ขอให้ผู้ช่วยฯ ย้ายไปทำงานแผนกอื่น...แต่ถูกเอาไปโพสต่อว่า ๆ อำมหิต !!

สวัสดีค่ะ ^^ 
ดิฉันชื่อปุ้ม ยินดีที่รู้จักกับทุกคนนะคะ 😊 ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ 
ดิฉันทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายขายต่างประเทศโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ฯ แห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี , จังหวัดสมุทรปราการและกรุงเทพมหานคร ประสบการณ์ทำงาน 17 ปี 4 เดือน มีพนักงานภายในแผนกฯ ที่ได้ทำงานร่วมกันมานานถึง 7 คนด้วยกัน 
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมาหลังจากการประเมินผลงาน,เงินเดือนและโบนัสค่ะ

เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อประมาณปลายเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา ผู้จัดการฝ่ายขายภายในประเทศระดับอาวุโสฯ เกษียณอายุงาน ท่านได้เรียกตัวดิฉันเข้าพบเพื่อขอร้องให้รับพนักงานขายภายในประเทศ (ผู้ชาย) คนหนึ่งไปเป็นผู้ช่วยฯ (ซึ่งตามปกติแล้วระดับผู้ช่วยจะต้องคัดเลือกจากพนักงานภายในแผนกฝ่ายขายต่างประเทศเท่านั้น) ดิฉันยังไม่ได้ตอบตกลงในทันทีเพราะต้องนำเรื่องนี้กลับมาปรึกษากับน้อง ๆ ในทีมเสียก่อน
โดยในวันที่จัดประชุมดิฉันได้เชิญผู้จัดการฝ่ายบุคคลฯ มาร่วมประชุมด้วยพร้อมทั้งมีการบันทึกรายงานการประชุมเพื่อนำส่งข้อมูลให้ผู้บริหารทราบ ผู้จัดการฝ่ายบุคคลฯ ได้นำแฟ้มประวัติพนักงานและผลงานของน้องผู้ชายซึ่งดิฉันจะขอเรียกเขาว่าน้อง A แล้วกันนะคะ ดิฉันพบว่าน้อง A ทำงานมา 4 ปีเศษและถูกสั่งย้ายไปอยู่หลายแผนกและหลายจังหวัดด้วยกัน ขาดงานอยู่บ่อยครั้งด้วยเหตุผลป่วย (ลาป่วย 2 วันมาทำงาน 1 วันเพื่อไม่ต้องแนบใบรับรองแพทย์อยู่เนือง ๆ และมีประวัติการใช้วันลาพักร้อนเกินและในระบบ HRIS มีสถานการณ์ขาดงานมากที่สุดในบริษัทฯ แล้ว) โดยที่การประชุมสรุปกันว่าดิฉันและผู้จัดการฝ่ายบุคคลจะเรียกตัวน้อง A มาพูดคุยเสียก่อน เพราะดิฉันจะให้เขาทดลองงานในฐานะผู้ช่วยฯ เพียงแค่ 5 วันทำการเท่านั้นเนื่องจากฝ่ายขายต่างประเทศจะต้องรีบปิดดิวลูกค้าให้ทันตามกำหนดก่อนวันหยุดยาวในช่วงเดือนธันวาคม 67 แต่น้อง A กลับพูดว่า “ไม่เห็นต้องรีบเลยพี่ ผู้บริหารฯ เค้าประเมินโบนัสเรียบร้อยแล้วนี่นา” ซึ่งทำให้ยายเฒ่าอย่างเราสองคนถึงกับมึนมาก แต่น้อง A ก็รีบตกปากรับคำทันทีด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากย้ายไปกรุงเทพฯ เพราะไม่อยากอยู่ไกลจากแฟน...?
 
