ผมอยากขอคำปรึกษา เรื่องเป็นดังนี้น่ะครับ
ครอบครัวผมอยู่ บ้านน้ำคำ อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ แม่แก่แล้ว เป็นข้าราชการเกษียณ อายุ 70 ปี ใกล้หมดอายุ แกเลยโอนที่ดินพร้อมบ้านเป็นชื่อน้องชาย
แต่บ้านเราก็มีปัญหาคือน้องชายเป็นคนไม่เอาไหน ทำการเกษตรก็ไม่เคยทำกำไรเลย ใช้เงินเกินตัว แต่เขาเก่งเรื่องการขอกู้เงิน
เมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว น้องชายเอาที่ดินไปจำนองกับ ธกส. หนี้รวมประมาณ 4 แสนกว่าบาท การขอกู้ครั้งนั้นคือเอาไปปลูกอ้อย แต่สุดท้ายก็ขาดทุนยับ ช่วง มี.ค.64 แม่เลยต้องขายที่ดิน เอาหนี้ไปคืน ธกส. และแกก็บอกกับ ธกส.ว่าอย่าให้ลูกชายกู้ เพราะเขาไม่มีความสามารถ หาเงินมาจ่ายหนี้ไม่ได้หรอก
แต่เรื่องมันยังไม่จบ เนื่องจากที่ดินยังเหลืออีกแปลง คือที่ดินที่บ้านตั้งอยู่ ปี2567 น้องชายก็เอาที่ดินไปจำนองกับ ธกส.อีกครั้ง ได้เงินมา 2 แสนบาท ผมก็ไล่บี้น้องชายว่าเอาเงินไปทำอะไร พอได้ความว่า เงิน 2 แสนบาท แบ่งเป็น จ่ายค่าปุ๋ย 2 หมื่น ใช้จ่ายตามประสาผู้ชาย 8 หมื่น(เที่ยวผู้หญิง) และอีก 1 แสนบอกว่าให้แม่ แต่ผมเช็คแล้วให้ไม่เกิน 2 หมื่น
สรุปคือ กู้เงินมา 2 แสน ซื้อปุ๋ย 2 หมื่น ให้แม่ใช้จ่าย 2 หมื่น ค่าคนงานนิดๆ เงินที่เหลือก็มลายหายไปแล้ว
ผมว่า ธกส.ก็ใจดีไป น้องชายกู้เงินเอาไปปลูกมันสำปะหลัง พื้นที่ปลูกจริงไม่เกิน 15 ไร่ ถ้าคำนวณเป็นผลผลิต ก็จะได้ 15 ไร่ * 3 ตันต่อไร่*ราคาขาย 2.6 บาท/ตัน = 1.17 แสนบาท แต่ปล่อยมา 2 แสน ไม่ต้องใจดีกับครอบครัวเราขนาดนั้นก็ได้ ตอนให้กู้ ก็ลงไปดูพื้นที่ปลูกหน่อยก็ดี
ปัญหาต่อคือถ้าแม่ไปไถ่ที่ดินออกมา น้องชายก็จะไปขอกู้ใหม่ วนลูปแบบนี้ตลอดชาติ และน่าจะกู้ได้ เพราะน้องชายได้เครดิต AAA+ ผมก็จะแนะนำแม่ไปว่าอย่าไปไถ่ที่ดินออกมาน่ะ เดี๋ยว ธกส.ก็ปล่อยกู้อีก
แต่เนื่องจากที่ดินแปลงนี้แม่ยังอาศัยอยู่ กลัวว่าถ้าถูกยึดจะไม่มีบ้านอยู่ เราจะมีวิธีใดบ้างที่จะทำให้เรื่อง คาราคาซัง คือ ที่ดินไม่ถูกยึด แม่จ่ายดอกเบี้ยน้อยๆ และทำให้น้องชายติดแบลคลิสต์กับ ธกส.จะได้ไม่ปล่อยกู้ให้เขาอีก


สำหรับคำแนะ
