๆ หาอะไรดู ตั้งใจซ้อม พัฒนาตัวเองเพื่อแข่งกับรุ่นพี่ให้ได้
Jackie: เข้าตาสมาคมได้ยังไง
บิว: รายการกรีฑาดาวรุ่งมุ่งโอลิมปิก ผมไปเชียร์รุ่นพี่ ไม่ได้ไปแข่ง แต่อาจารย์ส่งชื่อผมไปด้วย อาจารย์ถามว่าลงมั้ย ผมตอบว่าลงก็ได้ครับ โดยยืมชุดรุ่นพี่ในทีมที่ตอนเรียนอัสสัมชัญ สมุทรปราการ แข่งกับพี่ใบพัน พี่เฉาก๊วย พี่ทีมชาติทุกคน แล้วอยู่ดีๆ ก็ได้ที่สาม
Jackie: สมาคมฯ มีแผนอย่างไรบ้าง ที่จะพัฒนาศักยภาพเรา
บิว: จ้างโค้ชต่างชาติมาซ้อมเพื่อไปแข่งซีเกมส์ที่เวียดนาม มาช่วยปรับปรุงการวิ่ง เปลี่ยนท่าทางการวิ่งให้ถูกต้อง จากวิ่งแขนออกข้างๆ ขาดีดหลัง ซึ่งผิด เป็นท่าที่ถูกต้องคือ แขนต้องตรงๆ ไปข้างหน้า ขาไม่ควรดีดหลัง ควรตวัดกลับมาให้เร็ว
Jackie: ถนัดวิ่งแบบไหนมากกว่ากัน อันนี้เป็นระยะทาง อย่าง 100 เมตร บางคนบอก 200 เมตร
บิว: ถนัดสุดคือ 200 แต่ถ้าชอบคือ ชอบ 100 เพราะว่ามันไม่เหนื่อย สำหรับ 200 เมตร ต้องวิ่งระยะ 250 เมตรตอนซ้อม จับเวลา 300 เมตร 350 เมตร
บิว: จริงๆ ผมก็อยากวิ่ง 200 ด้วย แต่หลังเอเชียนเกมส์ ไปตรวจเช็คร่างกายทั้งหมด พบว่าข้อเท้ามีเศษกระดูกแตกนิดหน่อย หมอแนะนำว่าอย่าเพิ่งวิ่งโค้งดีกว่า ให้วิ่งทางตรงก่อนอย่างเดียว
Jackie: อันนี้มันเกิดตอนที่เราแข่งใช่มั้ย ไม่รู้ตัว
บิว: ใช่ครับ อยู่ดีๆ มันก็เป็นมาเอง
Jackie: เจ็บแปล๊บๆ อะไรมั้ย
บิว: ตอนวอร์มก่อนวิ่ง เจ็บจี๊ดที่ข้อเท้า แต่ตอนวิ่งไม่มีอาการ
Jackie: เรื่องข้อเท้า ยังมีคุยกับหมอมั้ย
บิว: 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ไปเอกซเรย์ล่าสุด ไม่มีอาการเจ็บ เหมือนกระดูกมันเชื่อมกันไปเอง หมอตรวจล่าสุด ไม่มีผลอะไร
Jackie: แข่งบ่อยๆ ต่อเนื่อง ส่งผลกระทบมั้ย
บิว: มีผล เช่น เอเชียนเกมส์ที่ผ่านมา ลงทั้ง 100, 200, 4x100 รวมทั้งหมด 8 เที่ยว ถือว่าเยอะมาก ร่างกายไม่ได้แข็งแรง และต้องแข่งติดต่อกัน มีผลกระทบเยอะ
บิว: ถ้าร่างกายจะไม่เจ็บ วิ่งแค่ 2 รายการ คือ 100 กับ 4x100 นี่กำลังโอเค
Jackie: กรีฑาบ้านเรามีแข่งไม่มาก มองว่ามีส่วนมั้ยในการคัดเลือกนักกรีฑาให้มากกว่านี้
บิว: ถ้าอยากได้นักกีฬาเก่งๆ ต้องเปิดการแข่งขันบ่อยๆ เพราะนักกีฬาบางคนอาจไม่ได้มีทุน
Jackie: กรีฑาบ้านเราทัวร์นาเมนต์น้อย คนเล่นก็น้อย
บิว: อาจจะมีส่วน ระยะสั้น มันเหนื่อย วิ่งแป๊บๆ ก็เสร็จแล้ว ไม่เหมือนระยะไกล ได้วิ่งไปเรื่อยๆ
Jackie: วิ่งระยะสั้น มันแว้บเดียวแต่มันซ้อมนาน ผิดพลาดวันแข่งก็จบเลย