น้อง A มาทำงานตามปกติ 2 วันด้วยหน้าหงิกงอ ถ้าไม่ขอเข้าห้องน้ำก็จะเอาแต่จ้องจอโทรศัพท์มือถืออยู่ตลอดเวลา จนน้อง ๆ ในทีมของฉันเริ่มจะหนักใจเพราะสอนงานเท่าไรก็ไม่ยอมจดหรือจำ วันพุธลาป่วย...วันพฤหัสมาทำงานและขอใช้รถส่วนกลางของบริษัทฯ ไปส่งใบเสร็จแทนน้อง ๆ ในแผนกที่นิคมเวลโกรว์ (บางปะกง)...หายไปทั้งวันและโทรกลับมาบอกตอนบ่าย 2 ว่าจะขอ WFH โดยอ้างว่านำใบเสนอราคาพาร์ทมาคีย์ในระบบ (ผ่าน Database ของบริษัทฯ) น้อง ๆ ในแผนกจึงไม่มีปัญหากับเรื่องนี้ถ้าหากงานเสร็จจริงตามนั้นก็โอเคอยู่แล้ว แต่น้อง A กลับบอกว่ามีปัญหากับระบบ Database ไม่ทำงานและโทรมาขอความช่วยเหลือและสร้างความวุ่นวายให้กับฝ่ายไอทีฯ อย่างต่อเนื่อง (ฝ่ายไอทีประเมินว่าน้อง A ไม่ควรจะออกไปทำงานข้างนอกและควรจะทำงานแต่ในบริษัทฯ เท่านั้น) ดิฉันจึงได้โทรไปเตือนเขา 1 ครั้งในเรื่องนี้และน้อง A รับปากว่าจะปรับปรุงตัวเพราะไม่อยากถูกย้าย (ย้ำคำนี้อีกแล้ว) 
กระทั่งในวันรุ่งขึ้นฝ่ายธุรการรถส่วนกลางบริษัทฯ ได้โทรมาแจ้งว่าน้อง A ไม่ได้นำรถส่วนกลางมาคืน (และมีคนขอใช้งานต่อ) โดยที่น้อง A ไม่ได้มีการแจ้งให้ใครทราบทั้งสิ้น ดิฉันจึงได้เรียกน้อง A มาเตือนเป็นครั้งที่ 2 พร้อมกับบอกว่าหากมีใบเตือนครั้งที่ 3 นั่นก็คือเขาไม่ผ่านการทดลองงานแล้ว น้อง A ขอโอกาสและบอกว่าครั้งนี้จะทำให้ดี จนถึงเวลา 11 โมง...วันนี้น้อง ๆ ในแผนกต้องไปคุยงานกับเซลล์ที่นิคมบ่อวินศรีราชา น้อง A จึงขอติดตามไปด้วยอย่างคึกคักเกินเหตุเนื่องจากเป็นวันศุกร์ ตอน 4 โมงเย็นน้อง ๆ ในทีมโทรมาบอกว่าน้อง A ขอลงที่เซ็นทรัลชลบุรีและขอว่าจะนั่งทำงานอยู่ที่นี่ถึงเวลาเลิกงาน 1 ทุ่มเพราะใกล้บ้าน ดิฉันจึงตอบตกลงและบอกน้อง A ว่าเย็นนี้ดิฉัน น้อง ๆ ในแผนกและผู้จัดการฝ่ายบุคคลจะร่วมกันประเมินผลงานของน้อง A ร่วมกัน น้อง A ได้ยินดังนั้นจึงรีบคีย์ใบเสนอราคามาเป็นพรืด (คีย์มั่วซั่วไปหมดและตัวเลขก็ผิดพลาดเสียเยอะ)

ผู้จัดการฝ่ายบุคคลจึงได้ถามความเห็นของดิฉันและดิฉันก็ให้คำตอบไปว่าดิฉันไม่สามารถให้น้อง A ผ่านการทดลองงานในฐานะผู้ช่วยฯ ได้ เพราะน้อง A ทำงานมานานถึง 4 ปีแต่ความรู้และความใส่ใจเรื่องงานกลับน้อยมากและยังไม่เปิดรับอะไรเลยสักอย่างเดียว มีน้อง A อยู่แต่กลับไม่ได้ทำให้งานในแผนกลดน้อยลงเลย โดยเฉพาะเรื่องที่ฝ่ายธุรการรถส่วนกลางบริษัทฯ รายงานเรื่องใช้รถยนต์ของน้อง A แนบมาให้ด้วย (น้อง A ใช้รถยนต์ส่วนกลางไปส่งเอกสารที่นิคมเวลโกรว์ (บางปะกง) และโทรมาขอ WFH ในวันพฤหัสฯ จริง ๆ ต้องกลับบริษัทซึ่งอยู่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้...แต่กลับขับเลยไปกรอก Database ที่เซ็นทรัลชลบุรีแทนที่จะกลับเข้าบริษัทและยังไม่ได้นำรถส่วนกลางกลับมาคืนตามกำหนดเวลาและคืนนั้นมีการใช้ Fleet Card เติมน้ำมันที่บางพระ) ถือว่ามีเจตนาไม่ซื่อสัตย์กับบริษัทฯ อย่างชัดเจน

ผู้จัดการฝ่ายบุคคลจึงได้เรียกตัวน้อง A มารับทราบผลในวันรุ่งขึ้น (วันเสาร์ทำงานครึ่งวัน) ด้วยพยานและหลักฐานที่ชัดเจน โดยน้อง A พยายามที่จะขอโทษและขอโอกาสโดยได้บอกว่าเขาสามารถเข้ากับน้อง ๆ ในแผนกฝ่ายขายต่างประเทศได้แล้ว (What ?) แต่ผู้จัดการฝ่ายบุคคลไม่ยินยอมและยังบอกให้เขาลองใช้ความสามารถและความสัมพันธ์ที่มีไปเจรจากับแผนกอื่น ๆ ของบริษัทฯ เสียเอง แต่กลับไม่ได้แผนกไหนรับน้อง A เข้าทำงานเลยสักคน...อีกทั้งทางกรุงเทพฯ ก็ไม่อยากรับ