ลูกหนี้ ธกส. ลูกชายกู้ แม่เป็นคนจ่าย วนลูปกันไปตลอดชาติ
ครอบครัวผมอยู่ บ้านน้ำคำ อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ แม่แก่แล้ว เป็นข้าราชการเกษียณ อายุ 70 ปี ใกล้หมดอายุ แกเลยโอนที่ดินพร้อมบ้านเป็นชื่อน้องชาย
แต่บ้านเราก็มีปัญหาคือน้องชายเป็นคนไม่เอาไหน ทำการเกษตรก็ไม่เคยทำกำไรเลย ใช้เงินเกินตัว แต่เขาเก่งเรื่องการขอกู้เงิน
เมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว น้องชายเอาที่ดินไปจำนองกับ ธกส. หนี้รวมประมาณ 4 แสนกว่าบาท การขอกู้ครั้งนั้นคือเอาไปปลูกอ้อย แต่สุดท้ายก็ขาดทุนยับ ช่วง มี.ค.64 แม่เลยต้องขายที่ดิน เอาหนี้ไปคืน ธกส. และแกก็บอกกับ ธกส.ว่าอย่าให้ลูกชายกู้ เพราะเขาไม่มีความสามารถ หาเงินมาจ่ายหนี้ไม่ได้หรอก
แต่เรื่องมันยังไม่จบ เนื่องจากที่ดินยังเหลืออีกแปลง คือที่ดินที่บ้านตั้งอยู่ ปี2567 น้องชายก็เอาที่ดินไปจำนองกับ ธกส.อีกครั้ง ได้เงินมา 2 แสนบาท ผมก็ไล่บี้น้องชายว่าเอาเงินไปทำอะไร พอได้ความว่า เงิน 2 แสนบาท แบ่งเป็น จ่ายค่าปุ๋ย 2 หมื่น ใช้จ่ายตามประสาผู้ชาย 8 หมื่น(เที่ยวผู้หญิง) และอีก 1 แสนบอกว่าให้แม่ แต่ผมเช็คแล้วให้ไม่เกิน 2 หมื่น
สรุปคือ กู้เงินมา 2 แสน ซื้อปุ๋ย 2 หมื่น ให้แม่ใช้จ่าย 2 หมื่น ค่าคนงานนิดๆ เงินที่เหลือก็มลายหายไปแล้ว
ผมว่า ธกส.ก็ใจดีไป น้องชายกู้เงินเอาไปปลูกมันสำปะหลัง พื้นที่ปลูกจริงไม่เกิน 15 ไร่ ถ้าคำนวณเป็นผลผลิต ก็จะได้ 15 ไร่ * 3 ตันต่อไร่*ราคาขาย 2.6 บาท/ตัน = 1.17 แสนบาท แต่ปล่อยมา 2 แสน ไม่ต้องใจดีกับครอบครัวเราขนาดนั้นก็ได้ ตอนให้กู้ ก็ลงไปดูพื้นที่ปลูกหน่อยก็ดี
ปัญหาต่อคือถ้าแม่ไปไถ่ที่ดินออกมา น้องชายก็จะไปขอกู้ใหม่ วนลูปแบบนี้ตลอดชาติ และน่าจะกู้ได้ เพราะน้องชายได้เครดิต AAA+ ผมก็จะแนะนำแม่ไปว่าอย่าไปไถ่ที่ดินออกมาน่ะ เดี๋ยว ธกส.ก็ปล่อยกู้อีก
แต่เนื่องจากที่ดินแปลงนี้แม่ยังอาศัยอยู่ กลัวว่าถ้าถูกยึดจะไม่มีบ้านอยู่ เราจะมีวิธีใดบ้างที่จะทำให้เรื่อง คาราคาซัง คือ ที่ดินไม่ถูกยึด แม่จ่ายดอกเบี้ยน้อยๆ และทำให้น้องชายติดแบลคลิสต์กับ ธกส.จะได้ไม่ปล่อยกู้ให้เขาอีก