บิว: ใช่ครับ
Jackie: ของเรามันต้องรอนาน จะรอแต่ซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ก็ไม่ได้
บิว: สมาคมฯ ก็พยายามหาแมทช์แข่ง ทัวร์ต่างประเทศให้
Jackie: บ้านเราการจัดการแข่งขันน้อย ทำให้เรามีตัวเลือกจำกัด ก็เลยได้แบบพรสวรรค์เข้ามา
บิว: ใช่ครับ
Jackie: วางเป้าหมายของตัวเองอย่างไรบ้าง
บิว: เป้าหมายหลักคือ วิ่งต่ำกว่า 10 ให้ได้ อยากเข้ารอบชิง 8 คนในระดับโลกให้ได้ อยากขึ้นแท่น 1, 2, 3 ให้ได้ แต่ก็ยากมากๆ เพราะคนเก่งๆ ก็เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ มองตัวเองใน 5 ปี อยากให้ตัวเองแข็งแกร่งมากขึ้น เข้าไปอยู่ระดับโลกให้ได้
Jackie: จะอยู่ในนี้ไม่ได้แน่ จะอยู่บ้านเราไม่ได้แน่ ก็คือต้องย้อนไปที่คำถามแรก เรามีโปรเจกต์จะไปเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย ไปฝึก ไม่ว่าจะเป็นที่อเมริกาหรือว่าที่ยุโรปก็ตาม ตอนนี้รอดูอยู่นะ ตัดสินใจได้แล้วก็บอกด้วยนะ
บิว: ต้องปรึกษากับทางแม่ด้วย แม่อยากให้ไปทางที่ดีที่สุด ที่เหมาะกับตัวเองที่สุด
Jackie: ไปแล้วต้องไปอยู่นู่นเลยนะ ต่างบ้านต่างเมือง ภาษาวัฒนธรรมอะไรต่างๆ
บิว: ไปเรียน 4 ปี ก็ตื่นเต้น เหมือนเส้นทางใหม่ เปิดโลกอะไรใหม่ๆ เรียนรู้อะไรใหม่ๆ รู้สึกตื่นเต้นดี
คำถามช่วงท้ายๆ เกี่ยวกับเรื่องฟุตบอล ทีมแมนยู
"บิว" มีทางเลือก คือ อเมริกาหรือยุโรป (เรียนต่อที่อเมริกา หรือ ดรอปเรียน 1 ปี เพื่อไปทัวร์แข่งหาประสบการณ์ หารายได้)
"Jackie" อดิสรณ์ พึ่งยา สัมภาษณ์ "บิว" ภูริพล บุญสอน
"บิว" บอกว่ามี 2-3 ที่ ติดต่อมา เริ่มนาทีที่ 7:30-8:20 ในคลิปด้านล่าง
ทางเลือกแรกคือ เรียนต่อที่มหาวิทยาลัยโอเรกอน อเมริกา ทางนั้นเสนอมาว่าให้ไปเรียนกับเค้า ไปแข่งในนามของมหาวิทยาลัยเค้า แต่ต้องสอบเข้าด้วย
ทางเลือกที่สองคือ เอเจนซี่ของเนเธอร์แลนด์ติดต่อทางสมาคมฯ ให้ "บิว" ไปทัวร์แข่งหาประสบการณ์ หารายได้เข้าตัวเอง แต่ต้องดรอปเรียน 1 ปี
สำหรับคนที่ไม่สะดวกฟังคลิป
ผมสรุปการถามตอบในรายการโดยตัดมาสัก 60-70% ของการถามตอบทั้งหมด บางเรื่องเหมือนคุยกันแล้วค่อนข้าวยาว พิมพ์ตามไม่ค่อยทัน ส่วนคำถามของคุณ Jackie ถูกตัดทอนให้สั้นลงเพื่อความกระชับ ประโยคคำถามที่ถูกตัดทอนอาจจะดูห้วนๆ หน่อยนะครับ ประโยคคำตอบก็ถูกตัดทอนเช่นกันเพราะบางคำตอบยาวมาก ส่วนบางคำตอบ ผมใช้วิธีรวบคำตอบจาก 2 คำถามมาอยู่ด้วยกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้