น้อง A จึงตัดสินใจมาหาดิฉันโดยได้สารภาพว่าแฟนสาวของเขาทำงานอยู่ที่ฟิตเนสเซ็นทรัลชลบุรีและช่วงหลัง ๆ มีผู้ชายที่มาใช้บริการที่ฟิตเนสมาจีบแฟนของเขาเยอะมาก เขาก็เลยต้องไปนั่งเฝ้า...และที่นำรถยนต์ส่วนกลางของบริษัทไปใช้ก็เพราะว่าแฟนของเขาอยากไปอาหารริมทะเล ตอนแรกว่าจะไปถึงพัทยาแต่เขาเจรจาขอกินแค่บางพระและเขายินดีที่จะรับผิดชอบค่าน้ำมันที่ใช้ไปแต่ฝ่ายธุรการรถส่วนกลางบริษัทฯ ไม่ยินยอมอีกทั้งยังได้ส่งเรื่องร้องเรียนน้อง A ไปเรียบร้อยแล้ว

น้อง A ขอร้องให้ดิฉันให้โอกาสเขาอีกครั้ง ดิฉันปฏิเสธและบอกกับเขาว่า...ให้เขาไปลองคิดทบทวนให้ดี ๆ ว่าตัวเขามีความสามารถอะไรและเหมาะกับงานแบบไหน เขาจึงบอกว่าถ้าเขาถูกย้าย...เขาก็คงจะต้องลาออกเพราะถ้าต้องไปอยู่กรุงเทพเขาคงไม่ไปเพราะเขาไม่ไว้ใจแฟน น้อง A จึงขอโทรหาผู้จัดการฝ่ายบุคคลและขอให้ย้ายเขาไปแผนกธุรการก็ได้ เขาจะไม่ออกไปไหนและจะไม่ขาดงานโดยไม่จำเป็นอีกแล้ว ผู้จัดการฝ่ายบุคคลจึงย้ายเขามาทำงานธุรการกับฝ่ายบุคคลแทน

3 วันผ่านไปดิฉันเพิ่งได้รับ E-mail แจ้งการลาออกของน้อง A ด้วยเหตุที่ว่างานธุรการค่อนข้างหนักและไม่เหมาะสมกับความสามารถของเขา รวมทั้งยังได้เหตุผลมาด้วยว่าน้อง A ได้งานใหม่เป็นเซลล์ขายฯ ฟิตเนสที่เดียวกับแฟนสาวของเขา
พนักงานทุกคนดีใจกันได้ไม่นานนัก หลังจากที่น้อง A ไปทำงานที่เดียวกับแฟนได้ไม่กี่วันก็จะขอกลับมาทำงานที่บริษัทฯ ตามเดิม....(อ้างว่าเงินเดือนน้อยไม่พอใช้) แต่ไม่มีใครรับเขากลับมา 
น้อง A จึงไปโพสด่า ๆ ทุกคนฉ่ำเลยจ้ะ...ทั้งใส่สีตีไข่ยิ่งกว่าดาวพระศุกร์เสียอีก...แต่ที่น่าขำคือน้อง A ดันไปโพสถามเพื่อน ๆ ในเฟสว่า...
“เขาทิ้งใบสมัครงานเอาไว้หลายที่แต่ละที่เป็นบริษัทดัง ๆ ทั้งนั้น หลายบริษัทโทรมาอยากให้เขาไปร่วมงานด้วยแต่เขากลับเลือกโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ฯ แห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรีเพราะอยากอยู่ใกล้แฟน...ใช้ความสามารถทำประโยชน์ให้กับบริษัทมานานเกือบ 5 ปี แต่เขาถูกบีบให้ออกเพราะผู้จัดการจอมอำมหิต...และบริษัทก็ไม่อยากจ่ายโบนัสให้กับเขา...”
ดูมัน !!

ปล.หากถ้ามีฝ่ายบุคคลของบริษัทฯ ไหนอยากจะได้น้อง A ไปร่วมงานด้วย ดิฉันยินดีจะส่งเบอร์โทรศัพท์ให้นะคะ (แถมจะทำ Portfolio น้อง A แบบเก๋ ๆ เริ่ด ๆ ให้ด้วยค่ะ)
สุดท้ายของคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาเข้ามาอ่านนะคะ ><
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่